War sovereign Soaring The Heavens 2126

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2126 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2,126 : ผู้เข้มแข็งขอบเขตเซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน?

 

ได้ยินเสียงกล่าวเตือนจากชายวัยกลางคนแบบนี้ แม้นายน้อยไม่เอาไหนจะฮึดฮัดขัดใจอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่คิดลงมือทำอะไรอย่างวู่วามอีก

 

วีรบุรุษย่อมรู้ลดราวาศอก!

(สถานการณ์ไม่เป็นใจ ก็ยอมถอยชั่วคราวจะได้ไม่เสียเปรียบจนตกเป็นเบี้ยล่าง)

 

มันย่อมซึ้งถึงคำนี้ดี

 

ถึงแม้ว่ามันจะมีภูมิหลังอันร้ายกาจ ทว่าตอนนี้ข้างกายมันไร้ยอดฝีมือที่จะรับมือชายชุดดำเบื้องหน้าได้ เช่นนั้นจึงเป็นการดีเสียกว่าที่จะเสแสร้งเป็นหลานชายอีกฝ่าย

(แสร้งเป็นหลานชาย = ทำตัวเป็นเด็กดีว่าง่ายเชื่อฟัง)

 

‘ตอนนี้เจ้าจะหยิ่งยโสโอหังอันใดก็เอาเถอะ…ขอเพียงเจ้ายังอยู่ในนครแห่งบาป วันหน้าข้าจะให้เจ้าได้ตายคาที่!’

 

นายน้อยไม่เอาไหนลดศีรษะลง ในแววตาลุกโชนไปด้วยโทสะ ใจลอบคิดไปด้วยอำมหิต!

 

“นายน้อยหากดูจากทิศทางที่ชายชุดดำผู้นี้เหินบินไป ไม่พ้นมันต้องไปที่เดียวกับพวกเราแน่…คลังสมบัติของยอดฝีมือเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน! ตอนนี้ท่านผู้นำและท่านรองผู้นำหลายคนสมควรไปเฝ้ารออยู่ที่นั่นแล้ว พวกเราไปรวมตัวกับพวกท่านผู้นำเมื่อไหร่…ค่อยบอกให้ท่านผู้นำฆ่าเจ้าชายชุดดำนี่เสีย!”

 

เสียงชายวัยกลางคนผ่านพลังดังขึ้นในหูนายน้อยไม่เอาไหนอีกครั้ง ทำให้สองตามันทอประกายสว่างวาบขึ้นมาทันที

 

ใช่!

 

ทำไมเมื่อกี้มันไม่ทันคิด?

 

จากทิศทางที่ชายชุดดำกำลังมุ่งหน้าไป เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายคิดไปคลังสมบัติที่เซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนเหลือทิ้งไว้เหมือนกัน!

 

หากมันปล่อยให้อีกฝ่ายไปถึงที่นั่น มันค่อยร้องขอให้บิดาของมันฆ่าทิ้งเสียก็จบ!

 

ไฉนต้องรอไปล้างแค้นอะไรที่นครแห่งบาป!

 

พอได้คิดถึงจุดนี้ นายน้อยไม่เอาไหนก็ไม่รู้สึกพ่ายแพ้อีกต่อไป สองตายังฉายถึงเจตนาฆ่าฟันอันน่ากลัว แต่ด้วยความที่มันก้มหน้าอยู่ ต้วนหลิงเทียนจึงไม่อาจแลเห็นได้

 

“หึ!”

 

เมื่อเห็นว่า 2 คนเบื้องหน้ายอมก้มหัวขอขมา ต้วนหลิงเทียนพลันแค่นเสียงเย็นออกมาคำหนึ่ง และคร้านจะแยแสอะไรพวกมันสืบไป ละสายตาจากพวกมันและเตรียมเหินร่างไปต่อทันที

 

เขาเป็นคนมีหลักการ

 

ในเมื่อทั้ง 2 ยอมก้มหัวให้แล้ว เขาก็ไม่คิดจะจัดการทั้งคู่เหมือนกับที่ทำกับชายชราชุดแดงสดก่อนหน้า

 

เพราะสุดท้ายตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งคู่ไม่ได้คิดฆ่าเขาแม้แต่น้อย กล่าวได้ว่าพวกมันไม่ได้ล้ำเส้นเขา

 

ทว่าในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะจากไปนั้นเอง

 

พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นแต่ไกลจากด้านหลัง

 

“หากท่านปล่อยพวกมันไว้เช่นนี้…ข้าเกรงว่าหลังจากไปถึงคลังสมบัติของเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน ท่านจะเหลือชีวิตเข้าไปแสวงหาโชคลาภอันใดในนั้น ‘ก็ไม่ใช่ว่าจะแน่’ แล้ว”

 

ผู้ที่กล่าววาจาคือชายหนุ่มคนหนึ่งที่คล้ายจะเดินทางมาจากนครแห่งบาป

 

ชายหนุ่มผู้นี้มาในชุดคลุมสีขาว ใบหน้าแลดูหล่อเหลาไม่เบายังให้ความรู้สึกสูงส่งไม่คล้ายเป็นคนธรรมดา  และด้วยพัดขนนกกับหมวกทรงสูงบนหัว ทำให้มันดูเหมือนบัณฑิตนักศึกษาคนหนึ่ง

 

ด้านหลังยังมีชายชราที่แลดูน่าเกรงขามติดตามมาไม่ห่าง

 

ชายชราผู้นี้ร่างกายสูงใหญ่ ประกบติดด้านหลังชายหนุ่มชุดขาวประหนึ่งเงาตามตัว ราวกับจะคอยปกป้องผู้เป็นนายทุกเวลา!

 

“เจ้าหมายความว่าอะไร?”

 

ได้ยินวาจาดังกล่าว ต้วนหลิงเทียนก็หันกลับไปมองชายหนุ่มที่แต่งตัวคล้ายบัณฑิตนักศึกษา กล่าวถามออกมาเสียงเบาทันที ไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อยเรื่องมีคนปรากฏตัวจากด้านหลัง

 

“ที่แท้ดูเหมือนท่านจะไม่รู้จักนายน้อยโอวจริงๆ?”

 

ตอนนี้เองร่างชายหนุ่มที่คล้ายบัณฑิตก็เหินร่างมาหยุดไม่ห่างต้วนหลิงเทียน ทีท่าของมันแลดูเป็นมิตรนัก พัดในมือชี้ไปยังนายน้อยไม่เอาไหน ค่อยกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม

 

“ตงกั๋วจื่อ เจ้าคิดจะทำอะไร!?”

 

และแทบจะพร้อมกันกับที่เสียงของชายคล้ายบัณฑิทดังจบคำ เสียงของนายน้อยไม่เอาไหนก็ดังโพล่งขึ้นมาทันที ยังถลึงตามองมายังชายหนุ่มชุดขาวด้วยสายตาเอาเรื่อง

 

“ขอนายน้อยตงกั๋วโปรดระวังคำพูดด้วย!”

 

กระทั่งชายวัยกลางคนที่กลับไปยืนอยู่ด้านหลังนายน้อยไม่เอาไหนแล้ว ตอนนี้ก็ชักสีหน้าอัปลักษณ์นัก กล่าวกับชายชุดขาวที่ถูกเรียกหาว่า นายน้อยตงกั๋ว ตาขวาง

 

เพราะหากตงกั๋วจื่อกล่าวบอกตัวตนของนายน้อยมันออกมาจริงๆ เกรงว่าวันนี้มันกับนายน้อยไม่แน่จะรอดชีวิตไปได้แล้ว!

 

อย่างไรก็ตามตงกั๋วจื่อไม่แยแสคำของชายวัยกลางคนแม้แต่น้อย ค่อยกล่าวแนะนำต้วนหลิงเทียนออกมาด้วยรอยยิ้ม “สองคนนี้…หนึ่งคือนายน้อยของพันธมิตร 7 สังหารของนครแห่งบาปเรา เรียกว่า โอวฉิง”

 

“ส่วนอีกคนนั้น นับเป็นชนชั้นอาวุโสของพันธมิตร 7 สังหารเรียกว่าลู่จิ้น อันดับที่ 295 ของรายนามยอดเซียน…”

 

“ส่วนชายชราชุดแดงสดที่ท่านพึ่งฆ่าไปเมื่อครู่ เรียกว่า ฉีคุน มันเองก็เป็นอาวุโสของพันธมิตร 7สังหารเช่นกัน และก่อนที่มันจะถูกท่านฆ่าตาย มันก็ติดอยู่ในอันดับที่ 313 ในรายนามยอดเซียน”

 

ตงกั๋วจื่อไม่แยแสสายตาเอาเรื่องของนายน้อยไม่เอาไหนและชายวัยกลางคน เพียงมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนด้วยรอยยิ้ม

 

พันธมิตร 7 สังหาร!

 

ได้ยินวาจานี้ของตงกั๋วจื่อ ลูกตาของต้วนหลิงเทียนก็หดเล็กลงทันที

 

พันธมิตร 7 สังหารนั้นเรียกว่าเป็น 1 ใน 3 กองกำลังพันธมิตรที่แข็งแกร่งีท่สุดของผู้ฝึกตนอิสระในนครแห่งบาปก็ว่าได้ ยังว่ากันว่าผู้นำพันธมิตร 7 สังหาร โอวคังไห่ ยังเป็นผู้ฝึกตนขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนอีกด้วย!

 

“นายน้อยพันธมิตร 7 สังหาร โอวฉิง?”

 

ครู่ต่อมาสายตาต้วนหลิงเทียนก็ไปหยุดอยู่ที่ร่างโอวฉิงอีกครั้ง

 

และตอนนี้สีหน้าท่าทีของโอวฉิงที่ถูกต้วนหลิงเทียนจ้องก็บิดเบี้ยวอัปลักษณ์นัก

 

“ที่แท้…เจ้าก็คือลูกชายของผู้นำพันธมิตร 7 สังหารงั้นหรือ?”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าวถามออกมา น้ำเสียงของเขาเยียบเย็นไม่น้อย ลึกลงไปในแววตายังอดไม่ได้ที่จะเผยความกลัวออกมา

 

ยังให้เขาไม่กลัวได้หรือ!

 

โอวคังไห่นั่นมันคือผู้เข้มแข็งขอบเขตเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน!

 

ด้วยความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ กระทั่งใช้ทุกสิ่งที่มีอย่างไม่คิดจะกักเก็บ ก็ยังนับว่าห่างไกลเกินจะเทียบกับโอวคังไห่นั่นได้!

 

ถึงขั้นที่หากโอวคังไห่คิดฆ่าเขา ก็ยังง่ายดายเหมือนบี้มด!

 

“ใช่ ข้าเป็นลูกชายของผู้นำพันธมิตร 7 สังหาร!”

 

ถูกต้วนหลิงเทียนถาม โอวฉิงก็ได้แต่ตอบกลับไปเสียงเย็น

 

ขณะเดียวกันมันก็เอื้อมมือล้วงเข้าไปในแขนเสื้ออีกข้าง ก่อนที่จะหยิบยันต์เต๋าแผ่นหนึ่งออกมาจากช่องลับในแขนเสื้อ “นี่คือยันต์กระจกเงาลูก…หากเจ้ากล้าลงมือฆ่าข้าๆจะรีบใช้มันทันที! ถึงตอนนั้นต่อให้ข้าต้องตาย แต่ท่านพ่อย่อมรู้ว่าเจ้าเป็นคนฆ่าข้า!”

 

“เจ้าเองก็คงรู้ดีว่าหากท่านพ่อข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนลงมือฆ่าข้าแล้วผลมันจะเป็นยังไง…ท่านพ่อไม่มีวันปล่อยเจ้าไปแน่! ถึงตอนนั้นเจ้าเองก็หนีความตายไม่พ้น!”

 

ยิ่งมาเสียงกล่าวของโอวฉิงก็ยิ่งเย็นลงปานจะผุดแทรกขึ้นมาจากหล่มน้ำแข็ง

 

นอกจากนี้มือมันยังผนึกพลังขึ้นมาขุมหนึ่ง พร้อมบดขยี้ยันต์เต๋าในมือได้ทุกเมื่อ

 

หากโอวฉิงเป็นผู้ที่ทำลายยันต์เต๋ากระจกเงาลูกด้วยตัวเอง ยันต์จะส่งภาพเรื่องราวก่อนหน้านี้เล็กน้อยรวมถึงฉากเรื่องราวในปัจจุบันไปยังกระจกเงาแม่ทันที

 

“ท่านยอดฝีมือ ดูเหมือนวันนี้ท่านต้องเลือกแล้ว…อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ว่าท่านจะฆ่ามันหรือไม่ สถานการณ์ของท่านก็ยังคงเหมือนเดิม”

 

ตงกั๋วจื่อมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียน ยังทำท่าทางปาดคอตัวเองออกมา

 

“หากข้าเป็นท่าน ข้าคงเลือกที่จะฆ่ามันแน่นอน!”

 

หลังกล่าวจบสองตาตงกั๋วจื่อก็ทอประกายเรืองขึ้นมาวูบหนึ่ง คล้ายพึงพอใจอะไรบางอย่าง

 

“ตง กั๋ว จื่อ!!”

 

สีหน้าของโอวฉิงเปลี่ยนไปอย่างมาก

 

‘ตงกั๋วจื่อผู้นี้ก็นับว่าไม่ใช่ตะเกียงขาดน้ำมันอีกคน…ฟังดูเหมือนมันคิดจะช่วยข้า แต่ที่จริงแล้วมันก็แค่คิดยืมมีดฆ่าคน  คิดใช้ข้าฆ่าโอวฉิงแทนมันเท่านั้น’

 

ต้วนหลิงเทียนไม่ใช่คนโง่ ย่อมรู้เรื่องนี้ได้ชัดเจน

 

ยิ่งไปกว่านั้นผู้เฒ่าหั่วก็ได้กล่าวเตือนเขาตั้งนานแล้วว่ามีคน 2 คนกำลังเฝ้าดูเขาอยู่ตั้งแต่แรก ทว่าด้วยความที่ทั้งคู่ไร้จิตมุ่งร้ายใดๆต่อเขาๆจึงไม่ได้สนใจ

 

‘ตงกั๋วจื่อ…ในนครแห่งบาปมีพันธมิตรผู้ฝึกตนอิสระที่ร้ายกาจที่สุดอยู่ 3 พันธมิตร นอกจากพันธมิตร 7 สังหารแล้ว ก็มีพันธมิตรหมื่นโบราณ กับพันธมิตรพันสารท’

 

‘และดูเหมือนทั้ง 3 พันธมิตรจะไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไหร่…’

 

ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็ย้อนนึกถึงเรื่องราว 3 พันธมิตรที่แข็งแกร่งที่สุดในนครแห่งบาปขึ้นมา

 

‘ผู้นำพันธมิตรพันสารทดูเหมือนจะเรียกว่า ตงกั๋วยี่…ท่าทางตงกั๋วจื่อผู้นี้สมควรเป็นคนของพันธมิตรพันสารท และสถานะของมันคงไม่ต้อยต่ำ ไม่งั้นคงไม่มียอดฝีมือระดับนี้คอยตามคุ้มครอง’

 

ชายชราที่ยืนอยู่ด้านหลังตงกั๋วยี่นั้น หลังตงกั๋วยี่มาถึงมันก็ยืนหลับตาสงบจิตไม่กล่าวใดออกมาตั้งแต่ต้นจนจบ

 

หากแต่ชายชราผู้นี้กลับทำให้ต้วนหลิงเทียนสัมผัสได้ถึงอันตราย

 

อย่างน้อยๆก็อันตรายกว่าลู่จิ้น ที่ยืนอยู่ด้านหลังโอวฉิง ที่ติดอยู่ใน 300 อันดับแรกของรายนามยอดเซียน

 

“เซียนสวรรค์ 4 เปลี่ยน!”

 

หลังถามผู้เฒ่าหั่ว เขาก็ได้รับทราบพลังฝึกปรือของชายชราผู้ติดตามตงกั๋วจื่อ

 

ด้วยเหตุนี้ทำให้เขารู้สึกว่าฐานะของตงกั๋วจื่อในพันธมิตรพันสารทย่อมไม่ใช่ชั่วแน่นอน เผลอๆจะเป็นบุตรชายของตงกั๋วยี่ ผู้นำพันธมิตรพันสารทด้วยซ้ำ!

 

หลังมองตงกั๋วจื่อด้วยสายตาลึกซึ้งแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็หันกลับไปมองโอวฉิงอีกครั้ง ค่อยถามออกมาด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น “หากวันนี้ข้าไม่ฆ่าเจ้า แล้วบิดาของเจ้าจะปล่อยข้าไปงั้นเหรอ?”

 

“ย่อมเป็นเช่นนั้น!”

 

ได้ยินวาจากล่าวถามของต้วนหลิงเทียน โอวฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยตอบกลับหลังได้ยินคำเตือนของลู่จิ้น “ตราบใดที่เจ้าไม่ฆ่าข้า เช่นนั้นข้าก็ยินดีกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าว่าข้าจะไม่มีวันปริปากบอกท่านพ่อเด็ดขาดว่าวันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น…”

 

“ขอเพียงบิดาข้าไม่รู้เรื่องนี้ ท่านพ่อย่อมไม่คิดทำอะไรเจ้าเป็นธรรมชาติ!”

 

กล่าวจบโอวฉิงก็ไม่รอให้ต้วนหลิงเทียนตอบสนองอะไร มันใช้เล็บเฉือนปลายนิ้วตัวเองเบาๆให้หลั่งโลหิต เร่งกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ออกมาทันที

 

เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!

 

……

 

เสียงอัสนี 9 คำรบดังลั่นออกมาจากฟ้าเบื้องบนเป็นการตอบรับคำสาบานของโอวฉิง ทำให้ต้วนหลิงเทียนพลันขมวดคิ้วขึ้นมาอีกครั้ง

 

ไหนเลยเขาจะไม่รู้ว่าคำสาบานของโอวฉิงมีปัญหา!

 

“ฮ่าๆๆๆ!!”

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนกำลังจะกล่าวคำ กลับเป็นตงกั๋วจื่อที่ระเบิดเสียงหัวเราะขึ้นมาดังลั่นเสียก่อน

 

“ตงกั๋วจื่อเจ้าหัวเราะอะไร!”

 

ลูกตาโอวฉิงกระพริบวูบด้วยความหวั่นใจประการหนึ่ง ก่อนคำรามออกมาด้วยโทสะกลบเกลื่อน

 

“ข้าหัวเราะอะไรงั้นเหรอ? ข้าก็หัวเราะเจ้าไงนายน้อยโอว! ไม่คิดเลยว่าเจ้ายังกล้าเล่นตุกติกกับวาจาสาบานได้อย่างโง่งมเช่นนี้! เจ้าสาบานว่าจะไม่บอกบิดาเจ้าถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้…แต่เจ้าสามารถบอกคนอื่นในพันธมิตร 7 สังหารถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้ใช่หรือไม่? จะเป็นรองผู้นำหรือกระทั่งใครก็ได้ในพันธมิตร 7 สังหาร!!”

 

“ถึงตอนนั้นขอเพียงพวกมันสักคนไปรายงานเรื่องนี้ต่อบิดาเจ้า…แล้วบิดาเจ้ายังไม่ลงมือกับท่านชุดดำได้หรือ?”

 

หลังหัวเราะดังลั่นอีกรอบจบ ตงกั๋วจื่อก็กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงดูแคลน “หรือเจ้ากล้าสาบานว่าเมื่อครู่เจ้ากล่าวคำสาบานด้วยความจริงใจแล้วจริงๆ?”

 

โอวฉิงไม่คิดเลยว่าตงกั๋ววจื่อจะเปิดโปงความในใจทั้งหมดของมันออกมาในประโยคเดียว ทำให้ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวไปราวเคี้ยวถูกแมลงวัน

 

อย่างไรก็ตามเมื่อมันสัมผัสถึงสายตาแสนเยียบเย็นหลังโม่งดำของต้วนหลิงเทียนที่มองจ้องมา มันก็เร่งกล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าใหม่อีกรอบทันที ว่าจะไม่กล่าวบอกผู้ใดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้

 

ลู่จิ้นที่อยู่เบื้องหลังโอวฉิงก็เร่งกล่าวคำสาบานออกมาเช่นกัน

 

เมื่อเห็นว่าโอวฉิงและลู่จิ้นตอบรับกันอย่างไร ตงกั๋วจื่ออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ทว่ามันก็คลี่ออกแทบจะทันที หันมองไปทางต้วนหลิงเทียนค่อยกล่าวออกด้วยรอยยิ้ม “ท่านชุดดำถึงแม้ว่าพวกมันจะกล่าวคำสาบานกับทัณฑ์สวรรค์เก้าเก้าแล้ว…แต่ข้ายังรู้สึกว่าเพียงคำสาบานนี้ยังมิอาจรับประกันได้เพียงพอ!”

 

หน้าโอวฉิงกับลู่จิ้นเปลี่ยนสีไปเป็นมืดดำทันที กระทั่งถึงขนาดนี้แล้วตงกั๋วจื่อยังจะตื๊อให้ชายชุดดำฆ่าพวกมันอยู่อีก!!

 

ในขณะที่พวกมันกำลังเป็นกังวลอย่างหนักนั้นเอง ต้วนหลิงเทียนหันมองไปทางตงกั๋วจื่อผ่านๆ ค่อยกล่าวออกเสียงเบา “เจ้ากับคนที่อยู่ข้างหลังเจ้า…ก็กล่าวคำสาบานต่อทัณฑ์สวรรค์ด้วย”

 

ตงกั๋วจื่อถึงกับอึ้ง

 

ด้วยมันไม่คิดมาก่อนเลยว่าต้วนหลิงเทียนจะหันมาสั่งให้มันกับชายชรากล่าวคำสาบานเรื่องนี้ด้วย

 

ทันใดนั้นสีหน้ามันก็มืดลงทันที

 

ชายชราที่อยู่เบื้องหลังตงกั๋วจื่อพลันลืมตาขึ้นแทบจะพร้อมกันกับที่ต้วนหลิงเทียนกล่าวจบคำ และสองตาของมันยังจับจ้องมองไปยังร่างของต้วนหลิงเทียน ในแววตายังคล้ายมีประกายสายฟ้าแลบลั่น! เป็นการมองเตือนต้วนหลิงเทียนอย่างเห็นได้ชัด!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด