War sovereign Soaring The Heavens 2249

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2249 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2,249 : ผู้บ่มเพาะเต๋าท้าทายสวรรค์

 

ในขณะที่ผู้นำลัทธิชะตาฟ้าถูกฆ่าตายอย่างทรมานโดยไร้ซึ่งร่องรอยใดๆให้สืบสาว

 

ในหุบเขาเล็กๆที่ตั้งอยู่ห่างจากลัทธิชะตาฟ้านับหมื่นลี้ ปรากฏร่างสตรีบอบบางที่ขยับมือก่อปางพิสดารประการหนึ่ง

 

เป็นสตรีที่มาในชุดขาวราวหิมะ สภาวะร่างยามลอยล่องกลางหาวให้ความรู้สึกเลื่อนลอยไม่อาจจับต้อง แลดูไปประหนึ่งนางฟ้าบนสวรรค์

 

ด้วยลักษณะอันโดดเด่นของนาง พาลให้สรรพสิ่งรอบกายคล้ายจะหม่นหมองลงถนัดตา

 

เส้นผมดำขลับ ทอดยาวลงมาถึงเอว มองไปดั่งม่านน้ำตกสรรค์

 

แม้ว่าใบหน้าของนางจะถูกม่านผ้าขาวปกคลุมไปครึ่งหนึ่ง

 

แต่มองจากรูปโฉมอีกครึ่งที่เผย ก็ให้ความรู้สึกราวกับนางถูกสรรค์สร้างขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน ไม่ยากที่จะบอกว่ารูปโฉมใต้ม่านผ้านั้นสมควรเป็นโฉมงามอันไร้คู่เปรียบนางหนึ่ง

 

หลังจากขยับมือเสร็จนางก็ลอยร่างค้างกลาวหาวแน่นิ่งไม่ไหวติง แม้ไม่ทำอะไรหากแต่ทั่วร่างกลับเผยกลิ่นอายเยียบเย็นประการหนึ่งปานธิดาน้ำแข็ง ทำให้รอบกายคล้ายจะบังเกิดหิมะร่วงหล่นลงมาได้ตลอดเวลา

 

“นับว่าพลังสะท้อนหลังฆ่าเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนด้วยเคล็ดสวรรค์สาปไม่เบาเลยจริงๆ…”

 

สีหน้าภายใต้ม่านผ้าขาวเผยความซีดเซียวเล็กน้อย คล้ายได้รับผลสะท้อนจากการลงมือเมื่อครู่

 

แทบจะพร้อมกันกับที่นางกล่าวจบคำ ร่างบางในชุดขาวพิสุทธิ์ก็อันตรธานหายวับไปในอากาศ หุบเขาอันเงียบสงัดไกลห่างหวนคืนสู่ความสงบเงียบอีกครั้ง

 

ในเวลานี้หากมีคนอยู่ในหุบเขาอีกคน ไม่พ้นคงได้ตกตะลึงยกใหญ่แน่

 

เพราะตอนนี้ ในหุบเขาเล็กๆ โดยมีจุดหนึ่งเป็นจุดศูนย์กลาง อาณาบริเวณกินรัศมีร้อยหมี่รอบๆจุดดังกล่าว กลับปรากฏฉากพิสดาร ต้นไม้ใบหญ้าที่เคยเขียวขจีกลับแห้งเหี่ยวผุพัง ราวกับพวกมันทั้งหมดสิ้นสูญพลังชีวิต!

 

แต่เดิมพื้นที่กินรัศมีร้อยหมี่นั้นมีสีเขียวดั่งมรกต แต่พริบตาก็กลับกลายเป็นสีเหลืองแก่!

 

ทำให้ยามมองลงมาจากฟ้าสูงบังเกิดภาพประหลาดแปลกตานัก รอบๆก็บริบูรณ์ดี ไฉนกลับมีพื้นที่แห้งเหี่ยวเป็นหย่อมประหลาดแบบนั้นได้?

 

หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วยาม ในที่สุดมหาปุโรหิตโม่เชวียนก็ขยายรัศมีค้นหาจนมาถึงน่านฟ้าเหนือหุบเขา…

 

เมื่อมันเหลือบไปเห็นพื้นที่แห้งเหี่ยวหย่อมหนึ่งท่ามกลางขุนเขาขจี ลูกตามันก็หดหยีลง ร่างดิ่งลงจากฟ้าดั่งอุกกาบาตไปหยุดอยู่เหนือหุบเขาเล็กๆทันที

 

“ข้าจำได้ว่า…พื้นที่แถบนี้เดิมทีก็สมควรเป็นสีมรกตเหมือนโดยรอบมิใช่หรือไร ไฉนตอนนี้ต้นไม้ใบหญ้ารอบๆกินรัศมีร้อยหมี่กลับแห้งเหี่ยวลงแบบนี้ได้? กระทั่งสำนึกเทวะยังจับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายพลังที่เริ่มจางหายไป…”

 

ตระหนักถึงจุดนี้สีหน้าโม่เชวียนก็มืดลงทันใด “นั่นหมายความว่าเดิมทีสถานที่แห่งนี้ยังสมบูรณ์ดีอยู่ แต่มันพึ่งเหี่ยวเฉาลงได้ไม่นาน…”

 

ตอนนี้เองในหัวโม่เชวียนบังเกิดประกายความคิดหนึ่งแล่นผ่าน

 

ในตอนที่ผู้สืบทอด ความลับสวรรค์ประกาศ ร่างผู้นำลัทธิชะตาฟ้าก็เริ่มทุกทข์ทรมาน สุดท้ายก็ตกตายโลหิตไหลออกจากทวารทั้ง 7…

 

“ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 2 ความลับสวรรค์…”

 

ประโยคนี้ยังเตือนมัน

 

ว่าผู้ที่ลงมือสมควรเป็นผู้สืบทอดของผู้เฒ่าพยากรณ์!

 

นอกจากนั้นนางยังเป็นศิษย์สตรีอีกคนของ 7 ทวาราเที่ยงแท้!

 

“7 ทวาราเที่ยงแท้…ความลับสวรรค์…ความลับสวรรค์”

 

ใบหน้าโม่เชวียนเริ่มมืดลงทุกขณะ ในใจย้อนนึกถึงข้อมูล 7 ทวาราเที่ยงแท้ที่มีบันทึกไว้

 

จะอย่างไรมันก็คือมหาปุโรหิตของลัทธิชะตาฟ้า หลังใช้ชีวิตอยู่มาอย่างยาวนาน บันทึกเก่าแก่โบราณของลัทธิชะตาฟ้าย่อมผ่านตามันมาหมดสิ้น

 

ในบรรดาบันทึกเหล่านั้น ย่อมมีเรื่องราวของ 7 ทวาราเที่ยงแท้อยู่ด้วย

 

“ในยุคที่อัจฉริยะท้าทายสวรรค์ อย่างเซียนกระบี่ฟงชิงหยางอยู่ อีก 6 ลำดับของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ล้วนน่าทึ่งทั้งสิ้น…แต่ละคนยังมีความสามารถโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นัก”

 

“ในบรรดาทั้ง 6 เป็นผู้สืบทอดความลับสววรรค์ทวาราเที่ยงแท้ลำดับ 2 ที่พลังฝีมืออ่อนด้อยที่สุด…หากแต่แม้พลังฝึกปรือจะอ่อนด้อย มันกลับมีเวทย์คำสาปคร่าชีวิต…ยังได้รับขนานนามว่าเป็นผู้ฝึกเต๋าอันดับ 1 ในแดนดิน”

 

“อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้สืบทอดความลับสวรรค์คนนั้นจะตกตาย มันที่มีพลังฝีมือเพียงเซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนกลับสามารถใช้คำสาปคร่าชีวิตยอดฝีมือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนได้! ตัวข้าเองยังไม่มีปัญญากระทำเช่นนั้น!!”

 

คิดถึงจุดนี้สีหน้าโม่เชวียน มหาปุโรหิตของลัทธิชะตาฟ้าก็น่าซีดลง ยังเผยความหวาดกลัวสยดสยอง

 

“บัดซบ นางเป็นผู้ฝึกเต๋า! แถมไม่เพียงแต่สืบจะทอดเต๋าท้าทายสวรรค์รวมถึงเวทย์คำสาปสังหารของทายาทความลับสวรรค์ในตอนนั้นมา…แต่พลังฝึกปรือของนางสมควรไม่ต่ำต้อย!!”

 

“หาไม่แล้วนางไม่มีทางใช้คำสาปฆ่าผู้นำลัทธิได้!”

 

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้มากเท่าไหร่สีหน้ามหาปุโรหิตอย่างโม่เชวียนก็ยิ่งมืดดำลงปานจะคั้นได้เป็นน้ำหมึก!

 

“ทันทีที่ร่ายคำสาปสังหาร…ในรัศมีจะไร้สิ่งใดมีชีวิต!”

 

หลังนึกไม่นาน โม่เชวียนก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

 

ด้วยเหตุนี้มันจึงยืนยันได้ทันที ว่าผู้สืบทอดความลับสวรรค์คนนี้ไม่เพียงแต่จะบ่มเพาะเต๋าท้าทายสวรรค์ นางยังฝึกเวทย์คำสาปสังหารอันน่าพรั่นพรึงสำเร็จ!

 

“เต๋าท้าทายสวรรค์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง…ยิ่งไปกว่านั้นพลังฝึกปรือของนางสมควรเหนือกว่าผู้สืบทอดความลับสวรรค์ในยุคนั้น อย่างน้อยๆก็สมควรบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยน!”

 

กล่าวพึมพำถึงจุดนี้ลูกตาโม่เชวียนก็หดหยีลงเผยความหวั่นหวาด

 

ผู้ฝึกเต๋าท้าทายสวรรค์นั้น เป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวอย่างถึงที่สุด ในอดีตแม้ผู้ฝึกเต๋าท้าทายสวรรค์จะมีพลังฝึกปรือแค่เซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยน แต่ก็สร้างความหวาดกลัวให้ผู้ฝึกตนทั้งแดนดิน

 

นั่นเพราะมันสามารถฆ่าผู้คนที่อยู่ห่างไกลไปนับพันลี้อย่างไร้ร่องรอยด้วยเวทย์คำสาปสังหาร!

 

สิ่งนี้ยังน่ากลัวกว่าการลงมือของ ทายาทเงาทมิฬเสียอีก!

 

อย่างหลังจะอย่างไรก็ต้องลงมือด้วยตัวเอง

 

ทว่าอย่างแรกนั้นฆ่าคนไม่เห็นหน้า พิฆาตจากไกลห่างไม่อาจสืบหา!!

 

“ในยุคนั้นผู้สืบทอดความลับสวรรค์น่ากลัวนัก…ขอเพียงเป็นผู้ฝึกตนใต้ขอบเขตเซียนสวรรค์ 8 เปลี่ยนไม่มีใครไม่กลัวมัน…เพราะสุดท้ายทุกคนก็กลัวว่าจะถูกฆ่าโดยไม่ทันรู้ตัว กระทั่งจนตายยังไม่เห็นหน้าผู้ลงมือ…”

 

“แต่จะอย่างไรพลังฝีมือของมันก็มีแค่เซียนสวรรค์ 6 เปลี่ยนเท่านั้น ยังติดค้างในด่านพลังนี้ไม่อาจก้าวหน้า ทำให้หลายคนโล่งใจกันไม่น้อย…”

 

“เพราะสุดท้ายหากมันไม่อาจบรรลุถึงเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนได้มันก็มีอายุขัยจำกัด ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องมีวันตาย…และตราบใดที่มันตาย เต๋าท้าทายสวรรค์ก็จะหายไปพร้อมกับมัน…”

 

คิดถึงจุดนี้โม่เชวียนไม่เพียงไม่โล่งอก แต่สีหน้ายังเปลี่ยนเป็นเครียดขึ้นอย่างหนัก “แต่วันนี้ ผู้สืบทอดความลับสวรรค์ของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้บ่มเพาะเต๋าท้าทายสวรรค์ แต่นางยังมีพลังฝึกปรือขอบเขตเซียนสวรรค์ 7 เปลี่ยนหรืออาจจะเหนือกว่านั้น!”

 

“เช่นนั้นหมายความว่านางมีอายุขัยไร้จำกัด…ตราบใดที่ไม่เกิดอุบัติเหตุอันใด ขอเพียงมีเวลาไม่ช้าก็เร็วนางต้องบรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนได้แน่!”

 

คิดถึงจุดนี้ ใจของโม่เชวียนก็สั่นไหวเต้นไปไม่เป็นจังหวะ

 

ผู้บ่มเพาะเต๋าท้าทายสวรรค์ บรรลุถึงขอบเขตเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยน เรื่องนี้หมายความว่าอะไร?

 

หมายความว่าตราบใดที่นางต้องการ เพียงแค่ห้วงคิดร่ายออกด้วยเวทย์คำสาปสังหาร ยังจะมีใครใต้ขอบเขตครึ่งก้าวเซียนอมตะรอดพ้นความตายไปได้?

 

“แม้เป็นที่แน่นอนว่าเวทย์คำสาปสังหารของเต๋าท้าทายสวรรค์ต้องมีข้อจำกัดในการใช้ไม่น้อย…แต่ก่อนที่จะรู้ข้อจำกัดนั่น ตัวนางย่อมไม่ต่างใดจากมัจจุราช!”

 

เรื่องนี้กระทั่งตัวโม่เชวียนมหาปุโรหิตของลัทธิชะตาฟ้าที่บรรลุถึงเซียนสวรรค์ 9 เปลี่ยนอันน่าเกรงขามก็จำต้องหวาดกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ

 

“หลังผ่านไปนานปี 7 ทวาราเที่ยงแท้ไม่เพียงแต่ไม่ล่มสลายไปตามกาลเวลา แต่กลับปรากฏตัวผู้บ่มเพาะเต๋าท้าทายสวรรค์อันร้ายกาจเช่นนี้ขึ้นมาได้…หรือ 3 ลัทธิจะถูกลิขิตให้ต้องตกเป็นเบี้ยล่าง 7 ทวาราเที่ยงแท้อีกครั้ง ไม่มีวันโงหัวขึ้นได้จริงๆ…”

 

“แถมกระทั่งผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับ 2 ความลับสวรรค์ยังร้ายกาจขนาดนี้…แล้วผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 1 อย่างหมอกพิรุณเล่า หากมันปรากฏตัวขึ้นมาจะเป็นอย่างไร?”

 

คิดถึงจุดนี้โม่เชวียนก็บังเกิดความหวาดกลัวขึ้นมา

 

ขณะเดียวกันมันก็ตระหนักได้ว่า

 

การกลับมาของ 7 ทวาราเที่ยงแท้ สมควรเตรียมการมานานแล้ว!

 

……

 

ผู้นำลัทธิชะตาฟ้า ถูกสังหารอย่างไร้ร่องรอยต่อหน้าต่อตามหาปุโรหิตอย่างโม่เชวียนผู้เป็นอันดับ 3 ในรายนามยอดเซียน และปุโรหิตอีกมากมายในวิหารหลักของลัทธิชะตาฟ้า

 

ข่าวนี้พอแพร่ออกมาจากลัทธิชะตาฟ้า ก็ทำให้ทั่วทั้งภูมิภาคเบื้องบนของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าตกตะลึงอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

 

“7 ทวาราเที่ยงแท้…ความลับสวรรค์ หรือจะเป็นศิษย์ปิดสำนึกของท่านผู้เฒ่าพยากรณ์?”

 

หลังได้รับทราบตัวตนของผู้ที่ทิ้งนามไว้ ผู้คนก็ตระหนักได้ถึงเรื่องราวดังกล่าว

 

“ข้าได้ยินมาว่าคนที่สังหารผู้นำลัทธิชะตาฟ้า ผู้สืบทอดทวาราเที่ยงแท้ลำดับที่ 2 ความลับสวรรค์คนนั้น ก็เป็นสตรีอีกเช่นกัน…เพราะเสียงที่ดังไปทั่วลัทธิชะตาฟ้านั้นเป็นเสียงของสตรี!”

 

“สวรรค์! 7 ทวาราเที่ยงแท้เป็นขุมพลังรวมยอดฝีมือสตรีหรือไร ห่านเฉวี่ย ไน่กับเฟิ่งเทียนหวู่ก็ทีนึงแล้ว นี่ยังมีผู้สืบทอดความลับสวรรค์ที่น่าจะเป็นศิษย์ของท่านผู้เฒ่าพยากรณ์อีก!”

 

“เรื่องนั้นมิใช่ประเด็น…ที่สำคัญคือตอนผู้นำลัทธิชะตาฟ้าถูกฆ่า กระทั่งโม่เชวียนก็อยู่ด้วย! แถมไม่มีผู้ใดทราบเลยว่านางลงมืออย่างไร…เจ้าตัวยังไม่รู้เรื่องราวใดๆจนตายด้วยซ้ำ นี่เป็นจุดที่น่ากลัวที่สุด!”

 

“ผู้สืบทอดความลับสวรรค์เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะหรือไร ถึงฆ่าคนโดยที่มหาปุโรหิตอย่างโม่เชวียนไม่รู้เรื่องได้ หรือมันไม่อาจจับร่องรอยการลงมือของนางได้เลย?”

 

“เป็นไปไม่ได้! หากผู้สืบทอดความลับสวรรค์เป็นครึ่งก้าวเซียนอมตะจริง ป่านนี้ลัทธิชะตาฟ้าสมควรถูกนางล้างบางไปแล้ว อย่างไรความแค้นระหว่าง 7 ทวาราเที่ยงแท้กับ 3 ลัทธิก็ไม่ใช่น้อย…ไหนเลยนางจะฆ่าแค่ผู้นำคนเดียว?”

 

“นั่นก็จริง…แล้วที่แท้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เล่า?”

 

……

 

ผู้สืบทอดความลับสวรรค์ ฆ่าผู้นำลัทธิชะตาฟ้าคาวิหารหลักได้อย่างไร้ร่องรอยต่อหน้าต่อตาโม่เชวียน เรื่องนี้ใครได้ยินย่อมอดสะท้านไปไม่ได้…

 

“หรือว่าทายาทความลับสวรรค์…จะเป็นผู้บ่มเพาะเต๋าท้าทายสวรรค์เหมือนในอดีตเช่นกัน!?”

 

ตอนนี้เองเฒ่าชราที่แลดูมีประสบการณ์ไม่น้อยในเหลาอาหารแห่งหนึ่ง พลันทุบโต๊ะดังปั้ง! คนลุกขึ้นยืนพร้อมโพล่งออกมาด้วยความตกใจ!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด