War sovereign Soaring The Heavens 2316

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2316 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2,316 : ความสิ้นหวัง!

 

“มา!!”

 

เมื่อได้ยินเสียงอัสนีระเบิดดังปานฟ้าถล่มแผ่นดินทลาย จ้าววังเซียนสัญจรอวี่เหวินฮ่าวเฉินคำรามออกมาด้วยความดุดัน สองตาทอประกายจ้า พลังเซียนต้นกำเนิดทั่วร่างปะทุออกมาทันใด เร่งใช้ออกด้วยวิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ที่สืบทอดกันมา

 

อัสนีทัณฑ์สายที่ 81 อันเป็นอัสนีทัณฑ์สุดท้ายของหายนะทัณฑ์สวรรค์ ฟาดลงมาแล้ว!

 

หากมันเอาชนะได้ ย่อมหมายถึงการบรรลุสู่ครึ่งก้าวเซียนอมตะ!

 

ด้วยวิธีที่ชนชั้นจ้าววังส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น มันไม่หวาดกลัวอัสนีทัณฑ์สุดท้ายแม้แต่น้อย!

 

การเผชิญหน้ากับอัสนีทัณฑ์สุดท้าย แม้พลังอำนาจของสายฟ้าจะทำให้มันบังเกิดความกดดันไม่น้อย แต่เต็มที่มันก็แค่บาดเจ็บหนักเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลอะไรมากมายนัก!

 

ต่างจากอวี่เหวินฮ่าวเฉินที่เปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจราวหน้ามือกับหลังมือ

 

ด้านต้วนหลิงเทียนแม้พร้อมสู้สุดใจ หากแต่อารมณ์ก็ต่างกันเหลือเกิน…

 

‘ข้าต้วนหลิงเทียนผ่านพ้นเรื่องราวมามากมายบ้างก็ทุลักทุเลไม่น้อย…แต่ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายจะมาถึงจุดนี้ได้’

 

จังหวะนี้ในใจต้วนหลิงเทียนบังเกิดความไม่ยินยอมพร้อมใจอยู่บ้าง

 

แต่หากไม่ยินยอมแล้วอย่างไร?

 

ทุกสิ่งอย่างเบื้องหน้า มันอยู่เหนือความควบคุมของเขา

 

ซู่ม!!

 

ซู่ม!!

 

อัสนีฟ้า 2 สายฟาดผ่าลงมาอย่างพร้อมเพรียงด้วยสภาวะประหนึ่งมังกรพิโรธ! พริบตาพวกมันก็พุ่งแยกไปหาแต่ละคน มองไปให้ความรู้สึกน่ากลัวประหนึ่งอุกกาบาตที่ร่วงลงมาถล่มโลก!!

 

และหากใครสังเกตให้ดีจะพบว่า..

 

หลังจากที่อัสนีทั้ง 2 สายฟาดผ่าลงมาแล้ว ในแพเมฆหายนะสู่สวรรค์กลับไม่ลงเหลืออัสนีสีม่วงที่แลบลั่นแปลบปลาบประหนึ่งอสรพิษสีม่วงเหลืออยู่อีกเลย กระทั่งเสียงฟ้าคำรามครืนๆที่ดังมาแต่แรกก็คล้ายจะเงียบหายไปหมดสิ้น

 

อย่างไรก็ตาม ไม่มีผู้ใดสนใจเรื่องนี้สักคน

 

เพราะตอนนี้ความสนใจของทุกคน ต่างจดจ่ออยู่กับอัสนีทัณฑ์ 2 สายที่ฟาดลง!

 

อัสนีทัณฑ์ทั้ง 2 เมื่อฟาดผ่าลงยิ่งมาก็ยิ่งเหมือนมังกรขึ้นไปทุกขณะ พวกมันแหวกฟ้ามาด้วยสภาวะดุร้ายสุดประมาณ ราวกับจะอ้าปากกระหายเลือดกลืนกินต้วนหลิงเทียนและอวี่เหวินฮ่าวเฉิน!

 

พลังอำนาจทั้งแรงกดดันอันน่าพรั่นพรึงที่อัสนีทั้งสองเพาะสร้าง นับว่าทำให้ผู้ฝึกตนในที่นี้บังเกิดความรู้สึกประหวั่นยำเกรงออกมาจากใจ บ้างก็เสียขวัญไปไม่น้อย!

 

นั่นเพราะทั้งหลายตระหนักได้ถึงพลังอำนาจมหาประลัยที่พร้อมล้างผลาญชีวิตของพวกมันได้อย่างง่ายดายชัดเจนดี!

 

“มาได้ดี!!”

 

อวี่เหวินฮ่าวเฉินระเบิดเสียงหัวเราะร่า ตะโกนออกมาอย่างสาแก่ใจ ร่างพุ่งทะยานสวนขึ้นไปหาอัสนีฟ้าอย่างไร้ครั่นคร้าม ไม่มีแม้แต่เศษเสี้ยวความหวาดกลัวต่ออัสนีทัณฑ์สุดท้ายแม้แต่น้อย!

 

และมันก็ไร้ซึ่งความกลัวจริงๆ!

 

ด้วยมีวิธีข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรรค์ที่สืบทอดต่อกันมา รวมถึงในบันทึกของวังเซียนสัญจรก็ไม่เคยปรากฏชนชั้นจ้าววังเซียนสัญจรล้มเหลวในการข้ามผ่านหายนะทัณฑ์สวรค์มาก่อน ทำให้ในใจมันบังเกิด ความเชื่อมั่น อย่างแรงกล้า! ยังเป็นความเชื่อมั่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมัน!!

 

อย่างไรก็ตามแม้อวี่เหวินฮ่าวเฉินจะโจนทะยานสวนเข้าใส่สายฟ้าอย่างกล้าหาญ แต่ก็มีน้อยคนนักที่จะให้ความสนใจกับการกระทำของมัน

 

ผู้ชมแทบทั้งหมดไม่เว้นประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์…

 

ล้วนจับจ้องไปยังร่างต้วนหลิงเทียนแทน! ด้วยเพราะทุกคนรู้ดีว่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินสมควรสยบอัสนีทัณฑ์ได้แน่นอน จึงไร้ซึ่งความน่าสนใจอะไร ไม่ค่อยมีผู้ใดคิดชมมันเอาชนะหายนะทัณฑ์สวรรค์ด้วยวิธีที่รู้ๆกันอยู่แล้ว

 

ทว่าสำหรับต้วนหลิงเทียนนั้นต่างออกไป

 

“ในที่สุดต้วนหลิงเทียนผู้นี้ก็จักตกตายเพราะอัสนีทัณฑ์เสียที!”

 

“เจ้าอัจฉริยะของพวกมนุษย์เอ๋ย…หากชาติหน้ามีจริงก็จงจดจำไว้ให้ดี ว่าอย่าได้มาแหยมกับเผ่าปีศาจของเรา!”

 

 

สายตามากมายหลายคู่จับจ้องมายังร่างต้วนหลิงเทียนไม่วางตา แต่ละสายตายังเผยความสนุกสนานปานได้เห็นฉากร่างต้วนหลิงเทียนถูกอัสนีป่นทำลาย!

 

‘ถึงแม้ชีวิตข้าใกล้ดับสิ้น..แต่ห้วงเวลาสุดท้ายนี้ ข้าก็อยากให้มันส่องประกายเจิดจ้ามากที่สุด!’

 

เมื่อแลเห็นความตายที่บึ่งทะยานลงมาจากฟากฟ้า แววตาต้วนหลิงเทียนก็ฉายชัดถึงประกายแน่วแน่ พลังเซียนต้นกำเนิดทั่วร่างถูกเร่งเร้าให้ไหลเชี่ยวผ่านชีพจรเซียน 99 สายปานน้ำป่าไหลหลาก ยังส่งเสียงพลังครืนๆประหนึ่งมังกรพิโรธคำราม!!

 

“หืม?”

 

ในระหว่างเร่งเร้าพลังต้วนหลิงเทียนยังพบอีกกว่า

 

พลังสุริยันที่หวนคืนกลับมายังร่างของเขาโดยที่ไม่ทันได้หลอมผสานไปกับพลังเซียนต้นกำเนิด บัดนี้มันก็ปะทุออกมาพร้อมพลังเซียนต้นกำเนิด ก่อนที่จะก่อร่างเป็นอีกาทองคำ 3 ขา ครอบคลุมไปทั่วร่างของเขาอีกครั้ง!

 

“เป็นนกไฟประหลาดนั่นอีกแล้ว!!”

 

แทบจะทันทีที่ร่างของต้วนหลิงเทียนปรากฏนกที่ควบสร้างจากเปลวเพลิงสีทองคลุมกาย ลูกตาของหลายๆคนก็หดหยีลงทันที

 

“นกไฟยามนี้ เทียบกับก่อนหน้าตอนรับอัสนีทัณฑ์สายที่ 80 แล้วพลังสภาวะของมันอ่อนโทรมลงอย่างยิ่ง…ถึงแม้พลังอำนาจที่เหลือจักมิใช่ชั่ว แต่ก็ไม่ถึงครึ่งจากก่อนหน้า!!”

 

เหล่าระดับสูงๆของ 3 วัง 6 ตำหนักค้นพบเรื่องนี้ได้แทบจะทันที

 

“นกนั่นไม่อาจต้านทานพลังของอัสนีทัณฑ์สายสุดท้ายได้ไหวแน่!”

 

จ้าววังวิญญาณอสุราฉีหนานฟง กล่าวออกมาด้วยความมั่นใจหลังแผ่สำนึกเทวะออกไปตรวจสอบ ตอนนี้มันสามารถยืนยันคำของประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ก่อนหน้าได้ชัดเจน!

 

ประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์ได้บอกไว้แต่แรก

 

ว่าพลังลี้ลับที่มีพลังอำนาจทัดเทียมกับพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดที่ต้วนหลิงเทียนครอบครองอยู่ ไม่เพียงพอจะต้านทานอัสนีทัณฑ์สวรรค์สายสุดท้าย!!

 

พอได้เห็นกับตา ฉีหนานฟง ก็ไม่คิดสงสัยอะไรอีก

 

‘ผู้เฒ่าหั่ว…ในวาระสุดท้ายของชีวิต ข้ายังสามารถต่อสู้เคียงข้างพลังสุริยันที่ท่านได้ถ่ายทอดมาให้วันนั้นมันช่างน่ายินดีนัก แต่น่าเสียดายที่ข้าคงต้องผิดต่อท่านแล้ว’

 

‘หากแต่ท่านเพียงรออีกไม่นาน…ข้าจะตามไปขอขมาท่านในปรภพ’

 

‘ข้าเพียงหวังว่ายามได้พบท่านอีกทั้ง ท่านอย่าได้ตำหนิว่าข้าไม่เอาไหน…เพราะสุดท้ายหนึ่งชีวิตนี้ของข้าก็เป็นท่านสละชีวิตที่มีค่าของท่านแลกให้มา…’

 

ความคิดมากมายแล่นวาบในใจต้วนหลิงเทียน ก่อนที่เขาจะหยุดคิดทั้งหมด สองตาจดจ้องไปยังอัสนีทัณฑ์สุดท้ายของหายนะสู่สวรรค์ที่ห่างออกไปไม่ไกล มือกระชับกระบี่พันอาคมเซียนไว้แน่น ก่อนจะทะยานร่างออกไปฉับไวปานฟ้าผ่า!

 

“ปีกอีกาทองคำ!”

 

“ปราการเต่าทมิฬ!”

 

“เซียนอมตะข้ามภพ!”

 

“ใจกระบี่เหิน!!”

 

ในช่วงเวลาเป็นตาย ต้วนหลิงเทียนใช้ออกด้วยทุกสิ่งที่มีออกมาอย่างไร้ซึ่งการออมรั้งอะไร เผยพลังทั้งหมดเพื่อรับมือกับอัสนีทัณฑ์สวรรค์อันน่ากลัว!

 

ซัว! ซัว! ซัว!

 

 

วู้มม! ซู่ม! ซู่ม!!

 

 

เมื่อร่างแยกอวตารทั้งหลายปรากฏ แล้วจี้กระบี่พันอาคมเซียนจำแลงแทงทะลวงขึ้นไปยังอัสนีทัณฑ์อันน่ากลัว ร่างจริงต้วนหลิงเทียนของต้วนหลิงเทียนก็พุ่งทะยานตามไปติดๆ!

 

อีกาทองคำ 3 ขาที่ควบรวมสร้างขึ้นจากพลังสุริยันด้วยเจตจำนงของมันเองก็เหินทะยานออกไปพร้อมร่างต้วนหลิงเทียน มุ่งตรงสู่อัสนีทัณฑ์สุดท้ายของหายนะสู่สวรรค์อันน่ากลัว!

 

“ฆ่า!!”

 

เมื่อทะยานร่างออกมาได้ถึงครึ่งทาง และเจียนปะทะกับอัสนีทัณฑ์สวรรค์เต็มที ต้วนหลิงเทียนพลันคำรามออกมาอย่างดุดัน เสียงยังสนั่นก้องฟ้าไปประหนึ่งจะดังสะเทือนแดนดิน!

 

ราวกับจะทิ้งเสียงสนั่นก้องฟ้านี้ ให้เป็นเสียงสุดท้ายที่เขาได้กล่าวอำลาต่อโลกหล้า

 

เวลานี้ฉากเรื่องราวพลันกลับกลายเป็นเงียบงันไร้เสียงใด

 

คงเหลือเพียงสำเนียงอัสนีแหวกฟ้าฟาดผ่าไปทางอวี่เหวินฮ่าวเฉินและต้วนหลิงเทียนที่ดังก้องในหูของผู้คน

 

‘อัสนีทัณฑ์สายสุดท้ายช่างน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!’

 

‘พลังทำลายของมัน น่ากลัวว่าจะเป็น 2 เท่าจากพลังของอัสนีทัณฑ์สายที่ 80!!’

 

‘พลังทำลายมหาศาลขนาดนี้…อย่าว่าแต่พลังสุริยันเหลือไม่ถึงครึ่งเลย ต่อให้ข้าผสานพลังชั่วชีวิตลงไปก็ยังไม่อาจเอาชนะมันได้!’

 

 

เพียงพริบตา ร่างต้วนหลิงเทียนก็พุ่งสวนขึ้นไปจนห่างจากอัสนีทัณฑ์สายสุดท้ายไม่ถึง 10 หมี่

 

และวินาทีนี้เขาพลันสัมผัสได้ถึงพลังอำนาจมหาประลัยของอัสนีทัณฑ์สายสุดท้ายได้ชัดเจน ว่ามันเหนือกว่าอัสนีทัณฑ์ก่อนหน้าที่ผ่านๆมามากเพียงใด!

 

กระทั่งอัสนีทัณฑ์สายที่ 80 ก็ไม่อาจเทียบชั้นมันได้เลย!!

 

วู้ม! วู้ม! วู้ม!

 

……

 

ต้วนหลิงเทียนเร่งพลังสำนึกกระบี่จากเคล็ดบำเพ็ญเต๋ากระบี่สูงสุด ยอดใจกระบี่ เต็มกำลัง ปรากฏพลังกระบี่ลี้ลับฉาบคลุมไปทั่วกระบี่พันอาคมเซียนจำแลงทั้งเล่มจริง กระทั่งยังฉาบคลุมไปทั่วทั้งร่างแยกอวตารและร่างจริงของเขา ทั้งหมดเสมือนร้อยเรียงเป็นหนึ่งจี้ทะลวงเข้าใส่อัสนีทัณฑ์สุดท้าย!!

 

และก่อนที่จะปะทะกับอัสนีทัณฑ์ สภาวะพลังของร่างแยกอวตารที่เหินทะยานนำหน้าก็พุ่งทะยานสูงขึ้นในพริบตา!

 

เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง! เปรี๊ยง!

 

 

เสียงระเบิดถล่มทลายดังกังวานไปทั่วฟ้า ยังก่อเกิดคลื่นลมแรงดั่งมหาพายุซัดกวาดออกไปทั่วสารทิศ!

 

อย่างไรก็ตามร่างแยกอวตารพร้อมกระบี่พันอาคมเซียนที่แม้จะปะทุพลังสภาวะกล้าแข็งยิ่งกว่าครั้งใดยามปะทะเข้ากับอัสนีทัณฑ์สุดท้าย ก็ประหนึ่งกลับกลายเป็นก้อนหินหล่นทะเลก็ไม่ปาน…ก่อเกิดคลื่นกระเพื่อมเพียงแค่เล็กน้อย

 

แค่เล็กน้อยเท่านั้น…

 

เรียกว่าเมื่อร่างแยกอวตารปะทะกับอัสนีทัณฑ์จนหมดสิ้น พลังของอัสนีทัณฑ์สุดท้ายก็พร่องไปราวๆ 1 ส่วนเท่านั้น!

 

หักล้างพลังอัสนีทัณฑ์ไปได้เพียง 1 ส่วน ย่อมไม่อาจนับเป็นอะไรได้ พลังอำนาจของอัสนีทัณฑ์สวรรค์สุดท้ายแทบไม่ต่างไปจากเดิม!

 

‘หากข้าอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม พลังของกระบี่ย่อมเหนือล้ำยิ่งกว่านี้แน่…’

 

ตระหนักได้ถึงเรื่องนี้ ใจต้วนหลิงเทียนท่วมท้นไปด้วยความไม่เต็มใจ

 

หากเขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนเผชิญหน้ากับอัสนีทัณฑ์สุดท้าย เขาคงไม่รู้สึกปวดปร่าใจขนาดนี้ กระทั่งสมควรทำลายพลังของอัสนีทัณฑ์นี้ไปมากกว่านี้หลายส่วน!

 

และแทบจะเป็นเวลาเดียวกันที่การปะทะกันระหว่างอัสนีทัณฑ์กับร่างแยกอวตารของต้วนหลิงเทียนอุบัติขึ้น จนก่อเกิดมรสุมซัดสาด

 

อีกาทองคำ 3 ขา ที่ปกคลุมร่างต้วนหลิงเทียนอันควบแน่นขึ้นมาจากพลังสุริยันที่เหลืออยู่ทั้งหมด ปีกมันพลันกระพือฉับไว โจนทะยานออกจากร่างต้วนหลิงเทียนด้วยความเร็วสูงล้ำ พุ่งเข้าใส่อัสนีทัณฑ์สุดท้ายอย่างดุดัน!!

 

พริบตาวิหกเพลิงตัวเขื่องสีทองจ้าปะทะกับอัสนีทัณฑ์ดั่งมังกรพิโรธสีม่วง!

 

ปง! ปง! ปง! ปง! ปง!

 

……

 

สุดท้ายแล้ววิหกเพลิงก็ควบรวมสร้างขึ้นจากพลังสุริยัน ถึงแม้ว่าพลังสุริยันจะเหลือไม่ถึงครึ่ง หากแต่ยามเมื่อปะทะกับอัสนีทัณฑ์จนก่อให้เกิดการระเบิด แรงระเบิดที่อุบัติขึ้นก็มหาศาลนัก!

 

คลื่นพลังสะท้อนที่กวาดกำจายออกไป ไม่ใช่อะไรที่การปะทะระหว่างกระบี่พันอาคมเซียนจำแลงของร่างแยกอวตารจากเซียนอมตะข้ามภพกับอัสนีทัณฑืเมื่อครู่จะเทียบได้เลย!!

 

อย่างไรก็ตาม ต้วนหลิงเทียนยังตระหนักได้ชัดเจนดี

 

พลังสุริยันกำลังสูญสลายไปด้วยความเร็วอันน่าสะพรึงกลัว!

 

ถึงแม้พลังอำนาจของอัสนีทัณฑ์สุดท้ายเองก็ถูกสลายหายไปเช่นกัน หากแต่อัตราการสูญสลายของพลังยังน้อยกว่าพลังสุริยันมาก!

 

‘ด้วยอัตรานี้…เมื่อพลังสุริยันสูญสลายไปจนหมด แต่พลังของอัสนีทัณฑ์สุดท้ายยังสมควรเหลืออีกครึ่ง!’

 

‘กล่าวได้ว่า…ยามเมื่อพลังสุริยันสูญสิ้นจนหมด ข้ายังต้องเผชิญหน้ากับอัสนีทัณฑ์สุดท้ายของหายนะสู่สวรรค์ที่เหลือพลังอีกครึ่ง!’

 

เรื่องนี้แม้ต้วนหลิงเทียนจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่เขายังอดบังเกิดคววามรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาไม่ได้…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด