War sovereign Soaring The Heavens 2331

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2331 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 2,331 : สายสัมพันธ์ระหว่างศิษย์อาจารย์อันแน่นแฟ้น

 

“ยันต์หลบหนีอัคคีผลาญโลหิต?”

 

สายตาคมกล้าของต้วนหลิงเทียนหันไปตกยังร่างผู้ที่อุทานออกมาทันที

 

คนๆนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น มันคือจ้าววังเซียนสัญจรอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ที่มีพลังเหนือกว่าเขาเมื่อ 3 ปีก่อน!

 

เมื่อสัมผัสได้ถึงสายตาคมกล้าของต้วนหลิงเทียนที่มองจ้องมา มันก็รู้ได้ทันทีว่าต้วนหลิงเทียนไม่รู้จักยันต์หลบหนีอัคคีผลาญโลหิต หากแต่เพราะสายตาต้วนหลิงเทียน อวี่เหวินฮ่าวเฉินจึงเร่งกล่าวอธิบายออกมาร่างยังสั่นไปด้วยความหวาดกลัว

 

“ยันต์หลบหนีอัคคีผลาญโลหิต เป็นยันต์ชนิดหนึ่งที่สลักบนป้ายหยก! และผู้ที่จารึกอาคมดังกล่าวก็คือปรมาจารย์หลอมสร้างของเผ่าปีศาจเรา จำต้องใช้วัตถุดิบล้ำค่ามากมาย…ผู้ที่บดขยี้ใช้มัน จักจุดประกายเพลิงเผาผลาญแก่นแท้โลหิตในร่าง เพื่อเร่งอานุภาพเคลื่อนย้ายส่งร่างออกไปไกลนับแสนๆลี้!”

 

“อีกทั้งในระหว่างที่ใช้มัน…ยันต์หลบหนีอัคคีผลาญโลหิตจักตัดทุกสิ่งอย่างที่กักขังหรือผนึกร่างผู้ใช้เอาไว้ ทำให้ไม่ว่าจะติดอยู่ที่ใด ก็สามารถเคลื่อนย้ายทางไกลส่งร่างให้หลบหนีออกไปได้ทั้งสิ้น”

 

“หากทว่ายันต์หลบหนีอัคคีโลหิตนั้นมีน้อยคนนักที่สร้างได้ จึงล้ำค่าเป็นอย่างยิ่ง…ในบรรดาพวกเราก็ไม่มีผู้ใดล่วงรู้มาก่อนว่าท่านประมุขจะสามารถหามันมาใช้ได้”

 

หลังกล่าวอธิบายจบสีหน้าอวี่เหวินฮ่าวเฉินก็มากล้นไปด้วยความกังวล นอกจากความหวาดกลัวแล้วในแววตามันยังเผยความอิจฉาอีกด้วย

 

เมื่อ 3 ปีก่อนมันเอาชนะต้วนหลิงเทียนได้ง่ายดาย ถึงขั้นลำบากเพียงกระดิกนิ้ว…

 

หากทว่าหลังผ่านไป 3 ปี ต้วนหลิงเทียนกลับมีพลังอำนาจเหนือมันแล้ว!

 

เซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์นั่น เป็นตัวตนที่มีพลังอำนาจเหนือกว่าครึ่งก้าวเซียนอมตะ!

 

ทว่าตัวตนดังกล่าวยังถูกต้วนหลิงเทียนฆ่าตายเอาได้ง่ายๆ เช่นนั้นนับประสาอะไรกับมันที่พึ่งบรรลุถึงครึ่งก้าวเซียนอมตะ?

 

ที่สำคัญก็คือ

 

กระทั่งประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์คนปัจจุบันอย่างหยางเจิ้นซิง อยู่ต่อหน้าภัยคุกคามจากชายหนุ่มชุดม่วงคนนี้ ยังถึงกับต้องควักยันต์หลบหนีอัคคีผลาญโลหิตแสนล้ำค่าออกมาใช้อย่างไม่เสียดาย…

 

‘ถึงแม้ท่านประมุขจะหนีไปได้และเร่งรุดไปขอความช่วยเหลือจากท่านบรรพบุรุษโดยเร็วที่สุด…แต่อย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เอาแค่กว่าจะย้อนกลับไปถึงแดนเนรเทศและย้อนกลับมาที่นี่…ก็กินเวลานานโขแล้ว!’

 

คิดถึงจุดนี้อวี่เหวินฮ่าวเฉินก็สำเหนียกตัวเองดี ว่าตอนนี้ชีวิตของมันนั้นหาได้อยู่ในกำมือของมันอีกต่อไป!

 

“อ้อ งั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลยที่มันกระทั่งสลัดสำนึกเทวะที่ข้าใช้กักร่างมันเอาไว้ได้…”

 

หลังได้ยินคำของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน ต้วนหลิงเทียนก็พยักหน้ารับลวกๆ ขณะเดียวกันก็อดไม่ได้ที่จะลอบทอดถอนในใจ ‘ไม่คิดเลยว่าในบรรดาเผ่าปีศาจจะมีอะไรที่คล้ายยันต์เต๋าแบบนี้ไว้ใช้งานด้วย แถมยังเป็น ‘ยันต์หยก’ เสียอีก…’

 

‘แถมตอนนี้ไม่รู้ว่าประมุขเผ่าปีศาจมนุษย์นั่นมันหายไปไหน ติดจะหาตัวมันในเวลาสั้นๆคงยากกว่าปีนป่ายขึ้นสวรรค์’

 

เรื่องนี้ต้วนหลิงเทียนย่อมรู้ดี

 

‘นอกจากนั้นฟังจากคำของมัน ไม่พ้นหลังจากหนีไปได้มันต้องเร่งกลับไปขอความช่วยเหลือจากบรรพบุรุษอะไรนั่นแน่…และจากคำพูดของมัน เกรงว่าบรรพบุรุษอะไรนั่น พลังฝึกปรือไม่พ้นบรรลุถึงเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เป็นอย่างต่ำ’

 

‘ความแข็งแกร่งข้าตอนนี้อาจจะแข็งแกร่งกว่า เซียนอมตะเสเพล 4 ทัณฑ์ทั่วไป…กระทั่งต่อให้ใช้ออกด้วยทุกสิ่งก็เกรงว่าจะเทียบได้กับเซียนอมตะเสเพล 5 ทัณฑ์หรืออย่างดีก็อาจจะทัดเทียมกับเซียนอมตะเสเพล 6 ทัณฑ์ ถ้าเซียนอมตะเสเพล 7 ทัณฑ์เคลื่อนไหวจริงๆ…เกรงว่ายังจะสู้มันไม่ไหว’

 

‘ก่อนหยางเจิ้นซิงจะนำบรรพบุรุษอะไรของมันมา ข้าต้องจัดการเรื่องที่นี่ให้เสร็จเร็วที่สุด! อย่างไรเสียสำหรับข้าตอนนี้เมืองนี้ก็ไร้ค่าอะไรอีกแล้ว’

 

คิดถึงจุดนี้ต้วนหลิงเทียนก็ไร้ซึ่งความลังเลใดๆ หันไปมองจ้องอวี่เหวินฮ่าวเฉินด้วยสายตาเย็นชาทันที

 

นอกจากนี้จิตสังหารที่ปะทุออกมายามคิดฆ่าหยางเจิ้นซิงที่ดับไปก่อนหน้า ก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้งและคราวนี้มันก็ไปตกยังร่างอวี่เหวินฮ่าวเฉินเป็นคนแรก!

 

ครืน! ครืน! ครืน!

 

 

เสมือนสายลมวิปริตแปรปรวน คลื่นลมอันรุนแรงกวาดซัดส่งเสียงหวีดหวิว

 

สาเหตุที่เสียงของสายลมดังเข้าหูทุกคนชัดเจน เพราะตอนนี้ไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมาสักคำ!

 

และในขณะเดียวกันกับที่จิตสังหารต้วนหลิงเทียนเพ่งเล็งไปยังอวี่เหวินฮ่าวเฉินนั้น

 

ทุกผู้คน ณ ที่นี้ก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นดินปืนคละคลุ้ง!

 

ด้านอวี่เหวินฮ่าวเฉินที่เป็นเป้าหมายโดยตรงแผ่นหลังของมันถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นชุ่มโชก กระทั่งหน้าผากยังปรากฏเหงื่อเม็ดเขื่องผุดไหลลงเป็นสาย แววตาที่มันใช้มองต้วนหลิเทียนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวเสียขวัญ เป็นความหวาดกลัวที่เอ่อล้นขึ้นมาจากก้นบึ้งของวิญญาณ!

 

3 ปีที่แล้ว มันลำบากเพียงกระดิกนิ้ว ก็บดขยี้ชายหนุ่มเบื้องหน้าได้ง่ายดาย…

 

แต่พอผ่านไป 3 ปี กระทั่งความกล้าที่จะลงมือกับชายหนุ่มเบื้องหน้ามันยังไม่มี!!

 

“จ้าววังอวี่เหวิน ตอนนี้ประมุขเผ่าของท่านอย่างหยางเจิ้นซิงก็หนีเอาตัวรอดไปแล้ว แถมอาจารย์ของมันอย่างเลี่ยวหนันเจียงก็ตายตกไป…คราวนี้ข้าว่าถึงเวลาชำระบัญชีระหว่างเราได้เสียที…”

 

ต้วนหลิงเทียนที่มองจ้องอวี่เหวินฮ่าวเฉินด้วยสายตาอำมหิตกล่าวออกด้วยน้ำเสียงไม่รีบไม่ร้อน แลดูใจเย็นนัก

 

ทว่าน้ำเสียงไม่รีบไม่ร้อนดังกล่าวของต้วนหลิงเทียน ยามดังในหูของอวี่เหวินฮ่าวเฉินก็ไม่ต่างใดจากอัสนียามแล้งที่ฟาดผ่าลงมาโดยไร้ซึ่งการตั้งเค้าใดๆมาก่อน พาลให้อวี่เหวินฮ่าวเฉินบังเกิดความหวาดกลัวจับใจ

 

เหงื่อเย็นผุดทะลักออกหน้าผาก ร่วงผล็อยเป็นหยดๆ ราวกับจะผลิตเม็ดเหงื่อนได้อย่างไร้สิ้นสุด

 

“เหอะ!”

 

เมื่อเห็นอวี่เหวินฮ่าวเฉินไม่พูดอะไรสักคำ ต้วนหลิงเทียนเพียงแค่นเสียงสบถเบาๆ ชุดเสื้อเริ่มโบกสะบัดเพราะไอพลัง มือขวายกขึ้นหมายตบฟาดฝ่ามือฆ่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินทิ้งให้จบๆ!

 

และด้วยพลังของเขาในตอนนี้อาศัยตบฟาดฝ่ามือซัดพลังลวกๆ ก็บดขยี้อวี่เหวินฮ่าวเฉินได้อย่างง่ายดาย

 

วู้ม! วู้ม! วู้ม!

 

 

พลังเซียนต้นกำเนิดผสานไว้ด้วยพลังเซียนอมตะต้นกำเนิดอันยิ่งใหญ่สุดไพศาลในร่างต้วนหลิงเทียน ไหลเชี่ยวผ่านชีพจรเซียน 99 สาย ผนึกควบบนฝ่ามือในพริบตา!

 

“โปรดเมตตาละเว้นด้วย!!”

 

ทว่าทันใดนั้นเอง เสียงสตรีหนึ่งพลันดังขึ้นเข้าหูต้วนหลิงเทียนได้ทันท่วงที

 

จังหวะนี้สองตาต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะกระพริบวาบ

 

ครู่ต่อมา ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นขวางไว้เบื้องหน้าอี่เหวินฮ่าวเฉิน เป็นร่างเย็นชาในชุดขาวที่แลดูคุ้นตา…

 

ยังเป็นสตรีในชุดขาวที่แลดูเย็นชา ทว่างดงามประหนึ่งเทพธิดาน้ำแข็ง!

 

และตอนนี้สายตาของสตรีเย็นชานางนั้นยามจับจ้องมองสบตาต้วนหลิงเทียนก็ฉายประกายวิงวอนให้เห็นเด่นชัด

 

ต้วนหลิงเทียนขมวดคิ้ว

 

พลังอันยิ่งใหญ่สุดไพศาลที่ผนึกควบในฝ่ามือไม่ได้ปะทุใช้ออกแต่อย่างใด ยังคงผนึกค้างบนฝ่ามือมวลพลังวูบวาบเผยประกายปานเส้นสายอัสนีแล่นวาบแปลบปลาบ สะท้านสะเทือนความว่างเปล่าโดยรอบ!

 

หากสังเกตให้ดีจะพบว่า

 

ตอนนี้ความว่างเปล่ารอบฝ่ามือที่สะเทือนสะท้านนั้น ปรากฏรอยแตกเท่าเข็มก่อเกิดขึ้นมารอยแล้วรอยเล่า หากแต่ก็ฟื้นฟูในฉับพลัน จึงทำให้หากไม่สังเกตให้ดีก็ยากจะแลเห็นได้!

 

“นั่นแม่นางหวงเหวินจิ้ง โฉมงามอันดับ 1 ของเผ่าปีศาจมนุษย์เรา?”

 

“นางน่ะหรือศิษย์ที่จ้าววังอวี่เหวินรักและเอ็นดูที่สุด…แต่นางจะมาขวางทำไมกัน? ออกหน้ายามนี้ยังไม่ใช่รนหาที่ตายหรือไร?”

 

“ต้วนหลิงเทียนอย่างไรก็คิดฆ่าจ้าววังอวี่เหวินแต่ไหนแต่ไรแล้ว…นางมาขวางไว้แบบนี้ก็มิต่างใดจากตั๊กแตนคิดหยุดรถม้า หากนางไม่ตายแล้วผู้ใดจะตาย?”

 

 

เมื่อเห็นหวงเหวินจิ้งปรากฏตัวขึ้นมาขัดขวาง ป้องกันอวี่เหวินฮ่าวเฉินไว้เบื้องหลัง คนของ 3 วัง 6ตำหนักอดไม่ได้ที่จะลอบส่ายหัวไปมา

 

“อย่างไรก็ตาม แม้รู้ว่าตัวต้องตาย แต่กลับยืนหยัดเพื่อช่วยเหลืออาจารย์อย่างไม่เสียดายชีวิต…จ้าววังอวี่เหวินชุบเลี้ยงนางมาอย่างไม่เสียเปล่าแล้ว!”

 

“หากศิษย์ปิดสำนักของข้ามีจิตใจห่วงใยข้าเช่นนาง ชีวิตข้าเกิดมาคงนับว่าไม่เสียเปล่า…แต่ข้าคงตกตายด้วยความเสียใจและรู้สึกผิดเป็นแน่ ที่พลอยให้ศิษย์ดีๆเช่นนี้ติดร่างแหไปด้วย”

 

“น่าเสียดาย…โฉมงามอันไร้คู่เปรียบของเผ่าปีศาจมนุษย์เรากลับต้องมาตกตายที่นี่…”

 

 

ยังมีอีกหลายคนที่เห็นใจและชื่นชม ทั้งเสียดาย

 

“ศิษย์น้องเล็ก!!”

 

อวิ๋นฟู่เหย่ได้แต่มองไปยังหวงเหวินจิ้งด้วยสีหน้าละอาย มันเป็นศิษย์เอกแท้ๆ แต่กลับไม่เด็ดเดี่ยวเท่านาง

 

อย่างไรก็ตามทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นจากความหวาดกลัวที่มันมีต่อต้วนหลิงเทียน ร่างของมันเสมือนถูกลากถ่วงไว้ด้วยตะกั่วพันชั่ง หนักอึ้งจนก้าวขาไม่ออก!

 

ยังจะกล่าวถึงเรื่องพุ่งไปขวางอาจารย์เพื่อช่วยเหลืออะไร!!

 

“เหวินจิ้งเจ้ามาทำอะไร! ถอยไป!!”

 

อวี่เหวินฮ่าวเฉินพอเห็นศิษย์รักขวางบังไว้เบื้องหน้าและปกป้องตัวมันไว้ด้านหลังแบบนี้ก็ใจเสียนัก แม้มันจะซาบซึ้งตื้นตัน แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะหวาดกลัว!

 

ทำให้ยามกล่าวออก เสียงของมันเป็นการตะคอกขับไล่นางอย่างเกรี้ยวกราด

 

ในสายตาของอวี่เหวินฮ่าวเฉิน

 

ศิษย์ปิดสำนักของมันนางนี้เชื่อฟังมันดั่งบิดามาตลอด ลองมันตะคอกขับไล่ออกไป นางต้องเชื่อฟังแล้วรีบหลบไปตามคำสั่งเป็นแน่!

 

อย่างไรก็ตาม มันไม่คิดไม่ฝันเลย

 

แม้มันจะตะคอกขับไล่ไปแล้ว แต่ศิษย์ของมันยังเฉย!

 

นางยังคงลอยร่างขวางไว้ไม่ไหวติง ปกป้องมันไม่ห่าง…ทำให้ยิ่งมาอวี่เหวินฮ่าวเฉินก็ยิ่งใจเสียหน้าซีด ด้วยมันกลัวว่าต้วนหลิงเทียนจะลงมือฆ่าคนอย่างอำมหิต!

 

ฟุ่บ!

 

ดั่งสายลมกรรโชกหอบหนึ่ง ร่างต้วนหลิงเทียนที่ก่อนหน้าลอยอยู่ไกลตา คล้ายกลับกลายเป็นภูตผี อันตรธานหายไปในพริบตา

 

และในเวลาเดียวกันกับที่ร่างต้วนหลิงเทียนอันตรธานหายไป พลันปรากฏร่างหนึ่งขึ้นมาด้านหลังหวงเหวินจิ้งราวกับผุดโผล่ออกมาจากความว่างเปล่า!

 

ร่างที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าอวี่เหวินฮ่าวเฉินนี้ย่อมไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นต้วนหลิงเทียนนั่นเอง

 

“ต้วนหลิงเทียน ‘หนี้ย่อมมีลูกหนี้’ เรื่องวันนี้ล้วนเป็นเรื่องราวความบาดหมางระหว่างข้ากับเจ้า! มิได้เกี่ยวข้องอันใดกับศิษย์ของข้า!!”

 

เมื่อเห็นต้วนหลิงเทียนวูบมาปรากฏเบื้องหน้า และไม่ได้ลงมือลงไม้กับหวงเหวินจิ้ง อวี่เหวินฮ่าวเฉินอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งออก

 

ในเวลาเดียวกันมันก็เร่งกล่าวออกเสียงหนัก “ข้าเชื่อว่าด้วยพลังฝีมือของเจ้าตอนนี้ คงไม่คิดรังแกสตรีอ่อนแอกระมัง?”

 

“พวกเจ้านับว่าเป็นศิษย์อาจารย์กันได้ประเสริฐนัก…”

 

สองตาต้วนหลิงเทียนทอประกายเรืองขึ้นวูบหนึ่งขณะกล่าว

 

“ข้าขอร้องเจ้า…อย่าฆ่าอาจารย์ข้าเลย”

 

ขณะเดียวกันหวงเหวินจิ้งที่พึ่งรู้สึกตัว ก็เร่งหันกลับมามองต้วนหลิงเทียนทันที ยังรีบกล่าววออกมาด้วยความร้อนรนทั้งหวาดกลัว

 

ในน้ำเสียงยังมากล้นไปด้วยความวิงวอน

 

“ระ…เร็ว!!”

 

“ความเร็วนั่น…กระทั่งจ้าววังอวี่เหวินก็มิอาจมองตามได้ทันด้วยซ้ำ!”

 

“เฮ่อ ด้วยพลังของต้วนหลิงเทียนที่ฆ่าเซียนอมตะเสเพล 3 ทัณฑ์ได้ง่ายดาย…กับครึ่งก้าวเซียนอมตะอย่างจ้าววังอวี่เหวิน ยังต่างใดจากตัดหญ้าฆ่าไก่…”

 

“หากจ้าววังอวี่เหวินตกตาย…แล้วต้วนหลิงเทียนผู้นี้จะปล่อยพวกเราไปหรือไม่?”

 

 

เมื่อต้วนหลิงเทียนวูบมาปรากฏร่างต่อหน้าอวี่เหวินฮ่าวเฉินในพริบตา คล้ายคิดลงมือเข่นฆ่าคนทำให้เหล่าผู้ชมของ 3 วัง 6 ตำหนักที่ชมดูเรื่องราววอยู่อดไม่ได้ที่จะเป็นกังวล

 

พวกมันกลัวว่าหลังฆ่าอวี่เหวินฮ่าวเฉินแล้ว ต้วนหลิงเทียนจะจัดการพวกมันเป็นรายต่อไป…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด