War sovereign Soaring The Heavens 2431

Now you are reading War sovereign Soaring The Heavens Chapter 2431 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 ตอนที่ 2,431 : เวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้า

 

 

ถึงแม้จางยี่จะจ้องกระบี่เซียนอมตะในมือตาเป็นมัน หากแต่ตัวมันก็รู้ดีว่าสิ่งนี้ไม่ควรรับไว้

 

ในสมบัติสถานระดับสวรรค์ที่กำลังฝ่าฟันอยู่ ตั้งแต่ด่านแรกจางยี่ก็แทบช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…

 

และด่านที่ 2 กับด่านที่ 3 ยิ่งยากกว่าหลายขุม

 

ให้มันที่ไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเดินตามต้วนหลิงเทียนต้อยๆได้รับสิ่งของดีๆแบบนี้ มันไหนเลยจะสบายใจได้

 

“รับไปเถอะ”

 

ต้วนหลิงเทียนไม่แปลกใจที่จางยี่จะปฏิเสธ เขาเพียงยิ้มบางๆกล่าวคำแล้วเดินไปต่อเท่านั้น

 

แต่ต้นจนจบไม่คิดรับกระบี่ที่ให้จางยี่ไปแล้วคืนมาแม้แต่น้อย

 

ขณะเดียวกันด้านหลิ่วเสวียก็ได้แต่มองกระบี่เซียนอมตะในมือจางยี่ด้วยความอิจฉา

 

เพราะสุดท้ายแล้วตั้งแต่ที่เข้ามาในแดนลับต่างสวรรค์จนถึงตอนนี้…

 

นางยังไม่ได้รับสมบัติอะไรสักชิ้น!

 

“พี่ใหญ่หลิงเทียนรอข้าด้วย”

 

หานเฉวี่ยไน่เร่งตามต้วนหลิงเทียนไปติดๆ

 

มองไปยังแผ่นหลังของต้วนหลิงเทียนที่กำลังไปต่อ สองตาจางยี่เผยประกายสำนึกขอบคุณ จากนั้นมันก็ไม่คิดพูดอะไรให้มากความอีกต่อไป กระบี่เซียนอมตะในมือถูกกระชับไว้แนบแน่น เดินตามไปเงียบๆ

 

หากแต่ในใจนั้นมันสำนึกขอบคุณต้วนหลิงเทียนครั้งใหญ่

 

ถึงแม้ว่าความยากของด่านทดสอบอีก 3 ด่านต่อมาจะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่สำหรับต้วนหลิงเทียนแล้วมันก็ไม่นับเป็นอะไร…เขานำพากลุ่ม 4 คนผ่านฉลุยอย่างไร้เรื่องราว

 

‘หากจำไม่ผิด..หลังผ่านด่านที่ 6 พวกเราจะได้รับเวทย์พลังสินะ…’

 

ต้วนหลิงเทียนคิดขึ้นขณะผ่านบททดสอบด่านที่ 6 และไม่นานฉากเรื่อราวเบื้องหน้าก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง

 

เดิมทีสภาพแวดล้อมตอนนนี้มันเป็นทะเลทรายอันแห้งแล้ง

 

ทว่าตอนนี้ทะเลทรายที่ว่าพลันหายไป มันถูกแทนที่ด้วยป่าไผ่ และในป่าไผ่แห่งนี้ก็มีแผ่นศิลาขนาดใหญ่ตั้งอยู่

 

มองไปตัวแผ่นศิลามีผิวละเอียดเรียบปานกระจก ไม่มีจุดสังเกตอะไรเป็นพิเศษ

 

ทว่าแผ่นศิลาที่ไม่มีอะไรเป็นพิเศษที่ว่า กลับดึงดูดความสนใจของต้วนหลิงเทียนกับพวกอย่างมาก

 

นั่นเพราะในป่าไผ่แห่งนี้ มีเพียงแผ่นศิลาเบื้องหน้าเท่านั้นที่ดูไม่ธรรมดา!

 

ส่วนที่เหลือก็เป็นแค่ทัศนียภาพทั่วไป ไม่มีอะไรดึงดูดสายตา

 

“ขอแสดงความยินดีที่ผ่านด่านทดสอบที่ 6 ของข้ามาได้…”

 

และในขณะที่ความสนใจของต้วนหลิงเทียนกับพวกตกไปอยู่บนแผ่นศิลาดังกล่าว เสียงของเซียนกระบี่บงกชฟ้าหลี่ไป๋พลันดังขึ้นเข้าหูต้วนหลิงเทียนกับพวกให้ได้ยินกันชัดเจนอีกครั้ง

 

“แผ่นศิลาที่พวกเจ้ากำลังเห็นอยู่ตรงหน้า มีเวทย์พลังที่ข้าทิ้งไว้อยู่…เวทย์พลังนี้ข้าได้รับมันมาโดยบังเอิญขณะท่องไปในแดนสวรรค์ เดิมทีมันก็ไม่มีชื่อเรียกอะไรหากแต่หลังข้าแตกฉานมันแล้วจึงเรียกมันว่า 13 กระบี่บงกชฟ้า”

 

“13 กระบี่บงกชฟ้า เป็นเวทย์พลังจู่โจมสายกระบี่ ที่แบ่งการโจมตีออกเป็นเพลงกระบี่ 13 กระบวนท่า..ยิ่งไปกว่านั้นพลังของกระบี่แต่ละกระบวน พวกเจ้าสามารถรวมผสานเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มพูนพลังอำนาจจู่โจมได้”

 

“หากพวกเจ้าเชี่ยวชาญ 13 กระบี่บงกชฟ้าถึงกระบี่ที่ 4 พลังอำนาจของมันก็เทียบได้กับเวทย์พลังจู่โจมสายกระบี่ขั้นสูงสุดของระนาบโลกียะ…ส่วนกระบี่ที่ 5 นั้นทรงพลังมากพอจะเทียบได้กับเวทย์พลังทั่วไปในระนาบเทวโลก กระบี่ที่ 6 ที่ 7…และกระบี่ที่ 13 ย่อมทรงพลังอำนาจมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ”

 

คำพูดของหลี่ไป๋พอดังเข้าหูพวกต้วนหลิงเทียน ก็ทำให้แต่ละคนสองตาลุกวาวขึ้นมาทันที

 

ฟังจากความนัยวาจาของหลี่ไป๋แล้ว…

 

เวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้า ไม่ใช่เวทย์พลังทั่วไปในระนาบเทวโลก!

 

ฟืด! ฟืด! ฟืด!

 

……

 

ทันนั้นทั้ง 4 ไม่เว้นต้วนหลิงเทียนถึงกับต้อสูดอากาศเข้าลึกๆ มองไปยังแผ่นศิลาเบื้องหน้าอีกครั้ง สองตาแทบจะยิงรังสีความร้อนออกมาอยู่รอมร่อ

 

‘ไม่รู้ว่า…แผ่นศิลาที่มีเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าบันทึกอยู่ มันจะอนุญาตให้หลายคนทำความเข้าใจพร้อมกันได้หรือไม่?’

 

ในขณะที่ความคิดนี้บังเกิดขึ้นในใจของต้วนหลิงเทียน

 

เสียงของหลี่ไป๋พลันดังขึ้นอีกครั้ง

 

“แผ่นศิลาที่ข้าบันทึกเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าเอาไว้ สามารถทำความเข้าใจพร้อมกันได้หลายคน เพียงแค่วางมือลงบนแผ่นศิลาพวกเจ้าก็จะได้แลเห็นเนื้อความ…อย่างไรก็ตามจะเริ่มนับเวลาตั้งแต่ที่มือแรกแตะลง และพลังของแผ่นศิลานี้จะคงอยู่เพียงแค่ 3 วัน 3 คืนเท่านั้น เมื่อครบกำหนดแล้วแผ่นศิลาจะหายไป…”

 

“ข้าหวังว่าในบรรดาพวกเจ้าจะมีใครบางคนสามารถจดจำ 13 กระบี่บงกชฟ้าได้ครบถ้วนสมบูรณ์…ทั้งข้ายังหวังว่าสักวันจะได้พบพานผู้ที่เข้าใจ 13 กระบี่บงกชฟ้าในระนาบเทวโลกอย่างยิ่ง…ถึงระหว่างเราไม่ถือว่าเป็นศิษย์อาจารย์ แต่พวกเราก็สามารถร่ำสุราชมจันทร์ด้วยกันได้…”

 

ฟังจากวาจาเหล่านี้เผยให้เห็นรสนิยมในการดื่มสุราของหลี่ไป๋อีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามต้วนหลิงเทียนกับพวกสนใจแต่คำ ‘สามารถทำความเข้าใจพร้อมกันได้หลายคน’ เท่านั้น

 

เพราะนั่นหมายความว่าทั้งหมดสามารถทำความเข้าใจเวทย์พลังเลิศล้ำนี่ได้โดยที่ไม่ต้องแก่งแย่งกัน!

 

“เริ่มเลยแล้วกัน”

 

เมื่อเห็น หานเฉวี่ยไน่ จางยี่และหลิ่วเสวียมองมาด้วยสองตาลุกวาวคล้ายรอเอามือไปแตะแผ่นศิลาไม่ไหวแล้ว ต้วนหลิงเทียนก็ยิ้มบางๆ ก่อนที่จะเดินนำไปยังแผ่นศิลาที่บรรจุเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้าไว้ทันที

 

ปึก!

 

ต้วนหลิงเทียนเป็นคนแรกที่เอามือวางบนแผ่นศิลา

 

ปึก! ปึก! ปึก!

 

ทันใดนั้นพวกหานเฉวี่ยไนทั้ง 3 ก็วางมือลงบนแผ่นหินทันที

 

หลังจากนั้นไม่นานต้วนหลิงเทียนและคนอื่นๆก็หลับตาลง

 

“นี่มัน…”

 

แทบจะทันทีที่ต้วนหลิงเทียนหลับตาลงหลังแตะแผ่นศิลา ในใจเขาพลันปรากฏเงาร่างหนึ่งขึ้น และเงาร่างที่ว่าเนื้อตัวก็เป็นสีดำทั้งหมดไม่อาจแลเห็นแม้แต่หน้าตา หากแต่มองจากลักษณะสรีระ สมควรเป็นผู้ชายไม่ผิดแน่!

 

‘จะใช่หลี่ไป๋หรือเปล่า?’

 

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะคาดเดาในใจ

 

หากแต่เขาที่กำลังคาดเดาไปเรื่อยก็จำต้องหยุดคิดวุ่นวายทันที

 

นั่นเพราะร่างสีดำเบื้องหน้าเริ่มขยับแล้ว!

 

วูบ!

 

แทบจะเป็นวินาทีเดียวกันกับที่ร่างสีดำสร้างกระบี่ขึ้นมาถือไว้ในมือ มันก็พุ่งร่างออกไปปานสายฟ้าฟาดทันที

 

ร่างที่พุ่งออกไปยังก่อให้เกิดภาพติดตาหลายร่างปานเงามายา…จากนั้นมันก็จี้กระบี่ทิ่มแทงออกไปด้วยสภาวะทรงพลังปานจะทะลวงฟ้า ปลายกระบี่ชี้ไปที่ใดทำราวกับจะทะลวงได้ทุกสรรพสิ่ง

 

‘13 กระบี่บงกชฟ้า กระบวนแรก?’

 

ขณะเดียวกันต้วนหลิงเทียนก็ฉุกคิดขึ้นมาแบบนั้นในใจอย่างไม่รู้ตัว เป็นเขาตระหนักได้ว่าร่างสีดำเบื้องหน้ากำลังร่ายเพลงกระบี่ที่ 1 ของ 13 กระบี่บงกชฟ้าให้เขาดูชมอยู่

 

ฟั่ฟ! ฟั่ฟ!

 

แทบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ใจต้วนหลิงเทียนจดจ่อไปยัง กระบี่ที่ 1 ของ 13 กระบี่บงกชฟ้า เขาพลันพบว่า…

 

อยู่ดีๆพลันปรากฏร่างสีดำอีกร่างแยกตัวออกมาจากร่างสีดำร่างแรก หากแต่ไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อการร่ายเพลงกระบี่ของร่างดำร่างแรก และร่างดำที่ 2 ก็เริ่มร่ายรำเพลงกระบี่ออกมาเช่นกัน

 

‘กระบี่บงกชฟ้า กระบวนที่ 2!’

 

ใจต้วนหลิงเทียนฉุกคิดได้ทันที

 

ยังทำให้เขารู้ว่า

 

กระบี่ที่ 2 ของ 13 กระบี่บงกชฟ้า สามารถใช้ต่อจากกระบี่แรกได้อย่างแยบคาย ไร้รอยต่อ!

 

‘กระบี่บงกชฟ้า กระบวนที่ 3!’

 

‘กระบี่บงกชฟ้า กระบวนที่ 4!’

 

‘กระบี่บงกชฟ้า กระบวนที่ 5!’

 

……

 

‘กระบี่บงกชฟ้า กระบวนที่ 11…12!’

 

‘กระบี่บงกชฟ้า กระบวนที่ 13!’

 

เพียงเวลาชั่วพริบตา ก่อนที่ต้วนหลิงเทียนจะทันได้ตอบสนองอะไร ร่างสีดำก็ได้สำแดง 13 กระบี่บงกชฟ้าออกมาครบถ้วนกระบวนเพลงแล้ว…

 

ตั้งแต่วินาทีแรกที่เงาร่างสีดำลงมือใช้ออกด้วยเพลงกระบี่แรกจนครบถ้วน 13 กระบวนเพลง มันกินเวลาแค่เสี้ยวพริบตาเท่านั้น!

 

ปฏิกิริยาตอบสนองของต้วนหลิงเทียนไม่ทันฟื้นดีก็ผ่านไป 3 กระบวนท่าแล้ว

 

อย่างไรก็ตามแม้ต้วนหลิงเทียนจะตอบสนองได้ทัน แต่พอเงาร่างสีดำใช้ออกด้วยกระบี่ที่ 4…

 

‘เร็ว!’

 

‘มันเร็วเกินไป!’

 

‘กระบี่นี่มันเร็วทะลุฟ้าแล้ว…’

 

……

 

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก ในใจอดไม่ได้ที่จะบังเกิดความคิดแบบนี้ขึ้น

 

เพราะเขาไม่คิดไม่ฝันเลย

 

แม้แต่เขาที่บำเพ็ญจิตเต๋ากระบี่สูงสุดอย่าง ยอดใจกระบี่ ยังแทบมองความเร็วของเพลงกระบี่กระบวนที่ 4 ไม่ทันด้วยซ้ำ…

 

‘แต่ว่า…ยามเมื่อใช้ออกครบถ้วน 13 กระบวนเพลงนั่น พลังที่เปล่งออกมาในกระบี่ที่ 13 เสมือนชักนำพลังของทั้ง 12 กระบี่มาร้อยเรียงผสานเป็นหนึ่งเดียวก็ไม่ปาน! หากนี่ไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่นพลังทำลายของมันต้องน่าทึ่งแน่!!’

 

‘ยังไงเสียหลี่ไป๋ก็เป็นคนบอกไว้เอง…ตราบใดที่เข้าใจ กระบวนที่ 5 ของ 13 กระบี่บงกชฟ้า พลังทำลายของมันก็เทียบได้กับเวทย์พลังจู่โจมสายกระบี่ระดับทั่วไปในระนาบเทวโลก!’

 

‘งั้นหากบรรลุทั้ง 13 ท่ากระบี่ล่ะก็…พลังของ 13 กระบี่บงกชฟ้านี่ ต่อให้เป็นในระนาบเทวโลก ก็คงนับเป็นเวทย์พลังระดับสูงแน่!’

 

เมื่อนึกถึงวาจาก่อนหน้าของหลี่ไป๋ขึ้นมา ต้วนหลิงงเทียนอดไม่ได้ที่จะสรุปไปในแนวทางนี้

 

ด้วยเหตุนั้น สองตาของเขาถึงกับทอประกายออกมาอย่างเจิดจ้า

 

ราวกับเห็นสมบัติล้ำค่าหาใดเทียบ!

 

และอันที่จริงแล้วในสายตาของต้วนหลิงเทียนตอนนี้ 13 กระบี่บงกชฟ้า ก็ไม่ต่างอะไรจากสมบัติล้ำค่าหาใดเทียบ!

 

‘ด้วย 13 กระบี่บงกชฟ้านี่ ขอเพียงข้าบรรลุถึงกระบวนที่ 5 ความแข็งแกร่งของข้าต้องยกระดับไปอีกขั้นแน่…และหากข้าบรรลุอีก 8 กระบวนที่เหลือ ความแข็งแกร่งของข้าคงเพิ่มขึ้นอีกหลายระดับ!’

 

คิดถึงจุดนี้ ใจของต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะสะท้านขึ้นมา

 

แน่นอนว่าเขารู้ดี แค่กระบวนที่ 5 ก็เป็นเรื่องที่ยากจะบรรลุอยู่แล้ว

 

ทว่า 8 กระบวนที่เหลือยิ่งยากกว่า!

 

‘แต่อย่างไรเสีย…ตอนนี้ภารกิจที่เร่งด่วนที่สุดคือข้าต้องบรรลุทั้ง 13 กระบี่บงกชฟ้าให้ได้ ด้วยวิธีนี้ข้าถึงจะประสบผลเลิศล้ำ!’

 

‘ทว่าตอนนี้ก่อนอื่นเลย…อย่างน้อยที่สุดข้าต้องจดจำกระบวนท่าของ 13 กระบี่บงกชฟ้าให้ได้เสียก่อน!’

 

หากแค่กระทั่งกระบวนท่าของ 13 กระบี่บงกชฟ้ายังไม่อาจจดจำได้ ยังจะกล่าวถึงเรื่องเคล็ดพลังอันใด? จะบรรลุเวทย์พลังน่ากลัวนี้ได้อย่างไร?

 

‘ขนาดข้าที่บรรลุยอดใจกระบี่ถึงขอบเขตที่ 4…แต่ยามเห็น 13 กระบี่บงกชฟ้าครั้งแรก ยังมองวิถีกระบี่ออกแค่ 3 กระบี่แรกเท่านั้น’

 

‘หากเป็นหานเฉวี่ยไน่กับคนอื่นๆ น่ากลัวว่ากระทั่งกระบวนท่าแรกยังมองไม่ออกด้วยซ้ำ!’

 

ในขณะที่ต้วนหลิงเทียนคิดถึงตรงนี้ เงาร่างสีดำ ก็เริ่มใช้ออกด้วย 13 กระบี่บงกชฟ้ากระบวนแรกอีกครั้ง และทันทีที่รู้ตัว เงาร่างสีดำก็เริ่มร่ายเพลงกระบี่กระบวนที่ 2 ออกมาแล้ว!

 

และอันที่จริงเขาเดาได้ถูกเผง

 

ไม่ว่าจะเป็นหานเฉวี่ยไน่ จางยี่หรือหลิ่วเสวีย…

 

ทันทีที่เงาร่างสีดำปรากฏขึ้นในใจเป็นครั้งแรกและเริ่มใช้ออกด้วยเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้า ทั้ง 3 ไม่แม้แต่จะมองเห็นวิถีกระบี่แรกด้วยซ้ำ…

 

และไม่ทันที่ทุกคนจะรู้สึกตัวอะไร เงาร่างสีดำก็ร่ายเพลงกระบี่ 13 กระบี่บงกชฟ้าจนครบถ้วน 13 กระบวนท่าเรียบร้อยแล้ว…

 

เวลาที่มีให้ทำความเข้าใจเวทย์พลัง 13 กระบี่บงกชฟ้านั้น มีเพียงแค่ 3 วัน 3 คืนเท่านั้น และในช่วงเวลาดังกล่าว เงาร่างสีดำนั่นจะสำแดงกระบวนท่าออกมารอบแล้วรอบเล่า

 

เงาร่างสีดำในใจต้วนหลิงเทียนเอง ตอนนี้ก็เริ่มใช้ออกด้วย 13 กระบี่บงกชฟ้าออกมาต่ออีกรอบ…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด