(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท 3-5

Now you are reading (Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท Chapter 3-5 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 3-5 ความสับสน

 

 

 

 

เขาไปเอาโน้ตบุ๊กมาจากห้องอ่านหนังสือ ถือมันเข้ามาในห้องนอน ขณะที่ดื่มเหล้าไปก็เปิดค้นหาทั้งในเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับดนตรี เว็บสตรีม สื่อโซเชี่ยลต่างๆ เริ่มค้นหาไปทั่วเพื่อตามหาร่องรอยของจองอู 

 

 

สิ่งที่จองอูทำมันมีมากมายกว่าที่เขาคิดไว้ เพลงประกอบโฆษณาที่ไม่เคยตั้งใจฟังเลยสักครั้ง จนถึงเพลงของวงอินดี้ที่ไม่เคยดู ไม่เคยฟังเลย เพลงที่ทำขึ้นมาจากฝีมือของเขาคนนั้น วันหนึ่งเขาฟังมันซ้ำๆ ไม่รู้กี่รอบ แล้วยังค้นเจอวิดีโอสัมภาษณ์เมื่อไม่นานมานี้ด้วย 

 

 

วิดีโอที่ถูกเล่นซ้ำไปมานั้น จองอูกำลังพูดออกมาพร้อมรอยยิ้ม ในตอนนั้นอีกคนกำลังร้องเพลง พร้อมกับเล่นเครื่องดนตรีอะไรสักอย่างที่เขาก็ไม่แน่ใจนัก คิมจองอูที่มีชีวิตอยู่ในจอภาพนั้น แม้จะไม่อาจสัมผัสความอบอุ่น แต่มันก็พอจะทดแทนกันได้ 

 

 

ทำไมถึงคิดไม่ได้กันนะ ซองจูตำหนิความโง่เขลาของตัวเอง ก่อนจะหลุดเข้าไปในโลกจินตนาการที่อยู่ภายในคอมพิวเตอร์นั่น 

 

 

แค่จ่ายเงิน เขาก็สามารถฟังเพลงที่มีเสียงของจองอูอยู่ในนั้น ผ่านทางเว็บสตรีมมากเท่าไหร่ก็ได้ เขาที่ไม่เคยเฉียดใกล้โซเชี่ยลต่างๆ เพราะคิดว่ามันเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ แต่เพื่อตามหาร่องรอยของคิมจองอู เขาค้นหาในแฮชแท็กที่เกี่ยวกับคิมจองอู หรือเลซี่วันละเป็นร้อยๆ ครั้ง จนเหมือนคนที่หมกมุ่น แต่ถึงอย่างนั้นดงฮยอนก็ไม่ได้ต่อว่าอะไร มันยังดีเสียกว่าการทำลายข้าวของในห้อง ท่าทางที่ดูสนับสนุนจนออกนอกหน้าของอีกคน บางครั้งก็ทำเอาเขาอดโมโหไม่ได้ จนต้องตวาดด่าออกไป แต่ทว่าดงฮยอนกลับตีความไปว่ามันคือสัญญาณของการมีชีวิตอยู่ของเขา จึงได้แค่ยิ้มออกมาเท่านั้น สำหรับซองจู ตอนนี้ไม่ว่าดงฮยอนจะทำอะไรเขาก็พร้อมที่จะเมินเฉย 

 

 

วันนี้ก็เช่นกัน เขามือกดเข้าไปดูวิดีโอในเว็บสตรีม เมื่อครู่เขาเจอบัญชีผู้ใช้ของคนที่ดูเหมือนจะเป็นแฟนตัวยงของจองอู ซองจูเพียงมองเพลย์ลิสต์วิดีโดของคนๆ นั้นผ่านๆ โดยไม่ได้เอะใจอะไร 

 

 

นั่นมันไม่ต่างอะไรจากคลังขุมทรัพย์เลย 

 

 

มีวิดีโอของคิมจองอูตอนร้องเพลง ตอนที่ร้องไห้ ตอนที่หัวเราะ หรือตอนโกรธถูกจัดเรียงเอาไว้ตามลำดับปี ซองจูค้นหาและเปิดเล่นวิดีโอที่เก่าที่สุด 

 

 

 

 

 

[เอ่อ…ผมจะพูดอะไรดีครับ] 

 

 

 

 

 

เสียงของผู้ชมที่หัวเราะให้กับอีกคนดังออกมา ท่าทางที่ลังเลใจอยู่หน้าไมโครโฟนกับใบหน้าที่ระบายยิ้มกว้างออกมา จากภาพวิดีโดที่ไม่คมชัดเหมือนมีฝนตกลงมา หรือเสียงแตกซ่าไม่ชัดเจน ดูเหมือนวิดีโอนี้คงนานมากแล้ว ภาพของจองอูที่เห็นในนั้นก็ดูเหมือนจะยังดูเด็กอยู่มาก ซองจูเอื้อมมือไปแตะลงบนจอ ลูบไล้ใบหน้าของจองอูที่สะท้อนอยู่บนนั้น ในขณะที่เขาทำแบบนั้น จองอูที่อยู่ในวิดีโดก็กำลังพูดบางอย่างออกมาอยู่เรื่อยๆ 

 

 

 

 

 

[เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของพี่ชายที่ผมสนิทด้วยน่ะครับ ตั้งใจว่าจะแค่ไปอวยพรเฉยๆ แต่จู่ๆ ก็โดนลากไปกินเหล้า ก็เลยลำบากใจอยู่สักหน่อย…แต่ก็อ้างไปว่าวันนี้มีการแสดง เหล้าหยดเดียวก็จะไม่ดื่มเด็ดขาด เพราะอย่างนั้นก็เลยสามารถมาร้องเพลงได้อย่างปลอดภัยแบบนี้น่ะครับ] 

 

 

 

 

 

ภาพที่อีกคนเล่าเรื่องที่ไม่ได้ดูน่าสนใจเลยสักนิดออกมา พร้อมกับรอยยิ้มเขินอายนั่น ทำให้เขาเบะปากใส่ 

 

 

ต่อหน้าคนอื่นนายทำหน้าสีหน้าแบบนั้นสินะ 

 

 

นึกถึงภาพคิมจองอูที่เอาแต่ทำหน้านิ่งและไร้ความรู้สึกเวลาอยู่ต่อหน้าเขา ซองจูก็ซบหน้าลงบนหัวเข่า 

 

 

จองอูพูดออกมาอีกไม่กี่คำ โดยที่ไม่ได้มีเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก กับบรรดาแฟนคลับอะไร ก่อนเจ้าตัวจะร้องเพลงอีกครั้ง เพลงที่ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ เหมือนเสียงกระซิบไม่ได้มีอะไรที่ดูพิเศษ ไม่รู้ว่ามันเพราะอย่างไร แต่ทว่ามันกลับให้ความรู้สึกจับใจอย่างประหลาด 

 

 

น้ำเสียงทุ้มต่ำกระซิบวนอยู่ในหูอย่างแผ่วเบา เสียงทุ้มต่ำทำให้มันฟังไม่ชัดเจนนัก มันเหมือนกับเสียงลมหายใจที่ดังออกมาในยามที่พวกเขาแบ่งปันความรักระหว่างกัน เสียงลมหายใจที่เต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างรุนแรงที่ดังอยู่ข้างหูอยู่เขา ความรู้สึกนั้นทำให้ซองจูเริ่มขยับสะโพก พร้อมกลับส่งเสียงร้องออกมา 

 

 

“ฮึก…” 

 

 

ร่างกายเริ่มสั่นสะท้าน มือของเขาเลื่อนลงไปสัมผัสกับส่วนที่อยู่ต่ำลงไป แกนกายของเขาเริ่มแข็งชูชันขึ้นมาทีละนิด 

 

 

“อ้า ฮึก อึก…อือ อ๊ะ อึก…” 

 

 

ซองจูเร่งขยับมือพร้อมกับเสียงเฉอะแฉะที่ดังออกมา 

 

 

น้ำเสียงทุ้มต่ำของจองอูที่ร้องเพลงออกมา และเสียงตะโกนอย่างบ้าคลั่งของคนอื่นๆ เพลงใหม่เริ่มขึ้นด้วยเสียงเบาสบายของกีต้าร์อะคูสติก พร้อมกับวิดีโออันใหม่ แม้จะเป็นเพียงจอภาพขนาดไม่กี่นิ้ว หากซองจูกลับหลุดเข้าไปในโลกที่ไม่ใช่ความจริง ซึ่งมีคิมจองอูที่มีลมหายใจหากแต่ไร้ไออุ่นนั่น เขาค่อยๆ ปลดปล่อยมันออกมา ทั้งๆ ที่สายตายังคงจ้องมองไปที่วิดีโอนั่น 

 

 

เขาวางโน้ตบุ๊กเอาไว้ที่ข้างหมอน แล้วจึงนอนตะแคงข้าง มือนั้นกอบกุมรอบตัวตนของตัวเองที่ตั้งชันขึ้น ขยับเข้าไปใกล้อีกนิด เพื่อฟังเสียงของจองอูที่ดังออกมาให้ได้ยินผ่านลำโพงที่อยู่ด้านล่างนั่น น้ำเสียงทุ้มต่ำที่ดังออกมาราวกับมันทะลุผ่านเครื่องนอนขึ้นมา แล้วแตะสัมผัสกับเรือนร่างของเขา เหมือนเสียงกระซิบในยามที่อีกคนกอดเขาเอาไว้ ซองจูหลับตาลง และจดจ่อไปกับน้ำเสียงแว่วหวานของจองอู 

 

 

“อ๊ะ อื้อ…อีก ตรงนั้น ไม่ไช่ อื้อ ไม่เอา อีก…” 

 

 

เขาหลงลืมความจริงที่ว่าตอนนี้เขากำลังปลุกอารมณ์ด้วยมือของตัวเองอยู่ ซองจูค่อยๆ ขยับมือเร็วขึ้น เสียงเฉอะแฉะที่ดังชัดยิ่งทำให้อารมณ์พลุ่งพล่าน เขาขยับสะโพกและขาเกี่ยวกระหวัดไปมา 

 

 

อีก ลึกเข้ามาอีก เข้ามาในส่วนที่ซ่อนอยู่ลึกกว่านี้ มันรู้สึกดีที่อีกคนเข้ามาอยู่ในตัวเขา 

 

 

ร้องขอโดยที่ไม่กล้าเอ่ยออกไปจากปาก ซองจูค่อยๆ ขยับเคลื่อนอีกมือไปทางด้านหลัง 

 

 

“อือออ…” 

 

 

ช่องทางที่ไม่มีใครอื่นเข้ามาสัมผัสเป็นเวลานานมากแล้ว ฝืดเคืองกว่าที่คิดเอาไว้ อีกมือหนึ่งลูบสัมผัสไปที่ตัวตนอย่างรักใคร่ กวาดรูดน้ำรักที่ไหลเยิ้มออกมาราวกับน้ำ ก่อนจะปาดป้ายลงไปบนช่องทางที่ฝืดเคือง ลูบวนอย่างแผ่วเบาลงบนช่องทางที่ไม่ยอมเปิดออกมาซ้ำๆ อยู่เช่นนั้น ร่างกายที่จดจำรสน้ำนั้นได้ก็เริ่มตอบสนองกลับมา 

 

 

เสียงของจองอูที่ดังอยู่ข้างหู เริ่มต้นร้องเพลงในจังหวะเนิบๆ ออกมาอีกครั้ง ความรู้สึกที่เหมือนอีกคนกำลังร้องเพลงอยู่ข้างๆ เขา ก็ทำให้ช่องทางนั้นเริ่มเปิดออก 

 

 

“อื้อ อื้ม อ๊ะ อือ…อ๊ะ ฮึก…ตรงนั้น อื้ม…” 

 

 

แก้มที่แนบชิดไปกับหมอน ถูไถไปมาช้าๆ ราวกับกำลังออดอ้อน ผืนผ้าฝ้ายที่เริ่มอุ่นร้อนขึ้นมา โอบรับใบหน้าของซองจูเอาไว้อย่างนุ่มนวล แม้จะต่างจากฝ่ามือใหญ่และหยาบกร้านของจองอู แต่ไม่เป็นไร อย่างไรมันก็ยังรู้สึกถึงความอุ่นร้อนได้เหมือนกัน ซองจูขยับเคลื่อนไหวทั้งสองมือ ยิ่งเสียงน้ำเฉอะแฉะดังออกมามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งขยับยกก้นสูงขึ้น พร้อมกับขยับโยกสะโพกรับไปมา 

 

 

“อ๊ะ อื้อ อึก อื้ม! ฮือ…อึก ฮือ!” 

 

 

ยิ่งเสียงอู้อี้ผสมกับเสียงครางดังมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งได้ยินเสียงหอบหายใจดังชัดที่ข้างหู มันคือเสียงของเขาหรือของจองอูที่อยู่ในจอภาพก็สุดจะรู้ ผ้าห่มสีขาวที่พันรอบเอวเขา อุ่นร้อนขึ้นตามอุณหภูมิร่างกายของเขา มันให้ความรู้สึกราวกับมือหยาบกร้านของจองอูกำลังโอบกอดเขาเอาไว้ 

 

 

เสียงครางของซองจูดังมากขึ้นตามการขยับปลุกอารมณ์ที่ช่องทางด้านหลังด้วยมือที่เพิ่มแรงยิ่งขึ้น เขาไม่สามารถปลดปล่อยได้โดยแค่การปลุกเร้าแกนกายของตัวเอง การรับสัมผัสที่เปลี่ยนไปของร่างกายทำให้ซองจูหวาดหวั่น หากไม่ใช่จองอูแล้ว เขาก็คงไม่ยอมรับ ในตอนนี้กลับเคยชินกับมันไปเสียแล้ว เช่นนี้เขายิ่งเกลียดจองอูที่มาสร้างความเคยชินเอาไว้แล้วก็หนีไปมากขึ้นกว่าเดิม  

 

 

“อื้อ ฮือ จะ จองอู…นี่ คิมจองอู อ๊ะ อื้อ อึก! อื้ม!” 

 

 

เมื่อเรียกชื่อจองอูออกมา สะโพกก็ยิ่งขยับรับอย่างบ้าคลั่ง เสียงเพลงที่ไม่ได้ร้องออกมาเพื่อเขา น้ำเสียงนุ่มลึกของอีกคน เสียงลมหายใจแผ่วเบาที่ดังตรงข้างหู เขาคิดถึงทั้งหมดนั่น 

 

 

ซองจูละทิ้งชีวิตที่ตัวเขาเคยชิน ร่องรอยของจองอูที่หลงเหลืออยู่มันทำให้ทุกอย่างง่ายมาก แม้ว่านั่นจะไม่ได้เป็นการทำเพื่อซองจูก็ไม่เป็นไร ไม่รู้ก็คือไม่รู้ ที่รู้ตอนนี้ก็คือเขาไม่อาจปล่อยมือจากการล่อลวงอันหอมหวานนี้ได้แล้ว ปล่อยให้โดนหลอกอยู่อย่างนี้ ยังดีเสียกว่าการรู้ว่ามันคือเรื่องโกหก 

 

 

“จองอู ตรงนั้น อื้อ! ได้โปรด อีก แรง อีก!” 

 

 

ร่ำร้องเรียกชื่อของจองอูซ้ำๆ พร้อมกับขยับโยกส่วนสะโพก ลูบไล้ไปที่แกนกายที่แข็งขึ้นมา ซองจูขยับโยกสะโพกด้วยแรงอารมณ์เหมือนพวกสุนัข ขณะที่ข้างหูก็แว่วเสียงที่แสนคิดถึง 

 

 

 

 

 

[ผมเคยเฝ้ารอคอยคนๆ นึง คนที่ไม่ว่าจะเฝ้ารอสักกี่คืนวัน เขาก็ไม่มาหา และก็ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่เหมือนกัน ที่กระทั่งการรอคอยนั้นก็กลับทำให้รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมา นั่นเป็นครั้งแรกที่ตัวผมรู้สึกแบบนั้น แล้วผมก็ได้เอาความรู้สึกในตอนนั้น มาใส่ลงเนื้อเพลงของเพลงนี้ครับ] 

 

 

 

 

 

คนที่ไม่ว่าจะเฝ้ารอสักกี่คืนวัน เขาก็ไม่มาหา คนๆ นั้นก็คือนาย 

 

 

ซองจูคิดเช่นนั้น พร้อมกับพรูลมหายใจหอบถี่ออกมา 

 

 

“อือ อื้อ…อื้ม อ้า อ๊ะ…จะ จองอู…อื้ม อึก อือ…อื้ม!” 

 

 

แม้จะขยับกอบกุมส่วนกลางกายเอาไว้ พร้อมทั้งเคลื่อนขยับสะโพกสอดรับความต้องการไปด้วยก็ตาม แต่ทว่ามันก็ไม่อาจเติมเต็มหัวใจที่ว่างเปล่านั้นได้เลย 

 

 

แม้จะคิดถึงอีกคนมากมายขนาดนี้แล้ว หากความอบอุ่นของอีกฝ่ายที่เขาเฝ้ารอคอย มันกลับเป็นเพียงแค่การรอคอยอันเหน็บหนาวก็เท่านั้น 

 

 

“อื้อ!” 

 

 

ฤทธิ์ความมึนเมาจากเหล้าและความฉ่ำแฉะด้วยความคิดถึง ทำให้ภายในหัวสมองถูกฟอกเสียจนขาวโพลนไปหมด พร้อมกันกับส่วนแกนกายที่ปลดปล่อยห้วงอารมณ์ปรารถนาออกมา ก่อนเสียงครางหวานที่หลุดออกนั้นจะเลือนหาย พร้อมกับลมหายใจที่ขาดห้วง แขนทั้งสองข้างของซองจูตกลงบนเตียงอย่างอ่อนแรง แล้วเจ้าตัวจึงค่อยหลับตาลงอย่างช้าๆ 

 

 

ดวงตาทั้งสองข้างของซองจูที่ปิดสนิทอยู่นั้น ค่อยๆ มีน้ำตารินไหลออกมาอย่างเงียบงัน 

 

 

ซองจูที่ใช้ชีวิตราวกับเป็นผู้ป่วยระยะสุดท้าย ตลอดช่วงเวลานั้น สภาพของเขาเหมือนคนที่กำลังวิ่งไปบนเส้นทางที่ย่ำแย่อย่างที่สุด 

 

 

ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้น เขาก็รีบคว้าเอาโน้ตบุ๊กมาเปิดหาวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับจองอู ทำตัวเปล่าประโยชน์ไปกับการนั่งดูวิดีโอพวกนั้น หากรู้สึกเจ็บตากับการเพ่งมองเป็นเวลานาน เขาก็จะเปลี่ยนไปเข้าแอพสตรีม ฟังผลงานเพลงที่จองอูทำไว้แทน ส่วนใหญ่ที่ฟังก็เป็นอัลบั้มเดี่ยวของจองอูทั้งนั้น 

 

 

แรกสุดนั้น เป็นเพลงในจังหวะกระชากวิญญาณ ตามแบบฉบับที่ใช้ในการแสดงคอนเสิร์ตร็อคแดนซ์ เพลงที่จองอูทำส่วนใหญ่เป็นเพลงร็อคที่มีจังหวะเหมาะกับการขยับร่างกายตามไปด้วย หรือไม่ก็เป็นเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว บ้างก็เป็นเพลงที่ใส่เรื่องราวอันแสนเศร้าของอีกคนเอาไว้ เมื่อเขาได้ลองฟังเพลงพวกนี้ทั้งหมดแล้ว ก็เหมือนว่าพอจะเข้าใจในความคิดของคิมจองอูขึ้นมาบ้าง 

 

 

จองอูไม่ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองให้ซองจูได้รับรู้มากนัก ซองจูรับรู้ผ่านบทเพลงของอีกคนที่ได้ฟัง ก็พอจะรู้ว่า ชีวิตของจองอูนั้นไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แน่นอนว่าในบทเพลงพวกนั้น จองอูมักจะพูดถึงคนรอบตัวหลายๆ คน ซึ่งนั่นรวมถึงน้องชายของเขาด้วย จองอูช่างเป็นคนที่กอดเก็บความเจ็บปวดเอาไว้มากมายเหลือเกิน จนมันทำให้เขารู้สึกผิดที่มีชีวิตโรยด้วยกลีบกุหลาบมาตลอด 

 

 

ดังนั้นเขาจึงยิ่งรู้สึกผิดต่ออีกคนอย่างมาก อีกคนต้องเจ็บปวดแค่ไหนกับการต้องทำตามใจ และคอยรองรับอารมณ์คนที่ไม่ได้เรื่องแบบเขา ตัวเขาที่ไม่เคยรับรู้เรื่องราวเหล่านั้นเลย มันยิ่งทำให้เขาเกลียดตัวเองที่แสดงท่าทีแบบนั้นออกไป 

 

 

ถึงตอนนี้เขาจะรู้สึกเสียใจ แต่ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้อีกแล้ว ด้วยจิตใจที่สับสนอยู่ระหว่างความคิดถึงและความเสียใจ เขาฟังเพลงของจองอูซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่เช่นนั้น ทำแบบนั้นเรื่อยๆ จนหลับไปโดยไม่รู้ตัว และในความฝัน ตัวเขาก็พยายามไล่ตามจองอูที่ห่างไกลออกไป 

 

 

เมื่อลืมตาตื่นขึ้น เขาก็ต้องหงุดหงิดกับสภาพของตัวเอง ใบหน้าเปียกชื้นไปด้วยร่องรอยของหยาดน้ำตามากมายแบบนั้น ข้าวก็กินบ้างไม่กินบ้าง กินแต่เหล้าและสูบบุหรี่ จนดวงตาลึกโหล ใต้ตาก็เป็นรอยดำคล้ำขนาดใหญ่ ใบหน้าที่เคยมีน้ำมีนวลกลับซูบตอบ น้ำหนักก็ลดลง แก้มสองข้างตอบลงจนไม่เหลือเค้าเดิม 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด