(Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท 4-10

Now you are reading (Yaoi) พักใจกับนายรูมเมท Chapter 4-10 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
ตอนที่ 4-10 ข้ามผ่าน

 

 

 

 

หลังจากดันเข้าไปจนสุดลำ เขาก็ไม่ได้เริ่มขยับในทันที เพียงแค่ดึงอีกคนเข้ามากอดไว้ ซองจูที่เริ่มคุ้นชินจึงไม่ค่อยรู้สึกเจ็บแล้ว และก็ไม่ได้ร้องไห้ออกมาอีก จองอูเฝ้ามองดูซองจูที่ถูกเขากอดเอาไว้ในอ้อมกอด เสียงลมหายในที่แนบชิดและเสียงครางหวานที่หลุดออกมา มันทำให้เขาเผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา 

 

 

“ได้อยู่แบบนี้แล้วรู้สึกดีมากเลย” 

 

 

“…แล้วใครล่ะที่หนีไป”     

 

 

กระทั่งเสียงบ่นพึมพำแผ่วเบานี้เขาก็ชอบ จองอูยกยิ้มพรายพร้อมกับยกสะโพกซองจูขึ้นมา 

 

 

“อ๊ะ อึก! นี่! “ 

 

 

“พักพอแล้วใช่ไหม บ่นได้แล้วนี่” 

 

 

จองอูพูดเช่นนั้นออกมาก่อนจะเริ่มขยับสะโพกอย่างช้าๆ  

 

 

“ฮึก อื้ม…อีก แรงอีก” 

 

 

ก่อนหน้านี้ยังบ่นออกมาอย่างโมโหว่าเจ็บอยู่เลย พอถึงเวลาเอาจริง ก็กลับกลายเป็นซองจูที่อ้อนวอนขอให้ทำเสียอย่างนั้น อีกคนใช้สองแขนโอบรัดรอบต้นคอของจองอู แนบร่างกายส่วนบนเข้ามาจนชิด เกาะเกี่ยวเขาเอาไว้เช่นนั้น 

 

 

“อื้อ อึก! อ๊ะ อีกสิ อ๊ะ อ้า ตรงนั้น ตรงนั้น…อ๊ะ ละ ลึก! ฮึก!” 

 

 

เขาสอดตัวเข้าไปสุดจนหน้าขาบดเบียดแนบชิดไปกับก้นของอีกคน กดกระแทกเน้นๆ ไปที่จุดอ่อนไหว จนซองจูร้องออกมาด้วยความเสียวซ่านที่แล่นวาบขึ้นมา จองอูยังคงเน้นกดกระแทกที่จุดนั้นอย่างจงใจสร้างความทรมานพร้อมกับกอดรั้งซองจูเอาไว้ 

 

 

“ฮึก อ๊ะ อื้อ ฮึก…อึก จะ จองอู จองอู คิมจอง อู…” 

 

 

ในเวลานี้แม้แต่สติก็ยังหลุดลอยหายไป ได้แต่ครางเรียกชื่อของเขาออกมาซ้ำๆ ราวกับถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ แววตานั้นเลื่อนลอยและเรียวขาก็ตวัดรัดช่วงเอวเขาไว้ เขารู้สึกดี ยามที่เรียวแขนบอบบางนั่นกอดเกี่ยวอยู่ที่ต้นคอ เขากระแทกสะโพกเข้าไปอย่างบ้าคลั่ง พร้อมกับลูบไล้ลงไปบนแผ่นหลังเนียน ให้ร่างกายเบียดชิดเข้าหากัน ซองจูที่ขยับแนบชิดเข้าหาเขา มันช่างดูน่ารักจนแทบบ้า 

 

 

จากนี้จะไม่ปล่อยไปอีกแล้ว เขาไม่คิดอยากจะหนีไปอีกแล้ว 

 

 

จองอูไม่ติดค้างใจอะไรอีกแล้ว หากไม่ใช่คนๆ นี้ คงไม่มีทางที่ใครจะยอมรับตัวตนเขาได้ถึงขนาดนี้ ปัญหาอีกมากมาย มันก็แค่เรื่องรองลงไปเท่านั้น เขาไม่ได้เชื่อตัวเอง แต่เขาตัดสินที่จะเชื่อในตัวซองจู เพราะฉะนั้นในเวลานี้เพียงแค่มองดูซองจูเกาะเกี่ยวเขาเอาไว้เช่นนี้ มันก็เพียงพอแล้ว จองอูเริ่มเร่งจังหวะในการขยับสะโพกขึ้นไปอีก 

 

 

“อ๊า อื้อ! อ๊ะ ฮึก! อื้อ…อึก จะ จองอู…ดะ ได้โปรด ได้โปรด อื้อ!” 

 

 

เมื่อเขากระแทกกระทั้นเข้าไป ซองจูก็ขบกัดลงมาบนไหล่และต้นคอของเขา พร้อมข่วนลงไป ความต้องการของซองจูที่ระบายออกมาทำให้เขายิ่งเร่งขยับสะโพกไปเรื่อยๆ เขาใช้มือข้างหนึ่งรองรับศีรษะที่โงนเงนของซองจูเอาไว้ พร้อมกับเร่งกระแทกเข้าหาอีกคน ซองจูหวีดเสียงครางด้วยความเสียวซ่าน พร้อมกับครูดเล็บลงมาบนไหล่ของเขา 

 

 

“อึก!” 

 

 

“อ๊า ฮึก อ๊ะ อ๊ะ….อ๊า!” 

 

 

จองอูหายใจหอบออกมา ขณะที่กดกระแทกเข้าไปยังจุดลึกสุดภายในช่องทางของซองจู ร่างทั้งร่างของซองจูกระตุกเกร็ง พร้อมกับศีรษะที่เชิดขึ้นไปด้านหลัง ยิ่งเขาขยับเคลื่อนต่อไป ก็ยิ่งรู้สึกได้ถึงต้นขาที่สั่นสะท้านกับสะโพกที่กระตุกเกร็ง พร้อมกันนั้นน้ำรักก็ไหลออกมา ร่างกายที่ส่งเสียงประท้วงให้กับการออกแรงอย่างกะทันหัน พร้อมกับเสียงหวีดร้องที่ดังออกมา คงมีเพียงจิตใจเท่านั้นที่รู้สึกผ่อนคลายยิ่งกว่าเวลาไหนๆ 

 

 

จองอูรั้งร่างกายของซองจูที่แทบไม่รู้สึกตัวเข้ามากอดเอาไว้ ก่อนจะหลับตาลงอย่างช้าๆ  

 

 

 

 

 

“อือ…” 

 

 

ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วทั้งร่าง เจ้าตัวพยายามปรือตาที่แทบลืมไม่ขึ้นออกมา เมื่อลืมตาได้แล้ว ตรงหน้าเขาก็ปรากฏภาพใบหน้าของจองอูที่กำลังหลับลึก โผล่เข้ามาในสายตา ซองจูเผลอหลุดยิ้มพรายออกมา พร้อมกับจ้องมองใบหน้าหล่อเหลาอยู่เช่นนั้น 

 

 

ช่างเป็นเรื่องที่หาได้ยาก กับการที่เขานอนหลับอยู่บนเตียงร่วมกับคนอื่นเช่นนี้ เรื่องประหลาด ที่มักจะมีจองอูรวมอยู่ด้วย ในตอนที่มีเพียงความสัมพันธ์ทางกายต่อกัน เขาก็มักจะหลับไป โดยที่ยังมีอีกคนอยู่ด้วยเช่นนี้ 

 

 

ไม่รู้เหมือนกันว่า แบบไหนกันที่เป็นตัวตนของเขา ฮันซองจูที่นอนหลับไปในอ้อมกอดของคนอื่นเป็นตัวจริง หรือคนที่หลับไปเพียงลำพัง อยู่แต่ในโลกของตัวเอง ไม่ยอมให้ใครเข้าถึงกันแน่ ที่เป็นตัวตนของเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือความสบายใจเพียงเท่านั้น ซองจูยกมือขึ้นมาอย่างเงียบๆ เกลี่ยเส้นผมที่ปิดบังใบหน้าของจองอูไปอีกด้าน ในตอนนั้นเองรอยแผลลึกที่อยู่บนหน้าผากของอีกคนก็ปรากฏสู่สายตา 

 

 

จองอูไม่ยอมให้สัมผัสรอยแผลนี้ แต่ทว่าในครั้งแรกที่ซองจูได้เห็นรอยแผลนี้ เขาไม่เคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจเลยสักนิด เจ้าตัวลูบไล้ไปบนใบหน้าของอีกคนอย่างเงียบๆ ก่อนจะเลื่อนไปสัมผัสรอยแผลเป็นนั้น รอยแผลเป็นนั้นกลับให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ไม่หยาบกร้านอย่างที่คิด เขาลากปลายนิ้วสัมผัสไปบนแผลเป็นนั้น ก่อนที่มือของเขาจะถูกคว้าเอาไว้ 

 

 

“โอ๊ย!” 

 

 

จองอูนั่นเอง 

 

 

“ทำไมถึงได้ติดใจกับแผลนี้นัก” 

 

 

อีกคนพึมพำคำพูดที่ไม่ได้ฟังดูตำหนิหรือหงุดหงิดแต่อย่างใดออกมา พร้อมกับค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ในดวงตาสีน้ำตาลเข้มของอีกคน ปรากฏเป็นภาพใบหน้าของซองจูเข้าอยู่ในสายตา ซองจูกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยปากออกมา 

 

 

“ก็แค่เกิดสนใจขึ้นมาเท่านั้นแหละ” 

 

 

“ไม่ใช่เรื่องที่ดีสักหน่อย ทำไมถึงได้สนใจนัก” 

 

 

“ก็มันเป็นเรื่องของนายนี่” 

 

 

เจ้าตัวตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงอู้อี้ จองอูจึงค่อยๆ รั้งร่างของซองจูเข้าหาตัวในทันที 

 

 

“ทุกครั้งที่เห็นแผลนี่” 

 

 

จองอูกอดซองจูเอาไว้ เขาจึงไม่อาจมองเห็นสีหน้าของอีกคน ก่อนเจ้าตัวจะเอ่ยพูดต่อไป 

 

 

“ช่วงเวลาที่ฉันอ่อนแอที่สุดมันก็จะโผล่ออกมา แล้วฉันก็เกลียดมันมาก พอหลุดพ้นออกมาจากช่วงเวลาแสนทรมานนั่นได้ ฉันก็ใช้ชีวิตอย่างเรียบๆ แต่พอได้เห็นมัน ฉันก็มักจะได้ยินเสียงกระซิบ ตลอดชีวิตฉันคงไม่สามารถหลุดพ้นจากคนพวกนั้นได้” 

 

 

อีกคนพูดเช่นนั้นออกมา ก่อนจะถอนหายใจอย่างแผ่วเบา ซองจูยื่นแขนออกไป กอดรัดเข้าที่ช่วงเอวของจองอู 

 

 

“นายไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด” 

 

 

“อ่อนแอสิ ถ้าเพียงมีโอกาส ฉันก็คิดแต่จะหนีอยู่เรื่อย” 

 

 

“รู้ตัวด้วยเหรอ?” 

 

 

จองอูหลุดขำให้กับถ้อยคำกล่าวโทษของซองจู หากเขาพูดว่าขอโทษออกไปตอนนี้ คงจะได้ถูกตวาดเสียงดังกลับมาแน่นอน เพราะฉะนั้นเขาจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับอย่างเงียบๆ ซองจูที่เห็นท่าทางเช่นนั้นก็มุดตัวซุกเข้าหาอ้อมกอดของจองอู พร้อมกับบ่นพึมพำออกมาแผ่วเบา 

 

 

“การหนีก็ไม่ใช่เรื่องที่ไม่ดีนี่นา” 

 

 

“งั้นเหรอ” 

 

 

จองอูตอบกลับด้วยเสียงอู้อี้ 

 

 

“คิดๆ ดูแล้ว ฉันเองก็เคยเอาแต่หนีเหมือนกัน แกล้งทำเป็นว่าไม่เป็นไร ทำตัวเข้มแข็ง เสแสร้งทำตัวเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ ทั้งที่ความจริงแล้ว ฉันมันก็แค่ไอ้คนเส็งเคร็ง แล้วก็อ่อนแอ พอถูกทิ้งก็กลายคนที่ไม่มีดีอะไรเลยก็แค่นั้น” 

 

 

ซองจูพูดออกมาเช่นนั้น ก่อนจะขยับเปลี่ยนท่านอน จองอูที่เห็นท่าทางเช่นนั้นของซองจูก็รีบคว้าเอวของอีกคนเอาไว้ ไม่อยากให้อีกคนถอยห่างไปแม้เพียงนิด 

 

 

“ไม่หนีหรอกน่า นายนี่มัน คิดว่าฉันจะเหมือนนายเหรอ” 

 

 

ซองจูบ่นออกมา พร้อมหลุดยิ้มให้กับท่าทางเช่นนั้นของจองอู 

 

 

“ฉันอาจจะต้องเสแสร้งอย่างนี้ไปตลอดชีวิต เพราะภาพลักษณ์ที่เคยสร้างไว้ มันใหญ่เกินกว่าที่จะทิ้งมันไป” 

 

 

“อื้อ” 

 

 

“ต่อหน้าคนอื่นฉันเป็นคนดี เป็นคนที่สมบูรณ์แบบ แต่กับคนรอบตัวแล้ว ฉันมันก็แค่คนที่ไม่มีดีอะไรและจิตใจคับแคบคนนึง” 

 

 

“อื้อ” 

 

 

“เลิกทำเสียง อื้อ นั่นสักทีเถอะ!” 

 

 

ถึงซองจูจะตอบรับด้วยการระเบิดความโมโหออกมา แต่จองอูก็ไม่ได้มีท่าทีอื่นใด เขาจึงได้แต่ปล่อยให้เป็นไปแบบนั้น วันข้างหน้าก็คงจะเข้าใจได้เองนั่นล่แหละ 

 

 

“อื้อ” 

 

 

แล้วอีกคนก็ยังคงตอบกลับมาเช่นเดิม ซองจูได้แต่ถอนหายใจกับท่าทางที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรแบบนั้น 

 

 

“ยังไงก็ช่าง ถึงฉันจะโมโหใส่นาย ทำตัวไม่ดีกับนาย ก็ห้ามเสียใจล่ะ ถ้าไม่ใช่นาย ฉันก็ไม่ทำแบบนั้นหรอกนะ” 

 

 

“รู้แล้ว” 

 

 

“เพราะฉะนั้นถึงจะบอกว่าเกลียด ก็ห้ามหนีไปอีกเด็ดขาด” 

 

 

 “อื้อ” 

 

 

“ให้ทำตัวปกติ มันคงเป็นเรื่องยากเกินไปสำหรับฉัน ฉันไม่เคยแยกแยะถูกผิดอะไรได้ เพราะฉะนั้น คงทำให้นายเจ็บหนักแน่” 

 

 

“ไม่เป็นไร ฉันเองก็ไม่ต่างกันหรอก” 

 

 

จองอูตอบกลับถ้อยคำแก้ตัวอย่างเอาเป็นเอาตายของซองจูทีละข้อทีละข้อ ถึงมันจะห้วนไปหน่อย แต่ซองจูก็รู้ดีว่าคำพูดพวกนั้นเต็มไปด้วยความจริงใจของอีกคน 

 

 

คนทั้งสองที่ไม่เคยมีชีวิตอย่างปกติทั่วไป พวกเขาใช้ชีวิตภายใต้ตัวตนที่ไร้ชีวิต เพื่อซ่อนตัวตนที่อ่อนแอเอาไว้ ในที่สุดก็ได้เปิดเผยตัวตนที่อ่อนแอออกมาให้กันและกันได้เห็นเป็นครั้งแรก เพียงเท่านั้นก็นับเป็นการพบเจอที่น่ายินดีอย่างที่สุดแล้ว 

 

 

ในอนาคตไม่รู้ว่ามันจะเกิดเรื่องที่ทำให้ต้องหนีไปอีกหรือไม่ อาจเกิดเรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้ขึ้นก็ได้ แต่ถึงอย่างนั้น ถ้าหากได้แบ่งปันช่วงเวลาร่วมกัน ถ้าหากได้รับรู้ตัวตนที่แท้จริงของกันและกัน มันก็คงจะไม่เป็นไร จองอูคิดเช่นนั้น ก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนกระหม่อมของซองจูอย่างอ่อนโยน 

 

 

ถึงตอนนี้ความมืดจะเริ่มปกคลุมไปทั่วห้อง แต่เขาก็คุ้นเคยกับมันดี 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด