เซียนหมากข้ามมิติ 48 ตามหาเลื่อนลอย

Now you are reading เซียนหมากข้ามมิติ Chapter 48 ตามหาเลื่อนลอย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 48 ตามหาเลื่อนลอย

วู้ม…

สายลมคลั่งระลอกหนึ่งซัดโหม ยามเว่ยอู๋เว่ยคิดเองว่าดวงตาจะถูกทำลาย เงาร่างสวมชุดผ้าทอหยาบสีเทาพลันปรากฏตรงหน้า ใช้มือเท้าโจมตีชายชุดรัตติกาลซึ่งสำแดงวิชาดรรชนี

เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! ปึง! ปึง! ปึง!

หลังจากเห็นการต่อสู้เมื่อครู่แล้ว จี้หยวนไม่กล้าดูถูกคนในยุทธภพอีก ดังคำกล่าวว่ายุทธภพอันตราย จอมยุทธ์น้อยเก้าคนซึ่งเคยเจอเมื่อก่อนเป็นไก่อ่อนจริงๆ!

เดิมเขาก็ไม่คิดใช้วิชากระบี่ ในมือยิ่งไม่มีดาบ ได้แต่ใช้วิชากรงเล็บหมัดเท้าในเทียบรบทัณฑ์เหล็ก

หมัดตรง หมัดสอย ตัดขา แทงเข่า ตวัดแขน ถีบเตะ… แต่ละกระบวนท่าดุจพายุฝนกระหน่ำไร้ช่องโหว่!

ทุกคนล้วนมองไม่ชัดว่าชายชุดเทารวบผมคนนี้ออกมาจากที่ไหน ก่อนหน้านี้คนชุดดำจัดการเว่ยอู๋เว่ยยังใช้แค่มือเดียวสำแดงวิชาดรรชนี ตอนนี้ใช้สองมือต้านยังเต็มกลืน ถึงขั้นว่าดวงตามองตามไม่ทันแล้ว

เวลาแค่ไม่กี่ลมหายใจ คนชุดดำสองแขนชาหนึบแล้ว ภายในเสื้อผ้านิ้วมือท่อนแขนหลายจุดบวมเป่ง อาศัยแค่ปราณดั้งเดิมยืนหยัด

‘นี่คือสัตว์ประหลาดอะไร!!’

คนชุดดำมีแค่แรงตั้งรับไม่มีแรงตอบโต้ ทั้งความรู้สึกจากแรงปะทะทุกครั้งยังเหมือนหวดเสาเหล็ก เจ็บปวดไม่ว่ายังสะเทือนกลับมหันต์ แค่ไม่กี่ลมหายใจปราณดั้งเดิมพิทักษ์กายตนเหมือนถูกซัดแตกซ่าน

‘ฝีเท้าสับสนแล้ว! ใช่ ท่าร่างเขาสู้เราไม่ได้!!’

จี้หยวนครุ่นคิดในใจ ปราณวิญญาณหมุนวน ร่างกายซึ่งออกหมัดเมื่อครู่ราวกับงูวิญญาณสะบัดตัว หายไปตรงหน้าคนชุดดำทันที ยามอีกฝ่ายใจเต้นระส่ำเขาพลันปรากฏตัวข้างกาย

คนชุดดำตอบสนองรวดเร็วเช่นกัน มือซ้ายตั้งกระบวนท่าดาบฝ่ามือฟาดฟัน คิดบีบจี้หยวนจนถอยร่น แต่กลับรู้สึกว่าถูกจับแขนชั่วพริบตา

จี้หยวนรวบนิ้วทั้งห้าก่อนแทงเข้ารักแร้ซ้ายของเขา

นอกจากทำให้คนชุดดำเจ็บปวดแล้วยังยกไหล่ซ้ายขึ้นดังกร๊อบ

ขณะเดียวกันจี้หยวนกางกรงเล็บอินทรี ไล่ตะครุบจากหัวไหล่ลงไปถึงข้อมืออีกฝ่าย ก่อนหักมือบิดกลับ

กร๊อบ… กร๊อบ… กร๊อบ…

เสียงกระดูกลั่นดังสามครั้ง แขนซ้ายเสียการรับรู้ท่ามกลางความเจ็บปวดสาหัส เหลือบเห็นเงาสีเทาวาบผ่านใต้ฝ่าเท้า

ปึง! กร๊อบ…

เอ็นกระดูกขาซ้ายหลุดแล้ว ยามไม่ทันตั้งตัวจี้หยวนปรากฏตัวด้านขวาเหมือนเคลื่อนย้ายมวลสาร

กร๊อบ… กร๊อบ…

แขนขวาตั้งแต่ข้อมือถึงไหล่หลุดจากข้อต่อจนหมด…

เวลานี้จี้หยวนซึ่งรู้ตัวว่าในที่สุดก็กำราบคนชุดดำได้ ทั้งตื่นเต้นทั้งประหม่า คว้าเส้นผมของคนชุดดำไว้ ดึงขึ้นมาเผชิญหน้ายอดฝีมืออีกคนซึ่งไม่ทันได้เข้ามาช่วยทั้งยื่นมือเข้าแทรกไม่ได้ รวมถึงโจรที่เหลือด้วย

“ฮะ… เฮือก…”

ยอดฝีมือชุดดำที่ถูกจี้หยวนดึงผมเจ็บปวดยิ่ง เหงื่อตกหายใจอย่างระวัง ทุกลมหายใจเข้าออกนำมาซึ่งความเจ็บปวดรุนแรงคล้ายถูกลงทัณฑ์

สถานการณ์ตกสู่ความเงียบน่าประหลาดทันที ทุกคนต่างมองยอดฝีมือลึกลับซึ่งปรากฏตัวกะทันหัน

สวมชุดผ้าทอหยาบสีเทา รวบผมเรียบง่าย ใบหน้าดำสนิทคล้ายมีปานสีเข้มแถบหนึ่งปกคลุมครึ่งหน้า ดูเหมือนใบหน้าไร้ความรู้สึก แต่กลับทำให้ผู้คนหนาวเหน็บ

ภาพจำของคนผู้นี้ สรุปคือมีแค่สามคำ… อันตราย!

เนิ่นนานกว่าชายชุดดำอีกคนจะส่งเสียงซึ่งเห็นชัดว่าหวาดกลัวหาใดเปรียบ

“วิชา! ทัณฑ์! เหล็ก! การโจมตีแข็งแกร่งดุดัน! มือหนักอย่างยิ่ง! ท่านคือผู้สูงส่งจากสำนักไหน”

ความจริงในที่นั้นกระทั่งรวมถึงเว่ยอู๋เว่ยด้วย ไม่มีใครไม่หวาดกลัว เมื่อครู่คนผู้นี้ลงมือดุดันหาใดเปรียบ แค่ไม่กี่ลมหายใจก็ซัดยอดฝีมือที่เดิมลึกล้ำยากหยั่งถึงคนหนึ่งจนพิการ

การลงมือนี้ภายใต้สถานการณ์ที่ยังไม่ยืนยันเป้าหมายของอีกฝ่าย เว่ยอู๋เว่ยไม่กล้าแม้แต่จะหอบหายใจ

“ฮู่ว…”

เสียงผ่อนลมหายใจยาวดังเงียบๆ ยามนี้จี้หยวนเพิ่งคลายความตื่นเต้นจากการประมือกับคนครั้งแรก ทั้งพิสูจน์ความคิดของตน แม้ว่าฝึกยุทธ์แค่ไม่กี่เดือน แต่ปราณวิญญาณหลอมกายทั้งเข้ามาเกี่ยวข้องกับการโคจรปราณดั้งเดิม กอปรกับพรสวรรค์การหยั่งรู้ไม่ธรรมดา วิชายุทธ์ของตนไม่ถือว่าแย่!

‘หรือกล่าวได้ว่าแข็งแกร่งมาก!’

ความคิดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกะทันหัน แต่กลั่นกรองมาจากความเข้าใจหลังประมือก่อนหน้านี้ มาจากคำพูดด้วยความหวาดกลัวของอีกคนและลมหายใจอันตื่นเต้นกับการเต้นหัวใจกระชั้นถี่ของผู้คนโดยรอบตอนนี้

เมื่อครู่อาจลงมือหนักไปหน่อย แต่ชายชุดดำก็ไม่ใช่พวกคนดีอะไร

วิชายุทธ์ที่เปิดเผยเมื่อครู่ถูกคิดว่าเป็นยอดฝีมือราชสำนักนับว่าสมเหตุสมผล ถึงขั้นกล่าวได้ว่าจี้หยวนตั้งใจทำให้พวกเขาคิดเช่นนี้

เมื่อคนชุดดำนั่นกล่าวถึง ‘เทียบเจตกระบี่’ จี้หยวนใจกระตุกเล็กน้อย พลันรู้สึกว่ามีโอกาสสูงที่จะเป็นเทียบอักษรนั้นในบ้านตน

เดิมภูตเสือเฒ่าอย่างเจ้าภูเขาลู่ไม่เคยออกจากเขาโคเทพ ไปเจออักษรแฝงเจตกระบี่วิถียุทธ์นี้จากไหน เห็นชัดว่าช่วงนี้เพิ่งได้รับมา

ปัจจุบันคนกลุ่มนี้พบว่าหยกฟ้าอยู่ตระกูลเว่ย ทั้งเห็นชัดว่าคนชุดดำซึ่งปรากฏตัวทีหลังเหมือนอยู่ฝ่ายเดียวกับสิบสามโจรแดนเยี่ยน ทั้งเห็นชัดว่าชายชุดดำสองคนฐานะสูงกว่าสิบสามโจร เมื่อสองคนปรากฏตัวแม้สิบสามโจรไม่ส่งเสียงแต่บรรยากาศเปลี่ยนเป็นตกตะลึง แสดงว่าสิบสามโจรไม่รู้ว่าคนชุดดำติดตามมา ได้รับข้อมูลไม่ตรงกัน

เรื่องนี้ทำให้จี้หยวนซึ่งเป็นคนนอกไม่อาจไม่วางอุบายบางอย่างโดยสัญชาตญาณ

แม้ผลงานภาพยนตร์กับวรรณกรรมเมื่อชาติก่อนล้วนบอกจี้หยวนว่าการเข้าไปพัวพันเรื่องนี้ยุ่งยากนัก แต่ถ้าเป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือเทียบเจตกระบี่กับหยกฟ้าก็เป็นอีกเรื่อง

จี้หยวนกดเสียงต่ำ ใช้ปราณวิญญาณสำแดงวิชาเปลี่ยนเสียงจากปราณดั้งเดิมในเทียบรบทัณฑ์เหล็ก ช่วงลำคอสั่นสะเทือนเล็กน้อย ยามเอ่ยปากเสียงแหบพร่าทุ้มต่ำแต่กลับเปี่ยมพลังยิ่ง

“ผู้นำตระกูลเว่ย คนพวกนี้มีความแค้นกับตระกูลเว่ยของเจ้าหรือไม่”

หลังจากอึ้งงันเว่ยอู๋เว่ยพลันได้สติกลับมาว่ากำลังถามเขา ได้แต่คิดว่าผู้มาเยือนเป็นมิตรไม่ใช่ศัตรูก่อน แต่เมื่อคิดดูแล้วก็ใช่ วิชาทัณฑ์เหล็กไม่ใช่เรื่องเท็จแน่ ยอดฝีมือทางการซึ่งฝึกวิชายุทธ์เช่นนี้ได้ถึงระดับนี้ น่าจะเป็นพวกมือปราบไม่ใช่คนต่ำช้าฝ่าฝืนหลักการ

“ขอบคุณใต้เท้าท่านนี้ที่ช่วยเหลือ ข้าคนแซ่เว่ยไม่มีความแค้นกับคนพวกนี้ แต่ไหนแต่ไรตระกูลเว่ยของข้ามักสร้างบุญผูกสัมพันธ์ หากมีความแค้นไม่สะสางอะไรผู้นำตระกูลอย่างข้าไม่มีทางไม่รับรู้!”

เว่ยอู๋เว่ยพูดถึงตรงนี้แล้วตัดสินใจ ถึงอย่างไรก็มีคนนอกรับรู้เรื่องหยกฟ้า บอกการคาดเดาในใจกับจี้หยวน

“ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องตระกูลเว่ยของข้ามีหยกฟ้าตกทอดมีคนรู้น้อยนัก คนพวกนี้ร้องเรียกหาแต่หยกฟ้า ต้องเตรียมตัวมาก่อนแน่ ก่อนหน้านี้เรื่องเทียบเจตกระบี่ตระกูลฝานจังหวัดติ้งหยวนก็เป็นฝีมือสิบสามโจร ข้าสงสัยว่าพวกเขายังมีแผนการอื่นอีกแน่!”

“อืม กำราบพวกเขาก่อนค่อยว่ากัน!”

ยามสิ้นเสียงจี้หยวน ชายชุดดำอีกคนกับพวกโจรที่เหลือเกิดลางสังหรณ์ขึ้นในใจ

ครู่ต่อมายอดฝีมือทางการลึกลับคนนี้เปลี่ยนจากนิ่งเป็นขยับ พุ่งวาบมาอยู่ตรงหน้าคนชุดดำชั่วพริบตา ปล่อยหมัดกรงเล็บอีกครั้ง

เมื่อเห็นจี้หยวนลงมือ เว่ยอู๋เว่ยก็ไม่อยู่เฉย โจมตีโจรแดนเยี่ยนที่เหลือพร้อมผู้คุ้มกันสองคน

กระทั่งเผชิญหน้ากับจี้หยวน ชายชุดดำอีกคนจึงรู้ว่าแรงกดดันมากแค่ไหน แค่ประมือกันไม่กี่ลมหายใจก็รู้สึกว่ายืนหยัดไม่อยู่แล้ว

ด้านหนึ่งเผยวิชาต้านการโจมตีออกมาจนหมด ฝีเท้ายังหนีถอยหลังต่อเนื่อง แขนสองข้างเจ็บจนส่งผลต่อกระบวนท่าแล้ว

“ท่านจะสังหารสิ้นจริงหรือ ท่านไม่อยากก้าวหน้าขึ้นหรือ ความรุ่งเรืองร่ำรวยยศถาบรรดาศักดิ์…”

เห็นว่าจี้หยวนไม่สนใจเขาโดยสิ้นเชิง ภายใต้สถานการณ์เร่งด่วนคนชุดดำตวาดเสียงกร้าว

“หรือว่าท่านไม่อยากโอหังเหนือใต้หล้า ไม่อยากกลายเป็นเซียนหรือ”

ครานี้จี้หยวนไม่เพียงไม่ผ่อนคลายการโจมตี กลับกลายเป็นว่าเปลี่ยนกระบวนท่าอย่างแปลกประหลาด ใช้แขนขวาแทนดาบสำแดงวิชาดาบในเทียบรบทัณฑ์เหล็ก คนชุดดำรู้สึกแค่ระยะห่างซึ่งหนีมาเมื่อครู่ถูกร่นระยะชั่วพริบตา ดาบฝ่ามือเร็วกว่าการตอบสนองของตน ทะลวงผ่านการป้องกันของสองมือตรงสู่หน้าอก

ปึง!

ร่างคนชุดดำถูกซัดกระเด็น ทั้งถูกจี้หยวนจับขากลางอากาศ

“ฮ้า!”

คล้ายเหวี่ยงกระบองใหญ่ขึ้นมา คนชุดดำถูกกระแทกลงพื้นดังตึง เหลือเพียงแรงกระตุกแล้ว

อีกด้านหนึ่งเว่ยอู๋เว่ยกับผู้คุ้มกันสองคนต่อสู้เสร็จพอดี สี่โจรที่เหลือล้วนถูกสกัดจุด

“กลายเป็นเซียน? คำปลิ้นปล้อนเช่นนี้ยังคิดนำมาหลอกลวงข้าหรือ”

จี้หยวนยิ้มหยันพลางมองคนชุดดำบนพื้น

“ฮู่ว… ฮู่ว… รอยเซียนเลื่อนลอย… ตะ แต่ใช่ว่าไร้ร่องรอยให้ตามหา… ในตำนานจั่วขวงถูทะลวงยุทธ์เข้าสู่มรรคแล้ว ทะ ท่านลองถามเว่ยอู๋เว่ยอีกครั้ง… หยกฟ้าของตระกูลเว่ย… ฮู่ว… ความเป็นมา ไม่ธรรมดา…”

คนชุดดำทนต่อความเจ็บปวดบนกาย กล่าวกระท่อนกระแท่นจนจบ ตั้งตารอหลายปีกว่าจะใกล้ปรากฏ หากถูกฝังกลบตรงหน้าเขาคงไม่ยินยอมยิ่ง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด