นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน 80

Now you are reading นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน Chapter 80 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“งั้น กิลด์มาสเตอร์ก็เป็นคนบอกให้ออกตามหาพวกผมอย่างงั้นเหรอ?”

 

ในขณะที่ผมกำลังวิ่งไปตามทางเดินกับคุณไอริสและคุณซึกิคาเงะผมก็ถามพวกเธอไปด้วย

แต่ว่านะ ที่นี่นี่มันใหญ่ชะมัดเลย ไหนจะประตูกับทางเดินที่หน้าตาคล้ายๆกันอีก

มันดูซับซ้อนมาก ถ้าผมมีผมแค่คนเดียวผมคงหนีออกไปไม่ได้จริงๆนั่นแหละ

 

“ใช่ค่ะ หลังจากที่เรามาถึงที่เมืองคาสซานดร้า กิลด์มาสเตอร์ก็ขอร้องให้พวกเราตามหาคุณเรียวเป็นการส่วนตัวน่ะค่ะ”

 

“แน่นอนว่าต่อให้ไม่ต้องขอร้อง พวกเราก็จะตามหาท่านเรียวอยู่ดี”

 

ผมถามอยากจะรู้แค่ว่าพวกเธอมาที่นี่ได้ยังไงก็เท่านั้น

แต่คำตอบที่ผมได้รับมามันเกินคาดเลยแฮะ

ก็แบบ กิลด์มาสเตอร์คนนั้นไปขอร้องทุกคนในโรเซนครูเซอร์

ให้ช่วยกันตามหาผมกับคุณซิลเวียเลยนี่นา

 

ก่อนจะมาเจอผมดูเหมือนพวกเธอจะเจอคุณซิลเวียก่อนแล้ว 

เพราะงั้นก็ค่อยหายห่วงได้หน่อย

ดูเหมือนว่าคุณซิลเวียจะหลบหนีออกมาด้วยตัวเองหลังจากที่ได้ยินเสียงข้างนอก

 

“งั้นเหรอครับ….กิลด์มาสเตอร์และทุกคนยังอุตส่าห์รู้อีกนะครับว่าผมถูกลักพาตัวมาน่ะ”

 

“อ๊ะ หรือกำลังพูดถึงจดหมายลาออกนั่นงั้นเหรอคะ?”

 

“อืม ซึสึ…..ก่อนหน้านี้ผมได้ยินมาจากสาวหูแมวคนนั้นน่ะ ว่าเธอทำหลายอย่างเลยก่อนที่เธอจะลักพาตัวพวกผมมา  ผมก็เลยไม่คิดไม่ถึงเลยว่าพวกคุณจะมาช่วยผมแบบนี้น่ะ”

 

“พอดีท่านกิลด์มาสเตอร์พูดไว้น่ะ”

 

ตามที่คุณซึกิคาเงะบอก 

เหมือนกิลด์มาสเตอร์จะบอกทุกคนในโรเซนครูเซอร์ไว้แบบนี้

 

[คนอย่างหมอนั่นน่ะ ไม่มีทางจะออกไปจากเมืองนี้โดยไม่บอกอะไรหรอก ที่นี่คือเมืองบ้านเกิดของพ่อและแม่ของหมอนั่น และก็เป็นบ้านเกิดของหมอนั่นด้วย]

 

[….ก็จริงอยู่ว่าหมอนั่นเคยบอกว่าอยากไปเมืองหลวง ฉันก็เลยพาหมอนั่นไปดูเมืองหลวงด้วยตาของตัวเอง]

 

[แต่สุดท้ายหมอนั่นก็ยังเลือกที่จะกลับมาที่เมืองคาสซานดร้าแห่งนี้ เพราะงั้นคนอย่างหมอนั่นน่ะ ไม่มีทางที่จะจากเมืองนี้ไปโดยที่ไม่บอกอะไรเราเลยหรอกนะ]

 

“เค้าว่างั้นน่ะ เป็นคนดีจริงๆเลยนะ”

 

“งั้นเหรอครับ……กิลด์มาสเตอร์พูดแบบนั้น…..”

 

คำพูดที่คาดไม่ถึงนั่นทำให้ตาผมชื้นๆขึ้นมาเลย

 

“และเขาก็ [แล้วก็นะ คนอย่างหมอนั่นน่ะไม่มีทางทำอะไรได้เนี้ยบขนาดนี้หรอกนะ!] ว่ามาแบบนี้น่ะ!”

 

ถึงจะเจ็บ แต่ที่พูดมาก็ปฏิเสธไม่ได้แฮะ….!

 

“พะ พอจะเข้าใจสถานการณ์แล้วล่ะ แต่สรุปแล้วมาที่นี่กันได้ยังไงน่ะ?”

 

“ยังจำเวทย์ที่ฉันขอให้ซึกิคาเงะใช้ตอนที่ฉันตามคุณเรียวไปที่บ้านได้มั้ยคะ?”

 

“อา จะว่าไปก็เคยมีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นด้วยนี่นะ”

 

ผมจำได้แม่นเลย ตอนที่คุณไอริสบุกมาที่บ้านของผม 

เสร็จแล้วคุณคาร์ล่าก็ตามคุณไอริสมาจนเกิดเป็นเรื่องตึงเครียด….

ผมในตอนนั้นเป็นกังวลมากว่าจะต้องทำยังไงดี

ถ้าความสัมพันธ์ของโรเซนครูเซอร์จะต้องแย่เพราะผม

 

“เวทย์ค้นหาน่ะ คือเวทย์ตรวจจับที่เราถนัดที่สุดแล้วล่ะ ตราบใดที่มีของของคนคนนั้นอยู่ ก็จะสามารถค้นหาตำแหน่งของคนคนนั้นได้ไงล่ะ”

 

อันนั้นผมรู้อยู่แล้วล่ะ

งั้นก็หมายความว่าที่เราสามารถเดินทางกันในอาคารของกิลด์แห่งความมืดนี้ได้

ก็คงเป็นเพราะเวทย์ค้นหาของคุณซึกิคาเงะ

ที่ทำให้สามารถเข้าใจโครงสร้างของตัวอาคารได้สินะ 

แต่ถึงงั้นผมก็ยังมีเรื่องที่ไม่เข้าใจอยู่

 

“แต่ว่านั่นมันก็น่าจะมีระยะจำกัดไม่ใช่เหรอ? ที่นี่ก็ค่อนข้างอยู่ห่างจากเมืองคาสซานดร้าอยู่พอตัวเลยนี่ครับ? แถมผมยังไม่คิดว่ากิลด์แห่งความมืดจะไม่มีเวทย์ในการป้องกันเลยแบบนี้น่ะครับ….”

 

“อืม จริงๆแล้วมันก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นน่ะนะ”

 

ถึงคุณซึกิคาเงะจะเป็นนักเวทย์ที่ถนัดเวทย์ค้นหาก็เถอะ  

แต่ก็ไม่น่าจะสามารถตามหาสถานที่ที่ห่างไกลจากเมืองคาสซานดร้าขนาดนี้ได้นี่นา

เพราะถ้าหาได้ พวกกองอัศวินคงเจอฐานทัพนี่ไปนานแล้วล่ะ

 

“ในตอนที่เรายืมกุญแจสำรองจากกิลด์มาสเตอร์เพื่อเข้าไปในบ้านของท่านเรียว เราก็ลองใช้เวทย์ค้นหากับของใช้ในบ้านท่านเรียวไปแล้วล่ะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันก็อย่างที่รู้กัน แต่ว่าในตอนนั้นเองเราก็ได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงจากที่ไหนซักแห่ง”

 

“เสียงเด็กผู้หญิงงั้นเหรอครับ?”

 

“อืม เป็นเสียงเด็กผู้หญิงไร้เดียงสาน่ะ แล้วเธอก็พูดประมาณว่า [เพื่อคุณผู้มีพระคุณของฉันแล้ว ครั้งนี้ฉันจะช่วยก็แล้วกันค่ะ เอาล่ะ ลองใช้เวทย์ค้นหาดูอีกครั้งสิคะ] เธอพูดมาแบบนั้นน่ะ”

 

“……”

 

“หลังจากนั้น พอเราใช้เวทย์ค้นหาอีกครั้ง เราก็สามารถเห็นตำแหน่งของท่านเรียวได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ….ท่านเรียวมีความเกี่ยวข้องยังไงกับผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ?”

 

“ไม่อะ ไม่เกี่ยวเลย ให้ตายเถอะ”

 

“หรือบางทีแล้ว นั่นอาจจะเป็นท่านนางฟ้าผู้พิทักษ์ของคุณเรียวกันนะคะ!”

 

คุณไอริสยิ้มอย่างสดใส

 

ไม่ใช่นางฟ้า ภูติต่างหากล่ะ….

พอพูดเสร็จพวกเราก็มาถึงหน้าประตูบานใหญ่2บาน

 

พอเปิดประตูแล้วพวกผมจึงหยุดอยู่ที่หน้าประตู 

และมองออกไปที่ข้างนอกเพื่อเช็คให้แน่ใจว่ามีคนอยู่รึเปล่า

เสร็จแล้วพวกเราก็ค่อยๆเดินออกไปข้างนอก

 

คุณซึกิคาเงะเอารองเท้าของผมติดมาด้วย

ต้องขอขอบคุณเธอเลย เพราะถ้าต้องหนีไปเท้าเปล่าคงลำบากแย่

แต่ถึงอย่างงั้นก็เถอะ…..

 

“ฐานทัพหลักของกิลด์แห่งความมืดนี่เหมือนกับหมู่บ้านธรรมดาๆทั่วไปเลยแฮะ”

 

“อ๊ะ ฉันเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกันค่ะ ภายในหมู่บ้านก็มีบ่อน้ำพุร้อนมีร้านขายของเหมือนหมู่บ้านทั่วไปเลยค่ะ”

 

คุณไอริสพยักหน้าให้กับคำพูดของผม

ภาพข้างหน้าที่เราเห็นเต็มไปด้วยอาคารที่สร้างด้วยไม้ทั้งสองฝั่ง

อาคารส่วนใหญ่เป็นสองชั้นดูสวยงาม

 

ทั้งที่พวกเราวิ่งอยู่บนถนนแต่ก็ไม่มีใครสนใจพวกเราเลย

อาจเป็นเพราะคุณไอริสกับคุณซึกิคาเงะใส่ชุดมือสังหารของกิลด์แห่งความมืดอยู่ก็ได้

 

“อืม เราก็แปลกใจเหมือนกันนะ โครงสร้างของหมู่บ้านนี้น่ะ มันคล้ายๆกับทางประเทศอมนุษย์ทางตะวันออก เลยล่ะ เห็นแล้วรู้สึกคิดถึงบ้านเกิดนิดๆเหมือนกันนะ”

 

“อ๊ะ จะว่าไปแล้ว พวกคนในกิลด์แห่งความมืดบอกว่า ควอนดร้ารุ่นแรกชอบวัฒนธรรมของประเทศตะวันออก…”

 

ในขณะที่เรากำลังพูดเรื่องนี้กันอยู่ จู่ๆอาคารหลังนึงก็เกิดระเบิด มีความดำคลุ้งไปหมด

ต้องขอบคุณระเบิดนั่นที่ทำให้เบี่ยงเบนความสนใจไปได้

พวกผู้หญิงก็พากันพูด 

[บ้าเอ๊ย คราวนี้ทางนั้นเหรอ!] [ใครใช้เวทย์น้ำได้ก็เน้นดับไฟก่อนซะ!]

[ท่านเมย์ฟายังไม่มาอีกเหรอ? ในเวลาแบบนี้มัวไปทำอะไรอยู่ที่ไหน….!]  

 

“ระเบิดทางนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่…..?”

 

“ตรงนั้นคือฝีมือของคาร์ล่ากับลิซล็อตเต้ค่ะ ด้วยการใช้ระเบิดไฟกับเวทย์มนของลิซล็อตเต้น่ะค่ะ สร้างความวุ่นวายเพื่อดึงดูดความสนใจของสมาชิกในกิลด์แห่งความมืด”

 

“ในช่วงเวลานั้นพวกเราก็โจมตีผู้หญิงสองคนจากกิลด์แห่งความมืดน่ะ แล้วก็ปลอมตัวเข้าไปในอาคาร หลังจากนั้นก็ได้เจอกับซิลเวียระหว่างนั้นก็ผ่านไปได้ราบรื่นดี จนโดนแมวสาวคนนั้นจับได้นั่นแหละ….”

 

“แต่นั่นก็ทำให้ฉันได้เจอกับคุณเรียว เพราะงั้นก็ถือว่าผลลัพธ์ออกมาโอเคแหละค่ะ”

 

“ไม่โอเคซักนิดเลยเมี้ยว!”

 

ในวินาทีนั้นคุณไอริสก็ได้ผลักผมออกไป และเธอก็ได้ปัดคุไนที่ปาออกมาด้วยดาบสั้น

แต่ถึงอย่างงั้นเด็กสาวที่เข้ามาจากทางข้างหลังเรานั้นก็ไม่ได้หมดกำลังใจสู้แต่อย่างใด

 

“เรียว เมื่อกี้นายทำได้แสบมากเลยนะเมี้ยว….!”

 

ซึสึจ้องมาที่ผมด้วยจิตสังหาร

ผมไม่ใช่คนที่ทำให้ซึสึหมดสติซักหน่อยนะ แต่ช่างมันเหอะ

เห็นได้ชัดเลยว่าเธอมาตามหาพวกเราหลังจากที่หลับไป

 

“ตามมาทันจนได้สินะคะ….!”

 

“สมกับเป็นระดับสูงของกิลด์แห่งความมืดเลยนะ มาเร็วจริงๆ”

 

คุณไอริสกับคุณซึกิคาเงะยืนหน้าผมพร้อมถือดาบสั้นกับไม้คฑา

แต่ทั้งสองคนนั้นดูแข็งทื่อไป

ซึสึที่ถือหอกยาวด้วยมือข้างหนึ่ง กับมืออีกข้างที่ถือคุไนหลายเล่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์

 

“หื้ม เมื่อกี้เค้าประมาทไปหน่อยเมี้ยว…แต่ครั้งนี้จะไม่เป็นแบบนั้นแน่เมี้ยว!”

 

ซึสึควงหอกยาวของเธอและพุ่งเข้ามาหาคุณไอริสอย่างรวดเร็ว

คุณไอริสพยายามตอบโต้กลับไปด้วยดาบ

แต่ด้วยระยะของหอกแล้ว ทำให้ซึสึได้เปรียบกว่า

 

“อึก….!”

 

“เอ้าๆ เป็นอะไรไปเมี้ยว~? เธอมาที่นี่ผู้ช่วยผู้ชายคนนั้นไม่ใช่รึไง ถ้าไม่รีบโค่นเค้าล่ะก็ อีกเดี๋ยวพวกของเค้าจะตามมาสมทบทันนะเมี้ยว?”

 

ซึสึยิ้มพร้อมยั่วยุคุณไอริส

 

“นะ หนอย!”

 

แม้ว่าคุณไอริสจะต้องใช้ดาบสั้นป้องกันหอกยาว แต่ก็ถือว่าป้องกันได้ดี

 

“โคลด์สลี….โอ๊ะ!?”

 

คุณซึกิคาเงะพยายามร่ายเวทย์ใส่ซึสึให้หลับไปอีกครั้ง

แต่ซึสึเปลี่ยนท่าทางและพยายามใช้คุณไอริสเป็นโล่

คุณซึกิคาเงะจึงหยุดการร่ายไป

 

“อึก….โคลด์สลีป!”

 

คุณซึกิคาเงะพยายามร่ายโคลด์สลีปใส่ซึสึอีกครั้ง แต่ซึสึก็หลบได้อย่างง่ายดาย

ครั้งนี้คุณไอริสเสียสมดุลเพราะเธอพยายามหลบเวทย์ของคุณซึกิคาเงะด้วย

คุณไอริสพยามยามเหวี่ยงดาบสั้นแต่ซึสึก็บิดตัวหลบได้

และในจังหวะที่คุณไอริสกำลังจะล้มนั่นเอง

 

“ว้าย….!?”

 

“เสร็จล่ะ!”

 

พอคุณไอริสล้มลงกับพื้น ซึสึพยายามจะขว้างคุไนใส่คุณไอริส

คุณซึกิคาเงะพยายามจะร่ายเวทย์อีกครั้ง แต่มือที่ถือคุไนนั้นเร็วกว่าการร่ายเวทย์

 

“อะ….!?”

 

คุไนที่กำลังจะขว้างไปนั้นกระเด็นออกไปพร้อมมีเสียงโลหะกระทบกันดังขึ้น

มีคนคนนึงกระโดดออกมาและปัดคุไนที่อยู่ในมือของซึสึออกไปด้วยดาบ

 

ซึสึตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณซึกิคาเงะกับคุณไอริสก็ประหลาดใจเหมือนกัน

และผมก็เรียกชื่อเธอคนนั้นออกมาโดยไม่คิด

 

“คุณซิลเวีย!?”

 

“อา เรียว ปลอดภัยดีงั้นเหรอ โล่งอกไปที”

 

คุณซิลเวียยิ้มให้ผม เธอสวมใส่ชุดนักผจญภัยเหมือนปกติแล้ว

และเธอก็ถือเรเปียร์ของเธอไว้ในมือ

 

“คุณซิลเวีย…..ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ? ไม่ใช่ว่าต้องหนีออกไปก่อนแล้วหรอกเหรอ”

 

“พูดอะไรออกมากันน่ะ คิดว่าฉันเป็นผู้หญิงที่จะหนีไปคนเดียวและทิ้งนายไว้ข้างหลังอย่างงั้นเหรอ? แล้วก็นะ….”

 

พอพูดแบบนั้น คุณวิลเวียก็มองลงไปที่คุณไอริสที่อยู่บนพื้น

 

“แล้วก็นะ ลำพังแค่ยัยพวกนี้ชนะไม่ได้หรอกนะ”

 

“วะ ว่าไงนะ!?”

 

“หื้ม ผลลัพธ์มันก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ พวกเธอทั้งคู่น่ะ เป็นนักธนูกับนักเวทย์ไม่ใช่รึไง? การจะสู้กับมือสังหารที่เชี่ยวชาญการสู้กับคนกันเองน่ะ พวกเธอไม่ไหวหรอกนะ”

 

คุณไอริสตะลึงกับคำพูดของคุณซิลเวีย

แล้วคุณไอริสก็ยืนขึ้นและหันไปถามคุณซึกิคาเงะ

 

“ซึกิคาเงะ…..นี่ฉันหูฝาดไปรึเปล่านะ? นี่ฉันได้ยินว่าซิลเวียกำลังจะช่วยเราสู้งั้นเหรอคะ…..?”

 

“อืม เป็นเรื่องหาได้ยากจริงๆนะ”

 

คุณซิลเวียหันหน้ากลับไปหาซึสึโดยไม่สนใจทั้งสองคน

ไม่สิ…..ไม่ใช่ว่าไม่สนใจ เหมือนผมจะเห็นหูเธอแดงนิดหน่อยนะนั่น

 

“เอาล่ะ….ซึสึ นี่เป็นครั้งที่สองแล้วสินะที่เราเผชิญหน้ากันน่ะ?”

 

“เมี้ยว!?”

 

คุณซิลเวียส่งรอยยิ้มน่ากลัวให้ซึสึซึสึเองก็หงอยทันที 

ดูดีๆแล้ว มือของเธอที่ถูกปัดคุไนออกไปก่อนหน้านี้เริ่มแดงขึ้นมา

เธอถือหอกด้วยมือที่สั่นงึ่กๆ

 

….ว่าไปแล้วซึสึเคยโดนคุณซิลเวียหักข้อต่อแขนทั้งสองข้างมาก่อนนี่นา

ดูเหมือนว่าเธอจะยังฝังใจแฮะ

 

“ซะ ซิลเวีย…..เธอ….เธอ…..!”

 

“คราวนี้แค่แขนคงไม่พอแล้วล่ะ รอบนี้ฉันจะทำให้เธอร้องขอชีวิตเลย”

 

“เมี้ยว!?”

 

“หึหึ ถึงครั้งที่แล้วเมย์ฟาจะมาช่วย แต่ครั้งนี้มันคงไม่มีอีกแล้วล่ะ”

 

ดูเหมือนจะไม่ต้องสู้แล้วแฮะ

ซึสึค่อยๆถอยหลังกลับไปทีละนิดด้วยน้ำตา

 

คุณซิลเวียก็ค่อยๆเดินเข้าหาซึสึทีละนิดด้วยรอยยิ้ม

ในตอนที่ผมกำลังดูสองคนนั้น คุณไอริสก็เข้ามาข้างๆและกระซิบที่ข้างหูผม

 

“เอ่อ คุณเรียว….นี่ซิลเวียทำอะไรกับมนุษย์แมวคนนั้นกันน่ะคะ?”

 

“อย่าถามผมเลย……”

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด