บุปผาเคียงบัลลังก์ 214

Now you are reading บุปผาเคียงบัลลังก์ Chapter 214 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 214 ให้รางวัลตนเอง

 

 

ท่าทางการยิ้มของเซียงฉือกับท่าทีที่มั่นใจผ่อนคลาย ทำให้หลิ่วจุ้ยวางใจที่แขวนอยู่ลงไปได้

 

 

นางผลักเซียงฉือเบาๆ ยิ้มอย่างอบอุ่น

 

 

“ผ่านแล้วสินะ ไหนขอข้าดูทีว่าป้ายหน้าตาเป็นอย่างไร”

 

 

เซียงฉืออารมณ์ดีตามหลิ่วจุ้ยไปด้วย แล้วจึงส่งป้ายหยกในมือให้นางดู

 

 

“ใช่แล้ว สอบผ่านแล้วๆ…”

 

 

หลิ่วจุ้ยแย่งป้ายหยกมาแล้วถือพลิกไปมาอยู่ในมือ มองดูอย่างตั้งใจ

 

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างงดงามจริงๆ เซียงฉือ เจ้านี่เก่งจริงๆ!”

 

 

ในระหว่างทางกลับ หลิ่วจุ้ยยกยอเซียงฉือจนเลิศเลอ ทั้งคู่หัวเราะอย่างครึกครื้นตลอดทางกลับตำหนักอวี้หยวน

 

 

ผ่านการสอบรอบแรกไปแล้ว เซียงฉือจึงรู้สึกผ่อนคลายอย่างยิ่ง

 

 

ถัดจากนี้จะเป็นการสอบหน้าพระที่นั่ง และยังมีการสอบแยก ถึงจะบอกว่าเข้มงวดมาก แต่เซียงฉือมีความมั่นใจตัวเองอยู่หลายส่วน การทดสอบหน้าพระที่นั่งเป็นการดูความสามารถโดยรวม การบริหารจัดการงานและความสามารถในการแก้ไขปัญหา

 

 

แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้สำหรับเซียงฉือแล้ว ขอเพียงตอบอย่างระมัดระวัง ย่อมไม่เป็นปัญหาใหญ่

 

 

เซียงฉือที่กลับถึงตำหนักอวี้หยวนแล้ว ไม่ง่ายเลยกว่าจะส่งหลิ่วจุ้ยกลับได้ แล้วนางจึงนำซองจดหมายเล็กๆ ที่มีรูปวาดดอกเหมยสีแดงออกมาจากลิ้นชัก

 

 

สงสัยนักว่าข้างในจะเป็นอะไร นางไม่ต่างกับเด็กน้อยที่พอได้ทำเรื่องที่ควรยกย่องแล้วก็นั่งไม่เป็นสุขโยกไปมา

 

 

“ถือเสียว่ามันเป็นรางวัลชิ้นหนึ่งที่จะให้ตัวเองก็แล้วกัน ข้าต้องรักษาใจไว้ได้แน่ๆ”

 

 

“การไม่ยอมอ่านจดหมายผู้อื่นเหมือนจะขาดการอบรมบ่มเพาะ ท่านปู่รู้เข้าจะต้องไม่พอใจแน่ๆ ใช่ไหม”

 

 

วันนั้นเซียงฉือตัดสินใจแล้วอย่างหนักแน่น แต่วันนี้เมื่อได้รับป้ายผ่านการสอบรอบแรกแล้ว ใจของนางพลันผ่อนคลาย ในเวลาเช่นนี้นางจะคิดถึงเหอเจี่ยนสุยขึ้นมา

 

 

สมัยก่อนเมื่อนางได้รับคำชื่นชมจากท่านปู่ก็จะมีเขาอยู่เป็นเพื่อน วันเวลาเช่นนั้นน่าจะเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุด

 

 

เซียงฉือพลันคิดถึงวันนั้นที่นางอยู่กับสวี่อี้ ทั้งคู่เขียนหนังสือท่องบทกลอนด้วยกัน แต่มักรู้สึกว่ายังขาดสิ่งใดอยู่ ที่จะทำให้ได้มีวันเวลาเปี่ยมความสุขดั่งเช่นประมุขทั้งสามตระกูลในอดีต

 

 

“เอาเถอะ ถือว่าเป็นรางวัลก็แล้วกัน”

 

 

เซียงฉือลังเลอยู่นานกว่าจะเตรียมเปิดจดหมาย นางเปิดซองออกแล้วดึงจดหมายข้างในอย่างเบามือ

 

 

ในซองจดหมายเป็นการดาษจดหมายสีชมพูแผ่นหนึ่ง เมื่อคลี่เบาๆ ก็มีกลิ่นหอมของดอกท้อซ่านกระจายออกมา

 

 

เซียงฉือสามารถนึกภาพความใส่ใจอย่างยิ่งของเหอเจี่ยนสุยในการเขียนจดหมายฉบับนี้ได้

 

 

นางยังไม่ได้อ่านก็หัวเราะพรวดออกมาเสียก่อน

 

 

“เซียงฉือ?”

 

 

ประตูห้องพลันถูกเปิดออก เสียงใสๆ ของหญิงสาวดังผ่านเข้ามาจากข้างนอก เซียงฉือตั้งตัวไม่ทันจึงรีบเก็บจดหมายในมือขึ้นพร้อมกับผ้าเช็ดหน้าอย่างลนลาน

 

 

เมื่อหันกลับไปก็เห็นเซียงซือกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูมองดูเซียงฉืออย่างตะลึง

 

 

“น้องสาวกำลังทำอะไรอยู่ ไม่คิดจะให้พี่เห็นเสียด้วย”

 

 

เซียงซือออกจากตำหนักอวี้หยวนไปได้ช่วงหนึ่งแล้ว คงเพราะวันนี้เป็นวันสอบข้าราชสำนักสตรี ดังนั้นนางกำนัลส่วนใหญ่จากตำหนักต่างๆ จึงได้ถูกปล่อยตัวออกมาได้

 

 

ทำให้เวลานี้เซียงซือมายืนอยู่ที่หน้าประตู สายตานางจ้องแน่วไปยังด้านหลังของเซียงฉือ

 

 

เซียงฉือลอบถอนใจ ถูกคนอื่นเห็นเข้าจนได้

 

 

ถึงเซียงซือจะไม่ใช่คนนอก แต่อย่าเพิ่งพูดออกมาในเวลานี้จะดีกว่า

 

 

“ท่านพี่พูดอะไรแบบนั้น ก็แค่งานที่กุ้ยเฟยสั่งให้ทำน่ะ ท่านพี่นั่งก่อนเถอะ จะมัวยืนอยู่ทำไมกัน”

 

 

เซียงฉือเก็บจดหมายอย่างรวดเร็วแล้วเชื้อเชิญเซียงซือให้นั่งพัก

 

 

เพราะเมื่อครู่ตกใจ ตอนนี้ใจของเซียงฉือจึงยังเต้นโครมคราม แต่ก็พยายามแสดงให้เห็นว่าสงบอย่างสุดกำลัง

 

 

“เชอะ ไม่คิดจะให้พี่ดูก็เลยพูดไปนั่น”

 

 

ถึงเซียงซือจะไม่เชื่อ แต่ก็ไม่ได้เปิดโปงแต่อย่างไร

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด