(อ่าน แปลไทย LN) Otonari asobi The Story Of How A Beautiful Foreign Student Who Lives Next Door Started To Visit My House After I Helped A Lost Little Girl 6.1

Now you are reading (อ่าน แปลไทย LN) Otonari asobi The Story Of How A Beautiful Foreign Student Who Lives Next Door Started To Visit My House After I Helped A Lost Little Girl Chapter 6.1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

“โอนี่จัง ป้อนอ้ามมมมม”

เอมม่า เด็กสาวตัวน้อยผมเงินที่นั่งตักผม มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อ้าปากกว้างรอผมที่กำลังตักไข่ม้วนย่าง 

ผมเป่าไข่ฟู่ๆให้คลายร้อนเพื่อที่มันจะไม่ลวกปากน้อง ก่อนจะป้อนไข่เข้าปากเอมม่า

 ทันทีที่ไข่ม้วนป้อนเข้าปาก เอมม่าเคี้ยวหยับๆก่อนจะกลืน สีหน้าพึงพอใจอย่างเห็นได้ชัด

“อร่อยมั้ยครับ?”

“อืม..”

เอมม่าพยักหน้าตอบรับคำถามผมด้วยท่าทีแจ่มใส

ความซื่อตรงของน้องช่างน่ารักซะจริง

ส่วนเหตุผลที่ว่ารทำไมน้องถึงได้มานั่งตักผมตอนนี้ ต้องย้อนความกลับไปเมื่อก่อนหน้าว่า หลังจากที่เอมม่าเอาแต่ใจแล้วไม่ได้รับการตอบสนอง  ตั้งแต่วันนั้นเอมม่าก็ได้มากินข้าวพร้อมกับนั่งตักผมเป็นต้นมา

**(เหตุการณ์เล่ม1ตอนท้าย ใครจำไม่ได้ก็ย้อนกลับไปอ่านนะค้าบบบ)

หลังจากวันนั้น ชาร์ล็อตเธอรับฟังคำขอเอาแต่ใจของเอมม่า ก็เลยต้องยอมให้น้องมานั่งตักผม

แน่นอนว่า ถ้าน้องอยู่ ชาร์ล็อตก็ต้องอยู่ด้วยกัน ผมก็เลยดีใจมากจนไม่มีความจำเป็นต้องปฏิเสธคำขอของเอมม่า

กระนั้น ผมก็นึกไม่ถึงว่า ไอ้การที่น้องมานั่งตักผม จะกลายเป็นกิจวัตรประจำวันทุกเย็นเลยนะ แต่ผมก็ดีใจอยู่ดีแหละ

“โอนี่จัง หนูอยากกินอันนั้น”

เอมม่าก็ดูจะพึงพอใจกับการที่ได้นั่งตักผมพร้อมกินข้าวด้วยกันกับคุณชาร์ล็อตด้วย 

ผมเองก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องปฏิเสธความต้องการของน้องอยุ่แล้ว ถือว่าวินๆนะ

แน่นอนว่า อาหารที่เด็กผู้หญิงอย่างคุณชาร์ล็อตทำมาให้ ก็เพื่อเอมม่า  ไข่ม้วนย่างไม่ใช่อาหารที่ทำให้เด็กผู้ชายชอบกินอยู่แล้ว

เอาจริงๆ ทุกวันนี้เธอก็ไม่ได้ทำอาหารอังกฤษให้นะ ชาร์ล็อตทำแต่อาหารญี่ปุ่นล้วน

คิดว่าคงเป็นเพราะเธอให้ความสำคัญและเป็นห่วงผมที่เป็นคนญี่ปุ่นมากกว่า

ชาร์ล็อตช่างเป็นคนที่มีจิตใจงดงามจริงๆ

นอกจากนี้ ผลของการที่เธอทำแต่อาหารญี่ปุ่นบ่อยๆทำให้ปัจจุบัน ของโปรดของเอมม่าเป็นไก่คาราอาเกะไปแล้ว

แม้ว่าปกติ เธอจะไม่ค่อยได้มีโอกาสทำเมนูนี้กินเอง แต่ถ้าเมื่อไรที่ผมอยู่ ชาร์ล็อตมักจะทำ เมนูนี้ให้ผมทาน และเอมม่าจะยิ้มแป้นลัลล้ากับเมนูอาหารนี้ตลอด และนี่คือเมนูที่เอมม่าเรียกร้องกับผมว่าอยากกินอันนั้น

“รอแปบนะครับ”

ก่อนผมจะป้อนคาราอาเกะ ผมเป่าไก่คาราอาเกะให้ความร้อนลดลงถึงค่อยป้อนน้อง

เอมม่าที่ได้ทานไก่คาราอาเกะ เคี้ยวหยับๆกลืนลงไปก่อนจะแสดงสีหน้ายิ้มแช่มชื่นพึงพอใจกับอาหารที่ได้กินตะกี้

ผมเห็นเอมม่าพึงพอใจกับอาหารที่ป้อนเลยกะจะตักเพิ่ม ทว่า..

“แฮะแฮะแฮะ”

ดูเหมือนว่าน้องจะอิ่มแล้ว เธอเลยว่ายหน้าปฏิเสธ ก่อนจะหัวเราะน่ารักแล้วค่อยอ้อนมากอดแถวท้องผม

ผมลูบหัวเอมม่าอย่างอ่อนโยน

ทันทีที่ถูกผมลูบหัว เอมม่าส่งรอยยิ้มน่ารักมาให้ แสดงชัดถึงความดีใจที่ถูกลูบหัวให้เห็นทันที

“เอมม่านี่ขี้อ้อนอาโอยางิคุงสุดๆเลยนะคะ”

ชาร์ล็อตที่มองผมกับเอมม่าโดยตลอด ผุดรอยยิ้มอ่อนโยน กล่าวขึ้นมา

สีหน้าท่าทางของเธอ ให้ความรู้สึกว่า เธอเป็นเหมือนแม่ของเอมม่าแฮะ แต่ผมก็ไม่ได้พูดสิ่งที่คิดออกไป

“นั่นสินะครับ เด็กคนนี้น่ารักมากๆเลย”

“ใช่มั้ยล่ะคะ”

“……”

“……”

หลังจากนั้นผมกับเธอไม่ได้พูดอะไร ต่างคนต่างเงียบทั้งคู่

ตั้งแต่วันนั้นที่ชาร์ล็อตจูบผม เดี๋ยวนี้เวลาคุยกันทีไร จะคุยกันสั้นๆแล้วบทสนทนาเหมือนจะถูกตัดจบดื้อๆแบบนี้ทุกที

เอาจริงๆผมก็อยากจะพูดเพื่อต่อบทสนทนานะ แต่ทันทีที่เห็นหน้าของอีกฝั่ง ภาพตอนที่เธอจูบก็จะลอยเข้ามาในหัวทุกทีเลย

และผมเชื่อว่าชาร์ล็อตเองก็คิดไม่ต่างจากผม เพราะเธอเองก็ไม่ได้ต่อบทสนทนาเลยเช่นกัน

“จ…จะว่าไป มะรืนนี้ เอมม่าต้องเริ่มเรียนที่สถานรับเลี้ยงเด็กใช่มั้ยครับ”

ผมนึกหัวข้อ ก่อนจะเปิดบทสนทนาเพื่อทำลายบรรยากาศอึดอัดในตอนนี้

หัวข้อนี้เกี่ยวกับเอมม่าโดยตรง พอกล่าวถึงเธอ ทำให้น้องนึกสงสัยเงยหน้าขึ้นมามองผม.

กระนั้น ด้วยความที่น้องหนังท้องตึง ทำให้ตอนนี้เอมม่ามีท่าทีจะหลับเต็มแก่ น้องเลยเอนหลังผมในท่าครึ่งนั่งครึ่งนอน

ปกติน้องเป็นคนที่กินอิ่มเมื่อไรก็หลับทันที ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อสุขภาพของน้อง เลยไม่ได้ติดใจอะไร

“ใช่ค่ะ เป็นสถานรับเลี้ยงเด็กที่เน้นเด็กต่างชาติโดยเฉพาะค่ะ”

ชาร์ล็อตมองเอมม่าด้วยสายตาอ่อนโยน กล่าวตอบกลับด้วยภาษาญี่ปุ่น

ด้วยความที่เอมม่ายังพูดภาษาญี่ปุ่นไม่คล่อง การส่งเธอไปโรงเรียนที่มีความเชี่ยวชาญในการรับมือกับเด็กต่างชาติ ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ช่วยลดความกังวลได้ดีเลยล่ะ

“อ้อ ถ้าเอมม่าอยู่สถานรับเลี้ยงเด็ก วันมะรืนหลังสอบเสร็จ เห็นได้ข่าวว่าพวกเพื่อนเขาจะจัดงานต้อนรับคุณชาร์ล็อตนะครับ”

ถ้าน้องอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก ถึงมากน้องไว้เลทนิดนึงคงไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ผมคิดว่าเธอควรจะสบายใจและไปงานต้อนรับได้

ทว่า…

“ชั้นคิดว่า…ไม่สะดวกนะคะ”

ชาร์ล็อตตอบกลับด้วยท่าทีไม่สบายใจนัก

“ทำไมเหรอครับ”

“เหตุผลก็ตามที่อาโอยางิคุงเห็นนั่นแหละค่ะว่าเอมม่าเป็นเด็กที่เอาแต่ใจระดับหนึ่งเลย ขนาดที่่ตอนอยู่อังกฤษ ยังไม่มีสถานรับเลี้ยงเด็กที่ไหนเอาอยู่เลยค่ะ”

“แต่นั่นก็คงนานมาแล้วนะครับ คิดว่าที่นี่ก็เอาไม่อยุ่เหรอครับ”

“ค่ะ ….ชั้นไม่อยากให้เอมม่าลำบากค่ะ”

ก็นึกไว้ไม่ผิดแหละว่าชาร์ล็อตต้องให้ความสำคัญกับเอมม่ามาก่อนตัวเองอยู่แล้ว

ผมก็เข้าใจความรู้สึกคุณชาร์ล็อตนะ เป็นผมเองก็ไม่อยากฝากน้องไว้กับสถานรับเลี้ยงเด็กรับผิดชอบยาวๆด้วย

แต่ว่าจะให้ชาร์ล็อตอดทน แบกรับเรื่องการดูแลเอมม่าคนเดียวตลอด นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่ผมอยากเห็นซะด้วยสิ

“ถ้างั้น ตอนฝากเอมม่าไว้กับสถานรับเลี้ยงเด็ก ลองดูสถานการณ์ก่อนมั้ยครับว่าเป็นยังไง บางที เอมม่าอาจจะเข้ากับสถานรับเลี้ยงเด็กก็ได้นะคับ”

 “นั่นสินะ ถ้าเอมม่าสนุกกับที่นั่น เธอคงจะแสดงออกมาชัดเจนแหละ”

คำพูดกับท่าทีเธอสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เห็นได้จากรอยยิ้มของเธอที่ดูไม่สดใสเอาซะเลยหลังจากตอบผม

เอาจริงๆ ผมไม่ห่วงเรื่องเอมม่าเลยนะ

ถึงแม้ว่าคุณชาร์ล็อตจะบอกว่าเอมม่าเป็นเด็กงอแงเอาแต่ใจรับมือยาก แต่ว่าสุดท้าย เธอก็ซี้กับผมได้เลยในระยะเวลาอันสั้น ถ้าเธอไปอยู่สถานรับเลีั้ยงเด็ก อาจจะได้เจอเพื่อนเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันและสนิทกันเร็วก็ได้ ใครจะรู้

 

เอมม่าเป็นเด็กเอาแต่ใจ แต่ไม่ได้แปลว่าเธอไม่ฉลาดนะ 

“เอาเป็นว่าผมจะบอกอากิระเผื่อไว้ละกันว่ากรณีฉุกเฉิน คุณอาจจะไม่สะดวกนะ ก็จะไม่ให้ฝืนใจเธอละกัน”

“ขอบคุณมากค่ะ”

ชาร์ลอตส่งยิ้มสดใสตอบคำพูดผมก่อนจะลงมือเก็บกวาดถ้วยชาม

หลังจากเก็บกวาดเรียบร้อย เธอเดินมาอุ้มเอมม่า ก่อนจะพาน้องกลับไปที่ห้องตัวเอง

เดี๋ยวนี้ กืจวัตรประจำวันก็จะเป็นแบบนี้ตลอด กินข้าวเสร็จ เก็บกวาดถ้วยชาม แล้วพาน้องกลับห้องเลย 

 

เอาจริงๆ ถึงจะมีอารมณ์เสียดายอยู่บ้าง แต่ข้อดีที่เธอทำแบบนี้คือทำให้ผมมีเวลาทบทวนบทเรียนเพิ่มมากกว่าเดิม

ยิ่งวันมะรืนมีสอบด้วย การมีเวลาอ่านหนังสือย่อมดีกว่า

“…หือ มีข้าวปั้นอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไร”

ขณะที่ผมเริ้มเตรียมทบทวนบทเรียน ผมสังเกตเห็นว่าบนโต๊ะมีข้าวห่อสาหร่ายสามก้อนพร้อมจดหมายแนบอยู่ข้างๆโคมไฟ

สงสัยว่าคุณชาร์ล็อตจะเป็นคนทำข้าวปั้นให้ผมมั้ง

ผมนึกสงสัยขณะเปิดจดหมายอ่าน

“ขอบคุณมากนะคะ เรื่องทบทวนบทเรียน อย่าฝืนตัวเองมากเกินไป เป็นกำลังใจให้นะคะ”

เนื้อหากระดาษเขียนด้วยลายมืองดงามตามนี้

“คุณชาร์ล็อตถึงขั้นลงมือทำข้าวปั้นเผื่อให้เราเหรอเนี่ย..”

ผมรู้สึกได้ถึงพลังใจที่ส่งผ่านทางข้าวปั้น เลยเริ่มมีไฟกับการอ่านหนังสือ

“งั้นวันนี้ต้องตั้งใจอ่านหนังสือให้มากกว่าปกติซะแล้ว”

ผลจากอาหารที่คุณชาร์ล็อตทำให้ แม้ว่าเวลาในขณะนี้จะเปลี่ยนเป็นวันรุ่งขึ้น ผมก็ยังคงนั่งทบทวนบทเรียนยาวๆ

******

จบ 6-1

 

กลับมาอีกครั้งนะครับทุกคนกับเล่มสองที่คาดว่าคนคงรอมานาน เราไม่เสียเวลาครับ ถ้างานมาดี เราต้องแปลเดย์วันอยู่แล้ว555

กะจะแปลครึ่งชั่วโมง แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้น่าจะมีงานซดเหล้า ไม่ได้มาแปลแน่ เลยจัดทีเดียวไปเลยเฉียดชั่วโมงครึ่งนะครับ เล่มสองน่าจะสนุกนะ55 เพราะผมก็แปลและอ่านพร้อมพวกคุณนี่แหละ

 

ปล.รู้สึกงานภาพดรอปลงไปเยอะเลยะแฮะ แต่ถ้าเนื้อเรื่องสนุกอยู่ก็ช่างแม่มละกัน..

 

ตอน 6-2 แปลไปชั่วโมงนึง เนื้อหาไม่แย่แน่นอน

อยากอ่านไวกว่าใครนิดหนึ่ง คลิกติดตามเพจผู้แปลได้ตรงนี้เลยจ้า  kurakon 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด