เกิดใหม่อีกครั้ง ฉันเป็นองค์ชาย 504

Now you are reading เกิดใหม่อีกครั้ง ฉันเป็นองค์ชาย Chapter 504 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เจ้ารู้หมดเลยได้อย่างไร

 

 

 

 

ในดวงตาของฟังจั่วฉือยังคงเต็มเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม จู่ๆ จวินชิงเหยียนพลันยิ้มออกมา ฟังจั่วฉือเห็นรอยยิ้มนั้นแล้วในใจก็รู้สึกหวาดหวั่นอยู่บ้าง

 

 

“ถึงอย่างไรก็คัดได้ตั้งมากมายแล้ว ข้าก็ไม่ถือสาถ้าหากจะคัดเพิ่มอีกรอบ และส่งไปที่จือเฉา ให้นางได้พิจารณาดูดีๆ”

 

 

จวินชิงเหยียนมองฟังจั่วฉือซึ่งยิ้มอยู่อย่างเจิดจรัสอย่างมีนัยลึกซึ้งแวบหนึ่ง และก้มหน้าเขียนคัดต่อ

 

 

“…” รอยยิ้มของฟังจั่วฉือแข็งค้างอยู่บนใบหน้า ฉิบ! นี่มันโหดร้ายเกินไปหรือไม่?!

 

 

ฟังจั่วฉือรีบวิ่งแล่นไปเป็นสุนัขรับใช้อยู่ข้างๆ จวินชิงเหยียน นั่งลงยองๆ ยิ้มและเอ่ยเอาใจว่า “ชิงเหยียนเอ๋ย เจ้าดูสิเราสองคนก็คนกันเองทั้งนั้น พวกเรารู้จักกันมาตั้งนานแล้ว ข้าจะหัวเราะเยาะเจ้าจริงๆ ได้อย่างไรกัน?”

 

 

จวินชิงเหยียนคัดตำราด้วยท่าทางสงบเงียบสุขุม ไม่มองฟังจั่งฉือ ถึงขั้นที่ไม่ชายสายตาแลเขาเลยสักนิด

 

 

“ชิงเหยียน ข้าพูดจริงนะ เมื่อครู่ข้าไม่ได้หัวเราะเจ้าจริงๆ! ข้าสาบาน!”

 

 

ยังคงไม่สนใจเขาต่อไป

 

 

ฟังจั่วฉือกัดฟัน ไม่ได้ จะให้จือเฉารู้ว่าหลิงลั่วควบคุมชิงเหยียนอย่างไรไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแล้วชีวิตในอนาคตของเขา ต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะของลูกทั้งสามคนแน่!

 

 

“ชิงเหยียน เจ้าไม่เหมือนกับข้า เจ้ากับนั่วเอ๋อร์ล้วนถูกลงโทษด้วยกัน หากว่าข้าถูกลงโทษ อีเสวี่ยกับหย่าหานต้องหัวเราะเยาะข้าตายแน่!”

 

 

“ท่านพ่อบุญธรรม ที่แท้แม้แต่อีเสวี่ยกับหย่าหานก็ยังกล้าหัวเราะเยาะท่านด้วยรึ โชคดีที่ท่านพ่อกับท่านแม่มีข้าเป็นลูกแค่คนเดียว”

 

 

จวินนั่วเหยียนทำท่าถอนใจอย่างโล่งอก ฟังจั่วฉือกระพริบตา แล้วถึงได้รู้สึกตัวว่า เจ้าเด็กคนนี้กำลัง                       หัวเราะเยาะที่เขามีในฐานะต่ำต้อยในวังนี่นา!

 

 

“นั่วเอ๋อร์ เจ้าอย่าได้ลืมสิ ยามนี้ท่านแม่ของเจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ นี่หากว่าให้กำเนิดออกมาห้าหกคนในคราวเดียว…”

 

 

“ฟังจั่วฉือ!” ไม่รู้ว่าหลิงลั่วมาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังฟังจั่วฉือตั้งแต่เมื่อใด ตำราที่อยู่ในมือตบลงบนศีรษะของฟังจั่วฉือทันที!

 

 

“ไอ้หยา! หลิงลั่ว เจ้าทำอะไรเนี่ย!”

 

 

ฟังจั่วฉือรีบกุมศีรษะของตัวเองที่โดนตีจนเจ็บ และได้ยินเสียงอันไม่สบอารมณ์ของหลิงลั่วแว่วมาข้างๆหู “ไร้สาระ! ก็สมควรแล้วที่เจ้าจะโดนตี! ให้กำเนิดออกมาห้าหกคนในคราวเดียวอะไรกัน?! เจ้าคิดว่าข้าเป็นหมูรึ!”

 

 

“ได้ๆๆ ไม่ใช่ห้าหกคน”

 

 

ฟังจั่วฉือลูบศีรษะของตัวเอง เห็นเจ้าเด็กน้อยหยิบกระดาษเซวียนจื่อใหม่เอี่ยมออกมาหนึ่งแผ่น

 

 

หลังจากฟังจั่วฉือได้เห็นประโยคเหล่านี้ที่เขียนอยู่ข้างบนแล้ว ก็บรรลุฉันทามติร่วมกันได้ในทันที

 

 

เขาหันหน้ากลับไปมองหลิงลั่ว และกล่าวว่า “หลิงลั่ว ข้าเพิ่งจะกลับมาจากคุกที่ขังหวงชือชุน เจ้าเดาสิว่าข้าเห็นอะไร?”

 

 

“หวงชือชุนก็ตายแล้ว”

 

 

น้ำเสียงของหลิงลั่วไม่ใช่ข้อสงสัย แต่เป็นความมั่นใจ

 

 

เพราะนางเองก็รู้ว่าเซียวชวีฟู่ไม่มีทางปล่อยให้มีสิ่งใดๆ รวมทั้งคนใดที่เป็นภัยต่อเขาเอาไว้แน่ แต่ว่าหลิงลั่วคิดไม่ถึงว่า เซียวชวีฟู่จะกระทำการได้รวดเร็วขนาดนี้

 

 

“โอ้!” ฟังจั่วฉือมองหลิงลั่วอย่างตกตะลึงจนพูดไม่ออก “นี่เจ้ายังสามารถเดาได้ด้วยรึ?! แต่ว่าเจ้าคงเดาไม่ออกหรอกว่าใครฆ่าหวงชือชุน!”

 

 

“หือ? ไม่ใช่เซียวชวีฟู่หรอกหรือ”

 

 

หลิงลั่วเลิกคิ้ว คราวนี้ถึงได้ละสายตาออกจากบนตำรา และมองทางฟังจั่วฉือ

 

 

“ไม่ใช่แน่นอน!” ฟังจั่วฉือมองหลิงลั่วอย่างน่าลึกลับ “คนผู้นี้เจ้าก็เคยไปมาหาสู่กับเขา แต่ว่าเจ้าเดาไม่ออกเด็ดขาดว่าเขาคือ…” ใคร

 

 

ยังไม่ได้กล่าวคำว่า ‘ใคร’ ออกมา ก็ได้ยินจากในปากของหลิงลั่ว ที่เปล่งสองคำช้าๆ ออกมาว่า “เหยียนปิน”

 

 

“…” ฟังจั่วฉือว่างเปล่าเหมือนเป็นบอลยางที่ลมรั่วออกมาทันที “เจ้ารู้หมดเลยได้อย่างไร?”

 

 

หลิงลั่วมองฟังจั่วฉืออย่างไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี “เจ้าบอกข้าเองมิใช่หรือ ว่าข้าเคยไปมาหาสู่กับคนคนนั้น และยังเป็นคนที่ข้าไม่มีทางคาดเดาออกเด็ดขาด”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด