เจ้ามังกรพรีเมี่ยม 637 พ่ายแพ้ถล่มทะลาย

Now you are reading เจ้ามังกรพรีเมี่ยม Chapter 637 พ่ายแพ้ถล่มทะลาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฮูว์….!

พอลู่เจียงไห่พูดจบ ไม่ว่าฝ่ายเจียงเฉิง หรือฝ่ายหมิงจู และหรือตระกูลหลวงเยี่ยนตู ล้วนโห่ใส่เป็นกระแสคลื่นอื้ออึง

“ลู่เจียงไห่ แกกล้าทรยศต่อคุณถังหรือ ?”

ทางด้านตระกูลเซี่ย เซี่ยสิงจู๋อารมณ์โกรธขึ้นเต็มหน้า ตวาดใส่ออกไป

หูอีซานตัวแทนตระกูลหู ก็ถลึงตาจ้องด้วยความโกรธ

ขณะนี้เกือบทั้งกลุ่มอิทธิพลในเจียงเฉิงทั้งหมดรู้กันทั่วว่า ตระกูลลู่ก็สยบอยู่กับถังเฉา

คิดไม่ถึงว่า กลับหันหลังให้อย่างรวดเร็ว

ถังเฉาหรี่ตาลง ในส่วนลึกในตา แวบผ่านความเยือกหนาว

พูดตามตรง เรื่องการทรยศของตระกูลลู่ เขาไม่รู้สึกเหนือความคาดเดา

โดยส่วนลึกของเขากับตระกูลลู่ ทางกายภาพก็เป็นการพึ่งพาผลประโยขน์ซึ่งกันและกันเท่านั้น

แต่ก็คิดไม่ถึง ตระกูลลู่จะแปรพักตร์ได้ไวขนาดนี้

ลู่เจียงไห่ก็โกรธจนหน้าเขียว “เซี่ยสิงจู๋ แกไม่ต้องมายกยอข้า สภาพในเวลานี้ ผู้รู้จักประเมินสถานะการณ์คือคนเก่งจริงถึงจะเรียกว่าคนเก่งจริง ข้าก็อยากจะเตือนพวกแกตระกูลเซี่ยกับพวกตระกูลหู ให้ยอมแพ้กันดีกว่า”

ลู่เจียงไห่พูดไปด้วยเสียงอันดัง นำลู่โป๋หาน ตลอดถึงคนตระกูลลู่ทั้งหมดลุกยืนขึ้น

พฤติกรรมนี้ยิ่งทำให้พวกเซี่ยสิงจู๋ยิ่งโกรธหนัก ถมึงตาจนกลมโต

“ตระกูลเซี่ยของข้า ไม่ทางที่จะทรยศกับคุณถัง!”

“ตามใจแก!”

ลู่เจียงไห่ทำเสียงฮึ หลังจากนั้นหันหน้าที่เต็มไปด้วยความยำเกรงมองไปยังไวโอเล็ตที่อยู่บนลิฟท์ “คุณผู้หญิงครับ ตระกูลลู่ของผม ขอยอมสวามิภักดิ์ พร้อมรับใช้ท่านขอรับ”

“อื๋อม์?”

ไวโอเล็ตหัวเราะคิก ๆ มองผู้นำคนแรกที่ยอมสวามิภักดิ์อย่างอารมณ์ดี พูดเนือย ๆ ว่า “ผู้รู้จักประเมินสถานะการณ์คือคนเก่งจริง แต่ว่า พูดแต่ปากไม่มีอะไรประกัน ท่านจะยืนยันได้อย่างไรว่ายอมสวามิภักดิ์ต่อเราจริง ?”

ลู่เจียงไห่สะท้านขึ้นมาทั้งตัว รีบพูดไปด้วยเสียงอันดัง “คุณผู้หญิงครับ ในระยะหลังนี้การขยายตัวของตระกูลลู่ของเราไปได้ไม่เลว เปิดตลาดในหมิงจู ประสบสำเร็จในการรวมทุนอยู่หลายกิจการ ผมยินดียกผลจากกำไรร้อยละ 50 มอบให้เป็นของท่าน เพื่อแสดงความจริงใจจากตระกูลลู่ของเรา”

พุดจบ ยังสั่งให้คนร่างสัญญาขึ้นมาโดยทันที เตรียมไว้อยู่กับมือ

“ลู่เจียงไห่ แกนี่จะยกเอาความหน้าด้านขึ้นมาได้อีกเท่าไหร่ พวกความร่วมมือเหล่านี้ มันล้วนแต่เป็นสิ่งที่คุณถังยกให้แก ไม่อย่างนั้นแกยังจะมีวันนี้หรือ ?”

เซี่ยสิงจู๋ตวาดใส่ไปด้วยใบหน้าที่เต็มด้วยความโกรธ

“หยุดปากของแก!”

ลู่เจียงไห่ตอบกลับด้วยความโกรธ “เป็นคนใครไม่ทำเพื่อตนเอง ฟ้าจะลงทัณฑ์ดินต้องลงโทษ รอบทั้งบริเวณนี้ถูกฝังด้วยระเบิดไปทั่ว นอกจากยอมแพ้ ยังจะมีวิธีไหนอีกไหม ?”

คำพูดประโยคนี้เขย่าความคิดของบรรดาตระกูลทั้งเล็กใหญ่ ไม่เคยมีใครคิดเลยว่า งานประชุมแดนเหนือนี้ ในรายการสุดท้ายจะเป็นการเลี้ยงโต๊ะระเบิด

ชีวิตของคนทั้งหมดนี้ ล้วนถูกกุมไว้ในกำมือของคนผู้หญิงที่ชื่อไวโอเล็ตผู้นี้

เผชิญหน้ากับเรื่องชีวิต คนมักจะบ้าคลั่งกันมาก

“คุณอาเซี่ย พูดตรง ๆ นะครับ ตระกูลลู่ของผม แต่ไหนแต่ไรไม่เคยยอมสยบให้จากใจต่อถังเฉาคนนั้นเลย”

ถึงตอนนี้ ลู่โป๋หานพลันขึ้นเสียงมาบ้าง ใบหน้าของเขาเป็นสีสันของการเย้ยเหยียด

“อะไรนะ?”

พอคำพูดนี้หลุดออกมา เซี่ยสิงจู๋ หูอีซาน ต่งวี่ซู่ ซุนยู่เฟิง กลุ่มอิทธิพลในหมิงจู ต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างหนัก

ลู่โป๋หานพูดอย่างยิ้มเยาะ “ถังเฉามันก็ไอ้พวกบ่าวแต่งเข้า อีกทั้งยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับของตระกูลหลินด้วยซ้ำไป จะมีฐานะอะไรมาให้ตระกูลลู่ของข้าไปยอมสยบ ?”

“ตระกูลลู่ของข้าที่ไปยอมมัน ก็เพราะเพียงจะใช้ประโยชน์จากมันเท่านั้นเอง”

“ยิ่งมีตระกูลที่ไปยอมสยบให้มันยิ่งมาก ก็ยิ่งเป็นประโยชน์ให้ตระกูลลู่ของข้ามากขึ้น มันก็เพียงเป็นเครื่องมือใช้ในการให้เราก้าวขึ้นเป็นซุปเปอร์ตระกูลยักษ์ใหญ่เท่านั้นเอง”

ก็ในเมื่อยอมฉีกหน้าตัวเองแล้ว ก็ไม่ต้องไปแคร์กับการถูกชี้หน้าด่าของมวลชน

พอลู่โป๋หานพูดคำนี้ออกไป พลันเกิดความฮือฮาขึ้นมาทันที

พวกเซี่ยสิงจู๋ หูอีซานต่างตื่นตลึงกันพูดอะไรไม่ออก

ถังเฉาสีหน้าเย็นชา แต่ไม่ได้ปริปากพูด

ลู่โป๋หานส่ายหน้า พูดออกไปว่า “ความจริงแล้วก็คิดว่าจะอยู่จำศีลอีกสักระยะหนึ่ง ไม่คิดว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นแบบนี้ หมดปัญญา ชีวิตสำคัญกว่า ก็ต้องเลือกทางสว่างไว้ก่อน”

“คนเนรคุณคน”

“ทำคุณบูชาโทษ!”

“……”

พฤติกรรมแบบนี้ ทำเอาบรรดาคนตระกูลต่าง ๆ ให้รู้สึกทุเรศ ต่างคนตางสบถด่า

เพียงชั่วเวลาที่ผ่านมา ชื่อเสียงตระกูลลู่จบสิ้นอย่างราพณาสูร

ไวโอเล็ตก็ไม่ห้ามปราม เอาแต่ยิ้ม ฮิ ๆ มองเหตุการณ์ที่คืบหน้า

“ไม่ว่าใครจะว่ายังไง ข้าตระกูลลู่ ขอประกาศยอมแพ้!”

ลู่เจียงไห่กับลู่โป๋หานพูดเสียงเย้ยเหยียด

เซี่ยสิงจู๋พุดเสียงหนาวเยือก “ตระกูลลู่ทำอย่างนี้ ไม่กลัวจะตกเป็นเป้าให้ถูกจ้องยิงจากบรรดาตระกูลทั้งหลายหรือ ?”

“ฮา ฮา ฮา ฮา……”

ลู่เจียงไห่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เป้าให้ถูกจ้องยิง ? ใครกล้า!”

“พวกแกบรรดาตระกูลที่ไม่ยอมสวามิภักดิ์ กำลังจะถูกระเบิดตายกันในใกล้ ๆ นี้แล้ว ยังเอาอะไรมาพูดว่าจะลงมือกับตระกูลลู่ของข้า ? ยุคแห่งตระกูลลู่ของข้ากำลังมาถึงแล้ว!”

นัยตาลู่เจียงไห่นำพามาให้เห็นแต่ความคะนองบ้า

ในระหว่างช่วงเวลานี้ ตระกูลลู่ได้ประสบความสำเร็จในการร่วมมือหลายด้าน กำลังโดยรวม ต้องจัดให้เป็นที่หนึ่งของสามตระกูลยักษ์ใหญ่ อีกมาผนวกกับเหตุการณ์งานประชุมแดนเหนือ แนวโน้มที่ตระกูลเซี่ยกับตระกูลหูต้องล่มสลายเป็นแน่แท้ ตระกูลลู่ของเขา ก็ต้องเป็นใหญ่อยู่หนึ่งเดียว

“ดีมาก!”

ไวโอเล็ตส่งเสียงหัวเราะ ปรบมือให้กับลู่เจียงไห่ “ในฐานะที่ท่านเป็นผู้สวามิภักดิ์เป็นรายแรก เริ่มนิมิตที่ดี ดิฉันจะรับปากท่าน ตระกูลลู่ของท่านไม่เพียงจะเป็นตระกูลหัวมังกรแห่งเจียงเฉิง วันหนึ่งข้างหน้า ยังจะยกกำลังบุกเยี่ยนจิง เข้าไปนั่งแทนที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งในตระกูลราชวงศ์”

บรึม!

พอคำนี้พูดออกไป คนทั้งหมดของตระกูลที่มีต่างผวากลัว

แม้ตัวลู่เจียงไห่เองก็ผวา

พูดแบบนี้มันเป็นการเตือนเรื่องอะไรล่วงหน้า ?

ไม่ใช่ว่าตระกูลลู่จะได้กลายเป็นจ้าว แต่……..ในตระกูลราชวงศ์มีหนึ่งตระกูลจะต้องล่มสลาย

ณ. ขณะนี้ ในพื้นที่มีอยู่ห้าตระกูลหลวงแห่งต้าเชี่ยได้แก่ ตระกูลหลิน ตระกูลลั่ว ตระกูลฉิน ตระกูลถัง ตระกูลเย่ แล้วจะตระกูลไหนกันหนอที่จะล่มสลาย ?

ในเวลาเดียวกัน หัวใจของคนในห้าตระกูลหลวงต่างเต้นกันเร็วผิดปกติ

“ผม ผมยอมแพ้”

“ผมก็ยอมแพ้!”

“ขอได้โปรด อย่าได้ทำร้ายพวกเราเลย พวกเราขอเลือกยอมสวามิภักดิ์”

“……”

ในเวลานี้ก็ได้มีคนในตระกูลเล็กอีกหลายตระกูลทนไม่ไหว เริ่มร้องขอชีวิตกัน

ไวโอเล็ตส่งเสียงหัวเราะพูดว่า “พวกที่ยอมแพ้ ยอมทำงานให้ข้า ตระกูลเล็กก็จะเลื่อนเป็นตระกูลใหญ่ ตระกูลใหญ่ข้าสามารถจะทำให้เลื่อนขั้นอยู่ในระดับตระกูลหลวง พวกที่เดิมอยู่ในตระกูลหลวง ข้าก็จะทำให้เปลี่ยนเป็นตระกูลราชวงศ์แห่งต้าเซี่ย!”

เสียงของไวโอเล็ตเปรียบเหมือนดังเสียงพระผู้ช่วยโลก ทำเอาทุกคนที่อยู่ในที่นั้นหน้าถอดสี

ถังเฉาก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป

ด้วยเหตุที่ไวโอเล็ตเอ่ยถึง ‘ราชวงศ์ต้าเซี่ย’

จากคำบอกเล่าของฉินผู่หยางทำให้รู้ว่าเหนือกว่าเก้าตระกูลใหญ่ในเยี่ยนตู ยังมีราชวงศ์ต้าเซี่ย

พวกเขาปลีกตัวอยู่โดดเดี่ยว จัดให้มีผู้ประสานงานเฉพาะกิจ เรียกว่า ‘สาวพระ’

บรรดาตระกูลทั่ว ๆ ไป น้อยคนที่จะรู้การมีอยู่ของตระกูลราชวงศ์ต้าเซี่ย แต่ไวโอเล็ตกับรู้เรื่องแจ่มแจ้ง จากเหตุนี้ทำให้เห็นได้ว่า หล่อนไม่ได้มีตระกูลราชวงศ์ต้าเซี่ยอยู่ในสายตาเลย

“ขบวนการหว่างเหลี่ยงนี้ ลึก ๆ นั้นจะใหญ่โตขนาดไหน ?”

แววตาของถังเฉาซึมลึก เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกดดัน

ตอนนี้เอง บรรดาตระกูลต่าง ๆ เริ่มออกอาการคลุ้มคลั่งกันทั่ว

ไม่ว่าจะความคิดอยู่รอด หรือยังคิดการขยายงานวงศ์ตระกูล พวกเขาไม่มีทางเลือก

“จากเมืองจินเฉิน ตระกูลหวางขอยอมแพ้!”

“เมืองหนิวเฉิง ตระกูลเว่ยขอยอมแพ้!”

“เมืองลี่เหอ ตระกูลพันขอยอมแพ้”

……

ชั่วขณะนั้น ส่วนมากในส่วนมากของตระกูลเลือกที่จะยอมแพ้

ริมฝีปากที่สะท้อนแสงเงาริมฝีปากของไวโอเล็ตเชิดขึ้น เผยเห็นรอยยิ้มที่เยือกเย็น

หากเป็นไปตามสภาพนี้ หล่อนก็ได้ยึดครองพื้นที่มาได้หลายเมืองแล้ว

“ยังมีใครจะยอมสวามิภักดิ์อีกบ้าง ? เวลาไม่คอยท่าใครนะ………”

ไวโอเล็ตในท่าทีขี้เล่น “อีกหนึ่งนาทีตระกูลที่ไม่ยอมแพ้ ก็คงต้องลงนรกกันละ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด