เพื่อคุณหนูนางร้าย พ่อบ้านคนนี้สู้ตาย!!! 1

Now you are reading เพื่อคุณหนูนางร้าย พ่อบ้านคนนี้สู้ตาย!!! Chapter 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ตั้งแต่เริ่มจำความได้ตัวฉันก็อาศัยอยู่ในห้องสีขาว

ถูกกักขังในกำแพงหนาปิดล้อม เป็นกล่องอันคับแคบและไร้ซึ่งสีสันโดยสิ้นเชิง

ทุกวันฉันจะนอนอยู่บนเตียงโดยไม่สามารถออกไปไหนได้ ไม่อาจออกไปจากห้องสีขาว…ไม่สิ แค่ลุกออกจากที่นอนแข็งๆ นี่ก็ไม่อาจทำได้เสียด้วยซ้ำ ขาของฉันไม่อาจจะก้าวไปไหนได้ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม

ร่างกายของฉันมีเส้นสายระโยงระยางเชื่อมตัวติดกับเครื่องมือบางอย่าง ที่หากว่าฉันจะอยู่ไม่ได้ถ้าขาดการหล่อเลี้ยงจากพวกมัน

ราวกับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องเสียบปลั๊กตลอดเวลาเพื่อที่จะสามารถทำงานได้

บางครั้งคุณลุงในชุดสีขาวจะเข้ามาตรวจร่างกายฉัน บางครั้งพี่สาวในชุดสีขาวจะเข้ามาพูดคุยกับฉัน และบางครั้งคุณป้าชุดสีขาวจะเข้ามาช่วยจัดการธุระส่วนตัว

คุณพ่อและคุณแม่เข้ามาหาฉันเป็นครั้งคราว เป็นเพียงความสุขไม่กี่อย่างสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า

เวลาที่มีผู้คนเข้ามาจะทำให้ห้องสีขาวนี้มีสีสันขึ้นมาบ้างเล็กน้อย

ทว่าเมื่อพวกเขากลับไปห้องสีขาวก็จะกลับไปไร้สีอีกครั้ง

ภายในห้องสีขาวมีเพียงตัวฉันแค่คนเดียว …แค่คนเดียวเท่านั้น

กระนั้นฉันก็ไม่ได้โดดเดี่ยว

แม้ว่าห้องจะไร้ซึ่งสีสันและเต็มไปด้วยเครื่องยังชีพมากมาย แต่อย่างน้อยๆ ก็มีอยู่สิ่งหนึ่ง …สิ่งเดียวที่เป็นสีสันของห้องนี้

บนโต๊ะคร่อมเตียง แผงหน้าจอเล็กๆ ทรงสี่เหลี่ยมวางอยู่ตรงหน้าฉัน หน้าจอเล็กๆ ที่ทำให้โลกทั้งใบของฉันสว่างไสวขึ้นมา

แป้นพิมพ์และเมาส์ที่ทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้ครอบครองโลกไว้ทั้งใบ

คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปเล็กๆ เพียงเครื่องเดียวกลับเปิดโลกกว้างให้ฉันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

หน้าจอสี่เหลี่ยมที่เต็มไปด้วยสีสัน

นับแต่นั้นฉันก็จมดิ่งลงไปในโลกแห่งสีสันภายในห้องขังที่มีเพียงสีขาว

ฉันเรียนรู้โลกภายนอกจากหน้าจอทดแทนการที่ไม่สามารถออกไปได้ด้วยร่างกายของตัวเอง

ขอแค่มีสิ่งนี้โลกของฉันก็กว้างใหญ่ขึ้น จนอยากจะขอขอบคุณเหล่าอัจฉริยะที่คิดค้นและพัฒนาสิ่งสุดยอดเหล่านี้ขึ้นมา

ขอขอบคุณที่โลกนี้มีคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ตค่ะ!

หนัง นิยาย การ์ตูน แล้วก็เกม ฉันใช้เวลากับโลกในหน้าจอแทบจะตลอดเวลาแม้แต่ตอนที่ทานอาหารเหลวๆ รสชาติจืดชืด มีเพียงตอนที่หลับเท่านั้นที่ดวงตาของฉันไม่ได้สะท้องแสงสว่างบนจอ

ผ่านไปหลายปีตัวฉันก็ยังคงคลุกคลีอยู่กับพวกมัน

โชคที่คุณพ่อออกเงินค่าขนมให้ฉันอย่างเต็มที่ ทำให้ฉันสามารถทำอะไรก็ได้ที่อยากทำ และเล่นอะไรก็ได้ที่อยากเล่น

ดูเหมือนว่าฉันจะรับอิทธิพลจากพวกมันมาเยอะพอตัว แต่มันก็ช่วยไม่ได้นี่นา

ฉันไม่รู้ว่าเด็กผู้หญิงคนอื่นเป็นแบบนี้ไหม เมื่อก่อนตอนเด็กๆ ฉันชอบตัวเอกเจ้าหญิงในเทพนิยายมากเลยละ อย่างสโนว์ไวท์ที่ถูกแม่มดใจร้ายสาปหลอกให้ทานแอปเปิ้ลเคลือบยาพิษ หรือซินเดอเรลร่าที่ได้รับพรวิเศษณ์จากนางฟ้าทูลหัวจนได้ไปงานเต้นรำและได้พบกับเจ้าชายรูปงาม

ฉันชอบเรื่องราวโรแมนติกแบบนั้น จินตนาการภาพของตัวเองที่กำลังใส่ชุดเจ้าหญิงและเต้นรำอย่างสนุกสนาน ในฐานะ ‘ตัวเอก’

แต่แล้วพอถึงจุดจุดหนึ่ง ฉันก็เข้าใจว่าความจริงแล้วฉันนั้นไม่ได้ชอบการเป็นการเป็นเจ้าหญิง เพราะเจ้าหญิงซึ่งก็คือ ‘ตัวเอก’ คือคนที่ต้องไหลไปตามชะตากรรมที่ถูกกำหนดอย่างเลี่ยงไม่ได้ และฟันฟ่าอุปสรรคจนได้พบกับความสุขในจบ

ฉันน่ะไม่ชอบอะไรแบบนั้นเลย

สิ่งที่ฉันชอบไม่ใช่ตัวเอกแต่เป็น ‘เรื่องราว’ เพราะงั้นถึงได้ชอบ ‘ตัวร้าย’ เพราะตัวร้ายน่ะทำให้เรื่องราวสนุก ยิ่งตัวร้ายยอดเยี่ยมเท่าไหร่เรื่องราวก็จะยิ่งเข้มข้น

ถ้าหากไม่มีตัวร้ายเรื่องราวก็คงจะน่าเบื่อ

สมมุติถ้าในเรื่องซินเดอเรร่า ไม่มีตัวละครแม่เลี้ยงใจร้ายกับพี่สาวนิสัยเสียอยู่ละก็เรื่องราวก็จะไม่มีอุปสรรค ไม่มีขวากหนามให้ก้าวผ่าน ดำเนินไปอย่างจืดชืด ไม่น่าสนุกเลยแม้แต่นิดเดียว

เพราะมีแม่เลี้ยงใจร้ายและพี่สาวนิสัยเสียไงละ ซินเดอเรลร่าถึงได้พบพานเรื่องราวและได้ครองคู่กับเจ้าชายรูปงาม

เหตุผลเหล่านั้นทำให้ฉันหลงใหลใน ‘ตัวร้าย’ มากกว่า ‘ตัวเอก’

ที่สำคัญตัวร้ายน่ะไม่ว่าเมื่อใดก็จะทำสิ่งที่ตนต้องการ เพื่อเติมเต็มความปรารถนา ต่อให้สิ่งนั้นจะเป็นสิ่งที่ผิดก็ตาม

สำหรับฉันแล้วนั่นมันเท่สุดๆ ไปเลย

ถ้าให้เลือกระหว่างตัวเอกกับตัวร้ายละก็ ฉันขอเป็นตัวร้ายดีกว่า

นับแต่นั้นฉันก็ยึดถือตัวร้ายทุกคนเป็นไอดอล อ๊ะ… แต่ว่าต้องเป็นตัวร้ายที่มีบทบาทน่าสนใจนะ พวกตัวร้ายดาษดื่นสำหรับฉันเป็นแค่พวกลูกกระจ๊อกเท่านั้นแหละ

แต่ในบางกรณีก็มีเรื่องราวที่ตัวเอกเป็นวายร้ายเหมือนกัน อย่างตัวเอกเรื่องที่กัดมือแล้วแปลงร่างเป็นยักษ์ หรือตัวเอกที่มีดวงตาในการบัญชาจิตใจผู้คน หรือตัวเอกที่มีสมุดฆ่าคนกับคู่หูยมทูตชอบกินแอปเปิ้ล

ในแต่ละวันกิจวัตรของฉันก็วนๆ อยู่กับสื่อมีเดียจำพวก หนัง นิยาย การ์ตูน แล้วก็เกมพวกนี้แหละ ถ้าเริ่มเอียนสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็จะวนไปหาอีกสิ่งหนึ่ง

ครั้งนี้เองก็เหมือนกัน ฉันเปิดไปหน้าร้านค้าเกมบนอินเตอร์เน็ตมองหาเกมที่ดูจะน่าสนใจ

ฉันเลือกที่จะมองข้ามเกมแนวแอคชั่นต่อสู้หรือพวกแนวยิงปืน เพราะล่าสุดฉันกำลังหลอนกับคำว่า [YOU DIED] จากเกมแอคชั่นแฟนตาซีที่ฉันนั่งเล่นไปกว่า 100 ชม.

เอาจริงๆ ฉันเล่นมันมากเกินไปจนคุณลุงชุดขาวต้องรีบมาดูอาการให้เลยละ โดยเฉพาะตอนที่สู้กับบอสผู้หญิงน่ะ…นรกชัดๆ แต่ก็เอาชนะมาจนได้ละนะ ถึงจะใช้เวลากว่า 5 ชม. ในการปราบบอสตัวเดียวก็เถอะ

ฉะนั้นต่อไปฉันคงไม่เล่นเกมที่เหมือนบันทอนอายุขัยลงทุกนาทีแบบนั้นแล้วละ หันมาเล่นเกมสบายๆ ไม่หนักสมองจะดีกว่า

ที่สำคัญเลยคือขออะไรที่เล่นจบได้ในวันเดียวจะดีที่สุด

และแล้วฉันก็ได้พบกับรูปปกที่น่าสนใจของเกมเกมหนึ่ง มันเป็นภาพของสาวน้อยน่ารักที่ยืนอยู่ท่ามกลางชายหนุ่มรูปงามหลากสไตล์

งานศิลป์ของเกมนี้มันดึงดูใจของฉันอย่างบอกไม่ถูก

ถึงจะแปลกใจที่อยู่ดีๆ รูปโฆษณาของเกมก็เด้งขึ้นมาเองโดยที่ฉันยังไม่ได้แตะต้องอะไรก็เถอะ แต่งานภาพอันสวยงามนั่นดึงดูดให้ฉันคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดต่างๆ รวมทั้งรีวิวของเกม น่าเสียดายที่เกมนี้เพิ่งเปิดวางขาย จึงไม่มีรีวิวให้อ่าน

[เมจิกคอลเมจเลิฟเลิฟเวอร์แฟนตาซีอาคาเดมี่ : คว้ารักจับใจนายจอมเวทสุดหล่อในรั้วโรงเรียนเวทมนตร์แฟนตาซี]

อืม… เป็นชื่อเกมที่ยาวเกินจำเป็นแถมยังไม่มีเซนต์ในการตั้งชื่อเลยสักนิด อย่างกับว่าตั้งมางั้นๆ ให้ดูยาวๆ สะดุดตาคนที่ผ่านมาเห็นงั้นแหละ

เอาเป็นว่าฉันจะเรียกมันย่อๆ ว่า ‘เมจเลิฟ’ ก็แล้วกัน

แค่ชื่อก็เดาได้แล้วว่านี่จะเป็นเกมแนวไหนไปไม่ได้เลยนอกเสียจาก ‘เกมจีบหนุ่ม’ เกมแนวเนื้อเรื่อง แบบมีตัวละครให้จีบ สามารถเลือกเส้นทางเดินเรื่องและฉากจบของตัวเองได้

แต่ก็นะ แค่รูปหน้าปกกับคำโปรยมันไม่เพียงพอหรอก

ยังไงฉันก็ยังพอมีเวลาว่างเหลืออยู่ กดซื้อมาเล่นเลยก็แล้วกันเนอะ

ไม่นานภาพของหน้าเมนูหลักก็ปรากฎในสายตา หลังจากตั้งค่าอะไรต่างๆ เสร็จฉันก็กด [New Game]

เซ็ตติ้งเกมนี้อยู่ในโลกแฟนตาซีที่มีเวทมนตร์ อมนุษย์ ปีศาจ และมอนเตอร์ แต่ขณะเดียวกันวิทยาศาสตร์ก็กำลังพัฒนาควบคู่กันไปไม่ได้ถูกมองข้าม

ประเทศที่ใช้ดำเนินเนื้อเรื่องมีชื่อว่า ‘อาณาจักรแชลเทอร่า’ หนึ่งในอาณาจักรมหาอำนาจในทวีป ‘นูโรปา’ ผลจากการเป็นผู้ชนะมหาสงครามเมื่อหลายร้อยปีก่อน

การออกแบบมีภาพลักษณ์ใกล้เคียงกับสหราชอาณาจักรประมาณศตวรรษที่ 17-19  ช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหะกรรมไปจนถึงยุควิคตอเรีย

สถาปัตยกรรมบ้านเมืองที่น่าจะได้แรงบรรดาลใจมาจากเมืองลอนดอนในศตวรรษก่อน แต่การเพิ่มกลิ่นอายความเป็นแฟนตาซีอย่าง เวทมนตร์ อมนุษย์ และมอนเตอร์ ทั้งยังมีความเป็นสตีมพังค์เล็กน้อย เช่น เครื่องจักรไอน้ำ รถไฟ และเรือเหาะ แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งความหรูหราและความศรีวิไลซ์แบบแฟนตาซี

ด้วยความที่เวทมนตร์และวิทยาศาสตร์ผสานรวมกันจึงมีดีไซน์ทิวทัศนของเมืองที่ตระการตา ถ้านึกภาพไม่ออกก็อารมณ์ประมาณเมืองชั้นบนจากซีรีย์อนิเมชั่นเกม MOBA ของค่ายเพลงค่ายหนึ่งนั่นแหละ

ตัวเนื้อเรื่องเล่าเกี่ยวกับ ‘นางเอก’ ซึ่งเป็นสาวน้อยผู้รักในความยุติธรรม ได้เข้าศึกษาในรั้วโรงเรียนเวทมนตร์ พร้อมกับหนุ่มหล่อมากหน้าหลายตา การพบพานของโชคชะตา นำไปสู่เรื่องราวในตอนจบที่แตกต่างกับไปตามเส้นเรื่อง

ฉากเปิดเรื่องมีการแนะนำวิธีการเล่นพื้นฐาน รวมไปถึงการปูเนื้อหาต่างๆ ที่จำเป็น

ค่อนข้างเป็นอะไรที่เบสิคสำหรับเกมจีบหนุ่มละนะ จำพวกการแนะตัวละคร ระบบการเล่น เงื่อนไขอะไรต่างๆ พวกนี้

เล่นไปได้สักพักฉันก็ได้รู้จักกับตัวละครหลักครบทุกคน และแน่นอนว่ารวมถึง ‘นางร้าย’ ซึ่งเป็นศัตรูตัวหลักของนางเอกในเกมนี้

ฉันค่อนข้างตื่นเต้นเลยละเพราะนางร้ายคนนี้มีดีไซน์โฉบเฉี่ยวโดนใจฉันสุดๆ

ฉันเริ่มต้นจากการจีบตัวละครหลักคนแรกที่ฉันถูกใจ เขาเป็นหนุ่มหล่อผมสีบรอนด์ตาสีฟ้า ลักษณะนิสัยดูเป็นคนเงียบขรึม

ตั้งโค้ดเนมให้เขาว่า [เจ้าชายเย็นชา] จะได้จำง่ายๆ

ฉันใช้เวลาเล่นรูทเนื้อหาของ [เจ้าชายเย็นชา] จนเคลียร์ได้ภายใน 2 ชั่วโมงนิดๆ ถือว่าใช้เวลาไม่นานมาก คงเพราะฉันเป็นคนอ่านหนังสือเร็วด้วย

ตัวเกมเพลย์นอกจากการเลือกประโยคสนทนากับหนุ่มหล่อแล้ว ยังมีมินิเกมเสริมมาให้พักแก้เลี่ยนจากเนื้อเรื่องหลักด้วย มีตั้งแต่แนวพัสเซิลไขปริศนา แนวแข่งขันความเร็วอย่างขี่ม้าหรือเรือเหาะ แนวเกมการ์ดอย่างพวกไพ่กับลูกเต๋า

แต่มินิเกมที่เพลินที่สุดก็คืออันสุดท้ายนี่แหละ ‘ดันเจี้ยนปาร์ตี้’

‘ดันเจี้ยนปาร์ตี้’ คือมินิเกมที่สามารถเลือกหนุ่มหล่อตัวละครหลักที่ค่าความสัมพันธ์สูงถึงระดับหนึ่งมาตั้งปาร์ตี้ผจญภัยเพื่อออกสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในโลก

ถึงก่อนหน้านี้ฉันจะบอกว่าเบื่อเกมแนวแอคชั่นต่อสู้ก็เถอะ แต่มินิเกมอันนี้มันออกแนว วางตัวละครให้ออกไปสู้เองอัตโนมัติมากกว่า สิ่งที่เราทำก็คือการวางแผนจัดการทรัพยากร การพัฒนาตัวละคร และเลี่ยงความเสี่ยงในการสำรวจ

การได้นั่งดูตัวละครออกไปสู้โชว์เท่ ทั้งยังได้เห็นโมเม้นระหว่างตัวละครหนุ่มหล่อระหว่างสู้ อย่างคนที่กัดกันตลอดเวลา หรือคนที่เป็นห่วงเป็นใยจนชวนจิ้นไม่ไหว ถือว่าเป็นอะไรที่เล่นได้เพลินๆ

ซึ่งรางวัลจากมินิเกมนี้นอกจากจะได้รับเงินที่ใช้ในการซื้อไอเทมนู่นนี่แล้ว ยังมีโอกาสได้รับไอเทมสำหรับปลดล็อกฉากเลิฟซีน รวมถึงฉากจบลับได้อีกด้วย นับว่าคุ้มค่าที่จะเล่นเลยละ

สิริรวมหลังจากเล่นจบรูท [เจ้าชายเย็นชา] ขณะที่กำลังนั่งมองฉากจูบสุดท้ายอันเร่าร้อนท่ามกลางซากปรักหักพัง

ฉันขอสรุปได้เลยว่านี่เป็นเกมจีบหนุ่มที่ดีพอตัวเลยละ

งานภาพและการออกแบบที่สวยงาม

เพลงที่แต่งมาได้อย่างไพเราะและบรรเลงได้เหมาะสมกับสถานการณ์

ระดับความยากกลางๆ พื้นฐานเกมจีบทั่วไป ถ้าไม่ได้เลือกบทสนทนาแบบไร้หัวคิดเกินไปยังไงก็ผ่าน

มินิเกมสำหรับเปลี่ยนอารมณ์ที่ออกแบบมาได้โอเค เล่นพอสนุกแก้ขัดได้

เนื้อเรื่องมีข้อเสียหลายส่วน แต่ก็ถือว่าใช้ได้สำหรับเกมแนวนี้ ถึงจะมีส่วนแหม่งๆ บ้างก็เถอะ แต่ฉากไคลแม็กซ์นี่ถือได้ว่าตราตรึงใจพอควร

ประชาชนถูกเข่นฆ่าและประเทศถูกทำลายจนแทบล่มสลาย แต่ปราบใดที่ยังมีความหวัง มนุษยชาติก็จะกลับมาตั้งหลักอีกครั้ง

เป็นฉากจบที่สวยงามทีเดียว ฉันให้คะแนน 7 เต็ม 10 เลย หลายๆ อย่าง อยู่ในเกณฑ์ที่ดีควรค่าแก่การเล่นละนะ

ถ้าไม่นับเรื่องน่าหงุดหงิดนิดหน่อย… ไม่สิ ต้องบอกว่าโมโหสุดๆ เลยต่างหาก เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ฉันไม่ชอบเลยในเกมนี้

เนื้อเรื่องไม่เข้มข้นยังพอเข้าใจได้ แต่แค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่ยังไงก็ทำใจรับไม่ได้

“นางร้ายเกมนี้บทจืดเกินไปแล้ว!”

ทั้งๆ ที่มีตัวละครที่บทน่าสนใจหลายตัวแท้ๆ แล้วไหงบทบาท ‘นางร้ายหลัก’ ที่มีผลเกี่ยวข้องกับเนื้อหาความรักมันถึงได้จืดชืดแบบนี้เนี่ย!

นี่มันเกมจีบหนุ่มไม่ใช่รึไง ทำไมบทนางร้ายถึงได้เบาบางกว่าลูกน้องตัวร้ายล่ะ ปกติต้องเน้นหนักไปที่นางร้ายไม่ใช่รึไง! ทั้งๆ ที่เป็นนางร้ายนางอิจฉาแท้ๆ แต่บทจะร้ายก็ร้ายไม่สุด! ทุกการกระทำเหมือนจะมีเหตุผลแต่ก็ไม่! หลอนเป็นลาสบอสนะยะ! ลาสบอสน่ะเข้าใจมั้ย ตั้งใจทำงานหน่อยสิ! ถ้านางร้ายไม่ร้ายแล้วใครจะร้ายล่ะ!

แล้วยังมีหน้ามาแนะนำตัวละครว่า “เธอเป็นหญิงสาวผู้หยิ่งทนง เย่อหยิ่ง แต่ก็มีไหวพริบและความฉลาดเป็นกรด” ทั้งที่อธิบายอย่างนั้นแท้ๆ แต่ไม่มีบทฉลาดๆ ออกมาให้เห็นเลยนะ!

ทั้งคาแร็คเตอร์ ทั้งนิสัย ทั้งบทบาท ห่วยบรม! ไม่สมควรมีป้ายชื่อนางร้ายโปะอยู่บนหน้าเลยสักนิด ขอโทษมาเลยนะขอโทษนางร้ายทุกคนในเรื่องราวอื่นๆ มาเดี๋ยวนี้เลยนะ!

ที่แย่ที่สุดคือตอนสุดท้ายยังตายแบบโง่ๆ ไม่ได้สร้างความอิมแพ็คอะไรเลย!

ทั้งๆ ที่ดีไซน์ออกจะดีแท้ๆ …น่าเสียดายชะมัด

หวังว่าท่านผู้พัฒนาจะมองเห็นส่วนนี้และปรับปรุงบทของนางร้ายในภาคหน้านะคะ …ถ้าจะทำต่อละก็นะ

เอาล่ะ ถัดจากนี้ไปคือการไล่เคลียร์รูทหนุ่มหล่อคนอื่นๆ แล้ว!

หลักจากนั้นฉันก็ใช้เวลาชีวิตไปกับการด่ำดิ่งเส้นเรื่องอื่นๆ และเนื่องจากสามารถโหลดเซฟวนซ้ำกลับมาได้จึงใช้เวลาเคลียร์เพียงไม่นานเท่าที่คิด

ก่อนอื่น ฉันขอถือวิสาสะตั้งโค้ดเนมให้หนุ่มหล่อตัวละครหลักทุกคนเลยแล้วกัน จะได้จำง่ายๆ

เริ่มจาก [เจ้าชายเย็นชา]

แล้วก็ตามด้วย [จอมเวทย์เพล์บอย]

ต่อด้วย [แยงกี้สายซึน]

จากนั้น [คุณน้องคิ้วบอย]

และจากนั้น [พ่อค้าจริงจัง]

ตามด้วย [อัศวินแสนดี]

ถัดไป [นักสู้เลือดร้อน]

อีกคนคือ [ดนตรีเอื่อยเฉื่อย]

ต่อไป [นักวิทย์จอมคลั่ง]

และสุดท้าย [แดดดี้กล้ามโต]

โค้ดเนมหนุ่มหล่อทั้ง 10 คนที่มีความแตกต่างหลากสไตล์กันไป

และหลังจากที่ฉันได้ลองชิมทุกรูทแล้ว ก็ขอยืนยันได้เลยค่ะว่างานดีพรีเมี่ยมร์ทุกคน โดยเฉพาะตัวละครเมนหลักของฉันที่เรียกได้ว่าดีงามที่สุด เป็นตัวละครที่ฉันชอบที่สุดในเกมนี้เลยค่ะ

แต่ละคนมีการดำเนินเรื่องและธีมที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าไคลแม็กซ์จะมีองค์ประกอบคล้ายๆ กัน เพราะมีอีเวนท์ใหญ่สุดท้ายร่วมกัน แต่การกระทำในรูทของแต่ละคนก็ต่างกัน

ส่วนระดับความยากในการจีบทุกคนถือว่าพอๆ กัน ไม่ได้มีใครจีบยากไปกว่าใคร

ในที่สุดฉันก็ได้ทำการเคลียร์รูทเกมนี้ไปเกือบจะหมดแล้ว ทั้งจบแบบดีและจบแบบแย่

ตอนนี้เหลือเพียงฉากจบแบบเดียวที่ฉันยังไม่อาจปลดล็อคได้ แม้ว่าจะรีเซฟมามากกว่า 20 ครั้ง แต่ฉากจบก็ยังคงซ้ำของเดิมที่เคยได้

ทั้งๆ ที่คิดว่าสามารถเคลียร์ฉากสุดท้ายได้ในไม่กี่ชั่วโมง แต่กลับต้องเสียเวลาตั้ง 8 ชั่วโมง กว่าจะหาทางมาลงฉากจบสุดท้ายนี้ได้

[Ture Ending]

ในที่สุดตัวอักษรสีสดใสปรากฎขึ้นกลางจอ

“แค่จะทำฉากรีเวิร์สฮาเร็มทำไมถึงได้อยากเย็นแสนเข็ญแบบนี้กันเนี่ย”

ความอัดอั้นตลอด 8 ชั่วโมง ทำเอาฉันตะโกนลั่นออกมา

ใช่แล้ว ฉากสุดท้ายที่ว่านั่นคือฉาก รีเวิร์สฮาเร็ม หรือเรียกสรุปว่า ‘สาวน้อยวัยใสจับหนุ่มหล่อทุกคนมาทำสามี’ นั่นเอง

Ture Ending  ของ [เมจเลิฟ] เป็นฉากจบที่ทำได้ยากที่สุด ด้วยโจทย์ที่เข้าขั้นโหดหิน แถมในเน็ตก็ไม่มีเฉลยให้ด้วย

ถ้าให้เทียบกับเส้นเรื่องปกติที่จีบแค่คนเดียว ฉากรีเวิร์สฮาเร็มนี่โคตรยาก แตกต่างกันระดับฟ้ากับเหว

ต้องเล่นมินิเกมฟาร์มรางวัลและไอเทมจนครบ ไหนจะต้องบาลานซ์ความสัมพันธ์กับหนุ่มหล่อทั้ง 10 คนไปพร้อมกัน ห้ามมีการลำเอียงเด็ดขาด เพราะถ้าบาลายซ์พังละก็ หนุ่มหล่อทุกคนจะตีกันและนำไปสู่ Bad Ending ที่นางเอกกลายเป็นยัยร่านถูกทุกคนรังเกียจจนต้องไปทำงานขายบริการทางเพศ

ถ้าสามารถรักษาระดับความสัมพันธ์กับทุกคนไว้ได้ก็คือฮาเร็มหนุ่มหล่อ แต่ถ้าทำไม่ได้ก็จะกลายเป็นแค่ยัยร่าน

เส้นกั้นบางๆ ระหว่าง ฮาเร็มหนุ่มหล่อ กับ ยัยร่านผู้ชาย ห่างกันน้อยกว่ามิลลิเมตรด้วยซ้ำ

คิดว่าฉันรู้สึกสนุกที่ต้องมองดูนางเอกขายตัวให้ลุงอ้วนในตอนจบเป็นสิบๆ ครั้งนักรึไง!? โหดร้ายเกินไปแล้วย่ะ! ใครมันเป็นคนคิดบทสรุปอันนี้เนี่ย! อยากทำร้ายจิตใจผู้เล่นที่อยากทำรูทฮาเร็มขนาดนั้นเลยเหรอ!

ฉันต้องลองผิดลองถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จดบันทึกข้อมูลค่าสถิติ ระมัดระวังค่าความสัมพันธ์ของทุกตัวละคร จนในที่สุดก็ทำสำเร็จ ฉากจบแบบรีเวิร์สฮาเร็มที่ฉันตะบี้ตะบันเล่นจนลืมดูสุขภาพตัวเอง!

แม้จะเหนื่อยก็เถอะ แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมาก็คุ้มค่า เพราะว่าทุกคนได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุขยังไงล่ะ!

ถ้าเป็นรูทอื่นๆ ที่ไม่ใช่รีเวิร์สฮาเร็ม จะมีไคล์แม็กร่วมกันคืออีเว้นท์เทพมารถล่มอาณาจักร มีผู้คนถูกฆ่าไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ มีกระทั่งตัวละครหลักบางตัวที่ยอมเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องพวกพ้อง

แต่ทว่า Ture Ending  ฉากนี้ ไม่มีใครตายเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่นางร้ายที่มีบทโคตรห่วยก็ยังรอด ทุกคนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขหลังจากจบศึกสุดท้าย เป็นสุดยอดฉากจบที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อและน้ำตาของฉันคนนี้เลยเชียวละ!

“จบเสียที…”

รู้สึกเหมือน HP กำลังจะหมดหลอดเลยค่ะ นี่สินะที่เรียกว่าแรงฮึดลูกสุดท้าย

ฉันปล่อยมือจากคีย์บอร์ดแล้วเอนตัวลงนอนบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า

จริงๆ ระหว่างเล่นเกม ฉันก็พักผ่อนตรงเวลาและนอนอย่างเพียงพอนะ แต่การนั่งวนลูปเล่นเกมนานๆ แบบนี้ทำเอาล้าทั้งกายล้าทั้งใจเลย

แต่ถึงงั้นพอได้ทำจนสำเร็จตามเป้าก็ไม่ได้แย่นะ

จะเปลี่ยนคะแนนให้เป็น 8 เต็ม 10 ก็แล้วกัน แต่ยังไงฉันก็จะขอหักคะแนนเรื่องบทนางร้ายอยู่ดี ก็อยากที่ว่าบทนางร้ายเกมนี้มันโคตรห่วยเลย ไม่ได้ทำอะไรให้เนื้อเรื่องสนุกเลยสักนิด

เล่นซะเต็มอิ่มเลยละ ถึงตอนวนเล่นซ้ำๆ จะเบื่อๆ บ้าง แต่พอรู้ว่าไม่ต้องเล่นเกมนี้แล้วทำเอาแอบเหงานิดๆ แฮะ

ฉันปล่อยร่างกายให้พักสักหน่อย ดูเหมือนว่าฉันจะฝืนร่างกายตัวเองมากเกินไปแล้ว

ฉันใช้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีไปจนหมดแล้ว

ชักรู้สึกเวียนหัวนิดๆ แล้วสิ

ในตอนนั้นเองคุณลุงชุดขาวก็เดินเข้ามาในห้อง

“ว่าไง เล่นเกมจบแล้วเหรอ”

เขาเข้ามาหาฉันและถามเกี่ยวกับสุขภาพเฉกเช่นทุกครั้ง

“ค่ะ จบแล้วค่ะ”

ฉันตอบด้วยรอยยิ้ม โดยที่คุณลุงชุดขาวยืนมองฉันอยู่ไม่ห่าง

“เท่านี้พอแล้วรึ…”

“ค่ะ ขอบคุณที่ยอมปล่อยให้ทำตามใจนะคะ”

ท่าทางของเขาเหมือนกับกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็เก็บเงียบเอาไว้

เขาเพียงมองหน้าฉัน

ตัวฉันผู้ไร้ซึ่งสีสันแม้แต่สีเดียว ตัวฉันผู้มีแต่สีขาวอันซีดเซียวและซูบผอม

ฉันยิ้มกลับไปให้เขา

“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูของตัวนอนก่อนนะคะ”

สีหน้าของฉันดูอิดโรยเกินไปรึเปล่านะคุณลุงชุดขาวถึงได้มองฉันแบบนั้น

“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ คุณหมอ”

“อืม…ราตรีสวัสดิ์”

ฉันหลับตาลง

น่าแปลกที่ฉันไม่เสียใจ หรือเพราะฉันเสียใจมามากเกินไปแล้วกันนะ

ก่อนจะจมลงสู่ห้วงแห่งความมืด รู้สึกราวกับจะได้ล่องลอยไปยังที่ไหนสักแห่ง

รู้ตัวอีกทีฉันก็ตื่นขึ้นมาในห้องสีขาวอีกครั้ง แต่คราวนี้มีผู้คนกำลังยืนรายล้อมรอบตัวฉัน

คุณพ่อที่กำลังยืนตัวสั่น คุณแม่ที่กำลังพยายามกลั้นน้ำตา คุณลุงชุดขาวที่มีสีหน้าและแววตาตาที่หม่นหมอง

ทุกคนดูกำลังสับสนวุ่นวาย พยายามพูดอะไรบางอย่างกับฉัน แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่อาจได้ยินเสียแล้ว

ฉันอยากรู้ว่าพวกเขาพูดอะไร แต่ร่างกายของฉันนั้นไม่อาจทำสิ่งใดได้แล้ว แค่จะขยับริมฝีปากตอบกลับไปก็ทำไม่ได้

ห้องที่ไร้สีสัน เกิดสีสันมากมายเกิดขึ้นมาเพียงชั่วครู่ ก่อนจะแปรเปลี่ยนซีดเซียวทีละน้อยกระทั่งดำสนิท

เสียงของเครื่องจักรเงียบลง และสายระโยงระโยงระยางค่อยๆ ขาดออกจากตัวฉัน

ตัวฉันที่ยังพอหลงเหลือมองดูผู้คนที่อยู่รอบตัว

ไม่มีสายที่น่ารำคาญอีกต่อไปแล้ว ไม่มีเสียงของเครื่องจักรที่น่ารำคาญอีกแล้ว ไม่มีภาพแสดงกราฟสัญญาณชีพที่แผ่วเบาอีกแล้ว ไม่มีสิ่งใดอีกต่อไปแล้ว

ฉันพอใจกับตรงนี้แล้วละ 

แม้จะแอบรู้สึกเสียดายในหลายๆ อย่าง เช่นที่ไม่อาจรู้ได้ว่าสมบัติสุดท้ายวันพีชคืออะไร หรืออดดูหนังรวมซุปเปอร์ฮีโร่ภาคใหม่ แต่ฉันก็ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว

เพราะฉะนั้นขอบคุณนะคะ

ขอบคุณที่ให้เวลาฉัน และมาคอยยืนส่งไม่ให้ฉันต้องรู้สึกโดดเดียว

ฉันปล่อยจิตใจให้ล่อยลอยออกไปไกลแสนไกล

วินาทีนั้นฉันหวนคิดถึงนิทานที่คุณแม่เคยอ่านให้ฉันฟัง

เรื่องราวของซินเดอเรลร่าหญิงสาวอาภัพผู้ถูกกลั่นแกล้งโดยแม่เลี้ยงและพี่สาว แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้รับโอกาสจากนางฟ้าทูลหัว ร่ายมนต์วิเศษณ์ให้เธอได้สวมชุดเดรสสวยงามและขึ้นรถม้าฟักทองไปงานเต้นรำ จนเธอได้พบรักกับเจ้าชายรูปงามและมีความสุขในตอนจบ

แม้ว่าฉันจะชื่นชอบนางร้ายเป็นที่สุด กระนั้นบางครั้งฉันก็รู้สึกอิจฉานางเอก

เพราะนางเอกน่ะเป็นคนที่ได้รับโอกาสเสมอยังไงล่ะ

โอกาสเพื่อที่จะได้สมปรารถนา

โอกาสที่จะได้พบฉากจบที่มีความสุข

มีแต่ตัวเอกเท่านั้นที่ได้รับโอกาส แต่ตัวร้ายน่ะไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว

ฉันเองก็อยากจะมีโอกาสแบบนั้นบ้าง โอกาสแบบเดียวกับที่ตัวเอกนั้นได้รับ

ถ้าหากมีโอกาสสักครั้ง

สักครั้งขอแค่เพียงครั้งเดียว

หากว่าได้รับโอกาสนั้นละก็

ฉันจะทำทุกสิ่งที่อย่างที่ฉันอยากทำ ครอบครองทุกสิ่งทุกอย่างที่ฉันอยากได้

จะขอใช้ชีวิตแบบไม่มานั่งเสียดายภายหลัง

จะทำทุกอย่างให้มันสุดเหวี่ยงสุดๆ ไปเลย

ถ้าเป็นแบบนั้นได้ก็คงดีนะ…ท่านนางฟ้าทูนหัว

 

…ในวันนั้นเด็กสาวผู้ไร้สีสันได้จางหายไปจากโลกใบนี้อย่างเงียบเชียบ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด