เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi 11 มิยากิน่ะ ไม่อร่อยสักนิด 1

Now you are reading เรื่องราวของการซื้อเพื่อนร่วมชั้นอาทิตย์ละครั้ง Shuu ni Ichido Kurasumeito wo Kau Hanashi Chapter 11 มิยากิน่ะ ไม่อร่อยสักนิด 1 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มิยากิน่ะ ไม่อร่อยสักนิด ตอนที่ 1

 

「กลับมาแล้วค่ะ」

 

 พอถึงบ้านก็พูดออกมาตามธรรมเนียม ได้ยินเสียงมาจากทางห้องนั่งเล่น แม้จะเป็นเสียงหัวเราะที่ดังมาจากในห้องที่มีแสงลอดออกมา แต่ว่ามันก็เท่านั้น การที่ไม่มีเสียงตอบรับกลับมามันเป็นเรื่องปกติเกินไปจนฉันเองก็ไม่มีอะไรให้บ่น

 

 เอาจริง ๆ ถ้าวันนี้จู่ ๆ ก็มีคนตอบกลับมาว่า 「ยินดีต้อนรับกลับนะ」ก็แย่น่ะสิ ไม่มีใครตอบอะไรกลับมาน่ะดีแล้ว แบบนี้มันเป็นปกติมากกว่า

 

 ข้าวเย็นก็กินข้าวกล่องที่ดูจะไม่ดีต่อสุขภาพจากบ้านมิยากิมาแล้วก็เลยไม่หิว ฉันที่ไม่มีธุระที่ต้องแวะห้องนั่งเล่นก็ตรงดิ่งเข้าห้องของตัวเอง

 

 ภายในห้องที่เรียงรายไปด้วยของใช้จำเป็นมากมาย ฉันถอดชุดเครื่องแบบออกและเปลี่ยนชุด การบ้านก็ทำที่บ้านของมิยากิเรียบร้อยแล้ว เพราะงั้นเรื่องที่ต้องทำในวันนี้จึงหมดแล้ว

 

 ฉันหยิบกระเป๋าตังออกมาจากในกระเป๋าสะพายและหยิบเงิน 5,000 เยนที่ได้จากมิยากิออกมา จากนั้นก็หยอดเงิน 5,000 เยนลงกระปุกออมสินที่อยู่บนหีบสมบัติที่เขียนไว้ว่าถ้าเก็บเหรียญ 500 เยนได้เยอะ ๆ ก็จะสามารถสะสมได้ 1,000,000 เยนอยู่

 

 ใส่ไปกี่บาทแล้วนะ

 

 ได้เงินจากมิยากิอาทิตย์ละครั้ง 2 ครั้ง ถึงแม้จะจำไม่ได้ว่าใส่ไปเท่าไหร่แล้ว ตั้งแต่ความสัมพันธ์แบบนี้เริ่มขึ้นก็ตั้งแต่ช่วงฤดูร้อน ตอนนี้คงมีอยู่เยอะน่าดู

 

 ไม่จำเป็นต้องถึงขั้นไปเปิดดูว่าได้เท่าไหร่ แถมไม่คิดว่าจะใช้เงินนั้นอยู่แล้วด้วย กลับกัน ฉันสงสัยว่าเวลาที่ได้อยู่กับมิยากินี่มันมากขนาดไหนแล้วมากกว่า

 

 พอเขย่าดู ก็มีเสียงก๊องแก๊งดังขึ้น

 บางทีนั่นคงจะเป็นเสียงของเหรียญ 500 เยนที่ใส่ไปก่อนหน้าที่ไม่รู้ว่าใส่ไปตั้งแต่เมื่อไหร่

 

 ฉันเอากระปุกออมสินกลับไปวางบนหีบ

 มิยากิจ่าย 5,000 เยนเพื่อที่จะได้สั่งคำสั่งเพียงแค่ช่วงเวลาสั้น ๆ

 

 สำหรับเด็กม.ปลายแล้วมันถือเป็นจำนวนมากขนาดที่ไม่สามารถจะเอามาจ่ายให้ทุกสัปดาห์ได้เลย และมิยากิก็จ่ายให้ฉันทุกสัปดาห์ ถึงเธอจะบอกไม่ลำบากเรื่องเงินก็เถอะ แต่พอมาคิดถึงจำนวนเงินที่อยู่ในกระปุกออมสินแล้วก็เริ่มกังวลนิดหน่อย ถ้าคำสั่งมันคุ้มราคาก็คงรับมาอย่างไม่คิดอะไรหรอก

 

 พอคิดแบบนั้นแล้ว วันนี้มิยากิคงคิดว่าเงิน 5,000 เยนมันคุ้มค่ากับการที่พูดใส่ฉันว่า 『ทำหน้าแบบนั้นแหละ』เพื่อให้เผยความรู้สึกออกมาด้วยการยัดดินสอเข้ามาในปากล่ะมั้ง

 

 มิยากิที่เห็นในตอนนั้นดูสนุกที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลย

 

 แต่ว่า หากนั่นคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อแลกกับเงิน 5,000 เยนแล้วล่ะก็ ฉันไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่น่ายินดีสักเท่าไหร่ ถึงแม้การที่ฉันบอกเธอไปว่าเป็นพวกโรคจิตจะไม่ผิด แต่เธอก็ไม่ได้โรคจิตถึงขนาดทำสิ่งที่ฉันบอกว่าไม่อยากทำ

 

 ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ ขอโดนเรียกว่าเป็นหมาเชื่องยังจะดีซะกว่า

 อยากเห็นฉันทำหน้าไม่ชอบใจ อะไรล่ะนั่น พูดได้แค่ว่ามิยากิคงป่วยแล้วล่ะ

 

「คิดอะไรอยู่..งั้นเหรอ」

 

 พึมพัมอยู่คนเดียวพร้อมกับปล่อยผมออก จากนั้นก็มีข้อความในโทรศัพท์จากอูมินะส่งมา ว่า 『ดูหรือยัง?』

 

 จะว่าไป วันนี้เป็นวันที่มีละครเรื่องโปรดของอูมินะนี่นะ

 

 พอเปิดทีวีดูละครมันก็จบไปเรียบร้อยแล้ว เลยส่งข้อความไปว่า『อาบน้ำอยู่ เดี๋ยวดูย้อนหลังเอา』

 หลังจากนี้ต้องอยู่ดูละครไปอีก 50 นาทีต่อให้ไม่มีโฆษณาแล้วก็ตาม

 

 พูดได้แค่ว่าโคตรน่ารำคาญแบบไม่ต้องคิดด้วยซ้ำ

 

 ละครที่ต้องดูเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก แม้ฉันจะไม่ได้เกลียดแนวนี้ก็จริง แต่ฉันไม่ชอบเนื้อเรื่องของละครที่อูมินะชอบสักเท่าไหร่ ถึงจะพูดได้ไม่เต็มปากว่าเสียเวลาเปล่าประโยชน์ แต่แทนที่จะดูละครน่าเบื่อแบบนั้นอยากเอาเวลาไปทำอย่างอื่นมากกว่า

 

 ไม่ค่อยมีเหตุการณ์ที่โดนมิยากิเรียกตัวไปติดกันเท่าไหร่ เพราะงั้นพรุ่งนี้คงต้องอยู่กับพวกอูมินะหลังเลิกเรียน ก็แค่เที่ยวหลังเลิกเรียนปกติ ตัวฉันเองก็ไม่ได้เกลียดอะไร เพียงแต่ขั้นตอนในการทำให้อยู่อย่างสบายใจมันค่อนข้างน่ารำคาญนิดหน่อย

 

 หลังจากออกไปด้วยกันพรุ่งนี้ต้องพูดถึงเรื่องละครแน่นอน

 

「ถ้าบอกไปว่าไม่ได้ดู คงจะอารมณ์เสียชัวร์เลย」

 

 ถ้าเป็นมิยากิล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องดูละครอะไรแบบนี้เลยสักนิด

 

 ฉันนอนเล่นอยู่บนเตียงและยืดแขนออกไป

 ใช้มือบังแสงจากบนห้องและมองไปที่นิ้วชี้

 รอยที่มิยากิกัดตอนวันวาเลนไทน์หายไปหมดแล้ว

 

 ก็นะ ถ้ามันยังเหลืออยู่ก็คงไม่ดีเท่าไหร่

 

 ถึงแม้วันนั้นจะตกใจที่โดนกัดนิ้วอย่างไม่ลังเลไปตั้งขนาดนั้น แต่ว่าวันถัดมากลับแทบไม่เหลือรอยเอาไว้เลย

 

 คำสั่งที่ดูแล้วเห็นว่าเกี่ยวข้องกับโรงเรียนนั้นถือว่าผิดกฏ

 

 หากถึงตอนนั้นแล้วพวกอูมินะมาถามเกี่ยวกับเรื่องรอยฟันที่เหลืออยู่ล่ะก็จะถือว่ารักษาสัญญาเอาไว้ไม่ได้ ด้วยเหตุนี้มิยากิเลยออมแรงไว้ให้ หรือไม่ก็รอยฟันมันอาจจะไม่ได้อยู่นานขนาดนั้นก็ได้ เพราะจนถึงตอนนี้ก็ไม่เคยมีรอยฟันเหลืออยู่เลย ไม่รู้ว่ามิยากิรู้ถึงเรื่องนี้อยู่แล้วหรือว่าเป็นเรื่องบังเอิญกันแน่

 

 ฉันลองลูบบริเวณที่เคยมีรอยฟันอยู่

 ความเจ็บก็ไม่เหลืออยู่แล้ว

 

 พอเอานิ้วลงมาใกล้ริมฝีปากก็ลองเลียตามรอยที่มองไม่เห็นดู

 ไม่ได้รู้สึกอะไรเป็นพิเศษ

 

 ก็แหงล่ะนะ

 

 ตั้งแต่ข้อที่ 2 ของนิ้วไปจนถึงโคนนิ้ว

 การโดนมิยากิเลียน่ะมันรู้สึกแย่สุด ๆ

 แต่ว่าในเวลาเดียวกัน ก็เป็นความรู้สึกราวกับว่าเส้นประสาทกำลังโดนลูบไล้ด้วยลิ้นนุ่ม ๆ ของเธอ

 

 ――ตอนนั้น ฉันเองก็ทำหน้าเหมือนมิยากิหรือเปล่านะ

 

 เลียเท้าของมิยากิ แล้วก็กัด

 ยังคงจำสีหน้าของเธอในวันนั้นได้

 ถ้าฉันเองก็ทำหน้าตาแบบเดียวกันล่ะก็..

 

 ถอนหายใจออกมาเบา ๆ จากนั้นก็ลุกขึ้น

 

 เฮ้อ ดูละครดีกว่า

 

 ฉันตัดสินใจลดระยะเวลาการดูด้วยการเร่งความเร็ว หลังจากกดที่ปุ่มเริ่มใหม่อีกครั้ง ตัวละครที่ฉายก็เริ่มพูดเร็วขึ้น

 

 ฉันไม่ได้ชอบความเจ็บปวด

 และก็ไม่ได้ชอบโดนทำตัวหยาบคายใส่ด้วย

 ถึงจะเป็นแบบนั้น การอยู่ในห้องของมิยากิก็ยังรู้สึกสบายกว่าการอยู่ที่บ้านตัวเอง

 

 ฉันคงโดนเธอวางยาใส่ซะแล้วมั้ง

 

 แม้จะไม่ได้มีความหมายอะไรลึกซึ้ง แต่การที่เราเลียนแบบผลัดกันเลียแบบนี้มันอาจทำให้ความรู้สึกด้านระยะห่างของเราเพี้ยนไปแล้วก็ได้ แต่ฉันไม่มีความตั้งใจที่จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้ว มิยากิเองดูแล้วก็คงจะไม่แก้ไขแนวทางที่มันเลยเถิดไปขนาดนี้เหมือนกัน

 

 ฉันกดเพิ่มเสียงของทีวี

 เสียงของนักแสดงชายสุดหล่อของอูมินะดังขึ้น

 จากนั้นก็หันไปสนใจละครที่ฉันคิดว่าไม่ได้สนุกอะไรเลยแทน

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด