Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น 772

Now you are reading Extraordinary Genius อัจฉริยะเหนือชั้น Chapter 772 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

EG บทที่ 772 เจฟ

 

ราล์ฟมองดูข้อมูลในมือของเขาแล้วขมวดคิ้ว ทำไมบอสถึงให้ความสนใจกับบริษัทแห่งนี้ บริษัทที่ขายหนังสือออนไลน์ แม้ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นใหม่ก็ตาม แต่หากไม่สามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ ยังจะมีศักยภาพในการพัฒนาได้อีกหรือ?

แต่การตัดสินใจของบอสย่อมถูกต้อง แม้ว่าเขาไม่เข้าใจ แต่เขายังแยกแยะข้อมูลอย่างดีแล้วส่งไปให้เฝิงหยู่ทันที

เฝิงหยู่มองข้อมูลในมือของเขา บริษัทAmazonจดทะเบียนในรัฐวอชิงตันเมื่อปีที่แล้ว แต่ได้เปลี่ยนชื่อใหม่และเริ่มกิจการในเดือนกรกฎาคมของปีนี้ เป็นบริษัทออนไลน์ที่ขายหนังสือโดยเฉพาะ

บริษัทแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่นัก และบริษัทยังไม่เคยทำกำไรได้เลยนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีที่แล้วจวบจนถึงปีนี้!

เฝิงหยู่จึงรู้สึกดีใจยิ่งกว่าเดิม ไม่มีกำไรสินะ ก็หมายความว่ามันไม่ยากนักหากเขาจะลงทุนกับAmazon หรือซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายอื่น

แพลตฟอล์มของอเมซอนนั้นไม่ยากสักเท่าไหร่ สิ่งที่ยากคือการเอาตัวรอดในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ หากไม่ระวัง อาจจะต้องพ่ายแพ้ต่อภาวะเศรษฐกิจฟองสบู่ดอตคอม ในชาติก่อนมีบริษัทล้มละลายมากมาย แม้แต่ Yahoo ซึ่งเคยเป็นยักษ์ใหญ่ยังสูญเสียทรัพย์สินไปกว่า90%

“ราล์ฟ โทรหาคุณเจฟแล้วนัดเวลากับเขา ผมจะไปเยี่ยมเขา” เฝิงหยู่พูดอย่างตื่นเต้น

ราล์ฟรีบไปจัดการทันทีทั้งที่ยังสับสนอยู่ เขาเคยตรวจสอบเจฟฟ์ เบโซส์คนนั้นมาบ้างแล้ว ดูเหมือนว่าเขาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจัดการการซื้อขายกองทุน บอสต้องการที่จะเชื้อเชิญคนๆนี้อย่างนั้นหรือ?

ไม่ถูกสิ แต่แรกเริ่มเดิมทีบอสดูจะสนใจร้านหนังสือออนไลน์แห่งนี้ หรือว่าเขาต้องการลงทุนในบริษัท? แต่ใครจะซื้อหนังสือออนไลน์กันล่ะ? ไปซื้อเองที่ร้านหนังสือโดยตรงไม่ดีกว่าเหรอ! เขามองไม่มองว่าบริษัทแห่งนี้จะสร้างกำไรได้อย่างไร?

เจฟฟ์ เบโซส์กำลังโต้เถียงกับนักลงทุนคนหนึ่ง นักลงทุนเชื่อว่าแผนธุรกิจของเขาอนุรักษ์นิยมเกินกว่าที่จะทำเงินได้ ตอนนี้ควรใช้แนวคิดอินเทอร์เน็ตที่มีกระแสร้อนแรงเพื่อหาวิธีนำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ รอจนกระทั่งหุ้นเพิ่มขึ้นก็ขายบริษัททิ้งเอากำไรยังจะดีกว่า

เจฟคัดค้านทันที นี่คือบริษัทที่เขาก่อตั้งขึ้นเองกับมือ จะขายทิ้งอย่างส่งเดชได้อย่างไร? นอกจากนี้เขาคิดที่จะบริหารบริษัทให้ดี ด้วยแผนการมั่นคงและความปลอดภัยอย่างไรล่ะ

ตอนนี้แนวคิดด้านอินเทอร์เน็ตที่มาแรงคือปั่นราคาหุ้นให้พุ่งสูงขึ้นในขณะนี้ แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความเจริญรุ่งเรืองจอมปลอมและจะล่มสลายในไม่ช้า เส้นทางที่มั่นคงและปลอดภัยของเขาจะสามารถลดความเสี่ยงของบริษัทให้เหลือน้อยที่สุด นี่ต่างหากจึงจะเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ยาวนานที่สุด

นักลงทุนใจจืดใจดำเหล่านี้รู้แค่วิธีที่จะสร้างรายได้ พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรคือสิ่งที่เรียกว่าฝันร้าย! แม้ว่ามันจะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ไม่ควรมองดูเพียงผลประโยชน์ที่อยู่เบื้องหน้า ไม่รู้จักคำว่ามองการณ์ไกลเหรอ?

ทำไมตาบอดเสียตั้งแต่เนิ่นๆล่ะ

คนที่คิดแต่จะลงทุนเหล่านี้ไม่เข้าใจเน็ตเวิร์คและการจัดการบริหาร กลับมายกมือวาดเท้าวิจารณ์เขาอย่างสะเพร่า! หากเปรียบเทียบกันด้านการลงทุน คุณแก่งกว่าผมนักหรือ? ผมน่ะเกิดมาเพื่อทำการเงินเชียวนะ!

“คุณเจฟค่ะ มีโทรศัพท์หาคุณค่ะ อีกฝ่ายอ้างว่าเป็นเลขานุการผู้อำนวยการของ Microsoft” เลขาของเจฟวิ่งมาตะโกน

อะไรนะ? เลขานุการของผู้อำนวยการ Microsoft โทรมาหาเราเหรอ? เจฟดีใจมากที่ถ้าเขาสามารถชักชวนให้ผู้อำนวยการของไมโครซอฟท์มาลงทุนให้เขา เขาจะเตะนักลงทุนที่ละโมบโลภมากอกไปให้พ้นเสียทุกคน!

เจฟไปรับโทรศัพท์ทันที “สวัสดีครับ ผมเจฟฟ์ เบโซส์ ไม่ทราบว่าคุณเป็นใครหรือครับ?”

“ฉันคือราล์ฟ เป็นเลขานุการของเลขานุการผู้อำนวยการ Microsoft บอสอยากจะขอพบคุณ”

“โอเคครับ แล้วคุณเฝิงมีเวลาว่างเมื่อไหร่ ผมสามารถไปเยี่ยมเขาได้ตลอดเวลา” เจฟพูดอย่างรวดเร็ว

“ไม่ต้องหรอก บอสหมายความว่าเขาต้องการไปเยี่ยมคุณ กล่าวคือถือโอกาสเยี่ยมชมบริษัทของคุณด้วย คุณเข้าใจใช่ไหมว่าฉันหมายถึงอะไร?”

เจฟระงับความปีติยินดี เขาเข้าใจความหมายอย่างแจ่มแจ้ง ผู้อำนวยการเฝิงของ Microsoft สนใจบริษัทของเขา!

“ผมยินดีต้อนรับคุณเฟิงเสมอ ผมมีเวลาว่างตลอด”

“ถ้าอย่างนั้นเป็นพรุ่งนี้เช้าดีไหม?” ราล์ฟถาม

“ไม่มีปัญหา ผมจะรอต้อนรับคุณเฝิงที่จะมาเยือนบริษัทในวันพรุ่งนี้”

เจฟวางสายแล้วหันไปมองผู้ถือหุ้นที่เพิ่งทะเลาะกับเขาเมื่อครู่ “คุณจะขายหุ้นของคุณไม่ใช่เหรอ? ก็ดี ผมจะซื้อหุ้นของคุณเอง!”

หากผู้อำนวยการเฝิงของ Microsoftมาลงทุน บริษัทย่อมพัฒนาก้าวไกลได้อย่างราบรื่น ตอนนี้เขาสามารถขายบ้าน ขายหุ้นของบริษัทอื่นๆในมือของเขา แล้วลงทุนทั้งหมดในบริษัท Amazon เขาเชื่อมั่นว่า Amazon จะต้องพัฒนาไปได้ไกล!

ผู้ถือหุ้นรายย่อยรายนี้ถึงกับตกตะลึง เจฟได้รับสายจากผู้อำนวยการของMicrosoftจริงๆหรือ เป็นไปได้ไหมว่า Microsoftต้องการจะลงทุนกับ Amazon? มิฉะนั้นแล้วเจฟจะเอาความมั่นใจมาจากไหน คิดซื้อหุ้นของเขาน่ะเหรอ? ผู้อำนวยการของ Microsoft มาลงทุนแล้ว เขาจะขายหุ้นทิ้งไปทำไมล่ะ?

“บอส ติดต่อคุณเจฟแล้ว วันพรุ่งนี้จะรอคุณที่ Amazon “

“อืม งั้นก็ไปกันตอนเช้าเลย คุณอ่านข้อมูลของบริษัทนี้แล้ว คุณคิดว่าบริษัทนี้จำเป็นต่อการลงทุนหรือเปล่า?” เฝิงหยู่ถาม

“บอส ฉันมองไม่ออกว่ามันมีความจำเป็นอะไรที่จะลงทุนกับบริษัทนี้ มันเป็นเพียงร้านหนังสือบนอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ในเมืองล้วนมีร้านหนังสือมากกว่าหนึ่งแห่ง แล้วคุณยังสามารถลองอ่านก่อนสักสองสามหน้า หากน่าสนใจก็ค่อยตัดสินใจซื้อทีหลัง ส่วนร้านหนังสือออนไลน์แห่งนี้มองเห็นแค่หน้าปก ฉันคิดว่ามันไม่มีศักยภาพอะไร ทั้งยังจำเป็นต้องรวบรวมหนังสือเป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายก็สูง คนที่ยินดีซื้อหนังสือยังต้องรออีกหนึ่งสัปดาห์กว่าหนังสือจะมาส่งถึงมือหนิ?”

“แน่นอนว่าถ้าลงทุนไปแล้วรายการเดินบัญชีไม่ติดลบ ก็สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นNASDAQ (แนสแด็ก) ในอีกสองปีต่อมาได้ แล้วยังสามารถสร้างรายได้มหาศาลจากความนิยมของหุ้นออนไลน์ แต่ระยะเวลาผลตอบแทนการลงทุนค่อนข้างยาวนาน จะดีกว่าไหมถ้าไปซื้อหุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนด้านเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว อืม ~ แต่นี่เป็นแค่ความเห็นด้านเดียวของฉัน”

เฝิงหยู่พยักหน้า “ไม่หรอก คุณพูดได้ดี จุดอ่อนเหล่านี้ถูกมองและวิเคราะห์จากสภาพจริง ในเวลาอันสั้นนี้บริษัทแห่งนี้ไม่มีทางได้ผลกำไรแน่นอน แต่คุณมองความได้เปรียบของบริษัทนี้ออกหรือเปล่า? “

“ความได้เปรียบ? นอกจากเรื่องที่เป็นบริษัทออนไลน์ ก็คงเป็นเพราะร้านหนังสือออนไลน์ มันสามารถแสดงหนังสือประเภทต่างๆได้มากกว่าร้านหนังสือทั่วไป แต่อาจจะค้นหาได้ยากหน่อย เว้นแต่พวกเขาจะสามารถสร้างเครื่องมือค้นหาที่ดีได้ ” ราล์ฟพูดหลังจากคิดเรื่องนี้

“ถูกต้อง หากพวกเขามีเครื่องมือค้นหาที่ดี ลูกค้าสามารถค้นหาหนังสือที่พวกเขาต้องการได้ในเวลาอันสั้น ไม่ว่าจะค้นหาชื่อผู้แต่ง ประเทศ สำนักพิมพ์ หรือชื่อหนังสือ พวกเขาก็สามารถค้นหาสิ่งที่ต้องการจนเจอ แม้แต่เวลาตีพิมพ์ก็จะเป็นหนึ่งในคีย์เวิร์ดการค้นหา และจุดที่เป็นข้อดีที่สุดของร้านหนังสือออนไลน์นี้คือ มันสามารถให้ทางเลือกแก่ผู้อ่านมากกว่าร้านหนังสือเสียอีก บางทีในระยะเวลาอันสั้นนี้บริษัทอาจจะพัฒนาไปได้ไม่ไกลนัก แต่เมื่อใดที่พัฒนา อนาคตย่อมสดใสอย่างแน่นอน” เฝิงหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ดังนั้น บอสจะลงทุนบริษัทนี้ใช่ไหม?”

“แน่นอน ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่” มันคงจะดีมากถ้าถือหุ้นส่วนที่มีตัวเลขแน่นอนจนมีอำนาจในการบริหารบริษัทAmazon ไม่รู้ว่าจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้หรือเปล่า คงต้องลองไปเจรจากันในวันพรุ่งนี้นั่นแหละนะ …

ติดตามเพจใหม่ได้ที่ https://www.facebook.com/ceonovel23

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด