God of illusions 49 แผนใหม่!

Now you are reading God of illusions Chapter 49 แผนใหม่! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

God of illusions ตอนที่ 49 แผนใหม่!

 

เสวี่ยอิ่งนําพากลุ่มที่ยังเหม่อไม่หายมายังพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เป็นดั่งฝันร้ายของพวกเขา

 

ที่แตกต่างคือในครานี้ไม่มีใครบ่นสักคน ใบหน้าพวกเขาล้วนมีร่องรอยคาดหวัง

 

“ในระยะเวลาหนึ่งเดือน สิ่งแรกที่พวกเจ้าต้องทําคือยกระดับพลังกาย ผู้หญิงจะฝึกเทียบเท่ากับผู้ชาย และผู้ชายจะต้องฝึกเยี่ยงสัตว์ ใครที่ทนไม่ได้สามารถถอนตัวออกจากการฝึกนี้และข้าจะไม่ดูถูกเหยียดหยามพวกเจ้า” เสวี่ยอิ่งมีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังอย่างมากขณะกล่าว แต่ไม่มีใครในหมู่สิบหกคนตอบนางสักคน

 

“ในเมื่อไม่มีใครถอนตัว งั้นก็เริ่มเถอะ” เสวี่ยอิ่งสูดหายใจเข้าลึกอาจารย์ประจําห้องแสนร้ายปรากฏตัวขึ้นอีกครา!

 

“ภายในหนึ่งชั่วโมง พวกเจ้าทั้งหมดต้องวิ่งสองรอบ โดยห้ามมีผู้ใดวิ่งรั้งท้าย! เริ่มได้เ”

 

เมื่อนางกล่าวจบ ทุกคนที่ตอนแรกได้เตรียมใจไว้แต่แรกพลันรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที่จากก้นบึงของหัวใจ แต่ความรู้สึกนี้อยู่ไม่นานก็จางหายไป

 

“แค่สองรอบเท่านั้น ยังดีกว่าเมื่อวาน!”

 

ทั้งสิบหกปลอบใจตนเองเช่นนี้ก่อนจะเริ่มออกตัววิ่ง

 

ขาทั้งสองของพวกเขาต่างก็เมื่อยจนขยับแทบไม่ได้ใช้เพียงพลังใจก้าวทีละก้าว ไม่มีใครส่งเสียงบ่นเช่นวันก่อน ทุกคนตั้งมั่นกัดฟันวิ่งต่อไปเพราะครั้งนี้พวกเขามีเป้าหมายที่ต้องบรรลุ

 

หนึ่งชั่วโมงเป็นเวลาอันสั้นสําหรับคนส่วนมาก แต่สําหรับศิษย์นักเรียนห้องคนเถื่อนแล้ว ชั่วโมงนี้ช่างทรมานเหลือคณานับ

 

เสื้อผ้าอาภรณ์ล้วนเปียกชื้นแนบชิด เมื่อพวกเขาวิ่งครบสองรอบความรู้สึกปลื้มปีติที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนพลันท่วมท้มเข้ามาในใจ

 

“ขีดจํากัดไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของพวกเจ้าอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเมื่อเจ้าทําลายขีดจํากัดของตัวเองได้เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นมาอีกนิด”

 

เสียงไร้อารมณ์ของเสวี่ยอิ่งดังใส่ศิษย์ทุกคนที่กําลังหอบหายใจหนักอยู่

 

“พักห้านาทีหลังจากนั้นวิ่งอีกรอบ! วิ่งให้เสร็จภายในสี่สิบนาที!” สิ่งที่นางเอ่ยในตอนแรกเป็นเพียงคําตักเตือนล่วงหน้า ส่วนหลังต่างหากที่สําคัญที่สุด และเป็นคําพวกนี้เองที่ทําให้หลายคนเข้าใจว่ายารักษาแผลใจมีค่าเพียงใด…

 

เทียบกับชั่วโมงก่อน ห้านาทีนี้ช่างพ้นผ่านไปไวเหลือเกิน โมข่าถึงกับรู้สึกว่าเขายังไม่ทันได้พักก็ต้องออกวิ่งต่ออีกแล้ว…

 

“หวู่จื๋อ สือขุย สือเฉิน พวกเราทั้งสี่จะวิ่งข้างหลัง ฉิงหนาน จู๋ซือซือ หวังหาง ชีเว่ย พวกเจ้าวิ่งข้างหน้า คนที่เหลือวิ่งตรงกลาง คอยช่วยเหลือคนข้างหน้า!”

 

ป้ายเสี่ยวเฟยจัดแจงตําแหน่งของทุกคนตามพลังกาย การวิ่งเป็นสิ่งที่ง่าย แต่สําหรับพวกเขาแล้ว มันราวกับเป็นการต่อสู้ เดิมพันชีวิตที่พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจริงจัง

 

ทุกคนทําตามที่ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยทันทีโดยไม่รีรอ และกลุ่มประหลาดสี่แถว แถวละสี่คนก็ออกตัววิ่งรอบจัตุรัสอีกครา

 

ทุกครั้งที่มีคนไปต่อไม่ไหว คนข้างหลังทั้งสี่จะช่วยพยุงจนกว่าคนผู้นั้นจะไล่ตามกลุ่มกัน เมื่อเกือบครบรอบ กลุ่มของป๋ายเสี่ยวเฟยช่วยพยุงไปแล้วคนละสองคน

 

ท้ายที่สุดพวกเขาก็วิ่งครบรอบพร้อมกันทั้งกลุ่มก่อนเวลาจะหมด

 

ยามนี้พลังกายของพวกเขาหมดสิ้นไม่หลงเหลือ ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่ไม่หอบหายใจหนักหน่วง

 

“พักห้านาที พวกเราจะเคลื่อนย้ายไปที่อื่น” เสวี่ยอิ่งประดุจไม่สังเกตเห็นสภาพของทุกคน เสียงเย็นชาไม่แฝงความสงสารแม้แต่น้อยราวกับนางได้เปลี่ยนเป็นคนละคน

 

อีกห้านาทีผ่านไปในชั่วพริบตา ทั้งกลุ่มไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะคิดพวกเขาเพียงเดินตามหลังเสวี่ยอิ่ง

 

โชคดีที่เสวี่ยอิ่งไม่ได้พาพวกเขาไปยังสถานที่ไว้ฝึก นางนําทางพวกเขาไปยังบริเวณค้าขายยาที่มีเตาหลอมกฤษณาตั้งอยู่ ที่นี่ยังเป็นที่ค้าขายแห่งเดียวในสถาบันที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านซื้อขาย

 

“เถ้าแก่ พวกเรามาซื้อยา” เสวี่ยอิ่งหยิบตราหยกพลางเอ่ย หินชิงหลัวที่นางริบมาจากพวกปายเสี่ยวเฟยเป็นกองทุนหลักในการซื้อครั้งนี้

 

จากนั้นเสวี่ยอิ่งเอ่ยชื่อยาวเหยียดของส่วนผสมยา และจํานวนที่นางสั่งซื้อเยอะเสียจนน่าหวาดเกรง

 

ทั้งกลุ่มกลืนน้ำลายอีกใหญ่ มีเพียงเถ้าแก่ที่ยิ้มแย้มแก้มแทบปริยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งกระตือรือร้น

 

เมื่อยามที่เสวี่ยอิ่งพาพวกเขาออกจากร้าน สินค้าเกือบครึ่งถูกกว้านซื้อมา นางยังสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าของรายการทั้งหมดที่นางเพิ่งซื้อไปด้วย

 

แน่นอนว่าด้วยเหตุนี้จํานวนหินชิงหลัวในตราหยกจึงกลายเป็นศูนย์

 

“จากวันนี้ไป พวกเจ้าไม่อาจใช้งานสิ่งของจําพวกแหวนมิติ แต่หุ่นเชิดยังใช้ได้” เสวี่ยอิ่งราดน้ำเย็นสาดป๋ายเสี่ยวเฟยและฟางเย่เมื่อพวกเขากําลังจะเก็บส่วนผสมยาทั้งหมดเข้าไปในแหวนมิติ

 

“พวกเราใช้เพียงสองมือ…”

 

“แบกของพวกนี้ไป!?”

 

ต้าหมิงและเสี่ยวหมิงเปิดใช้งานทักษะต่อประโยคของพวกเขาพลางเผยสีหน้าตื่นตระหนก

 

“เจ้าวางไว้บนหัวได้เช่นกัน แค่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเจ้าก็พอ” เสวียอิ่งนิ่งเงียบกวาดตามองทุกคนที่มีใบหน้าไม่สู้ดีนัก เป็นหวู่จื๋อที่ทําลายความน่าอึดอัดนี้โดยก้าวออกมาข้างหน้าหยิบส่วนผสมยาชิ้นแล้วชิ้นเล่า

 

โชคดีที่เถ้าแก่จากร้านขายยาให้เชือกมามากพอ นอกจากถือด้วยมือแล้วพวกเขายังผูกมัดสิ่งของไว้บนหลังได้ด้วย

 

ด้วยการมีหวู่จื๋อเป็นแบบอย่าง ทั้งกลุ่มก้าวเข้ามาทีละคนทีละคน ผู้ชายแบกมากผู้หญิงแบกน้อย ไม่นานก็มีภูเขาลูกน้อยใหญ่เต็มบริเวณ

 

“ต่อไปคือย่านค้าขาย!” ทั้งสิบหกเดินตามหลังเสวี่ยอิ่ง ในขณะเดียวกันเมื่อพวกเขานึกถึงระยะทางระหว่างเตาหลอมกฤษณาและย่านค้าขาย พวกเขาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ

 

เดินผ่านจัตุรัสอีกแล้ว!

 

หากมีใครถามศิษย์จากห้องเรียนคนเถื่อนว่าสถานที่ใดที่พวกเขา เกลียดชังที่สุดในชีวิต จัตุรัสในสถาบันชิงหลัวจะเป็นสิ่งแรกที่พวกเขานึกถึง!

 

เมื่อพวกเขามาถึงย่านค้าขาย ทุกคนในกลุ่มหอบหายใจหนักแทบเหนือยตายเพราะพวกส่วนผสมยาหนักเป็นอย่างมาก..

 

โชคดีที่เสวี่ยอิ่งไม่ได้ซื้อของเยอะนักที่ย่านค้าขาย หลังจากที่นางเข้าๆ ออกๆ ไม่กี่ร้านก็ได้สินค้าตามต้องการมาหมด

 

อาจเป็นเพราะทั้งกลุ่มไม่เหลือที่ว่างให้แบกของอีกต่อไป นางจึงใส่ของที่เหลือเข้าแหวนมิติของตนเอง

 

แต่พวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเหตุใดเสวี่ยอิงถึงซื้อเหยือกน้ำกับเต็นท์มาเยอะนัก

 

“พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าไปไม่นาน” เสวี่ยอิ่งให้เวลาพักที่หาได้ยากกับทั้งกลุ่มก่อนจะเดินจากไป

 

“หัวหน้าห้อง เจ้าคิดว่าพี่หญิงเสวี่ยจะฝึกพวกเราอย่างไรต่อไป?” ทั้งห้องเริ่มสนิทสนมกับมากกว่าเดิม หลักฐานคือมีเพื่อนร่วมห้องหญิงคนอื่นนอกจากหลินหลีที่เริ่มบทสนทนากับป๋ายเสี่ยวเฟย

 

คนที่ถามไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชีเว่ยที่ไม่รู้จักหยุดพูด

 

“ข้าไม่กล้าบอกพวกเจ้าเพราะพวกเจ้าจะกลัวเหมือนที่ข้ากลัว” ป๋ายเสี่ยวเฟยมีสีหน้าเจ็บปวดที่เจือปนร่องรอยว่าเขาไม่อยากจะเชื่อ

 

“ หมายความว่าอย่างไร?” ยิ่งป๋ายเสี่ยวเฟยไม่อยากพูด ชีเว่ยอิ่งอยากรู้ นี่คือนิสัยที่พบเจอได้บ่อยในชายหญิงอายุเท่านี้ และชีเว่ยถือได้ว่าเป็นคนที่ขี้สงสัยที่สุดในห้อง

 

“บอกข้าทีว่ามีที่ใดบ้างในสถาบันที่ต้องการเต็นท์?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

God of illusions 49 แผนใหม่!

Now you are reading God of illusions Chapter 49 แผนใหม่! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

God of illusions ตอนที่ 49 แผนใหม่!

 

เสวี่ยอิ่งนําพากลุ่มที่ยังเหม่อไม่หายมายังพื้นที่สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่เป็นดั่งฝันร้ายของพวกเขา

 

ที่แตกต่างคือในครานี้ไม่มีใครบ่นสักคน ใบหน้าพวกเขาล้วนมีร่องรอยคาดหวัง

 

“ในระยะเวลาหนึ่งเดือน สิ่งแรกที่พวกเจ้าต้องทําคือยกระดับพลังกาย ผู้หญิงจะฝึกเทียบเท่ากับผู้ชาย และผู้ชายจะต้องฝึกเยี่ยงสัตว์ ใครที่ทนไม่ได้สามารถถอนตัวออกจากการฝึกนี้และข้าจะไม่ดูถูกเหยียดหยามพวกเจ้า” เสวี่ยอิ่งมีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจังอย่างมากขณะกล่าว แต่ไม่มีใครในหมู่สิบหกคนตอบนางสักคน

 

“ในเมื่อไม่มีใครถอนตัว งั้นก็เริ่มเถอะ” เสวี่ยอิ่งสูดหายใจเข้าลึกอาจารย์ประจําห้องแสนร้ายปรากฏตัวขึ้นอีกครา!

 

“ภายในหนึ่งชั่วโมง พวกเจ้าทั้งหมดต้องวิ่งสองรอบ โดยห้ามมีผู้ใดวิ่งรั้งท้าย! เริ่มได้เ”

 

เมื่อนางกล่าวจบ ทุกคนที่ตอนแรกได้เตรียมใจไว้แต่แรกพลันรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที่จากก้นบึงของหัวใจ แต่ความรู้สึกนี้อยู่ไม่นานก็จางหายไป

 

“แค่สองรอบเท่านั้น ยังดีกว่าเมื่อวาน!”

 

ทั้งสิบหกปลอบใจตนเองเช่นนี้ก่อนจะเริ่มออกตัววิ่ง

 

ขาทั้งสองของพวกเขาต่างก็เมื่อยจนขยับแทบไม่ได้ใช้เพียงพลังใจก้าวทีละก้าว ไม่มีใครส่งเสียงบ่นเช่นวันก่อน ทุกคนตั้งมั่นกัดฟันวิ่งต่อไปเพราะครั้งนี้พวกเขามีเป้าหมายที่ต้องบรรลุ

 

หนึ่งชั่วโมงเป็นเวลาอันสั้นสําหรับคนส่วนมาก แต่สําหรับศิษย์นักเรียนห้องคนเถื่อนแล้ว ชั่วโมงนี้ช่างทรมานเหลือคณานับ

 

เสื้อผ้าอาภรณ์ล้วนเปียกชื้นแนบชิด เมื่อพวกเขาวิ่งครบสองรอบความรู้สึกปลื้มปีติที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนพลันท่วมท้มเข้ามาในใจ

 

“ขีดจํากัดไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของพวกเจ้าอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเมื่อเจ้าทําลายขีดจํากัดของตัวเองได้เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้นมาอีกนิด”

 

เสียงไร้อารมณ์ของเสวี่ยอิ่งดังใส่ศิษย์ทุกคนที่กําลังหอบหายใจหนักอยู่

 

“พักห้านาทีหลังจากนั้นวิ่งอีกรอบ! วิ่งให้เสร็จภายในสี่สิบนาที!” สิ่งที่นางเอ่ยในตอนแรกเป็นเพียงคําตักเตือนล่วงหน้า ส่วนหลังต่างหากที่สําคัญที่สุด และเป็นคําพวกนี้เองที่ทําให้หลายคนเข้าใจว่ายารักษาแผลใจมีค่าเพียงใด…

 

เทียบกับชั่วโมงก่อน ห้านาทีนี้ช่างพ้นผ่านไปไวเหลือเกิน โมข่าถึงกับรู้สึกว่าเขายังไม่ทันได้พักก็ต้องออกวิ่งต่ออีกแล้ว…

 

“หวู่จื๋อ สือขุย สือเฉิน พวกเราทั้งสี่จะวิ่งข้างหลัง ฉิงหนาน จู๋ซือซือ หวังหาง ชีเว่ย พวกเจ้าวิ่งข้างหน้า คนที่เหลือวิ่งตรงกลาง คอยช่วยเหลือคนข้างหน้า!”

 

ป้ายเสี่ยวเฟยจัดแจงตําแหน่งของทุกคนตามพลังกาย การวิ่งเป็นสิ่งที่ง่าย แต่สําหรับพวกเขาแล้ว มันราวกับเป็นการต่อสู้ เดิมพันชีวิตที่พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องจริงจัง

 

ทุกคนทําตามที่ป๋ายเสี่ยวเฟยเอ่ยทันทีโดยไม่รีรอ และกลุ่มประหลาดสี่แถว แถวละสี่คนก็ออกตัววิ่งรอบจัตุรัสอีกครา

 

ทุกครั้งที่มีคนไปต่อไม่ไหว คนข้างหลังทั้งสี่จะช่วยพยุงจนกว่าคนผู้นั้นจะไล่ตามกลุ่มกัน เมื่อเกือบครบรอบ กลุ่มของป๋ายเสี่ยวเฟยช่วยพยุงไปแล้วคนละสองคน

 

ท้ายที่สุดพวกเขาก็วิ่งครบรอบพร้อมกันทั้งกลุ่มก่อนเวลาจะหมด

 

ยามนี้พลังกายของพวกเขาหมดสิ้นไม่หลงเหลือ ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่ไม่หอบหายใจหนักหน่วง

 

“พักห้านาที พวกเราจะเคลื่อนย้ายไปที่อื่น” เสวี่ยอิ่งประดุจไม่สังเกตเห็นสภาพของทุกคน เสียงเย็นชาไม่แฝงความสงสารแม้แต่น้อยราวกับนางได้เปลี่ยนเป็นคนละคน

 

อีกห้านาทีผ่านไปในชั่วพริบตา ทั้งกลุ่มไม่มีแรงเหลือแม้แต่จะคิดพวกเขาเพียงเดินตามหลังเสวี่ยอิ่ง

 

โชคดีที่เสวี่ยอิ่งไม่ได้พาพวกเขาไปยังสถานที่ไว้ฝึก นางนําทางพวกเขาไปยังบริเวณค้าขายยาที่มีเตาหลอมกฤษณาตั้งอยู่ ที่นี่ยังเป็นที่ค้าขายแห่งเดียวในสถาบันที่ไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านซื้อขาย

 

“เถ้าแก่ พวกเรามาซื้อยา” เสวี่ยอิ่งหยิบตราหยกพลางเอ่ย หินชิงหลัวที่นางริบมาจากพวกปายเสี่ยวเฟยเป็นกองทุนหลักในการซื้อครั้งนี้

 

จากนั้นเสวี่ยอิ่งเอ่ยชื่อยาวเหยียดของส่วนผสมยา และจํานวนที่นางสั่งซื้อเยอะเสียจนน่าหวาดเกรง

 

ทั้งกลุ่มกลืนน้ำลายอีกใหญ่ มีเพียงเถ้าแก่ที่ยิ้มแย้มแก้มแทบปริยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งกระตือรือร้น

 

เมื่อยามที่เสวี่ยอิ่งพาพวกเขาออกจากร้าน สินค้าเกือบครึ่งถูกกว้านซื้อมา นางยังสั่งซื้อสินค้าล่วงหน้าของรายการทั้งหมดที่นางเพิ่งซื้อไปด้วย

 

แน่นอนว่าด้วยเหตุนี้จํานวนหินชิงหลัวในตราหยกจึงกลายเป็นศูนย์

 

“จากวันนี้ไป พวกเจ้าไม่อาจใช้งานสิ่งของจําพวกแหวนมิติ แต่หุ่นเชิดยังใช้ได้” เสวี่ยอิ่งราดน้ำเย็นสาดป๋ายเสี่ยวเฟยและฟางเย่เมื่อพวกเขากําลังจะเก็บส่วนผสมยาทั้งหมดเข้าไปในแหวนมิติ

 

“พวกเราใช้เพียงสองมือ…”

 

“แบกของพวกนี้ไป!?”

 

ต้าหมิงและเสี่ยวหมิงเปิดใช้งานทักษะต่อประโยคของพวกเขาพลางเผยสีหน้าตื่นตระหนก

 

“เจ้าวางไว้บนหัวได้เช่นกัน แค่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายเจ้าก็พอ” เสวียอิ่งนิ่งเงียบกวาดตามองทุกคนที่มีใบหน้าไม่สู้ดีนัก เป็นหวู่จื๋อที่ทําลายความน่าอึดอัดนี้โดยก้าวออกมาข้างหน้าหยิบส่วนผสมยาชิ้นแล้วชิ้นเล่า

 

โชคดีที่เถ้าแก่จากร้านขายยาให้เชือกมามากพอ นอกจากถือด้วยมือแล้วพวกเขายังผูกมัดสิ่งของไว้บนหลังได้ด้วย

 

ด้วยการมีหวู่จื๋อเป็นแบบอย่าง ทั้งกลุ่มก้าวเข้ามาทีละคนทีละคน ผู้ชายแบกมากผู้หญิงแบกน้อย ไม่นานก็มีภูเขาลูกน้อยใหญ่เต็มบริเวณ

 

“ต่อไปคือย่านค้าขาย!” ทั้งสิบหกเดินตามหลังเสวี่ยอิ่ง ในขณะเดียวกันเมื่อพวกเขานึกถึงระยะทางระหว่างเตาหลอมกฤษณาและย่านค้าขาย พวกเขาอดไม่ได้ที่จะทอดถอนใจ

 

เดินผ่านจัตุรัสอีกแล้ว!

 

หากมีใครถามศิษย์จากห้องเรียนคนเถื่อนว่าสถานที่ใดที่พวกเขา เกลียดชังที่สุดในชีวิต จัตุรัสในสถาบันชิงหลัวจะเป็นสิ่งแรกที่พวกเขานึกถึง!

 

เมื่อพวกเขามาถึงย่านค้าขาย ทุกคนในกลุ่มหอบหายใจหนักแทบเหนือยตายเพราะพวกส่วนผสมยาหนักเป็นอย่างมาก..

 

โชคดีที่เสวี่ยอิ่งไม่ได้ซื้อของเยอะนักที่ย่านค้าขาย หลังจากที่นางเข้าๆ ออกๆ ไม่กี่ร้านก็ได้สินค้าตามต้องการมาหมด

 

อาจเป็นเพราะทั้งกลุ่มไม่เหลือที่ว่างให้แบกของอีกต่อไป นางจึงใส่ของที่เหลือเข้าแหวนมิติของตนเอง

 

แต่พวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ออกว่าเหตุใดเสวี่ยอิงถึงซื้อเหยือกน้ำกับเต็นท์มาเยอะนัก

 

“พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่ ข้าไปไม่นาน” เสวี่ยอิ่งให้เวลาพักที่หาได้ยากกับทั้งกลุ่มก่อนจะเดินจากไป

 

“หัวหน้าห้อง เจ้าคิดว่าพี่หญิงเสวี่ยจะฝึกพวกเราอย่างไรต่อไป?” ทั้งห้องเริ่มสนิทสนมกับมากกว่าเดิม หลักฐานคือมีเพื่อนร่วมห้องหญิงคนอื่นนอกจากหลินหลีที่เริ่มบทสนทนากับป๋ายเสี่ยวเฟย

 

คนที่ถามไม่ใช่ใครอื่นนอกจากชีเว่ยที่ไม่รู้จักหยุดพูด

 

“ข้าไม่กล้าบอกพวกเจ้าเพราะพวกเจ้าจะกลัวเหมือนที่ข้ากลัว” ป๋ายเสี่ยวเฟยมีสีหน้าเจ็บปวดที่เจือปนร่องรอยว่าเขาไม่อยากจะเชื่อ

 

“ หมายความว่าอย่างไร?” ยิ่งป๋ายเสี่ยวเฟยไม่อยากพูด ชีเว่ยอิ่งอยากรู้ นี่คือนิสัยที่พบเจอได้บ่อยในชายหญิงอายุเท่านี้ และชีเว่ยถือได้ว่าเป็นคนที่ขี้สงสัยที่สุดในห้อง

 

“บอกข้าทีว่ามีที่ใดบ้างในสถาบันที่ต้องการเต็นท์?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+