The King of War 626 พี่เฉินออกคำสั่ง

Now you are reading The King of War Chapter 626 พี่เฉินออกคำสั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในใจของซ่งหวายี่ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เขาต้องการหยุดตระกูลซ่งไม่ให้ไปรุกรานหยางเฉินและกังวลว่าหยางเฉินจะใช้กำลังหนุนจากชายแดนเหนือมาทำลายตระกูลซ่ง

ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะพ่อของตน ตระกูลซ่งคงถูกทำลายไปนานแล้ว

หลายปีที่ผ่านมา เหตุผลที่เขายืนกรานจะต่อสู้เพื่อตำแหน่งทายาทก็คือเขาไม่ต้องการเห็นความมั่นคงของตระกูลซ่งที่พ่อเขาใช้ชีวิตแลกมาต้องถูกพินาศลงด้วยน้ำมือของคนตระกูลซ่งเองอีก

“เรียกคนมาไล่เขาออกไปซะ!”

ซ่งชิงซานตะโกนออกมาจากในวิลล่า

ตามคำสั่งของเขา มีชายแข็งแกร่งสองคนของตระกูลซ่งเดินเข้ามาที่ด้านข้างของซ่งหวายี่พร้อมกับพูดอย่างเฉยเมย “อย่าบังคับให้เราต้องลงมือเลย!”

“ไสหัวไปซะ!”

ซ่หวายี่ผลักชายผู้แข็งแกร่งที่ขวางทางเขาออกไปและตะโกนเข้าไปในวิลล่า “หากท่านปู่ไม่สามารถขจัดความโกรธในใจออกไปได้ก็ฆ่าผมเถอะ ถือเป็นการล้างแค้นให้กับซ่งหวาตง”

“แต่อย่าไปแก้แค้นกับคุณหยางเลย เขาไม่ใช่คนธรรมดา หากไปรุกรานเขาล่ะก็ตระกูลซ่งจะพังทลายลงในเร็ววัน!”

“ท่านปู่ ผมไม่ได้พูดให้ตกใจกลัวนะ ผมพูดความจริง!”

ซ่งหวายี่ตะโกนจนเสียงแหบแห้งไปหมด พยายามทำให้ซ่งชิงซานรับรู้ได้ถึงอันตรายของการไปแก้แค้นหยางเฉิน

เพียงแต่ในเวลานี้ไม่มีใครเชื่อเขาเลย

ซ่งชิงซานพูดอย่างเย็นชา “ก็แค่วัยรุ่นที่มีพละกำลังดีก็เท่านั้นจะมาข่มขู่คุกคามความเป็นความตายของตระกูลซ่งได้ยังไงกัน?แกต้องการจะแก้ตัวให้เขาก็เลยคิดว่าพวกเราโง่งั้นเหรอ?”

“ท่านปู่พูดไม่ผิด เห็นได้ชัดว่านายน่ะอยากแก้ตัวให้ไอ้สารเลวนั่น ดังนั้นจึงพูดให้เรากลัวกัน”

“นายทำให้เราดูเป็นคนโง่ก็พอแล้ว ยังจะมาทำให้ท่านปู่ดูโง่เขลาไปอีก นายนี่มันไร้สามัญสำนึก!”

ซ่งหวาเหว่ยยังคงพูดยั่วยุเรื่อยๆ

“เอาไป!”

เสียงโกรธของซ่งชิงซานดังขึ้นอีกครั้ง

ซ่งหวายี่รู้สึกโศกเศร้า เขาจึงไม่ได้ขอร้องวิงวอนอีกต่อไปพร้อมกับมองไปที่ชายแข็งแกร่งสองคนของตระกูลซ่งและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ออกไป!ฉันไปเองได้!”

เขามองเข้าไปในวิลล่าด้วยแววตาที่ล้ำลึกพร้อมกับพูดโน้มน้าวเป็นครั้งสุดท้าย “ท่านปู่ ตัวตนของคุณหยางนั้นพิเศษและผมคงบอกไม่ได้ ก่อนที่ท่านจะลงมือกระทำอะไร ได้โปรดลองตรวจสอบก่อนด้วยเถอะ!”

เมื่อพูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป

หลี่ไห่หรงมาถึงที่นี่ได้สักพักแล้ว หลังจากแน่ใจว่าซ่งหวายี่โดนไล่ออกจากตระกูลโดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เธอก็รู้สึกวางใจ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่การอ้อนวอนแทนซ่งหวายี่ก็ไม่มี

เพราะเธอรู้ดีว่าเรื่องที่ซ่งชิงซานตัดสินใจแล้ว ต่อให้เธอพูดมากไปอีกเท่าไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

ครอบครัวทั้งสามคนหันหลังและเดินออกไปจากสายตาของตระกูลซ่ง

“นำทรัพย์สินทั้งหมดของทั้งสามคนกลับคืนสู่ตระกูลซะ”

ซ่งชิงซานคำรามเสียงดัง

“ครับ ผู้นำ!”

พ่อบ้านตอบรับคำสั่ง

หลังจากออกจากคฤหาสน์ตระกูลซ่ง ซ่งหวายี่กล่าวด้วยท่าทางที่ขอโทษ “แม่ เสี่ยวหย่า เป็นผมที่นำปัญหามาให้”

หลี่ไห่หรงยิ้มพร้อมกับส่ายหัว “ลูกรู้ดีว่าแม่ไม่เคยอยากให้ลูกไปตกอยู่ในอำนาจของตระกูลซ่ง การจากไปอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว”

“พี่ชาย บ้านแบบนี้ฉันเองก็ไม่ได้อยากอยู่มานานแล้ว ตั้งแต่พ่อเสียไปพวกเขาเห็นเราเป็นคนในครอบครัวตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?”

ใบหน้าเล็กๆของซ่งหวาหย่าเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองพร้อมกับพูดอย่างโกรธเคืองว่า “พวกเราไม่เพียงแต่ออกมาจากตระกูลซ่งแต่จะเป็นคนที่ดีขึ้นไปอีก ให้พวกเขารู้ไปเลยว่าไม่ใช่ว่าออกไปจากตระกูลซ่งแล้วเราจะอยู่กันไม่ได้เสียหน่อย!”

ใบหน้าของซ่งหวายี่ขมขื่น เขาไม่ละทิ้งความมั่งคั่งร่ำรวยของตระกูลซ่งไม่ได้ เพียงแต่กังวลว่าตระกูลซ่งจะไปรุกรานหยางเฉินแล้วจะทำให้ตระกูลซ่งต้องประสบกับหายนะเข้า

หลี่ไห่หรงมองความคิดที่อยู่ในใจของซ่งหวายี่ออกและพูดด้วยรอยยิ้ม “ลูกพยายามเต็มที่แล้ว ต่อไปจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าไม่เกี่ยวอะไรกับลูกแล้ว”

ซ่งหวายี่ถอนหายออกมาพร้อมกับพยักหน้า “วางใจได้เลย ผมจะเข้มแข็งต่อไป!”

ในเวลานี้เอง รถออดี้เอแปดสีดำคันหนึ่งก็ได้มาจอดที่ด้านหน้าของทั้งสามคน

กระจกหน้าต่างรถถูกเปิดออกและใบหน้าของชายวัยกลางคนที่ดูเคร่งขรึมก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับมองไปที่ซ่งหวายี่และพูดว่า “ประธานหยางให้ผมมารับพวกคุณครับ!”

เมื่อครอบครัวทั้งสามคนได้ยินอีกฝ่ายพูดก็รู้สึกตกตะลึงในทันที

“ประธานหยาง?”

ใบหน้าของซ่งหวายี่ดูงุนงง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนรู้จักกับประธานหยางด้วยเหรอ

“ประธานหยางของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หยางเฉิน!”

ชายวัยกลางคนอธิบาย

ทันใดนั้นซ่งหวายี่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าหยางเฉินยังมีตัวตนที่เป็นประธานหยางขอองเยี่ยนเฉินกรุ๊ปด้วย

เพียงแต่หยางเฉินรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขานั้นถูกไล่ออกจากตระกูลแล้ว?

เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนกำลังรอพวกเขาอยู่

ตอนนี้ตระกูลซ่งได้ขับไล่ครอบครัวทั้งสามคนออกจากตระกูลแล้ว แม้แต่บัตรเอทีเอ็มก็ยังถูกระงับไปด้วย

พูดได้ว่าพวกเขาในตอนนี้นั้นไม่มีเงินติดตัวในกระเป๋าเลยสักแดงเดียว

“ขึ้นรถเถอะ!”

คนขับรถวัยกลางคนเมื่อเห็นผู้คนกำลังดูงุนงงจึงพูดเร่งเร้า

“แม่ ในเมื่อคุณหยางเป็นคนเชิญ งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ!” ซ่งหวายี่พูดกับแม่ของตน

หลี่ไห่หรงพยักหน้า เดิมทีเธอเองก็ต้องการจะพบหยางเฉินเพียงแต่ไม่คิดว่าโอกาสจะมาถึงเร็วเช่นนี้

แต่ดูจากท่าทางแล้ว หยางเฉินน่าจะเป็นคนที่ฉลาดกว่าที่เธอคิดไว้มาก พวกเธอเพิ่งจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลซ่งมาก็ถูกหยางเฉินจัดแจงคนให้มารับเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากขึ้นรถไป สติของซ่งหวาหยาก็กลับมา ใบหน้าอันละเอียดลออนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “พี่ชาย คือพี่หยางเหรอ?”

ซ่งหวายี่ที่นั่งเบาะข้างคนขับก็พยักหน้าเล็กน้อย ได้แต่ทอดถอนอยู่ในใจพร้อมกับพูดเบาๆว่า “ก็คือคุณหยางเนี่ยแหละ!”

ในเวลาเดียวกันที่คฤหาสน์ตระกูลซ่ง ภายในวิลล่าของซ่งชิงซาน

สมาชิกทุกคนในตระกูลซ่งอยู่ที่นี่และบรรยากาศก็ดูน่าหดหู่มาก ในเวลานี้ใบหน้าของซ่งชิงซานปะทุความโกรธขึ้นมาเล็กน้อย

“ซ่งหวายี่ไม่ใช่คนที่พูดไปเรื่อย ในเมื่อเขาพูดว่าไม่สามารถไปรุกรานชายหนุ่มที่ชื่อหยางเฉินนั้นก็คงจะมีเหตุผลของเขาเอง ฉันแนะนำว่าเราควรที่จะตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจัดการดีหรือไม่”

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสจากตระกูลซ่งกล่าวออกมาอย่างมีเหตุผล

เมื่อครู่ทุกๆคนนั้นแสดงความคิดที่จะไปจัดการหยางเฉิน มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ให้การคัดค้าน

“อาสอง ฟังจากสิ่งที่พูดมาจะบอกว่าหากหยางเฉินมีภูมิหลังจริง การตายของลูกชายฉันก็จะปล่อยมันไปงั้นเหรอ?”

ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างโกรธเคือง

เขาคือพ่อของซ่งหวาตงที่สูญเสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไป แค่คิดก็รู้ได้ถึงเจตนาการฆ่าที่เขามต่อหยางเฉิน

“คุณปู่รอง เด็กนั่นมันจะมีภูมิหลังอะไรได้ยังไงกัน!เมื่อวานตอนที่อยู่คลับหวงจิน อวี๋เหวินปิงก็เป็นคนบอกเองว่าไอ้เด็กนั่นมันโดนตระกูลอวี๋เหวินทอดทิ้งไปตั้งหลายปีก่อนหน้านี้”

ก็คงแค่เรียนฝึกทักษะร่างกายให้แข็งแกร่งเท่านั้นแหละ

“ก็แค่เด็กที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ต่อให้ฆ่าให้ตายก็แค่ฆ่าไป ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”

ในเวลานี้ซ่งหวาเหว่ยก็เอ่ยปากพูดออกมา

ถ้าพูดว่าใครคือคนที่ตั้งใจจะฆ่าหยางเฉินมากที่สุด ก็ต้องเป็นซ่งหวาเหว่ยเท่านั้น

ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลซ่งรุ่นที่สาม เขาถูกหยางเฉินข่มขู่และขับไล่ให้ออกจากคลับหวงจินต่อหน้าผู้คนนับพันเมื่อคืนก่อน

ในตอนนี้เขายังคงไม่กล้าที่จะออกไปไหนเพราะเกรงว่าจะมีคนจดจำเขาได้

“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงจะจัดการลงมือได้”

ผู้อาวุโสที่ก่อนหน้าโน้มน้าวให้ตรวจสอบภูมิหลังของหยางเฉินดูก่อนก็ไม่ได้พูดโน้มน้าวอะไรต่ออีก

“มีใครมีความเห็นอะไรอีกไหม?” ซ่งชิงซานเอ่ยถาม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

The King of War 626 พี่เฉินออกคำสั่ง

Now you are reading The King of War Chapter 626 พี่เฉินออกคำสั่ง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในใจของซ่งหวายี่ลุกเป็นไฟด้วยความโกรธ ดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

เขาต้องการหยุดตระกูลซ่งไม่ให้ไปรุกรานหยางเฉินและกังวลว่าหยางเฉินจะใช้กำลังหนุนจากชายแดนเหนือมาทำลายตระกูลซ่ง

ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะพ่อของตน ตระกูลซ่งคงถูกทำลายไปนานแล้ว

หลายปีที่ผ่านมา เหตุผลที่เขายืนกรานจะต่อสู้เพื่อตำแหน่งทายาทก็คือเขาไม่ต้องการเห็นความมั่นคงของตระกูลซ่งที่พ่อเขาใช้ชีวิตแลกมาต้องถูกพินาศลงด้วยน้ำมือของคนตระกูลซ่งเองอีก

“เรียกคนมาไล่เขาออกไปซะ!”

ซ่งชิงซานตะโกนออกมาจากในวิลล่า

ตามคำสั่งของเขา มีชายแข็งแกร่งสองคนของตระกูลซ่งเดินเข้ามาที่ด้านข้างของซ่งหวายี่พร้อมกับพูดอย่างเฉยเมย “อย่าบังคับให้เราต้องลงมือเลย!”

“ไสหัวไปซะ!”

ซ่หวายี่ผลักชายผู้แข็งแกร่งที่ขวางทางเขาออกไปและตะโกนเข้าไปในวิลล่า “หากท่านปู่ไม่สามารถขจัดความโกรธในใจออกไปได้ก็ฆ่าผมเถอะ ถือเป็นการล้างแค้นให้กับซ่งหวาตง”

“แต่อย่าไปแก้แค้นกับคุณหยางเลย เขาไม่ใช่คนธรรมดา หากไปรุกรานเขาล่ะก็ตระกูลซ่งจะพังทลายลงในเร็ววัน!”

“ท่านปู่ ผมไม่ได้พูดให้ตกใจกลัวนะ ผมพูดความจริง!”

ซ่งหวายี่ตะโกนจนเสียงแหบแห้งไปหมด พยายามทำให้ซ่งชิงซานรับรู้ได้ถึงอันตรายของการไปแก้แค้นหยางเฉิน

เพียงแต่ในเวลานี้ไม่มีใครเชื่อเขาเลย

ซ่งชิงซานพูดอย่างเย็นชา “ก็แค่วัยรุ่นที่มีพละกำลังดีก็เท่านั้นจะมาข่มขู่คุกคามความเป็นความตายของตระกูลซ่งได้ยังไงกัน?แกต้องการจะแก้ตัวให้เขาก็เลยคิดว่าพวกเราโง่งั้นเหรอ?”

“ท่านปู่พูดไม่ผิด เห็นได้ชัดว่านายน่ะอยากแก้ตัวให้ไอ้สารเลวนั่น ดังนั้นจึงพูดให้เรากลัวกัน”

“นายทำให้เราดูเป็นคนโง่ก็พอแล้ว ยังจะมาทำให้ท่านปู่ดูโง่เขลาไปอีก นายนี่มันไร้สามัญสำนึก!”

ซ่งหวาเหว่ยยังคงพูดยั่วยุเรื่อยๆ

“เอาไป!”

เสียงโกรธของซ่งชิงซานดังขึ้นอีกครั้ง

ซ่งหวายี่รู้สึกโศกเศร้า เขาจึงไม่ได้ขอร้องวิงวอนอีกต่อไปพร้อมกับมองไปที่ชายแข็งแกร่งสองคนของตระกูลซ่งและพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ออกไป!ฉันไปเองได้!”

เขามองเข้าไปในวิลล่าด้วยแววตาที่ล้ำลึกพร้อมกับพูดโน้มน้าวเป็นครั้งสุดท้าย “ท่านปู่ ตัวตนของคุณหยางนั้นพิเศษและผมคงบอกไม่ได้ ก่อนที่ท่านจะลงมือกระทำอะไร ได้โปรดลองตรวจสอบก่อนด้วยเถอะ!”

เมื่อพูดจบ เขาก็หันหลังเดินจากไป

หลี่ไห่หรงมาถึงที่นี่ได้สักพักแล้ว หลังจากแน่ใจว่าซ่งหวายี่โดนไล่ออกจากตระกูลโดยไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร เธอก็รู้สึกวางใจ ท้ายที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาแม้แต่การอ้อนวอนแทนซ่งหวายี่ก็ไม่มี

เพราะเธอรู้ดีว่าเรื่องที่ซ่งชิงซานตัดสินใจแล้ว ต่อให้เธอพูดมากไปอีกเท่าไรก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

ครอบครัวทั้งสามคนหันหลังและเดินออกไปจากสายตาของตระกูลซ่ง

“นำทรัพย์สินทั้งหมดของทั้งสามคนกลับคืนสู่ตระกูลซะ”

ซ่งชิงซานคำรามเสียงดัง

“ครับ ผู้นำ!”

พ่อบ้านตอบรับคำสั่ง

หลังจากออกจากคฤหาสน์ตระกูลซ่ง ซ่งหวายี่กล่าวด้วยท่าทางที่ขอโทษ “แม่ เสี่ยวหย่า เป็นผมที่นำปัญหามาให้”

หลี่ไห่หรงยิ้มพร้อมกับส่ายหัว “ลูกรู้ดีว่าแม่ไม่เคยอยากให้ลูกไปตกอยู่ในอำนาจของตระกูลซ่ง การจากไปอาจเป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว”

“พี่ชาย บ้านแบบนี้ฉันเองก็ไม่ได้อยากอยู่มานานแล้ว ตั้งแต่พ่อเสียไปพวกเขาเห็นเราเป็นคนในครอบครัวตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?”

ใบหน้าเล็กๆของซ่งหวาหย่าเต็มไปด้วยความขุ่นเคืองพร้อมกับพูดอย่างโกรธเคืองว่า “พวกเราไม่เพียงแต่ออกมาจากตระกูลซ่งแต่จะเป็นคนที่ดีขึ้นไปอีก ให้พวกเขารู้ไปเลยว่าไม่ใช่ว่าออกไปจากตระกูลซ่งแล้วเราจะอยู่กันไม่ได้เสียหน่อย!”

ใบหน้าของซ่งหวายี่ขมขื่น เขาไม่ละทิ้งความมั่งคั่งร่ำรวยของตระกูลซ่งไม่ได้ เพียงแต่กังวลว่าตระกูลซ่งจะไปรุกรานหยางเฉินแล้วจะทำให้ตระกูลซ่งต้องประสบกับหายนะเข้า

หลี่ไห่หรงมองความคิดที่อยู่ในใจของซ่งหวายี่ออกและพูดด้วยรอยยิ้ม “ลูกพยายามเต็มที่แล้ว ต่อไปจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นก็ถือว่าไม่เกี่ยวอะไรกับลูกแล้ว”

ซ่งหวายี่ถอนหายออกมาพร้อมกับพยักหน้า “วางใจได้เลย ผมจะเข้มแข็งต่อไป!”

ในเวลานี้เอง รถออดี้เอแปดสีดำคันหนึ่งก็ได้มาจอดที่ด้านหน้าของทั้งสามคน

กระจกหน้าต่างรถถูกเปิดออกและใบหน้าของชายวัยกลางคนที่ดูเคร่งขรึมก็ปรากฏขึ้นพร้อมกับมองไปที่ซ่งหวายี่และพูดว่า “ประธานหยางให้ผมมารับพวกคุณครับ!”

เมื่อครอบครัวทั้งสามคนได้ยินอีกฝ่ายพูดก็รู้สึกตกตะลึงในทันที

“ประธานหยาง?”

ใบหน้าของซ่งหวายี่ดูงุนงง เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนรู้จักกับประธานหยางด้วยเหรอ

“ประธานหยางของเยี่ยนเฉินกรุ๊ป หยางเฉิน!”

ชายวัยกลางคนอธิบาย

ทันใดนั้นซ่งหวายี่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าหยางเฉินยังมีตัวตนที่เป็นประธานหยางขอองเยี่ยนเฉินกรุ๊ปด้วย

เพียงแต่หยางเฉินรู้ได้อย่างไรว่าพวกเขานั้นถูกไล่ออกจากตระกูลแล้ว?

เห็นได้ชัดว่าชายวัยกลางคนกำลังรอพวกเขาอยู่

ตอนนี้ตระกูลซ่งได้ขับไล่ครอบครัวทั้งสามคนออกจากตระกูลแล้ว แม้แต่บัตรเอทีเอ็มก็ยังถูกระงับไปด้วย

พูดได้ว่าพวกเขาในตอนนี้นั้นไม่มีเงินติดตัวในกระเป๋าเลยสักแดงเดียว

“ขึ้นรถเถอะ!”

คนขับรถวัยกลางคนเมื่อเห็นผู้คนกำลังดูงุนงงจึงพูดเร่งเร้า

“แม่ ในเมื่อคุณหยางเป็นคนเชิญ งั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ!” ซ่งหวายี่พูดกับแม่ของตน

หลี่ไห่หรงพยักหน้า เดิมทีเธอเองก็ต้องการจะพบหยางเฉินเพียงแต่ไม่คิดว่าโอกาสจะมาถึงเร็วเช่นนี้

แต่ดูจากท่าทางแล้ว หยางเฉินน่าจะเป็นคนที่ฉลาดกว่าที่เธอคิดไว้มาก พวกเธอเพิ่งจะถูกขับไล่ออกจากตระกูลซ่งมาก็ถูกหยางเฉินจัดแจงคนให้มารับเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากขึ้นรถไป สติของซ่งหวาหยาก็กลับมา ใบหน้าอันละเอียดลออนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “พี่ชาย คือพี่หยางเหรอ?”

ซ่งหวายี่ที่นั่งเบาะข้างคนขับก็พยักหน้าเล็กน้อย ได้แต่ทอดถอนอยู่ในใจพร้อมกับพูดเบาๆว่า “ก็คือคุณหยางเนี่ยแหละ!”

ในเวลาเดียวกันที่คฤหาสน์ตระกูลซ่ง ภายในวิลล่าของซ่งชิงซาน

สมาชิกทุกคนในตระกูลซ่งอยู่ที่นี่และบรรยากาศก็ดูน่าหดหู่มาก ในเวลานี้ใบหน้าของซ่งชิงซานปะทุความโกรธขึ้นมาเล็กน้อย

“ซ่งหวายี่ไม่ใช่คนที่พูดไปเรื่อย ในเมื่อเขาพูดว่าไม่สามารถไปรุกรานชายหนุ่มที่ชื่อหยางเฉินนั้นก็คงจะมีเหตุผลของเขาเอง ฉันแนะนำว่าเราควรที่จะตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจัดการดีหรือไม่”

ในเวลานี้ ผู้อาวุโสจากตระกูลซ่งกล่าวออกมาอย่างมีเหตุผล

เมื่อครู่ทุกๆคนนั้นแสดงความคิดที่จะไปจัดการหยางเฉิน มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่ให้การคัดค้าน

“อาสอง ฟังจากสิ่งที่พูดมาจะบอกว่าหากหยางเฉินมีภูมิหลังจริง การตายของลูกชายฉันก็จะปล่อยมันไปงั้นเหรอ?”

ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างโกรธเคือง

เขาคือพ่อของซ่งหวาตงที่สูญเสียลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไป แค่คิดก็รู้ได้ถึงเจตนาการฆ่าที่เขามต่อหยางเฉิน

“คุณปู่รอง เด็กนั่นมันจะมีภูมิหลังอะไรได้ยังไงกัน!เมื่อวานตอนที่อยู่คลับหวงจิน อวี๋เหวินปิงก็เป็นคนบอกเองว่าไอ้เด็กนั่นมันโดนตระกูลอวี๋เหวินทอดทิ้งไปตั้งหลายปีก่อนหน้านี้”

ก็คงแค่เรียนฝึกทักษะร่างกายให้แข็งแกร่งเท่านั้นแหละ

“ก็แค่เด็กที่ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง ต่อให้ฆ่าให้ตายก็แค่ฆ่าไป ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”

ในเวลานี้ซ่งหวาเหว่ยก็เอ่ยปากพูดออกมา

ถ้าพูดว่าใครคือคนที่ตั้งใจจะฆ่าหยางเฉินมากที่สุด ก็ต้องเป็นซ่งหวาเหว่ยเท่านั้น

ในฐานะลูกชายคนโตของตระกูลซ่งรุ่นที่สาม เขาถูกหยางเฉินข่มขู่และขับไล่ให้ออกจากคลับหวงจินต่อหน้าผู้คนนับพันเมื่อคืนก่อน

ในตอนนี้เขายังคงไม่กล้าที่จะออกไปไหนเพราะเกรงว่าจะมีคนจดจำเขาได้

“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงจะจัดการลงมือได้”

ผู้อาวุโสที่ก่อนหน้าโน้มน้าวให้ตรวจสอบภูมิหลังของหยางเฉินดูก่อนก็ไม่ได้พูดโน้มน้าวอะไรต่ออีก

“มีใครมีความเห็นอะไรอีกไหม?” ซ่งชิงซานเอ่ยถาม

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+