ท้าทายลิขิตสวรรค์ 60 เงินรั่วไหล
ตอนที่ 60 เงินรั่วไหล
ในที่สุดช่วงสุดท้ายของการประมูลก็มาถึงโดยวัตถุโบราณชิ้นสุดท้ายที่จะทําการประมูลในค่ําคืนนี้คือ
กระถางธูปหยกลวดลายหงส์สามขาของราชวงศ์ฮั่น
ขณะที่ใบหน้าของทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความคาดหวังและแม้ว่าจะไม่สามารถประมูลได้แต่พวกเขาก็
สามารถเป็นสักขีพยานในกระบวนการประมูลสมบัติชิ้นนี้ซึ่งมันน่าตื่นเต้นและน่าชื่นชมยินดี
จากนั้นคณะกรรมการที่ประกาศราคาประมูลเริ่มต้นที่สองล้านเหรียญและจะสามารถประมูลราคาเพิ่มขึ้นได้
ขั้นต่ําครั้งละหนึ่งแสนเหรียญ ทําให้ผู้คนจํานวนมากที่มาร่วมงานต่างก็รอชมด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
“สองล้าน!”
หยางเจี้ยนหมั้งประกาศราคาเป็นคนแรกพร้อมกับกวาดสายตามองไปจนทั่วบริเวณงานด้วยสายตาที่บ่ง
บอกว่า บุตรชายของเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลชั้นชอบกระถางธูปหยกใบนี้ดังนั้นคนที่รู้จักเขาไม่
ควรเข้ามาร่วมการประมูลในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่แสวงหาความอยู่รอดในเมืองนี้ต่างก็เป็นคนที่คุ้นเคยกันดังนั้นพวกเขาจึงไม่
กล้าประมูล แต่คนที่มาจากที่อื่นก็ไม่ได้สนใจเขาซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ต่างก็มีอิทธิพลและ
มีความแข็งแกร่งพอตัว
“สองล้านสองแสน
มู่หรงหยุนซึ่งผู้กว้างขวางในธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุโบราณที่ทําจากหยกก็รู้สึกถูกชะตากับกระถางธูปหยก
โบราณนี้เช่นกัน เนื่องจากมันสามารถใช้เป็นสมบัติล้ําค่าสําหรับจัดแสดงในร้านค้าของตนเองได้โดยธรรมชาติ
ดังนั้นเขาจึงไม่อยากพลาดโอกาสนี้
มันจึงทําให้หยางเจี้ยนหญิงรู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นเธอกล้าประกาศราคาแต่เขาก็ไม่ทราบว่าจะทําอย่างไรดี
เนื่องจากบิดาของเขาเคยเตือนเขาว่า คนบางคนในเมืองนี้ไม่สามารถระรานเขาได้และคนผู้นั้นคือมู่หรงหยุน
ซึ่งแม้ว่าเขาดูเหมือนจะทําธุกิจเกี่ยวกับการค้าวัตถุโบราณแต่เบื้องหลังของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
และถ้ามีเรื่องกับเธอก็ไม่แน่ว่าจะสามารถหลบหนีไปได้
“สองล้านสามแสน!”หยางเจี้ยนหมิงยังคงเสนอราคาต่อไป
และมู่หรงหยุนซึ่งก็ยังคงสู้ราคาต่อไปโดยไม่หยุดยั้ง และในที่สุดก็เสนอราคาเป็นห้าล้านส่งผลให้คนอื่น ๆ
ที่เข้าร่วมการประมูลต่างก็พากันสะดุ้งและเฝ้าดูว่าเขากับหยางเจี้ยนหมิงใครจะเป็นผู้ชนะการประมูล
และในตอนนี้หยางเจี้ยนหมิงก็เริ่มเหงื่อตก แต่เขาก็ไม่อยากที่จะยอมแพ้ เนื่องจากมีคนเคยบอกเขาว่า ถ้า
เขาวางกระถางธูปหยกลวดลายหงส์นี้ไว้ที่บ้าน เขาจะสามารถดึงดูดอํานาจและเงินทองอีกทั้งยังจะทําให้ผู้หญิง
ในครอบครัวของเขากลายเป็นผู้หญิงที่มีอํานาจวาสนาได้
ซึ่งนี้เป็นสิ่งล่อใจอย่างยิ่งส่าหรับตระกูลหยาง ที่จะทําให้พวกเขามีตําแหน่งทางราชการในระดับที่สูงขึ้น
และอาจจะก้าวไปถึงจุดที่ได้เข้าร่วมรัฐบาลกลาง ถ้าไม่เช่นนั้นก็หมายความว่าบุตรสาวของตระกูลหยางจะกลาย
เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะได้ครอบครองมันอย่างสุดซึ้ง แต่โดยไม่คาดคิดเขาได้พบว่ามู่หรงหยุนซึ่งกาลัง
ตั้งใจที่จะขวางทางเขาเช่นนี้
และเมื่อหยางซื้อเหมยเห็นว่าพวกเขาต่างก็ต่อสู้กันอย่างไม่ลดละเด็กสาวจึงเริ่มกังวลใจว่ามู่หรงหยุนซึ่ง
จะชนะการประมูลและได้กระถางธูปหยกนี้ไปครอบครองแทนหยางเจี้ยนหมิง
“คุณซึ่งคะ บอกให้คุณมูหรงยอมแพ้เถอะค่ะ”
เธอกระซิบกับซังซวนและเสียงนั้นก็ยังเข้าไปในหูของมู่หรงหยุนซึ้งขณะที่ซึ่งชวนจ้องมองเธอด้วยความ
รู้สึกงงงวยเล็กน้อย เนื่องจากเขากับมู่หรงหยุนซึ่งก็ไม่ค่อยสนิทกันมากนัก
จากนั้นมู่หรงหยุนซึ่งก็หันศีรษะเล็กน้อยเพื่อที่จะพุ่งสายตรงเข้าไปในดวงตาสีเข้มของเด็กสาวด้วยดวงตา
ที่ชัดเจน ทําให้ศีรษะของเขากระตุกเล็กน้อยและรีบปล่อยการ์ดประมูลในมือของตนเองลง
“ห้าล้านหนึ่งแสนครั้งที่หนึ่ง” ผู้ประมูลเรียก
“ห้าล้านหนึ่งแสนครั้งที่สอง”
“ห้าล้านหนึ่งแสนครั้งที่สาม” จากนั้นกรรมการก็ประมูลร่วมยินดี
“ขอแสดงความยินดีกับสุภาพบุรุษที่สามารถประมูลกระถางธูปลายหงส์สามขาอันล้ําค่านี้ได้สําเร็จด้วยเงิน
ห้าล้านหนึ่งแสนเหรียญ
และในที่สุดการประมูลก็สิ้นสุดลง ขณะที่หยางเจี้ยนหญิงลุกยืนขึ้นด้วยความสุขพร้อมกับโบกมืออย่างแรง
เพื่อบ่งบอกถึงชัยชนะของเขา
แต่ตอนนั้นเขาได้ยินหยางซื่อเหมยบอกกับซึ่งชวนให้ช่วยเกลี้ยกล่อมมู่หรงหยุนซึ่งให้หยุดประมูลจึงคิด
ว่าเธอกําลังช่วยตนเองด้วยความเข้าใจ
ต่อมาหลังจากการประมูลสิ้นสุดลงแล้ว ทุกคนต่างก็ถือของที่ตนเองประมูลได้และแยกย้ายกันไปส่วน
หยางซื่อเหมยนั้นต้องรอฮัวเหวินหัว ดังนั้นเธอจึงบอกให้ซึ่งชวนกลับไปก่อนเนื่องจากต้องการคุยธุระกับใครบาง
คน
จากนั้นมู่หรงหยุนซึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายแห่งความสงสัยเมื่อจ้องมองมาที่เด็กสาว
คนนี้
“คุณช่วยบอกเหตุผลผมหน่อยได้ไหม?”
หยางชื่อเหมยควขมวดและหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะกล่าวว่า
“เหตุผลก็คือมันไม่ดีสําหรับคุณ!
“ทําไมถึงเป็นแบบนั้น?”
มู่หรงหยุนซึ่งเอ่ยถามขณะที่มีความรู้สึกเสมอว่า รอยยิ้มที่มุมริมฝีปากของเด็กคนนี้ไม่สามารถคาดเดาได้
ราวกับว่าเธอกําลังมีความสับที่ทําให้รู้สึกสับสน ซึ่งท่าให้ผู้คนต้องการที่จะเปิดเผยมัน
แต่หยางชื่อเหมยไม่ยอมตอบและทําแค่เพียงยิ้ม โดยในเวลานั้นฮัวเหวินหัวได้เด็นเข้ามาหาเธอพอดี
พร้อมกับกล่าวด้วยความสุภาพและอ่อนน้อมว่า
“อาจารย์น้อยครับ ต้องขอโทษด้วยที่ทาให้รอนาน
“ไม่เป็นไรค่ะ” จากนั้นหยางซื่อเหมยก็พยักหน้าใหมู่หรงหยุนชิงและเด็นตามฮัวเหวินหัวออกไป
อาจารย์น้อยเหรอ? เมื่อมู่หรงหยุนซึ่งได้ยินคํากล่าวนี้เธอก็รู้สึกงงงวย
เอ๊ะ! ระดับการประเมินของเธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์แล้วเหรอ?
แล้วทําไมคนอย่างฮัวเหวนหัวถึงต้องแสดงความเคารพต่อเธอมากถึงขนาดนี้?
ฮัวเหวินหัวมีสํานักงานชั่วคราวในโรงแรมขนาดใหญ่แห่งนี้ และเมื่อเดินทางมาถึงแล้วหยางซื้อเหมยกก้าว
ไปข้างหน้าอย่างแผ่วเบา ขณะที่เห็นว่ามีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งเห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้มี
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเงิน
จากนั้นเธอก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ สํานักงานซึ่งมีการการตกแต่งต้นไม้และความเฉพาะเจาะจงมาก
เกี่ยวกับการจัดรูปแบบฮวงจัย อีกทั้งยังมีสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ถูกวางไว้บนตําแหน่งโชคลาภ
และโต๊ะทํางานของเขาก็อยู่ในตําแหน่งที่เป็นมงคล ซึ่งบ่งบอกว่าฮัวเหวินหัวมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มาก
ซึ่งสิ่งนี้น่าจะถูกจัดโดยอาจารย์ฮวงจุ้ย
เนื่องจากฮวงจุ้ยส่วนใหญ่จะจัดการในเรื่องโชคลาภและการปรับโชคชะตานั้นมีประสิทธิภาพอย่างมากซึ่ง
รูปแบบฮวงจุ้ยกับสภาพแวดล้อมล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เป็นมงคล โดยพลังงานที่วนเวียนอยู่ในนี้จะช่วยให้ผู้คนมี
ความกล้าหาญและมีปัญญาในระดับสูงซึ่งจะส่งผลต่อการดําเนินธุรกิจและความสําเร็จ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นข้าราชการระดับสูงหรือผู้น่าระดับในระดับต่ําลงไปและเจ้าของร้านค้าขนาดเล็ก
หรือผู้จัดการ บริษัท ขนาดใหญ่ ล้วนแล้วแต่ให้ความสําคัญกับการจัดวางโต๊ะทํางานของผู้นําซึ่งมันมีความสําคัญมาก
ปกติแล้วโต๊ะทํางานของผู้มีฮานาจตัดสินใจเช่นผู้นําระดับสูงเจ้านายประธานผู้จัดการทั่วไป ฯลฯ โดย
ทั่วไปควรอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันออก ซึ่งสิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวันเดือนปีเกิดของผู้นั้นด้วย
ดังนั้นแน่นอนว่าตําแหน่งของทุกคนจะไม่เหมือนกัน และการวางแนวของสํานักงานและแม้แต่โต๊ะทํางานก็
ต้องคํานึงถึงหลักอุทกธรณีวิทยา ภูมิทัศน์ สิ่งแวดล้อม สภาพอากาศและภูมิอากาศของอาคารสํานักงานกับ
โครงสร้างภายใน อีกทั้งยังมีปัจจัยด้านพลังงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
และเค้าโครงสํานักงานของฮัวเหวินหัวแห่งนี้มากซึ่งสอดคล้องกับวันเกิดของเขาดังนั้นจึงสามารถทําราย
ได้และสร้างธุรกิจให้รุ่งเรืองได้ แต่ทําไมเงินถึงรั่วไหล?
Comments
ท้าทายลิขิตสวรรค์ 60 เงินรั่วไหล
ตอนที่ 60 เงินรั่วไหล
ในที่สุดช่วงสุดท้ายของการประมูลก็มาถึงโดยวัตถุโบราณชิ้นสุดท้ายที่จะทําการประมูลในค่ําคืนนี้คือ
กระถางธูปหยกลวดลายหงส์สามขาของราชวงศ์ฮั่น
ขณะที่ใบหน้าของทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความคาดหวังและแม้ว่าจะไม่สามารถประมูลได้แต่พวกเขาก็
สามารถเป็นสักขีพยานในกระบวนการประมูลสมบัติชิ้นนี้ซึ่งมันน่าตื่นเต้นและน่าชื่นชมยินดี
จากนั้นคณะกรรมการที่ประกาศราคาประมูลเริ่มต้นที่สองล้านเหรียญและจะสามารถประมูลราคาเพิ่มขึ้นได้
ขั้นต่ําครั้งละหนึ่งแสนเหรียญ ทําให้ผู้คนจํานวนมากที่มาร่วมงานต่างก็รอชมด้วยความรู้สึกตื่นเต้น
“สองล้าน!”
หยางเจี้ยนหมั้งประกาศราคาเป็นคนแรกพร้อมกับกวาดสายตามองไปจนทั่วบริเวณงานด้วยสายตาที่บ่ง
บอกว่า บุตรชายของเลขาธิการคณะกรรมการพรรคเทศบาลชั้นชอบกระถางธูปหยกใบนี้ดังนั้นคนที่รู้จักเขาไม่
ควรเข้ามาร่วมการประมูลในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ที่แสวงหาความอยู่รอดในเมืองนี้ต่างก็เป็นคนที่คุ้นเคยกันดังนั้นพวกเขาจึงไม่
กล้าประมูล แต่คนที่มาจากที่อื่นก็ไม่ได้สนใจเขาซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่มาร่วมงานประมูลในครั้งนี้ต่างก็มีอิทธิพลและ
มีความแข็งแกร่งพอตัว
“สองล้านสองแสน
มู่หรงหยุนซึ่งผู้กว้างขวางในธุรกิจเกี่ยวกับวัตถุโบราณที่ทําจากหยกก็รู้สึกถูกชะตากับกระถางธูปหยก
โบราณนี้เช่นกัน เนื่องจากมันสามารถใช้เป็นสมบัติล้ําค่าสําหรับจัดแสดงในร้านค้าของตนเองได้โดยธรรมชาติ
ดังนั้นเขาจึงไม่อยากพลาดโอกาสนี้
มันจึงทําให้หยางเจี้ยนหญิงรู้สึกไม่พอใจเมื่อเห็นเธอกล้าประกาศราคาแต่เขาก็ไม่ทราบว่าจะทําอย่างไรดี
เนื่องจากบิดาของเขาเคยเตือนเขาว่า คนบางคนในเมืองนี้ไม่สามารถระรานเขาได้และคนผู้นั้นคือมู่หรงหยุน
ซึ่งแม้ว่าเขาดูเหมือนจะทําธุกิจเกี่ยวกับการค้าวัตถุโบราณแต่เบื้องหลังของเธอนั้นไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ
และถ้ามีเรื่องกับเธอก็ไม่แน่ว่าจะสามารถหลบหนีไปได้
“สองล้านสามแสน!”หยางเจี้ยนหมิงยังคงเสนอราคาต่อไป
และมู่หรงหยุนซึ่งก็ยังคงสู้ราคาต่อไปโดยไม่หยุดยั้ง และในที่สุดก็เสนอราคาเป็นห้าล้านส่งผลให้คนอื่น ๆ
ที่เข้าร่วมการประมูลต่างก็พากันสะดุ้งและเฝ้าดูว่าเขากับหยางเจี้ยนหมิงใครจะเป็นผู้ชนะการประมูล
และในตอนนี้หยางเจี้ยนหมิงก็เริ่มเหงื่อตก แต่เขาก็ไม่อยากที่จะยอมแพ้ เนื่องจากมีคนเคยบอกเขาว่า ถ้า
เขาวางกระถางธูปหยกลวดลายหงส์นี้ไว้ที่บ้าน เขาจะสามารถดึงดูดอํานาจและเงินทองอีกทั้งยังจะทําให้ผู้หญิง
ในครอบครัวของเขากลายเป็นผู้หญิงที่มีอํานาจวาสนาได้
ซึ่งนี้เป็นสิ่งล่อใจอย่างยิ่งส่าหรับตระกูลหยาง ที่จะทําให้พวกเขามีตําแหน่งทางราชการในระดับที่สูงขึ้น
และอาจจะก้าวไปถึงจุดที่ได้เข้าร่วมรัฐบาลกลาง ถ้าไม่เช่นนั้นก็หมายความว่าบุตรสาวของตระกูลหยางจะกลาย
เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง
ดังนั้นเขาจึงต้องการที่จะได้ครอบครองมันอย่างสุดซึ้ง แต่โดยไม่คาดคิดเขาได้พบว่ามู่หรงหยุนซึ่งกาลัง
ตั้งใจที่จะขวางทางเขาเช่นนี้
และเมื่อหยางซื้อเหมยเห็นว่าพวกเขาต่างก็ต่อสู้กันอย่างไม่ลดละเด็กสาวจึงเริ่มกังวลใจว่ามู่หรงหยุนซึ่ง
จะชนะการประมูลและได้กระถางธูปหยกนี้ไปครอบครองแทนหยางเจี้ยนหมิง
“คุณซึ่งคะ บอกให้คุณมูหรงยอมแพ้เถอะค่ะ”
เธอกระซิบกับซังซวนและเสียงนั้นก็ยังเข้าไปในหูของมู่หรงหยุนซึ้งขณะที่ซึ่งชวนจ้องมองเธอด้วยความ
รู้สึกงงงวยเล็กน้อย เนื่องจากเขากับมู่หรงหยุนซึ่งก็ไม่ค่อยสนิทกันมากนัก
จากนั้นมู่หรงหยุนซึ่งก็หันศีรษะเล็กน้อยเพื่อที่จะพุ่งสายตรงเข้าไปในดวงตาสีเข้มของเด็กสาวด้วยดวงตา
ที่ชัดเจน ทําให้ศีรษะของเขากระตุกเล็กน้อยและรีบปล่อยการ์ดประมูลในมือของตนเองลง
“ห้าล้านหนึ่งแสนครั้งที่หนึ่ง” ผู้ประมูลเรียก
“ห้าล้านหนึ่งแสนครั้งที่สอง”
“ห้าล้านหนึ่งแสนครั้งที่สาม” จากนั้นกรรมการก็ประมูลร่วมยินดี
“ขอแสดงความยินดีกับสุภาพบุรุษที่สามารถประมูลกระถางธูปลายหงส์สามขาอันล้ําค่านี้ได้สําเร็จด้วยเงิน
ห้าล้านหนึ่งแสนเหรียญ
และในที่สุดการประมูลก็สิ้นสุดลง ขณะที่หยางเจี้ยนหญิงลุกยืนขึ้นด้วยความสุขพร้อมกับโบกมืออย่างแรง
เพื่อบ่งบอกถึงชัยชนะของเขา
แต่ตอนนั้นเขาได้ยินหยางซื่อเหมยบอกกับซึ่งชวนให้ช่วยเกลี้ยกล่อมมู่หรงหยุนซึ่งให้หยุดประมูลจึงคิด
ว่าเธอกําลังช่วยตนเองด้วยความเข้าใจ
ต่อมาหลังจากการประมูลสิ้นสุดลงแล้ว ทุกคนต่างก็ถือของที่ตนเองประมูลได้และแยกย้ายกันไปส่วน
หยางซื่อเหมยนั้นต้องรอฮัวเหวินหัว ดังนั้นเธอจึงบอกให้ซึ่งชวนกลับไปก่อนเนื่องจากต้องการคุยธุระกับใครบาง
คน
จากนั้นมู่หรงหยุนซึ่งก็เดินเข้ามาพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกายแห่งความสงสัยเมื่อจ้องมองมาที่เด็กสาว
คนนี้
“คุณช่วยบอกเหตุผลผมหน่อยได้ไหม?”
หยางชื่อเหมยควขมวดและหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะกล่าวว่า
“เหตุผลก็คือมันไม่ดีสําหรับคุณ!
“ทําไมถึงเป็นแบบนั้น?”
มู่หรงหยุนซึ่งเอ่ยถามขณะที่มีความรู้สึกเสมอว่า รอยยิ้มที่มุมริมฝีปากของเด็กคนนี้ไม่สามารถคาดเดาได้
ราวกับว่าเธอกําลังมีความสับที่ทําให้รู้สึกสับสน ซึ่งท่าให้ผู้คนต้องการที่จะเปิดเผยมัน
แต่หยางชื่อเหมยไม่ยอมตอบและทําแค่เพียงยิ้ม โดยในเวลานั้นฮัวเหวินหัวได้เด็นเข้ามาหาเธอพอดี
พร้อมกับกล่าวด้วยความสุภาพและอ่อนน้อมว่า
“อาจารย์น้อยครับ ต้องขอโทษด้วยที่ทาให้รอนาน
“ไม่เป็นไรค่ะ” จากนั้นหยางซื่อเหมยก็พยักหน้าใหมู่หรงหยุนชิงและเด็นตามฮัวเหวินหัวออกไป
อาจารย์น้อยเหรอ? เมื่อมู่หรงหยุนซึ่งได้ยินคํากล่าวนี้เธอก็รู้สึกงงงวย
เอ๊ะ! ระดับการประเมินของเธอได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์แล้วเหรอ?
แล้วทําไมคนอย่างฮัวเหวนหัวถึงต้องแสดงความเคารพต่อเธอมากถึงขนาดนี้?
ฮัวเหวินหัวมีสํานักงานชั่วคราวในโรงแรมขนาดใหญ่แห่งนี้ และเมื่อเดินทางมาถึงแล้วหยางซื้อเหมยกก้าว
ไปข้างหน้าอย่างแผ่วเบา ขณะที่เห็นว่ามีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาอย่างต่อเนื่องซึ่งเห็นได้ชัดว่าสถานที่แห่งนี้มี
ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเงิน
จากนั้นเธอก็กวาดสายตามองไปรอบ ๆ สํานักงานซึ่งมีการการตกแต่งต้นไม้และความเฉพาะเจาะจงมาก
เกี่ยวกับการจัดรูปแบบฮวงจัย อีกทั้งยังมีสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ถูกวางไว้บนตําแหน่งโชคลาภ
และโต๊ะทํางานของเขาก็อยู่ในตําแหน่งที่เป็นมงคล ซึ่งบ่งบอกว่าฮัวเหวินหัวมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้มาก
ซึ่งสิ่งนี้น่าจะถูกจัดโดยอาจารย์ฮวงจุ้ย
เนื่องจากฮวงจุ้ยส่วนใหญ่จะจัดการในเรื่องโชคลาภและการปรับโชคชะตานั้นมีประสิทธิภาพอย่างมากซึ่ง
รูปแบบฮวงจุ้ยกับสภาพแวดล้อมล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เป็นมงคล โดยพลังงานที่วนเวียนอยู่ในนี้จะช่วยให้ผู้คนมี
ความกล้าหาญและมีปัญญาในระดับสูงซึ่งจะส่งผลต่อการดําเนินธุรกิจและความสําเร็จ
อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเป็นข้าราชการระดับสูงหรือผู้น่าระดับในระดับต่ําลงไปและเจ้าของร้านค้าขนาดเล็ก
หรือผู้จัดการ บริษัท ขนาดใหญ่ ล้วนแล้วแต่ให้ความสําคัญกับการจัดวางโต๊ะทํางานของผู้นําซึ่งมันมีความสําคัญมาก
ปกติแล้วโต๊ะทํางานของผู้มีฮานาจตัดสินใจเช่นผู้นําระดับสูงเจ้านายประธานผู้จัดการทั่วไป ฯลฯ โดย
ทั่วไปควรอยู่ทางทิศใต้หรือทิศตะวันออก ซึ่งสิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวันเดือนปีเกิดของผู้นั้นด้วย
ดังนั้นแน่นอนว่าตําแหน่งของทุกคนจะไม่เหมือนกัน และการวางแนวของสํานักงานและแม้แต่โต๊ะทํางานก็
ต้องคํานึงถึงหลักอุทกธรณีวิทยา ภูมิทัศน์ สิ่งแวดล้อม สภาพอากาศและภูมิอากาศของอาคารสํานักงานกับ
โครงสร้างภายใน อีกทั้งยังมีปัจจัยด้านพลังงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
และเค้าโครงสํานักงานของฮัวเหวินหัวแห่งนี้มากซึ่งสอดคล้องกับวันเกิดของเขาดังนั้นจึงสามารถทําราย
ได้และสร้างธุรกิจให้รุ่งเรืองได้ แต่ทําไมเงินถึงรั่วไหล?
Comments