กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์! (reincarnated into human) 22 เงาสัตว์ร้าย

Now you are reading กลับชาติมาเกิดเป็นมนุษย์! (reincarnated into human) Chapter 22 เงาสัตว์ร้าย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.
มองไปที่แกรี่ที่ยืนอยู่ข้างผมร่างกายสั่นไปหมดด้วยความกลัว จากนั้นเมื่อมอง
ไปยังด้านหน้าดาบในมือก็สั่นอยู่เหมือนกัน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันจะสั่นได้เอง
นี่คือสิ่งที่มนุษย์จะต้องรู้สึกเมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งที่เหนือกับเรางั้นหรอ?
ยิ่งผมทำใจไม่ได้เท่าไหร่ที่จะยอมรับมัน แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นไปเองทั้งนั้น
ทั้งที่ใจผมบอกให้สู้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าแต่ร่างกายผมมันไม่ไปในทิศทางเดียวกัน
เหล่าอัศวันทั้งหลายยืนเรียงกันอยู่แถวหน้า ในขณะที่ผมและแกรี่คอยคุ้มกันรถม้า
ที่อยู่ข้างหลังเรา พวกเขายืนนิ่งพร้อมกับจับอาวุธไว้แน่นรอที่จะถึงเวลาได้ใช้มันสักที
แทบไม่อยากจะเชื่อว่าสัตว์ร้ายนั่น ไม่ขยับเลยแม้แต่ปลายผมพร้อมยังคอยจ้องมอง
พวกเราอย่างระมัดระวัง จากไม่นานมันใช้เล็บที่แหลมคมของมันชี้ไปยังเหล่าอัศวิน
“พวกแกไม่สามารถจะกำจัดเงาสัตว์ร้ายได้แน่เพราะอีกไม่นานพวกเราก็จะยึดทั้งแผ่นดิน!”
เสียงที่ดังออกมานั้นทั้งน่ากลัวและประหลาด
“สัตว์ร้ายพูดได้!” เบอร์นาโดตะโกนออกมาพร้อมกับทำสีหน้าไม่เชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง
สิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าทำให้ทุกคนประหลาดใจอย่างมากโดยส่วนมากแล้วสัตว์ร้าย
จะพูดไม่ได้ ถ้ามีก็คงจะมีน้อยมากที่มีความสามารถพิเศษแบบนี้ สิ่งมีชีวิตอย่างเช่นมังกร
และชนิดอื่นอีกมากมาย ก็สามารถที่จะพูดได้เหมือนกัน แต่ไม่เคยมีสัตว์ประเภทหมีโคอาร่า
ที่ทำได้ หรือบางทีเงาสัตว์ร้ายแค่จะใช้ร่างกายของหมีเป็นหุ่นเชิดกัน?
“ ภารกิจของพวกแกจะล้มเหลวและคนที่แกรักนั้นต้องตาย “
หมีชั่วร้ายพูดพร้อมตั้งใจหันหน้ามามองที่ผมแบบแปลกๆมากกว่าที่จะเลือก
มองเหล่าอัศวินที่อยู่ตรงหน้าเขา
หมีตัวนั้นกระโดดลอยขึ้นฟ้าและหายเข้าไปในป่าอย่างไม่มีวี่แววว่าจะกลับมา
“ทำไมมันถึงปล่อยให้เรารอดมาได้” เบอร์นาโดถามอย่างสงสัย
“ฉันคิดว่ามันแค่มาขู่เราไว้ก่อน พวกมันต้องการทำให้ The Kingdom เริ่มกลัวเรื่องที่มันพูด
และก็ปั่นประสาทพวกเราเท่านั้นเอง “ เดลเบิร์ตตอบพร้อมกับความมั่นใจ
แกรี่เดินไปข้างๆวินฟอร์ตแล้วพูดว่า “บางทีมันอาจจะรู้ว่ายังไงมันก็แพ้พวกเราแน่ๆ?”
“ฉันกลัวว่ามันจะไม่ใช่แบบนั้น ถ้ามันเป็นเพียงแค่หมีธรรมดาทั่วไป
มันไม่ยากเลยที่เราจะจัดการมัน แต่นี่กลับเป็นราชาหมีชั่วร้าย มันมีพลังที่แข็งแกร่งมาก
แม้ว่าฉันจะเชื่อว่าเราจะจัดการมันได้แต่ เราอาจจะออกมาพร้อมกับการสูญเสียคนฝั่งเรา”
วินฟอร์ตเสริม
ในขณะที่แกรี่ฉุนเฉียวเมื่อนึกถึงการต่อสู้กับหมีชั่วร้ายตัวนั้น
เบอร์นาโดเข้ามาใกล้ๆพร้อมกับกระซิบที่ข้างหูวินฟอร์ตว่า
“ดูเหมือนมันจะรู้ภารกิจของเรา บางทีอาจมีคนทรยศใน Academy เราก็เป็นได้”
วินฟอร์ดเลือกที่จะไม่ตอบอะไรพร้อมกับมองหน้าเขาพร้อมกับความงง
เดลเบิร์ตเดินเข้ามาขัดจังหวะพร้อมกับพูดว่า
“พวกสัตว์ร้ายนั้นเฝ้าดูเรามาตั้งแต่เราเดินทางออกจากโรงแรม บางทีการที่เราถูกโจมตี
คือการที่เราก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวนึงเพราะเป็นสิ่งยืนยันว่าเราจะเดินทางสายนี้จริงๆ
ฉันไม่คิดว่านี่มันจะเป็นเรื่องบังเอิญหลอกเพราะยังไงแล้วเด็กหัวแดงคนนี้ก็จะนำโชคร้ายมาให้เรา “
ผมมองไปที่เดลเบิร์ตพร้อมกับยิ้มแหย่ๆพร้อมกับตอบไปว่า
“ผมคิดว่าคุณไม่เชื่อในตำนานของผมแน่ หรือคุณเลือกที่จะเชื่อในสิ่งที่เหมาะกับคุณเท่านั้น
คุณมันไม่ใช่อัศวินตัวจริง! “
ทันใดนั้นเดลเบิร์ตรีบพุ่งเข้ามาหาผมพร้อมจะสั่งสอนผมอีกครั้งแต่ครั้งนี้วินฟอร์ตเข้า
มาห้ามเขาไว้ได้ทันเวลา
วินฟอร์ตมองมาที่ผมและแกรี่และพึ่งจะสังเกตุว่าที่ตัวแกรี่อาบไปด้วยเลือด
“พวกเธอทั้งสองคนต่อสู้ได้ดี ฉันเองค่อนข้างแปลกใจถ้าเป็นคนอื่น
คงยืนตัวแข็งทำตัวไม่ถูกกับสถานการ์ณที่ต้องเจอแต่พวกเธอก็จัดการกับการต่อสู้
กับหมีชั่วร้ายได้อย่างดี ฉันภูมิใจในตัวพวกเธอจริงๆ “
“พวกเด็กทั้งสองคนได้ต่อสู้แค่ สัตว์ธรรมดา (Basic tier)เท่านั้นแหละตอนที่
ฉันอายุเท่าพวกเขาฉันทำได้ดีกว่านี้ตั้งเยอะ “ เดลเบิร์ตพูดทับทมคำชมแบบไม่รอช้า
เมื่อตอนที่ต่อสู้กับหมีชั่วร้ายนั้น ผมได้รับการแจ้งเตือนอีกครั้งจากระบบนั้น
<Basic tier crystal 1>
<คุณจะยอมรับหรือไม่?>
<รับ> <ไม่รับ>
นั่นทำให้ผมประหลาดใจมากเพราะผมก็ไม่ได้เห็นมันมาสักระยะตอนที่ผมเข้า
ไปไล่ล่าสัตว์ในป่าดำครั้งนั้น หลังจากที่ผมได้รับ 3 Crystal จากหมาป่าและจากนั้น
ผมก็ไม่ได้รับอะไรอีกเลย ถึงแม้ว่าผมจะต่อสู้กับสัตว์อีกมากมายก็ตาม เหตุการ์ณมันเหมือน
ตอนที่ผมต่อสู้กับเจ้าลิงบ้านั่น บางทีมันอาจจะเป็นข้อจำกัดที่ผมจะได้รับ Crystal
ในแต่ละชนิดของสัตว์ร้าย
ผมตัดสินใจที่จะเก็บ Crystal ไว้ใช้ภายหลังและซ่อนมันไม่ให้ใครรู้ต่อจากนี้
ผมเองก็ยังไม่รู้ว่าระบบมังกร นี้มันพิเศษสำหรับผมยังไงหรือนี่คือสิ่งที่มนุษย์ทุกคน
เขาก็เคยพบเจอกัน สิ่งเดียวที่ผมไม่อยากจะทำคือการกลายเป็นสิ่งทดสอบของมนุษย์
อีกเรื่องนึงที่เข้ามาวนอยู่ในหัวผมคงจะหนีไม่พ้นเรื่องเงาสัตว์ร้ายนั่น ทำไมสายตา
ที่มันมองมาดูเหมือนจะจ้องมาที่ผมเท่านั้น จะเป็นไปได้ไหมที่มันจะเห็นสิ่งที่อยู่ข้างในตัวผม?
หรือมันมีภารกิจที่อัศวินกำลังทำอยู่กันแน่?
ก่อนที่พวกเราจะเริ่มเดินทางอีกครั้งวินฟอร์ตเข้ามาหาผมและแกรี่พร้อมกับบอก
ให้เราเก็บเรื่องที่เจอเงาสัตว์ร้ายนนั้นเป็นความลับ เขาไม่ได้บอกว่าเหตุผลที่ต้องปิดบัง
นั้นคืออะไร แต่บอกให้เราสัญญาว่าจะไม่บอกใครตลอดชีวิต
หลังจากนั้นทุกคนไม่รอช้าที่จะกลับไปหาม้าของตัวเองและพร้อมที่จะมุ่งหน้าอีกครั้งไปยัง
เมือง Renny ตลอดการเดินทางในครั้งนี้ราบลื่นและผ่านมันไปได้ด้วยดีและพวกเราก็ไม่ได้
พบอะไรที่เป็นอุปสรรค์สำหรับเราต่อไปเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง เหล่าอัศวินก็ให้สัญญาณ
ว่าเราเดินทางมาถึงจุดเป้าหมายของเราแล้ว
เราเดินทางมาถึงหน้าประตูทางเข้าของเมือง Renny ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยผนังที่ทำจากหิน
ความสูงประมาณ 20 ฟุต มีทหารและอัศวินหลายคนประจำการอยู่ด้านนอกและบนกำแพง
เมืองนี้ทำให้ผมประทับใจมากกับการรักษาความปลอดภัยที่ดูเหมือนว่าจะทำได้ดีกว่าเมืองอื่นๆ
“ทำไมคนดูแลความปลอดภัยเยอะมากมายขนาดนี้?” ผมถามวินฟอร์ต
เมือง Renny เป็นฐานสำคัญสำหรับเราเราต้องปกป้องอนาคตของอาณาจักรของเรา
หากไม่มีเมือง Renny ก็จะไม่มีใครปกป้องเราในอนาคต เราสามารถพูดกันได้เลยว่า
เมืองนี้สำคัญว่าบางเมืองใน Alure Kingdom
“นี่เราอยู่ห่างไกลจากชายแดนใช่ไหม?”
“แม้ว่าเงาของสัตว์ร้ายจะไม่มาแสดงตัวที่นี่ และบางทีอาจจะมีหนึ่งหรือสองที่หลงทาง
มาเป็นครั้งคราวแต่นั่นคงไม่ใช่ผู้คุมแต่อาจจะเป็นพวก Dark Guild “
“The Dark Guild?”
แกรี่ที่นั่งอยู่ข้างผมดูเหมือนจะสนใจกับเรื่องนี้
“ผมเคยได้ยินมาเหมือนกันเรื่อง Dark Guild พวกเขาคือกลุ่มคนที่ต้องการจะเห็น
จุดล้มจมของ Alure Kingdom หัวหน้าของกลุ่มนี้เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของ
Avrion Academy จนโดนเนรเทศออกไป“
แกรี่พูดด้วยใบหน้าที่สบายใจดูคล้ายเด็กที่เห็นเขาทำแบบนี้เหมือนจะมีการแข่งขันที่
เกิดขึ้นระหว่างเราสองคน
“ทำไมถึงถูกเนรเทศออกไป?” ผมถาม
“ทำตัวสบายๆเด็กๆ พวกเธอจะได้เรียนรู้ทุกอย่างจากที่นี่ มองดูรอบๆเมืองนี้ที่เธอ
ต้องใช้เวลาอยู่ไปอีกสิบปีเรียนรู้ทุกอย่างที่จะทำให้เธอกลายเป็นอัศวินให้ได้”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด