จอกศักดิ์สิทธิ์ของเอริส (エリスの聖杯) 0 บทนำ

Now you are reading จอกศักดิ์สิทธิ์ของเอริส (エリスの聖杯) Chapter 0 บทนำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทนำ

 

※คำเตือน・มีเนื้อหาที่มีความรุนแรงและการพรรณนาถึงการนองเลือด

 

 

 

 กิ๊ง ก่อง ระฆังได้ส่งเสียงขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 วันนี้ คอนนี่กลายเป็นเป็นเด็กไม่ดี ฝ่าฝืนคำสั่งของท่านพ่อ เธอได้ไปดู「การประหาร」ที่ท่านสั่งห้ามเอาไว้ แต่ยังแอบออกไปจากคฤหาสน์ เพื่อไปยังลานเซนต์มาร์ค หนำซ้ำ เธอยังลากเคทไปด้วย

 

 

 

 พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ปกติเคทเเละคอนนี่ต่างมาเล่นด้วยกันที่นี่บ่อยๆ วิ่งไล่จับบ้าง ซ่อนแอบบ้าง―――บางครั้ง ก็ยังแอบไปเล่นกันที่ศาลากลางเมืองบ้าง เจ้าหน้าก็ใจดีจึงไม่เคยโดนดุเลย ที่นี่นั้นเปรียนเสมือนสวนของคอนนี่

 

 

 

 เพราะฉะนั้น จึงคิดว่าคงไม่เป็นไร เพราะสถานที่แห่งนี้ ไม่เคยทำให้คอนนี่รู้สึกว่าน่ากลัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

 

 

 

 

 ―――แต่ถึงกระนั้น วันนี้ ลานเซนต์มาร์คมันแตกต่างออกไป

 

 

 

 

 

 อย่างแรก มีคนเยอะมากทำให้คิดว่าผู้คนในเมืองหลวงทั้งหมดมารวมตัวที่นี่เลยทีเดียว!เหตุการณ์ที่ทำให้มีคนมารวมมากขนาดนี้ สำหรับคอนนี่นอกจากเทศกาลฉลองวันประสูติและเทศกาลอ่านดาราก็ไม่รู้จักอีกเเล้ว แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างจากเทศกาลปกติก็คือ สายตาทุกคนทอประกายวาบ เป็นสายตาที่ทำให้รู้สึกไม่พึงประสงค์ มันเป็นสายตาเดียวกับจอร์น ลูกผู้ดูเเลสวน ขณะที่กำลังรังเเกคอนนี่อยู่เลย

 

 

 

 คอนนี่ยังไม่เคยเห็น「การประหาร」กับตาแม้เเต่ครั้งเดียว เพราะว่าท่านพ่อของคอนนี่เกลียด「การประหาร」เมื่อไรก็ตามที่มีการยกเรื่อง「การประหาร」ขึ้นมา คุณพ่อจะบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ละเมิดมนุษยธรรม ด้วยใบหน้าที่จริงจังเสมอ คอนนี่ที่เพิ่งฉลองครบ 6 ขวบ ไม่นานนั้น ไม่อาจเข้าใจความหมายของมันนัก

 

 

 

 

 

 

 

  กิ๊ง ก่อง ระฆังได้ส่งเสียงขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 ถูกพาให้ไหลไปตามฝูงชน พอรู้ตัวก็ไม่รู้ว่าผ่านไปเท่าไหร่แล้วที่หลงกับเคท พอตระหนักได้จึงเลือดก็สูบฉีดอย่างเป็นกังวล วันนี้ที่ลานมีบางอย่างผิดปกติ มีบรรยากาศที่แปลกประหลาดบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ คอนนี่รู้สึกวิตกกังวลพยามยามแหวกว่ายผ่านทะเลของผู้คนและตะโกน「เคท!」เสียงนั้นถูกมลายหายลงด้วยความพลุกพล่านของผู้คน ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี คอนนี่ร้อนลน ตะโกนชื่อของเคทพยายามแหวกว่ายไป แหวกว่ายไป เดินหน้าไป

 

 

 

 พอรู้ตัวอีกที ก็มาอยู่ที่แถวหน้าสุดของฝูงชนเสียแล้ว

 

 

 

 ตรงนั้น ณ ใจกลางลาน ตรงหน้าก็มีแท่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่

 

 คิดว่านี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสำหรับ「การประหาร」คิดแบบนั้นมาชั่วครู่นึง แล้วก็สะบัดทิ้งไป เรื่องที่สำคัญกว่านั้นคือเคท เคทอยู่ที่ไหนกันนะ นอกจากแท่นที่ไม่คุ้นแล้ว ก็ยังมีภาพที่เห็นที่ลานอยู่เสมอๆ อยู่ทางด้านซ้ายมือรูปปั้นของวีรบุรุษผู้ที่ก่อตั้งประเทศนี้อมาเดอุส ทางขวามือคือรูปปั้นของเซนต์อนาสตาเซีย แล้วก็เลยจากจตุรัสไปเพียงนิดเดียวก็จะเป็นหอระฆังเซนต์มาร์ค

 

 ขณะที่กำลังจะตามหาเคสต่อนั้น ฝูงชนรอบๆต่างเเตกตื่น เมื่อประตูเชื่อมจากพระราชวังโมลดาไวต์ถูกเปิดออก รถม้าคันหนึ่งก็เคลื่อนที่มาถึงลาน

 

 

 

 

 

 ที่ออกมาจากด้านในนั้น คือหญิงสาวผู้ที่สวมฮูดสีดำ และกลุ่มผู้ชาย

 

 

 

 

 

 กลุ่มผู้ชายบางคนก็หนุ่ม บางคนก็มีอายุ แต่ทุกคนนั้นแต่งชุดอย่างเป็นทางการ แต่หญิงสาว เสื้อผ้าเป็นเดรซสีเทาขนหนูและจืดชืดอย่างมาก ไม่ว่าบริเวณไหนๆ ก็ขาดลุ่ยไปหมด

 

 

 

 ทันทีที่ร่างของพวกเข้าได้ปรากฏต่อสายตา ก็จุดเสียงโห่ร้องให้ดังขึ้น จากนั้นเพียงชั่วครู่ก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงของความโกรธและเสียงตะโกน ลอยไปทั่วบรรยากาศ คอนนี่จนถึงตอนนี้นั้นไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะได้ยินคำหยาบคายแบบนี้มาก่อน คอนนี่กลัวและไม่สามารถขยับเขยื้อนไปจากจุดนั้นได้ อย่างไรก็ตาม คำพูดด่าทอพวกนั้นที่ควรจะส่งไปถึงหญิงสาวนั้น ดูเหมือนเธอไม่สนมันเลย ไม่แม้แต่จะมองมาทางนี้แม้แต่ครั้งเดียว เธอถูกพาไป ณ ใจกลางของลานซึ่งมีแท่นถูกติดตั้งไว้เป็นพิเศษ หรือก็คืออยู่ ณ เบื้องหาของคอนนี่ หญิงสาวได้เข้ามาใกล้ จนสังเกตได้ว่าที่ข้อมือทั้งสองได้สวมกุญแจมือไม้อยู่

 

 

 

 ฝูงชนไม่อาจอยู่นิ่งได้อีกต่อไป บ้างก็ชี้ไปที่หญิงสาว บางคนก็ขึ้นเสียงเพื่อกรีดร้อง อีกทั้งบางคนก็ปรบมือและหัวเราะคิกคัก

 

 

 

  

 

 

 

 กิ๊ง ก่อง ระฆังได้ส่งเสียงขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 เมื่อเธอสังเกตว่า จู่ๆ เมฆดำหนา ก็เคลื่อนที่ปกคลุมเข้ามาอย่างฉับพลัน ฝนหยดแปะแปะแต่งแต้มพื้นด้วยจุด

 

 

 

 ผู้ชายคนหนึ่งได้กระซิบอะไรบางอย่าง หญิงสาวได้เปิดฮูดตุ้บลงมา เธอได้สะบัดหัวอย่างเฉื่อยๆ ผมดำเงางามแผ่สายลงมาและแล้วในที่สุดเธอก็หันมา

 

 

 

 

 

 ณ เวลานั้น คอนนี่ทึ่ง

 

 

 

 

 

 ผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้ ในชีวิตนี้ไม่เคยเห็นสิ่งที่งดงามที่สุดขนาดนี้มาก่อน ผิวขาวราวกับหิมะ ริมฝีปากแดงราวกับผลไม้สุกและก็ ดวงตาที่เป็นประกายราวกับดวงดาวถูกกักอยู่ภายใน และส่องแสงราวกับอัญมณีสีม่วงอเมทิสต์ ―――

 

 

 

 คนๆนี้ทำให้คิดว่าเทวานั้นมีจริง และนั่นก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่คอนนี่คิดคนเดียว ข้อประจักษ์ก็คือ เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ผ่านมานั้น ได้หยุดลง

 

 

 

 ไม่ว่าใครที่อยู่ตรงนั้น ต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นหญิงสาว แม้จะตกเป็นเป้าสายตาของฝูงชน แต่หญิงสาวนั้นก็ไม่ได้ขยับ ในทางตรงกันข้ามเจ้าหล่อนได้มองไปรอบๆ ลานเพื่อสำรวจหน้าคนต่อคนเพื่อยืนยันอย่างช้าๆ ครั้งนี้ ผู้ใดถูกจ้องก็ผงะหนีอย่างเสียมิได้

 

 

 

 หญิงสาวได้หลับตาลงเล็กน้อย ส่งเสียงจากจมูก แล้วก็เปิดปากขึ้นอย่างช้าๆ

 

 

 

「สาปแช่ง」

 

 

 

 แม้ว่าเธอจะไม่ได้ขึ้นเสียงเลยแม้แต่น้อย เสียงที่สงบเสงี่ยมได้สั่นสะเทือนจากใจกลางลาน

 

 

 

「ขอสาปแช่ง พวกแกทุกคน―――!」

 

 

 

 วินาทีนั้น ทั่วบริเวณนั้นเงียบสงัด ได้ยินแม้เเต่เสียงกลืนน้ำลายใกล้ๆ  ไม่มีทางที่คำสาปจะมีจริง แต่ความรู้สึกไม่สบายก็เเพร่กระจายออกไปอยู่ดี

 

 

 

「อะ อีโสเภณี!」ทันใดนั้นใครบางคนก็ขึ้นเสียง เสียงนั้นสั่นเทา อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นชนวนให้ ฝูงชนกลับมาก่นด่าใส่ว่า「ไอโสเภณี!」「ไอปีศาจ!」「ไอฆาตกร!」

 

 

 

 คอนนี่ทำได้แค่หวาดกลัว คอนนี่ยังมีวัยเพียง 6 ขวบ เด็กน้อยยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อความโหดร้ายของมนุษย์ ทำไมกัน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงดี สายตาที่ล่องลอยของเธอก็ไปประสานเข้ากับหญิงสาวคนนั้น อาจเป็นเพราะว่าไม่คิดว่าจะมีเด็กอย่างคอนนี่ด้วย หญิงสาวจึงกระพริบตาอย่างงุนงง ทันใดนั้นปากของเธอก็เปิด เเละหัวเราะขึ้น―――เจ้าหล่อนนั้นหัวเราะ!

 

 

 

 ดวงตาของคอนนี่เบิกกว้าง บีบคั้น หัวใจเธอเต้นเร็ว ณ ตอนนี้ มันคืออะไรกัน นี่มันคือ อะไรกัน ตัวฉันนั้น ตอนนี้ คิดว่าได้เห็น อะไรบางสิ่งที่รุนแรง นี่มัน นี่มัน―――

 

 

 

 

 

 

 

 บางที มันสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ และมันเป็นความอ่อนโยนที่ทำให้อยากจะหลั่งน้ำตาออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 หญิงสาวได้พึมพำบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่เสียงนั้น ส่งไปไม่ถึงหูของคอนนี่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 กิ๊ง ก่อง ระฆังได้ส่งเสียงขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฝนก็ได้โหมกระหน่ำ ฝนอย่างกับจะเจาะทะลุลงมา พายุคำราม ท้องฟ้าหมุนวนไปด้วยสีดำ เพชรฆาตบังคับให้เธอคุกเข่าลง ชูดาบขึ้นสูงเหนือฟ้า ทันใดนั้นเอง พื้นดินก็เหมือนมีระเบิดขึ้น แสงนั้นทำให้ทัศนวิสัยของคอนนี่กลายเป็นสีขาวโพลน ไม่อาจมองเห็นสิ่งใด เธอเอามือป้องตาเพื่อลดการมองเห็น ตอนนั้นบางอย่างที่อุ่นๆได้กระเด็นมาที่แก้มของเธอ หลังจากนั้น กลิ่นของสนิ่มเเละเหล็กก็ทำให้เด็กน้อยนั้นคลื่นไส้

 

 

 

 ―――เมื่อแสงสีได้กลับมายังประสาทสัมผัสการมองเห็น ทุกอย่างก็ได้จบลงแล้ว ชายที่ถือดาบก็ได้จับบางอย่างที่กลม มีสีแดงหยดลงมา เสียงโห่ร้องยินดีดังสนั่นออกมาจากจากฝูงชน「ดูนั่น ค้อนได้พิพากษาแล้ว!」「สมน้ำหน้า!」「ตายแล้ว!」「ตายแล้ว!」「มันตายแล้วละ―――!」

 

 

 

 คอนนี่ไม่สามารถขยับได้ ไม่สามารถแม้จะกรีดร้องได้ ช่วงเวลาที่ เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้า

 

 

 

 บางคนผิวปากขึ้น มีเพียงแต่ความบ้าคลั่ง เหมือนกับได้เหยื่อ เสียงโห่ร้องยินดีแสดงถึงความสำเร็จได้กู่ก้องไปทุกที่ วงล้อมของพอใจได้ก่อตัวใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น――― แต่ว่า นั่นก็ไม่ได้อยู่นานนัก

 

 

 

 ทันใดนั้น ใครบางคนก็ได้ส่งเสียงขึ้นมา

 

 

 

「―――เฮ้ย ดูนั่น ไฟ!」

 

 นิ้วได้ชี้ไปยังศาลาว่าการที่ถูกไฟไหม้「ฟ้าผ่าละ!เมื่อกี้สายฟ้ามันผ่าลงมา!」บางคนได้ตะโกนขึ้น เสียงของไฟได้คำรามขึ้น หลังจากเสียงเงียบเพียงชั่วอึดใจ เสียงกรีดร้องจึงเข้ามาแทน ฝูงชนต่างกันผลักกันเพื่อหนีออกมา ชนกัน และตะโกนอย่างเกรี้ยวโกรธ

 

「หลีกไป!」คอนนี่ถูกผลักโดนใครบางคนแล้วล้มลงไปบนพื้น เจ็บ เจ็บและกลัว ใครก็ได้

 

 

 

 ใครก็ได้ ช่วยด้วย

 

 

 

 สายตาเหลือบไปเห็น สังเกตเห็นคนที่ล้มลงมาแบบเดียวกันกับเธอ ผู้หญิงผมดำ มือพยายามยื่นไปให้ถึง เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่―――ไม่มีเลย

 

 

 

 ตั้งแต่หัวลงไปจนจรดเท้าไม่มีเลย

 

 

 

 เมื่อรู้ว่าสิ่งที่กลิ้งอยู่บนพื้นคืออะไร ตอนนั้นคอนนี่ก็ได้ส่งเสียงกรีดร้องออกมา นี่มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์พึงกระทำ คำพูดของพ่อเธอก็เข้ามาในหัว อ้า―――

 

 

 

 

 

 

 

 ด้านบนหัวของคอนนี่ที่ข่มตาลง พายุที่คลั่งพัดระฆังของเซนต์มาร์คดังด้วยเสียงระฆังอย่างบ้าคลั่ง 

 

 

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

จอกศักดิ์สิทธิ์ของเอริส (エリスの聖杯) 0 บทนำ

Now you are reading จอกศักดิ์สิทธิ์ของเอริส (エリスの聖杯) Chapter 0 บทนำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทนำ

 

※คำเตือน・มีเนื้อหาที่มีความรุนแรงและการพรรณนาถึงการนองเลือด

 

 

 

 กิ๊ง ก่อง ระฆังได้ส่งเสียงขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 วันนี้ คอนนี่กลายเป็นเป็นเด็กไม่ดี ฝ่าฝืนคำสั่งของท่านพ่อ เธอได้ไปดู「การประหาร」ที่ท่านสั่งห้ามเอาไว้ แต่ยังแอบออกไปจากคฤหาสน์ เพื่อไปยังลานเซนต์มาร์ค หนำซ้ำ เธอยังลากเคทไปด้วย

 

 

 

 พื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ ปกติเคทเเละคอนนี่ต่างมาเล่นด้วยกันที่นี่บ่อยๆ วิ่งไล่จับบ้าง ซ่อนแอบบ้าง―――บางครั้ง ก็ยังแอบไปเล่นกันที่ศาลากลางเมืองบ้าง เจ้าหน้าก็ใจดีจึงไม่เคยโดนดุเลย ที่นี่นั้นเปรียนเสมือนสวนของคอนนี่

 

 

 

 เพราะฉะนั้น จึงคิดว่าคงไม่เป็นไร เพราะสถานที่แห่งนี้ ไม่เคยทำให้คอนนี่รู้สึกว่าน่ากลัวเลยแม้แต่ครั้งเดียว

 

 

 

 

 

 ―――แต่ถึงกระนั้น วันนี้ ลานเซนต์มาร์คมันแตกต่างออกไป

 

 

 

 

 

 อย่างแรก มีคนเยอะมากทำให้คิดว่าผู้คนในเมืองหลวงทั้งหมดมารวมตัวที่นี่เลยทีเดียว!เหตุการณ์ที่ทำให้มีคนมารวมมากขนาดนี้ สำหรับคอนนี่นอกจากเทศกาลฉลองวันประสูติและเทศกาลอ่านดาราก็ไม่รู้จักอีกเเล้ว แต่ว่าสิ่งที่แตกต่างจากเทศกาลปกติก็คือ สายตาทุกคนทอประกายวาบ เป็นสายตาที่ทำให้รู้สึกไม่พึงประสงค์ มันเป็นสายตาเดียวกับจอร์น ลูกผู้ดูเเลสวน ขณะที่กำลังรังเเกคอนนี่อยู่เลย

 

 

 

 คอนนี่ยังไม่เคยเห็น「การประหาร」กับตาแม้เเต่ครั้งเดียว เพราะว่าท่านพ่อของคอนนี่เกลียด「การประหาร」เมื่อไรก็ตามที่มีการยกเรื่อง「การประหาร」ขึ้นมา คุณพ่อจะบอกว่ามันเป็นสิ่งที่ละเมิดมนุษยธรรม ด้วยใบหน้าที่จริงจังเสมอ คอนนี่ที่เพิ่งฉลองครบ 6 ขวบ ไม่นานนั้น ไม่อาจเข้าใจความหมายของมันนัก

 

 

 

 

 

 

 

  กิ๊ง ก่อง ระฆังได้ส่งเสียงขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 ถูกพาให้ไหลไปตามฝูงชน พอรู้ตัวก็ไม่รู้ว่าผ่านไปเท่าไหร่แล้วที่หลงกับเคท พอตระหนักได้จึงเลือดก็สูบฉีดอย่างเป็นกังวล วันนี้ที่ลานมีบางอย่างผิดปกติ มีบรรยากาศที่แปลกประหลาดบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ คอนนี่รู้สึกวิตกกังวลพยามยามแหวกว่ายผ่านทะเลของผู้คนและตะโกน「เคท!」เสียงนั้นถูกมลายหายลงด้วยความพลุกพล่านของผู้คน ทำอย่างไรดี ทำอย่างไรดี คอนนี่ร้อนลน ตะโกนชื่อของเคทพยายามแหวกว่ายไป แหวกว่ายไป เดินหน้าไป

 

 

 

 พอรู้ตัวอีกที ก็มาอยู่ที่แถวหน้าสุดของฝูงชนเสียแล้ว

 

 

 

 ตรงนั้น ณ ใจกลางลาน ตรงหน้าก็มีแท่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อนอยู่

 

 คิดว่านี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อสำหรับ「การประหาร」คิดแบบนั้นมาชั่วครู่นึง แล้วก็สะบัดทิ้งไป เรื่องที่สำคัญกว่านั้นคือเคท เคทอยู่ที่ไหนกันนะ นอกจากแท่นที่ไม่คุ้นแล้ว ก็ยังมีภาพที่เห็นที่ลานอยู่เสมอๆ อยู่ทางด้านซ้ายมือรูปปั้นของวีรบุรุษผู้ที่ก่อตั้งประเทศนี้อมาเดอุส ทางขวามือคือรูปปั้นของเซนต์อนาสตาเซีย แล้วก็เลยจากจตุรัสไปเพียงนิดเดียวก็จะเป็นหอระฆังเซนต์มาร์ค

 

 ขณะที่กำลังจะตามหาเคสต่อนั้น ฝูงชนรอบๆต่างเเตกตื่น เมื่อประตูเชื่อมจากพระราชวังโมลดาไวต์ถูกเปิดออก รถม้าคันหนึ่งก็เคลื่อนที่มาถึงลาน

 

 

 

 

 

 ที่ออกมาจากด้านในนั้น คือหญิงสาวผู้ที่สวมฮูดสีดำ และกลุ่มผู้ชาย

 

 

 

 

 

 กลุ่มผู้ชายบางคนก็หนุ่ม บางคนก็มีอายุ แต่ทุกคนนั้นแต่งชุดอย่างเป็นทางการ แต่หญิงสาว เสื้อผ้าเป็นเดรซสีเทาขนหนูและจืดชืดอย่างมาก ไม่ว่าบริเวณไหนๆ ก็ขาดลุ่ยไปหมด

 

 

 

 ทันทีที่ร่างของพวกเข้าได้ปรากฏต่อสายตา ก็จุดเสียงโห่ร้องให้ดังขึ้น จากนั้นเพียงชั่วครู่ก็เปลี่ยนไปเป็นเสียงของความโกรธและเสียงตะโกน ลอยไปทั่วบรรยากาศ คอนนี่จนถึงตอนนี้นั้นไม่เคยแม้แต่ครั้งเดียวที่จะได้ยินคำหยาบคายแบบนี้มาก่อน คอนนี่กลัวและไม่สามารถขยับเขยื้อนไปจากจุดนั้นได้ อย่างไรก็ตาม คำพูดด่าทอพวกนั้นที่ควรจะส่งไปถึงหญิงสาวนั้น ดูเหมือนเธอไม่สนมันเลย ไม่แม้แต่จะมองมาทางนี้แม้แต่ครั้งเดียว เธอถูกพาไป ณ ใจกลางของลานซึ่งมีแท่นถูกติดตั้งไว้เป็นพิเศษ หรือก็คืออยู่ ณ เบื้องหาของคอนนี่ หญิงสาวได้เข้ามาใกล้ จนสังเกตได้ว่าที่ข้อมือทั้งสองได้สวมกุญแจมือไม้อยู่

 

 

 

 ฝูงชนไม่อาจอยู่นิ่งได้อีกต่อไป บ้างก็ชี้ไปที่หญิงสาว บางคนก็ขึ้นเสียงเพื่อกรีดร้อง อีกทั้งบางคนก็ปรบมือและหัวเราะคิกคัก

 

 

 

  

 

 

 

 กิ๊ง ก่อง ระฆังได้ส่งเสียงขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 เมื่อเธอสังเกตว่า จู่ๆ เมฆดำหนา ก็เคลื่อนที่ปกคลุมเข้ามาอย่างฉับพลัน ฝนหยดแปะแปะแต่งแต้มพื้นด้วยจุด

 

 

 

 ผู้ชายคนหนึ่งได้กระซิบอะไรบางอย่าง หญิงสาวได้เปิดฮูดตุ้บลงมา เธอได้สะบัดหัวอย่างเฉื่อยๆ ผมดำเงางามแผ่สายลงมาและแล้วในที่สุดเธอก็หันมา

 

 

 

 

 

 ณ เวลานั้น คอนนี่ทึ่ง

 

 

 

 

 

 ผู้ที่กำลังยืนอยู่ตรงนี้ ในชีวิตนี้ไม่เคยเห็นสิ่งที่งดงามที่สุดขนาดนี้มาก่อน ผิวขาวราวกับหิมะ ริมฝีปากแดงราวกับผลไม้สุกและก็ ดวงตาที่เป็นประกายราวกับดวงดาวถูกกักอยู่ภายใน และส่องแสงราวกับอัญมณีสีม่วงอเมทิสต์ ―――

 

 

 

 คนๆนี้ทำให้คิดว่าเทวานั้นมีจริง และนั่นก็ไม่ใช่เป็นสิ่งที่คอนนี่คิดคนเดียว ข้อประจักษ์ก็คือ เสียงเจี๊ยวจ๊าวที่ผ่านมานั้น ได้หยุดลง

 

 

 

 ไม่ว่าใครที่อยู่ตรงนั้น ต่างตกตะลึงเมื่อได้เห็นหญิงสาว แม้จะตกเป็นเป้าสายตาของฝูงชน แต่หญิงสาวนั้นก็ไม่ได้ขยับ ในทางตรงกันข้ามเจ้าหล่อนได้มองไปรอบๆ ลานเพื่อสำรวจหน้าคนต่อคนเพื่อยืนยันอย่างช้าๆ ครั้งนี้ ผู้ใดถูกจ้องก็ผงะหนีอย่างเสียมิได้

 

 

 

 หญิงสาวได้หลับตาลงเล็กน้อย ส่งเสียงจากจมูก แล้วก็เปิดปากขึ้นอย่างช้าๆ

 

 

 

「สาปแช่ง」

 

 

 

 แม้ว่าเธอจะไม่ได้ขึ้นเสียงเลยแม้แต่น้อย เสียงที่สงบเสงี่ยมได้สั่นสะเทือนจากใจกลางลาน

 

 

 

「ขอสาปแช่ง พวกแกทุกคน―――!」

 

 

 

 วินาทีนั้น ทั่วบริเวณนั้นเงียบสงัด ได้ยินแม้เเต่เสียงกลืนน้ำลายใกล้ๆ  ไม่มีทางที่คำสาปจะมีจริง แต่ความรู้สึกไม่สบายก็เเพร่กระจายออกไปอยู่ดี

 

 

 

「อะ อีโสเภณี!」ทันใดนั้นใครบางคนก็ขึ้นเสียง เสียงนั้นสั่นเทา อย่างไรก็ตาม มันก็เป็นชนวนให้ ฝูงชนกลับมาก่นด่าใส่ว่า「ไอโสเภณี!」「ไอปีศาจ!」「ไอฆาตกร!」

 

 

 

 คอนนี่ทำได้แค่หวาดกลัว คอนนี่ยังมีวัยเพียง 6 ขวบ เด็กน้อยยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อความโหดร้ายของมนุษย์ ทำไมกัน ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไงดี สายตาที่ล่องลอยของเธอก็ไปประสานเข้ากับหญิงสาวคนนั้น อาจเป็นเพราะว่าไม่คิดว่าจะมีเด็กอย่างคอนนี่ด้วย หญิงสาวจึงกระพริบตาอย่างงุนงง ทันใดนั้นปากของเธอก็เปิด เเละหัวเราะขึ้น―――เจ้าหล่อนนั้นหัวเราะ!

 

 

 

 ดวงตาของคอนนี่เบิกกว้าง บีบคั้น หัวใจเธอเต้นเร็ว ณ ตอนนี้ มันคืออะไรกัน นี่มันคือ อะไรกัน ตัวฉันนั้น ตอนนี้ คิดว่าได้เห็น อะไรบางสิ่งที่รุนแรง นี่มัน นี่มัน―――

 

 

 

 

 

 

 

 บางที มันสวยงามอย่างไม่น่าเชื่อ และมันเป็นความอ่อนโยนที่ทำให้อยากจะหลั่งน้ำตาออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 หญิงสาวได้พึมพำบางอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่เสียงนั้น ส่งไปไม่ถึงหูของคอนนี่

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 กิ๊ง ก่อง ระฆังได้ส่งเสียงขึ้น

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ฝนก็ได้โหมกระหน่ำ ฝนอย่างกับจะเจาะทะลุลงมา พายุคำราม ท้องฟ้าหมุนวนไปด้วยสีดำ เพชรฆาตบังคับให้เธอคุกเข่าลง ชูดาบขึ้นสูงเหนือฟ้า ทันใดนั้นเอง พื้นดินก็เหมือนมีระเบิดขึ้น แสงนั้นทำให้ทัศนวิสัยของคอนนี่กลายเป็นสีขาวโพลน ไม่อาจมองเห็นสิ่งใด เธอเอามือป้องตาเพื่อลดการมองเห็น ตอนนั้นบางอย่างที่อุ่นๆได้กระเด็นมาที่แก้มของเธอ หลังจากนั้น กลิ่นของสนิ่มเเละเหล็กก็ทำให้เด็กน้อยนั้นคลื่นไส้

 

 

 

 ―――เมื่อแสงสีได้กลับมายังประสาทสัมผัสการมองเห็น ทุกอย่างก็ได้จบลงแล้ว ชายที่ถือดาบก็ได้จับบางอย่างที่กลม มีสีแดงหยดลงมา เสียงโห่ร้องยินดีดังสนั่นออกมาจากจากฝูงชน「ดูนั่น ค้อนได้พิพากษาแล้ว!」「สมน้ำหน้า!」「ตายแล้ว!」「ตายแล้ว!」「มันตายแล้วละ―――!」

 

 

 

 คอนนี่ไม่สามารถขยับได้ ไม่สามารถแม้จะกรีดร้องได้ ช่วงเวลาที่ เธอไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้า

 

 

 

 บางคนผิวปากขึ้น มีเพียงแต่ความบ้าคลั่ง เหมือนกับได้เหยื่อ เสียงโห่ร้องยินดีแสดงถึงความสำเร็จได้กู่ก้องไปทุกที่ วงล้อมของพอใจได้ก่อตัวใหญ่ขึ้นและใหญ่ขึ้น――― แต่ว่า นั่นก็ไม่ได้อยู่นานนัก

 

 

 

 ทันใดนั้น ใครบางคนก็ได้ส่งเสียงขึ้นมา

 

 

 

「―――เฮ้ย ดูนั่น ไฟ!」

 

 นิ้วได้ชี้ไปยังศาลาว่าการที่ถูกไฟไหม้「ฟ้าผ่าละ!เมื่อกี้สายฟ้ามันผ่าลงมา!」บางคนได้ตะโกนขึ้น เสียงของไฟได้คำรามขึ้น หลังจากเสียงเงียบเพียงชั่วอึดใจ เสียงกรีดร้องจึงเข้ามาแทน ฝูงชนต่างกันผลักกันเพื่อหนีออกมา ชนกัน และตะโกนอย่างเกรี้ยวโกรธ

 

「หลีกไป!」คอนนี่ถูกผลักโดนใครบางคนแล้วล้มลงไปบนพื้น เจ็บ เจ็บและกลัว ใครก็ได้

 

 

 

 ใครก็ได้ ช่วยด้วย

 

 

 

 สายตาเหลือบไปเห็น สังเกตเห็นคนที่ล้มลงมาแบบเดียวกันกับเธอ ผู้หญิงผมดำ มือพยายามยื่นไปให้ถึง เธอรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่มันไม่ใช่―――ไม่มีเลย

 

 

 

 ตั้งแต่หัวลงไปจนจรดเท้าไม่มีเลย

 

 

 

 เมื่อรู้ว่าสิ่งที่กลิ้งอยู่บนพื้นคืออะไร ตอนนั้นคอนนี่ก็ได้ส่งเสียงกรีดร้องออกมา นี่มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์พึงกระทำ คำพูดของพ่อเธอก็เข้ามาในหัว อ้า―――

 

 

 

 

 

 

 

 ด้านบนหัวของคอนนี่ที่ข่มตาลง พายุที่คลั่งพัดระฆังของเซนต์มาร์คดังด้วยเสียงระฆังอย่างบ้าคลั่ง 

 

 

 

 

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+