ทะลุมิติไปเป็นเขยมาร Devil’s Son-in-Law 2

Now you are reading ทะลุมิติไปเป็นเขยมาร Devil’s Son-in-Law Chapter 2 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

Ch.2 – ระบบสุดยอด

Translator : Abcd25348 / Author

 

เขยมารตอนที่ 2

 

บทที่ 2: ระบบสุดยอด

 

เช้าตรู่ของวันถัดมา เฉินรุยก็ได้ถูกพาไปที่ห้องทดลองห้องเมื่อวานโดยแซลลี่ เขาไม่มีเวลาที่จะสังเกตโดยละเอียดเลยเมื่อวานนี้ ห้องทดลองนี้มีขนาดค่อนข้างกว้าง โต๊ะเองก็เต็มไปด้วยตัวอย่างและเครื่องมือแปลกๆ

 

ด้านหน้าของอัลดาซ แซลลี่กำลังยืนเคารพของเขาอยู่ด้วยความเคารพอย่างสูงพร้อมกับเฉินรุย อัลดาซได้โบกมือและบอกให้แซลลี่เลิกกล่าววาจายกยอไม่รู้จบนั้นได้แล้ว จากนั้นเขาก็ถามเฉินรุยว่า“ เจ้าหิวใช่มั้ย?”

 

เฉินรุยหวังอย่างยิ่งว่าเขาจะตะบั้นหน้าไอ้ผอมแห้งคนนี้ให้จงได้ แต่เขาก็ได้แต่พยักหน้าอย่างเงียบๆ

 

“ เยี่ยมมาก งั้นลองนี้ดู” อัลดาซยิ้มอย่างชั่วร้ายและหยิบขวดสีเขียวที่มีของเหลวข้นหนืดที่เดือดและปล่อยก๊าซสีขาวออกมา เฉินรุยลอบมองไปที่มัน ตอนนี้เขาเสียใจในทันทีและได้แต่ส่ายหัวอย่างหมดหวัง

 

แซลลี่ที่เฝ้ามองอยู่ก็ได้จับหัวของเฉินรุยกระแทกในทันทีและเริ่มต่อยเขา

 

“พอได้แล้ว! ให้เขาดื่มไปครึ่งหนึ่งก่อน” คำพูดของอัลดาซทำให้การกระทำของแซลลี่หยุดลง

 

ภายใต้อาณัติของผู้อื่น เขาก็ได้แต่จำเป็นต้องทำตาม วันใดวันหนึ่ง ฉันจะให้พวกแกได้ดื่มน้ำล้างเท้าของฉันแน่! เฉินรุยต้องทนอาการคลื่นไส้และดื่มสารละลายที่น่าขยะแขยงในขวดด้วยความสิ้นหวังไป มันเกือบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะให้มันเข้าผ่านลำคอโดยไม่ผ่านลิ้น หลังจากกินเข้าไปไม่นาน ท้องของเขาก็เริ่มอุ่นขึ้นและบวมขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดมากมาย ตอนนี้เฉินรุยเข้าใจถึงเหตุผลของรอยยิ้มอันแสนน่าขนลุกของอัลดาซแล้ว

 

ในขณะนั้นเสียง“ ติ๊ง” ก็ได้ดังขึ้นในใจของเขาและเสียงลึกลับก็ดังขึ้นมาอีกครั้ง:“ พบสารพิษที่ไม่สามารถระบุได้ คุณต้องการดูดซับและรีบูตระบบสุดยอดหรือไม่?”

 

“ใช่!” อาการปวดท้องของเฉินรุยรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เขาไม่สนใจอะไรแล้วและก็ตะโกนออกมาดังๆ ความรู้สึกสดชื่นที่คุ้นเคยกลับมาและความเจ็บปวดก็ค่อยๆหายไป ท้องที่ป่องเริ่มกลับสู่สภาพเดิม

 

“ การจัดหาพลังงานไม่เพียงพอ กระบวนการบูทระบบ 0.7%; ต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อทำให้เสร็จสมบูรณ์”

 

เฉินรุยถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาได้ยินอย่างชัดเจนเลยในครั้งนี้ ผลการดูดซึมนั้นเกิดขึ้นทันทีและเขาก็ตื่นเต้นมาก: ‘ระบบสุดยอดงั้นเหรอ? ชื่อมันฟังดูคุ้นหูมากชะมัด ‘

 

เห็นได้ชัดว่าอัลดาซไม่ได้ยินเสียงลึกลับ เขาเบิกตากว้างและมองอย่างแปลกใจไปที่เฉินรุย ซึ่งในตอนนี้กลับมาเป็นปกติในเวลาอันสั้น“ ไม่น่าเป็นไปได้ หรือตัวข้าได้ผสมสูตรหญ้าบวมผิดไปอีกแล้ว?”

 

อัลดาซมองไปที่แซลลี่ที่กำลังง้างปากของเฉินรุยอยู่และก็ได้สั่งว่า:“แซลลี่ จงดื่มที่เหลือซะ!”

 

ทันใดนั้นใบหน้าของแซลลี่ก็ดำมืดลงและเขาก็ได้แต่ขอร้อง“มาสเตอร์ผู้น่านับถือ…”

 

ก่อนที่เขาจะได้พูดจบ เขาก็ได้ถูกมือสายฟ้าของอัลดาซตวัดใส่ แซลลี่ที่เห็นแบบนั้นก็ได้แต่จำใจดื่มยาพิษนั้นลงไป ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น ราวกับว่ามีปีศาจอยู่ในท้องของเขา เขาดิ้นพล่านไปทั่วพื้นห้องด้วยความเจ็บปวด ท้องของเขาค่อยๆบวมเหมือนหญิงมีครรภ์ เมื่อมองดูความทุกข์ระทมของแซลลี่แล้ว อารมณ์ของเฉินรุยก็เริ่มเย็นลง ห้องทดลองนี้อันตรายและคนที่ไม่แสดงสีหน้าอะไรนี้แข็งแกร่งเกินไป หากเขาหนีคงจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

 

“ มันไม่ถูกต้อง! เห็นได้ชัดว่ามันมีประสิทธิภาพ … ” อัลดาซมองดูสภาพที่น่าสังเวชของแซลลี่และเขาก็นึกถึงอาการของเฉินรุยเมื่อตะกี้ จากนั้นเขาก็เริ่มนึกถึงมนต์คาถาพร้อมกันนั้นเขาก็ได้พูดขึ้นอย่างอย่างรวดเร็วว่า“แซลลี่ รีบตะโกนคำว่า ‘ใช่” เร็วๆ!”

 

“ใช่!” แซลลี่อดทนต่ออาการปวดท้องและตะโกนออกมา แต่เห็นได้ชัดว่าไม่มีผลใดๆเลย

 

“ใช่! ใช่ ใช่ ใช่!” เสียงตะโกนของแซลลี่ดูหมดหวังมาก มันเหมือนกับการทำอะไรเกินตัวและยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดมากขึ้นไปอีก

 

“ไอ้งี่เง่า ช้าลงหน่อย ดูสำเนียงการพูดของแกด้วย!” อัลดาซด่าแซลลี่ อย่างไรก็ตาม เมื่อแซลลี่พูดคว่า“ ใช่” จนแทบจะพูดไม่ได้อีก ผลของมันก็ยังไม่จางหายลงไป

 

“ อย่าขยับ!” อัลดาซตะโกนไปที่เฉินรุยซึ่งขยับขาของเขาและกระโดดขึ้นไปสองสามเมตรเพื่อขวางหน้าเฉินรุยไว้ มียาอีกขวดหนึ่งในมือของเขาและเขาก็พูดขึ้นมาว่า“ ดื่มนี่สิ!”

 

ความพยายามในการหลบหนีของเฉินรุยดูเหมือนจะถูกเห็นเข้าแล้ว เขาได้แต่สาปแช่งคนที่อยู่ตรงหน้าเขาในใจ ทำไมฉันถึงต้องดื่มส่วนที่เหลือของยาพิษบวมด้วย? แต่เมื่อมองดูการแสดงออกที่น่ากลัวของอัลดาซแล้ว เขาก็ได้แต่ดื่มมันลงไป

 

ผลที่ได้รับในครั้งนี้มีเพียงแต่ความฝืดคอ เมื่อเสียงระบบในสมองของเขาดังขึ้นอีกครั้ง เฉินรุยก็สูญเสียความรู้สึกทางร่างกายและเขาก็พูดด้วยปากไม่ได้เลย เมื่อเขาคิดว่า“ เห็นด้วย” ในใจ ผลอันน่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้งและอาการฝืดคอนี้ก็ได้หายไป จากนั้นระบบก็ได้ระบุความคืบหน้าอยู่ที่ 1.2%

 

นอกจากนี้ยังมีข้อความอื่นอย่าง“ เสร็จสมบูรณ์ <การส่งผ่านข้อมูลสาร> สามครั้งติดต่อกันเปิดใช้งาน <การดูดซึมอัตโนมัติอัจฉริยะ>? ”

 

เฉินรุยยืนยันในใจของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะนี่คือสิ่งที่ช่วยชีวิตเขา หากเขาพบพิษร้ายแรงที่ฆ่าเขาได้ในทันที เขาอาจจะไม่สามารถแจ้งเตือนระบบอะไรนี้ได้

 

อัลดาซคว้าขวดเปล่าและมองดูฉลากบนขวด มันได้รับการยืนยันว่าเป็นหมายเลข 103“ ยาพิษสุดร้ายแรง” เขาดูตกใจอย่างมากและพูดขึ้นมาว่า“ มนุษย์บ้า เจ้ากำลังใช้มนต์อะไรกัน!”

 

ฉันยังถูกบังคับให้ดื่มยาพิษอยู่เลย เรื่องเวทย์มนต์อะไรฉันจะไปรู้จักจากไหนกันฟร๊ะ? เฉินรุยได้แต่แสดงควาไม่พอใจในความคิดของเขา แต่เขาก็แสดงท่าทางออกมาราวกับไม่รู้อะไร จากนั้นอัลดาซก็พาเขาขึ้นไปที่โต๊ะแล้วดึงขวดพร้อมกับเหยือกกองหนึ่งออกมา แล้วบังคับให้เขาดื่ม

 

เฉินรุยตกใจเมื่อมองไปที่ป้ายที่เขียนบอกไว้ว่า“ ยาพิษร้ายแรงถึงตาย” และ“ ยาพิษกัดกินหัวใจสุดแข็งแกร่ง” โชคดีที่ระบบดูดกลืนสุดทรงพลังนั้นดูดซึมทุกสิ่งจริงๆ เมื่อมองขวดที่กำลังดื่มทีละขวด เฉินรุยก็ยังปลอดภัยอยู่ แต่อัลดาซกลับเริ่มตื่นเต้นมากเสียยิ่งขึ้นไปอีก

 

ความคืบหน้าการเริ่มระบบของสุดยอดสูงถึง 18% เฉินรุยตระหนักว่า ยาพิษที่แข็งแกร่งนั้นได้ทำให้ความก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้น แต่พอดื่มยาแบบเดิมๆซ้ำๆ ความคืบหน้าก็จะลดลง ความคาดหวังของเขาเกี่ยวกับระบบที่ไม่รู้จักนี้เริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อบูตระบบที่ 100%

 

ทันใดนั้นเฉินรุยก็แสดงสีหน้าที่ทนไม่ได้และพูดออกมาว่า“มาสเตอร์ เดี๋ยวก่อน!”

 

ดวงตาของอัลดาซนั้นสดใสและได้แต่มองไปที่ขวดเปล่าที่เพิ่งถูกดื่มไป เขายกขวดอย่างระมัดระวังราวกับว่าเขาคว้าความหวังสุดท้ายและถามด้วยความหวังออกมาว่า“ นี้เจ้ารู้สึกเป็นอัมพาตและหายใจลำบากบ้างหรือไม่”

 

“ ไม่เลยสักนิด…” เฉินรุยพูดขึ้นมา “เมื่อคืนนี้ ตัวข้าไม่ได้กินข้าวเลย ดังนั้นข้าจึงดื่มน้ำมากเกินไป ข้าอั้นฉี่ไม่ไหวอีกแล้ว ข้าขอทางไปห้องน้ำหน่อยได้หรือไม่?”

 

“ปัง!” ขวดได้แตกกระจายในทันที ใบหน้าที่หล่อเหลาของอัลดาซเหมือนกับถูกบี้เข้าหากัน เขากัดฟันแล้วก็พูดออกมาว่า“ น้ำมากเกินไปงั้นเหรอ? มนุษย์เอ๋ย! แกกล้าดูถูกงานทั้งชีวิตของมาสเตอร์พิษผู้นี้เรอะ!”

 

เฉินรุยตกใจและปิดปากในทันที เมื่อวานนี้การเลือกปฏิบัติต่อสีผิวขออัลดาซก็ทำให้เขาถูกลงโทษด้วยฟ้าผ่า วันนี้เขาได้ทำผิดพลาดซ้ำอีกครั้งโดยดันไปดูถูกงานของอัลดาซงั้นเหรอ? ดี งั้นฉันจะฉี่ออกมาก็ได้ มันดีกว่าควบคุมตัวเองฉี่ไม่ได้ตอนถูกสายฟ้าก็แล้วกัน

 

น่าเสียดายที่ระบบสุดยอดกลับไม่สามารถดูดซับสายฟ้าได้ …

 

“ ร่างกายมนุษย์…ได้มาถึงระดับนี้แล้วงั้นเหรอ? ผลการวิจัยของข้า พิษใหม่ของข้า…พวกมัน…” อัลดาซอ้าปากค้างและตะโกนอย่างบ้าคลั่ง“ ไม่! ข้ายังมีอีกสูตร!” ตอนนี้ข้าจะทำสิ่งที่ยากที่สุด พิษสีขาวที่กัดกร่อนกระดูกของทุกสรรพสิ่ง!”

 

ในขณะนั้นเอง ผลของพิษบวมครึ่งขวดก็ค่อยๆลดลง อาการปวดท้องของแซลลี่ลดลงอย่างมาก เขาล้มตัวนอนลงบนพื้นดินพร้อมกับอ้าปากค้างเพื่อสูดอากาศเข้ามาในปอด เจ้ามารตัวนี้มักจะคอยรับใช้อัลดาซอยู่หลายครั้ง เมื่อเขาได้ยินคำว่า “ยาพิษสีขาว” เขาดูกลัวมากและก็ได้แต่ตะโกนออกมาว่า “ท่านอาจารย์อัลดาซอย่า … ”

 

น่าเสียดายที่อัลดาซไม่สนใจอะไรแล้วและไม่คิดที่จะฟังด้วย อะไรจะทำให้โกรธยิ่งกว่าการได้เห็นความพยายามทั้งหมดในชีวิตเขาที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลยกัน? เมื่อเห็นว่าสถานการณ์กำลังแย่ลง เฉินรุยก็แอบวิ่งไปที่ทางเข้าห้องทดลอง

 

เมื่ออัลดาซเทของเหลวสีม่วงลงในหลอดทดลองเดือดๆ มือของเขานั่นสั่นเป็นเจ้าเข้า…..

 

“บูม!” และมันก็ระเบิดออกมา เครื่องแก้วบนโต๊ะกระเด็นกระดอนด้วยแรงกระแทก ของเหลวและผงต่างๆกระจัดกระจายไปรอบๆเหมือนสายฝน อัลดัสปลิวไปมากกว่า 10 เมตรและตกลงสู่พื้น ตอนนี้เขายังมีชีวิตหรือตายก็ไม่เป็นอันทราบได้ ส่วนมารอีกตนที่อยู่ใกล้เขาก็ถูกเป่าและกระเด็นติดเข้ากับกำแพง

 

โชคดีที่เฉินรุยถอยออกจากห้องทดลองและมันทำให้เขายังมีชีวิตรอดอยู่ ห้องทดลองนั้นมีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง มันไม่มีรอยแตกใดๆเลย

 

เฉินรุยมองรอบๆตัวอย่างถี่ถ้วนและชื่นใจมาก แม้ว่าเขาตั้งหน้าตั้งตารอให้ “ระบบสุดยอด” บูทอย่างเต็มที่ แต่ความบ้าคลั่งของอัลดาซก็น่ากลัวจนเกินไป คงมีเพียงพระเจ้าที่รู้ว่าเขาจะทำอะไรน่ากลัวๆอีก ถ้าเขาไม่จากไปตอนนี้ แล้วเขาควรจะไปเมื่อไหร่กัน

 

เฉินรุยหยิบเสื้อคลุมที่ตกอยู่บนพื้นคลุมศีรษะของเขาแล้วออกไป

 

ห้องทดลองของอัลดาซดูเหมือนจะอยู่ในคฤหาสน์ขนาดใหญ่ ระดับอันตรายของห้องทดลองอาจสูงเกินไปจนไม่มีใครกล้าอยู่ใกล้ ก่อนหน้านี้เขาดื่มยาจำนวนมา เขาทนอั้นฉี่ไม่ไหวอีกแล้ว พอเขามาถึงสวนแห่งหนึ่ง เขาก็ได้เริ่มรดน้ำต้นไม้ด้วยฉี่ของเขา

 

เฉินรุยรู้สึกโล่งใจและรูดซิปกางเกงของเขาขึ้น เมื่อเขาหันหลังกลับไป เขาก็งงเพราะมีใบหน้าที่กำลังจ้องมองเขาอย่างสงสัย

 

มันเป็นผู้หญิงที่แต่งกายในชุดสีขาว เธออายุประมาณ 12 หรือ 13 ปี ผิวขาว มีใบหน้าที่งดงาม ผมหยิกยาวและสีบลอนด์ ดวงตาของเธอสีม่วงทั้งสองข้าง มันสวยงามมากและดูเหมือนว่ามันกำลังสื่อสารอะไรบางอย่างยามที่มันกระพริบตา

 

แม้ว่าเฉินรุยจะไม่ได้เป็นโลลิคอน แต่เขาก็ยังทึ่งกับความงดงามของเด็กสาวคนนี้ เขาได้เห็นดาราและคนงามนับไม่ถ้วนบนอินเทอร์เน็ต แม้แต่ความงามที่ได้รับการผ่าตัดพวกนั้นก็คงไม่สามารถแข่งขันกับเด็กสาวผู้บริสุทธิ์ผู้นี้ที่มีทั้งอารมณ์และใบหน้าที่สมบูรณ์แบบคนนี้ได้

 

เด็กหญิงคนนั้นกระพริบตาที่โตๆของเธอ จากนั้นสายตาของเธอก็ขยับไปที่ร่างกายส่วนล่างของเขาอย่างช้าๆและแสดงสีหน้าน่าสงสารบนใบหน้าของเธอ“ น่าเสียดายที่มันมีขนาดเล็กเกินไป…”

 

เฉินรุยเกือบคิดว่าหูของเขานั้นมีปัญหา ภาพที่สมบูรณ์แบบของโลลิจิตใจบริสุทธิ์ในหัวใจของเขาได้แตกกระจายไปอย่างสิ้นเชิง เขาใช้เวลานานที่จะเลิกคิดถึงเรื่องนี้และได้แต่ตอบกลับไปด้วยความยากลำบาก“ มันก็ยังดีนะ ดูสิว่ามันไม่เลวเลยทีเดียว … ”

 

สิ่งนี้เป็นความภาคภูมิใจของผู้ชายมากที่สุด เขาไม่อาจที่จะท้อต่อคำดูถูกได้ แม้ว่าจะเป็นคนที่งดงามแบบเด็กสาวคนนี้ก็ตาม

 

หญิงสาวถอนหายใจและส่ายหัวของเธอ“ มีอะไรมากมายที่ยิ่งใหญ่กว่านี้…”

 

เป็นไปได้ไหมที่เธอเห็นสิ่งที่ใหญ่มากกว่านี้อีกงั้นเหรอ?

 

เฉินรุยยอมรับเลยว่าของอาเธอร์นั้น “ดีพอประมาณ” อย่างน้อยมันก็ใหญ่กว่าชีวิตที่แล้วของเขา ว่าแต่พวกมารนั้นเป็นปีศาจกันหรือไง? ทำไมคนที่งดงามแบบเธอถึงพูดเรื่องพวกนี้แบบเป็นธรรมชาติกัน

 

ในความสิ้นหวัง เฉินรุยก็ได้แต่กล่าวออกมาด้วยความโกรธเคืองว่า“ มีคนที่ใหญ่ในหมู่ของคนที่ใหญ่อยู่เสมอ ซึ่งแค่นี้มันก็ดีมากแล้วนะ”

 

“เจ้ากำลังพูดอะไรกัน!” โลลิมองดูเขาอย่างประหลาดและชี้ไปที่พืชที่คล้ายหัวไชเท้าใต้ดินที่อยู่ในใต้เท้าของเฉินรุย “ ข้าบอกว่ามันฝรั่งลาลานี้ยังไม่โตเต็มที่ ข้าจึงไม่สามารถดึงออกมาและกินได้”

 

มันฝรั่งลาลางั้นเหรอ? จากนั้นเฉินรุยก็ตระหนักว่าเธอกำลังถือตะกร้าเล็กๆที่มีดอกไม้และสมุนไพรอยู่ ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่รู้สึกอับอายมาก แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นแววตาเจ้าเล่ห์ของเธอเลยสักนิดเดียว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด