[นิยายแปล] Ore no iinazuke ni natta jimiko, ie de wa kawaii shika nai 5 ทุกคน ปกติเรียกคู่หมั้นของตัวเองว่าอะไรกันเหรอ

Now you are reading [นิยายแปล] Ore no iinazuke ni natta jimiko, ie de wa kawaii shika nai Chapter 5 ทุกคน ปกติเรียกคู่หมั้นของตัวเองว่าอะไรกันเหรอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มันใช้เวลาประมาณ 15 นาทีเพื่อที่จะเดินกลับบ้านจากโรงเรียน

หลังจากที่เดินไปสักพัก ผมก็ได้ข้ามแยก แล้วก็เลี้ยวขวาในทันที

 

ผมไม่เคยเห็นใครจากโรงเรียนผมกลับบ้านด้วยถนนเส้นนี้เลย

ไม่ค่อยมีคนใช้เส้นทางนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมจึงถึงบ้านได้โดยไม่ต้องเจอใคร

 

และในระหว่างที่ผมกำลังเดินอยู่บนถนนที่เงียบและสงบอยู่นั้นเอง…

 

“ยูคุง!”

 

นี่มันอาจจะเป็นครั้งแรกเลยที่มีคนเรียกผมบนถนนเส้นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น มันก็เป็นโทนเสียงที่เป็นมิตรและดูสนิทสนมสุดๆ

ผมหันกลับไปด้วยความตกใจแล้วก็เห็นยูกะจังกำลังโบกมือให้ผม ซึ่งดูเหมือนกับว่ากำลังหายใจไม่ทันอยู่

 

“เฮ้ย เฮ้ย! พวกเรายังอยู่ระหว่างทางกลับบ้านนะ! อย่าเรียกชั้นว่ายูคุงดังนักสิ!”

“โอ๊ะ ขอโทษ! ซาคาตะคุง ชั้นแค่พยายามจะตามนายให้ทันน่ะรู้มั้ย?”

 

ไม่ คือแค่เปลี่ยนวิธีเรียกชื่อชั้นมันก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรสักหน่อย…

 

“…เธอยังอยากจะเก็บการหมั้นของเราเป็นความลับอยู่ใช่มั้ย?”

“แหงอยู่แล้วสิ! นายบอกว่านายไม่อยากจะโดนล้อหรือต้องเจอปัญหาอะไรอื่นๆไง!”

“ใช่มั้ยล่ะ?”

“…แต่การวิ่งตามคู่หมั้นกลับบ้านมันก็เป็นอะไรที่…น่าตื่นเต้นอยู่นะ”

“…เธอบอกว่าจะพยายามเก็บความสัมพันธ์นี้เป็นความลับไว้ไม่ใช่รึไง?”

“ก็ใช่น่ะสิ!”

ผมได้แต่ถอนหายใจกับคำตอบของเธอ

 

ยูกะจังก็ได้หัวเราะอย่างซื่อๆอยู่ข้างผม… เธอต่างจากวาตานาเอะ ยูกะที่โรงเรียนอย่างมาก

ผมมั่นใจดีว่าเธอกำลังพยายามที่จะระวังอยู่ แต่การกระทำของเธอมันดูไม่ค่อยจะตรงกับความตั้งใจของเธอสักเท่าไหร่

 

สมแล้วที่เป็นนักพากย์ของยูนะจัง… เป็นพวกซื่อบื้อแท้ๆกันทั้งคู่เลย

 

***

 

หลังจากที่กลับมาถึงบ้านสักพัก คนขนย้ายก็ได้มากดกริ่งประตูบ้าน

ของใช้ของยูกะจังก็ได้ถูกขนย้ายไปในห้องที่นายุได้เคยใช้อยู่จนถึงเมื่อปีที่แล้ว

ทีละน้อยทีละน้อย ห้องก็เริ่มที่จะถูกประดับไปด้วยสีสันของยูกะจัง

 

“อืมมม… ชิ้นนี้ไว้ตรงนี้ ชิ้นนั้นวางตรงโน้น”

 

ถึงแม้ว่าคนขนย้ายจะกลับไปแล้ว ยูกะจังก็ยังคงมุ่นอยู่กับการจัดเรียงของๆ เธอ

ผมรู้สึกอึดอัดที่จะต้องมองห้องของเด็กสาว ผมก็เลยกลับไปที่ห้องรับแขกคนเดียว

 

มันยังมีลังกระดาษที่ถูกวางไว้อยู่อย่างไม่ระวัง ซึ่งยังไม่ได้ถูกเปิด

 

หลังจากที่ลังใบสุดท้ายได้ถูกขนไปในห้องของยูกะจัง มันก็ทำให้ผมนึกขึ้นได้อีกครั้งนึงว่าต่อจากนี้ไป ผมจะต้องอยู่ร่วมกับเธอแล้ว

 

“ยูคง ขอโทษที่ให้รอนะ~”

 

และในระหว่างที่ผมกำลังคิดถึงสิ่งต่างๆอยู่ ยูกะจังที่ดูเหมือนจะเพิ่งทำความสะอาดเสร็จ ก็ได้โผล่เข้ามาในห้องรับแขก

 

เธอมีผมสีดำยาวประไหล่ ที่ณ ตอนนี้มันไม่ได้ถูกรวบอยู่ ซึ่งต่างกับที่โรงเรียน

พอเธอถอดแว่นแล้ว ตาของเธอก็ดูหยดย้อยและน่ารัก

เธอได้อวดชุดเดรสสีฟ้าของเธอ แล้วก็ยิ้มออกมาเหมือนกับลูกหมา

 

“รู้มั้ย ตอนที่ชั้นกำลังย้ายของเข้าไปในห้อง มันก็ทำให้ชั้นนึกขึ้นได้อีกแล้วว่าชั้นกำลังจะต้องอยู่ร่วมกับยูคุงตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปน่ะ…”

 

หลังจากที่พูดแบบนั้นแล้ว ยูกะก็ก้มหัวลงไปอย่างดูเขินๆ

พอเห็นยูกะจังเป็นแบบนั้น มันก็ทำให้ผมรู้สึกอาย ผมก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากมองไปทางอื่นเหมือนกัน

 

มีแก้ว 2 ใบตั้งอยู่บนโต๊ะ

 

หนึ่งในนั้นเป็นแก้วสีดำที่ผมมักจะใช้อยู่ตลอด

อีกใบนึงเป็นแก้วของยูกะจังที่มีตัวละครกระต่ายเด่นๆอยู่

 

“ยูคุง”

 

อยู่ดีๆยูกะจังก็เรียกผม

 

“มีอะไรเหรอยูกะจัง?”

“ยู~คุง~”

“ทำไมเมื่อกี้เสียงเหมือนสัตว์ซะงั้นล่ะ…”

“ฮืมมมมม”

 

ยูกะจังกอดอกแล้วก็เอียงหัวของเธอไปด้วยสีหน้าที่ดูจริงจัง

ผมไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่มันดูเหมือนจะสำคัญแฮะ

 

“พวกเราเรียกอีกฝ่ายกันว่ายูคุงกับยูกะจัง แต่จริงๆแล้วมันโอเคสำหรับคู่หมั้นมั้ยนะ?”

“เอ๋ ไม่ใช่ว่ามันก็ปกติเหรอ?”

“ไม่สิ ในอนิเมะมันมีวิธีเรียกหลายอย่างเลย… ชั้นคิดว่ามันน่าจะดีนะถ้าเราใช้แบบที่เหมาะสุด”

 

ก่อนที่ผมกำลังจะคิดตามทัน ยูกะจังก็ได้เอานิ้วชี้ของเธอมาชนกันแล้วก็พูดอย่างเขินๆ:

 

“เอ่อ… ค-คุณคะ….” [TLN: anataเอาไว้ใช้เรียกผัว lmaooo]

 

ห้องรับแขกเงียบสงัด

หน้าของยูกะจังแดงไปทั้งหน้า

ผมรู้สึกราวกับว่ากำลังมองอะไรบางอย่างที่ไม่ควรมองอยู่ ผมจึงรีบหันสายตาหนีไป

 

“…ช ใช่สิ นั่นมันคงน่าอายไปสินะ…”

“ง งั้น ถ้าเป็น ‘คุณพี่’ล่ะ?” [TLN: Danna sama เอาไว้เรียกพวกเจ้าของบ้านหรือหัวหน้าครอบครัวสำหรับเมียได้]

 

ผมถึงกับเกือบจะพ่นชาที่อยู่ในปากของผมออก

 

“เธอพูดอะไรพวกนั้นออกมาด้วยหน้าตาจริงจังได้ไงเนี่ย?! แล้วไม่ใช่ว่านั่นมันน่าอายกว่าเดิมอีกรึไง?”

“งั้น ดาร์ลิ้งก์?”

“พวกเราเป็นคู่รักปานจะกลืนกินกันเลยเรอะ?”

“เย็นชาจังเลย… นายท่านคะ…” [TLN: Gouchuujin sama ที่พวกเมดใช้กันอะ]

“อันนั้นมันคนละความหมายแล้ว!”

 

ยูกะจังดูอายมากในตอนแรก….

บางทีเธออาจจะตื่นเต้นจากการที่พวกเราได้คุยกัน

หรือบางที สัญชาตญาณนักพากย์เสียงของเธออาจจะเข้าครอบงำไปแล้ว

 

เธอเริ่มที่จะอินไปกับการโรลเพลย์อะไรสักอย่างไปซะแล้วสิ…

“ชั้น ยูกะ… จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับใช้นายท่านในวันนี้นะคะ เมี้ยว~ ☆”

 

**

 

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น

มีเด็กสาวเศร้าสร้อยคนนึงที่กำลังคว่ำหน้าลงอยู่บนโต๊ะพูดออกมาว่า “ชั้นเล่นเกินสินะ…”

 

“ให้ตายสิ… เธอเบียวไปไกลเลย…”

“…น่าอายจัง…”

 

มันมีความแตกต่างมากระหว่างยูกะจังที่โรงเรียนกับยูกะจังที่บ้าน ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าทั้งคู่จะเป็นคนคนเดียวกัน

 

“นี่เธอก็ลองมาเกือบทุกอย่างแล้ว พอใจยังเนี่ย?”

“ฮืมม… แต่…”

เธอลองใช้ชื่อดูตั้งเยอะแยะ แล้วเธอยังไม่พอใจอีกเหรอเนี่ย?

“ชั้นโอเคกับยูคุงเพราะมันทำให้ชั้นรู้สึกพิเศษนะ”

“แต่ยูกะจังมัน…”

“หืม?”

“ยูกะจังมันไม่ได้ทำให้ชั้นรู้สึกพิเศษเลยน่ะ…”

 

ยูกะจังดูเศร้า แต่อยู่ดีๆเธอก็ยืนขึ้นมาอย่างตื่นเต้นพร้อมกับชี้มาที่ผม

 

“ผู้หญิงบางคนก็เรียกชั้นว่ายูกะจังเหมือนกัน มันรู้สึกธรรมดาไปหน่อยน่ะ”

“ไม่ใช่ว่าธรรมดามันก็ดีพอแล้วเหรอ?”

“ไม่! คือพวกเรากำลังจะต้องแต่งงานกันในสักวันนะ เพราะงั้น….”

 

ก่อนหน้านี้เธอตื่นเต้นมาก แต่ตอนนี้เสียงของเธอมันเบาลง แล้วเธอก็มีหน้าที่บูดบึ้ง

มันทำให้ผมนึกถึงโรลเลอร์โคสเตอร์เพราะอารมณ์เธอนั้นเปลี่ยนไปบ่อยมาก

 

มันยากที่จะเชื่อเลยว่าเธอเป็นนักพากย์ของยูนะจัง

เธอเป็นเด็กสาวที่สดใสและซุ่มซ่าม ที่จะเศร้าเพียงแค่เพราะว่าเผลอทำอะไรมากเกินไป

พอเห็นยูกะจังเศร้า มันก็รู้สึกเหมือนว่าผมกำลังมองสัตว์ตัวน้อยที่ไม่สามารถโดนทอดทิ้งไว้อย่างเดียวดายได้ ผมจะต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว…

 

“…ยูกะ”

“เอ๋?!”

 

ยูกะดูตกใจมากตอนที่ผมเรียกเธอแบบนั้น จากนั้นผมก็ได้บอกเธออย่างใจเย็นไปว่า:

 

“งั้นถ้าชั้นเรียกเธอว่ายูกะล่ะ? มันน่าจะให้ความรู้สึกพิเศษได้นะ แค่ซักนิดก็ยังดี….”

“ห-อะอะอะอะ…”

 

ยูกะที่พูดอะไรไม่ออก ก็ส่ายหัวของเธอไปมาอย่างเร็ว

ผมหัวเราะออกมาอย่างดังให้กับยูกะที่เป็นคนซื่อตรงและจริงใจเอาซะจริงๆ

 

“งั้น ชั้นจะพูดอีกรอบละกัน ฝากตัวด้วยนะยูกะ”

“ยูคุง”

“ครับ?”

“ยูคุง ยูคุง”

“อะไร ยูกะ?”

“แค่เรียกชื่อน่ะ~ ยูคุง ยูคุง ยูคุง เอเฮะๆ~”

 

เธอเรียกชื่อของผมซ้ำไปซ้ำมา โดยก็แค่เพื่อเรียกมัน

ดูเหมือนว่าเธอจะชอบมันนะ เพราะตอนนี้เธอกำลังยิ้มอย่างมีความสุขเลยละ

 

ถึงแม้ว่าการสนทนาของพวกเรามันจะธรรมดาและไม่มีสาระ…

แต่ก็ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วผมจะมองว่าอะไรแบบนี้มันก็ไม่ได้แย่นัก…

 

“ยูคุง ยูคุง! ยูคุง ยูคุง! ยูคุง? ยูคุง!!! ย-ยูคุง?!”

“ทำไมอันสุดท้ายมันเหมือนชั้นกำลังจะตายเล่า?!”

 

เธอชอบที่จะเล่นอะไรเกินจริงๆ เด็กคนนี้นี่…

ถ้าชอบกดไลก์กดแชร์เพจด้วยยยยย

facebook.com/OnlyhiraR

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด