ผู้กล้าอาคมดำ 14

Now you are reading ผู้กล้าอาคมดำ Chapter 14 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 14

กลางดึก

แสงจันทร์ส่องลอดทะลุแมกไม้ ลมโชยพัดพาทำต้นไม้ไหวโอนเอน เผยให้เห็นร่างหนึ่งอย่างคลุมเครือ

บนกิ่งไม้ที่แข็งแกรงมั่นคง ร่างหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิหลังพิงต้นไม้พลางหลับตา แม้ท่านั่งจะไม่ค่อยถูกต้องนัก แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นจากร่างนี้

หากไม่ทราบมาก่อนก็ย่อมไม่มีผู้ใดคาดคาดว่าจะมีคนมานั่งสมาธิอยู่บนต้นไม้กลางป่าทึบเช่นนี้

สภาพแวดล้อมที่แต่เดิมเคยเงียบสงบเริ่มมีเสียงดังขึ้น หากเงี่ยหูตั้งใจฟังก็จะได้ยินเสียงเคี้ยวดังขึ้นมา ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น สีหน้าของร่างที่นั่งสมาธํิอยู่ก็ค่อยๆแย่ลง

ตอนนี้ร็อดอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก เขาเพิ่งจะสงบใจลงได้เองแท้ๆ ตอนนี้กลับถูกเสียงดังขึ้นรบกวนจนสมาธิกระเจิดกระเจิงหมดสิ้น

ผลลัพธ์ของการทำสมาธิยิ่งมายิ่งลดน้อยถอยลง และยิ่งมาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าใด ทว่าจิตใจของเขากลับไม่สงบลงเลย บางทีที่แห่งนี้อาจจะไม่เหมาะสมในการทำสมาธิก็เป็นได้ ร็อดถอนหายใจก่อนจะลืมตาขึ้น

ชั่วขณะที่ร็อดเปิดเปลือกตาขึ้นมานั้นเอง การรับรู้ที่ถูกกดข่มไว้เพราะต้องการสมาธิก็หวนคืนกลับมา ดวงตาของร็อดหรี่ลงขณะมองไปยังทิศทางที่สัญชาตของเขาส่งเสียงแจ้งเตือน

ภายในความมืด ดวงตาสีเขียวหลายคู่ที่สะท้อนแสงในความมืดทำให้บรรยากาศดูน่าขนลุกขึ้นมา ร็อดก้มหน้าลงมองดู จากนั้นจึงเห็นหมาป่าฝูงหนึ่งอยู่ด้านล่าง

กลับกลายเป็นว่า ระหว่างที่ร็อดเข้าสู่สภาวะสมาธินั้น กลิ่นของซากศพเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดและพวกซอมบี้นั้นได้ดึงดูดเหล่านักล่าแห่งป่าให้มาที่นี่ และนั่นก็คือฝูงหมาป่าที่อยู่ด้านล่างตอนนี้

ร็อดมองพวกมันเงียบๆ ตอนนี้พวกหมาป่าที่หิวโหยกำลังกัดกินซากศพตามพื้นอยู่ โดยปกติแล้วนั้นพวกหมาป่ามักจะไม่ค่อยกินซากศพ นอกเสียจากพวกมันจะหิวโหยมากจริงๆ หากไม่หิวถึงขีดสุดพวกมันคงไม่กัดกินซากศพที่ทั้งแข็งทั้งเย็นชืดของพวกซอมบี้หรอก

ในระหว่างที่มองดูอยู่นั้น ร็อดก็พบความผิดปกติบางอย่าง เทียบกับซากศพของพวกซอมบี้ที่มีหมาป่ารุมกินกันนั้น ศพของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดกลับมีหมาป่าเพียงตัวเดียวที่อยู่ใกล้ๆ หมาป่าตัวอื่นๆแย่งอาหารจนเกิดการทะเลาะกัน กระนั้นกลับไม่มีสักตัวที่กล้าเข้ามาแย่งศพเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดกับหมาป่าตัวนี้

ขณะสังเกตอย่างละเอียด ร็อดก็พบความผิดปกติอีกอย่างของหมาป่าตัวนี้ หมาป่าตัวอื่นๆนั้นจะก้มหน้าก้มตากินศพซอมบี้โดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว มีเพียงหมาป่าตัวนี้ที่คอยมองไปรอบๆอย่างระแวดระวังขณะที่กิน และไม่เพียงเท่านั้น ขนาดของหมาป่าตัวนี้ยังใหญ่กว่าตัวอื่นๆ

ร็อดตระหนักได้ทันทีว่าหมาป่าตัวนี้ก็คือตัวจ่าฝูง

ร็อดกวาดสายตามองดูพวกหมาป่าพลางนับจำนวนของพวกมัน หมาป่าฝูงนี้มีกันเกือบสิบตัว เมื่อประเมินความแข็งแกร่งของเขาดูแล้ว ร็อดก็ขมวดคิ้วมุ่น

ศัตรูคราวนี้ต่างจากพวกอันเดด พวกอันเดดนั้นมีพลังชีวิตที่สูง ทว่าเคลื่อนไหวเชื่องช้าและการโจมตีก็ไร้ประสิทธิภาพ อาศัยเพียงทักษะดาบก็สามารถกำจัดจนสิ้นซาก แต่พวกหมาป่านั้นไม่เหมือนกัน พวกมันมีกลยุทธ์ พวกมันแข็งแกร่งยามออกล่าเป็นฝูง และแม้ว่าด้านสภาพร่างกายจะเทียบกับพวกอันเดดไม่ได้ แต่พวกมันก็เร็วกว่า นี่ทำให้ร็อดรู้สึกปวดหัวอยู่บ้าง

ยามเมื่อถูกพวกมันโอบล้อมเอาไว้ เขาจะตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบอย่างมาก ขอเพียงมีหมาป่าตัวนึงหลุดรอดมางับเข้าที่ขาของเขาได้ เขาก็จะสูญเสียการเคลื่อนไหว จากนั้นหมาป่าตัวอื่นๆก็จะเข้ามากลุ้มรุม ยังมีจ่าฝูงหมาป่านั่นอีก…

ร็อดรู้ว่าสิ่งมีชีวิตอย่างตัวจ่าฝูงนี้ก็คือหมาป่าที่พัฒนาขึ้นมาจากหมาป่าธรรมดา และมันก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เทียบกับหมาป่าทั่วไปแล้ว จ่าฝูงหมาป่าตัวนี้ต่างหากที่เป็นภัยคุกคามของจริง

‘ลอบสังหารเหมือนกับเนโครแมนเซอร์คนนั้น?’ ร็อดครุ่นคิดอย่างลังเล

นึกถึงฉากที่ทิ้งตัวลงไปสังหารเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนั้นแล้ว ร็อดก็ส่ายศีรษะเบาๆ

ตอนที่เขาทิ้งตัวลงไปนั้น เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดก็รู้สึกตัวและหันกลับมาทันที แต่เป็นเพราะขาดซึ่งความแข็งแกร่งและความคล่องตัว เขาจึงหลบคมดาบไม่พ้น

จ่าฝูงหมาป่านั้นไม่เหมือนกัน สัญชาตญาณระวังภัยของมันสูงมาก วินาทีที่เขาทิ้งตัวลงไป มันจะต้องรู้ตัวแน่ และด้วยร่างกายที่คล่องแคล่วปราดเปรียวของมัน มันจะหลบได้ทันที

หากว่าไม่ลอบสังหารแล้วลงไปปะทะกันซึ่งหน้า ผลลัพธ์นั้นก็ยากจะบอกได้ ต่อให้สุดท้ายแล้วเขาจะชนะ แต่นั่นก็คงเป็นชัยชนะที่ได้มาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด และตอนนั้นเขาก็คงใกล้หมดแรงเต็มที

ขณะที่สายตากวาดมองดูฝูงหมาป่าที่อยู่รอบๆ ร็อดก็ยังคิดอะไรไม่ออก

เขาลองค้นทบทวนดูสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกันในความทรงจำ และทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรออก ดวงตาของร็อดไหววูบ เขามีวิธีแล้ว

เพื่อที่จะใช้วิธีการนั้น ร็อดจำเป็นจะต้องเตรียมตัวสักหน่อย

เขาลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่มีแสงจันทร์ส่องถึง จากนั้นจึงเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมา

…………..

“…..”

“สิ้นสุดการทำสมาธิ”

“พิจารณาจากความก้าวหน้าในการทำสมาธิ ค่ามานาสูงสุดของคุณเพิ่มขึ้น 8 ค่ามานาปัจจุบันของคุณ 14/14”

“การทำสมาธิระยะต้นไม่ได้รับผลลัพธ์พิเศษ”

……………

มานาเพียงพอแล้ว

คิดได้ดังนั้น ร็อดก็ถ่ายเทมานาเข้าไปในแหวนมิติที่อยู่บนนิ้วมือ

ในหน้าต่างคุณสมบัตินั้น ค่ามานาค่อยๆลดลง เมื่อมานาลดลงจนถึง 10/14 แหวนมิติก็หยุดดูดซับมานา

ในตอนนั้นเองร็อดก็รู้สึกได้ว่าแหวนมิติวงนั้นกำลังทำการสร้างพันธะระหว่างมันกับเขาขึ้นมา เพียงแค่ใช้ความคิด จตสำนึกของเขาก็สามารถทะลุเข้าไปภายในแหวนและเรียกใช้งานสิ่งของด้านใน

ร้อดปล่อยจิตสำนึกเข้าไปในแหวนมิติ แหวนมิติวงนี้มีพื้นที่ราวสองถึงสามลูกบาศก์เมตร สิ่งแรกที่จิตสำนึกของร็อดตรวจพบก็คือเหรียญทองที่กองรวมกันไว้ กะประมาณโดยคร่าวๆดูแล้วคงจะมีสักสองพันเหรียญ

หนังสือสองเล่มและม้วนคัมภีร์อีกหลายม้วนถูกวางไว้บนกองเหรียญทอง และมันยังมีดาบเหล็กสองเล่มและโล่เหล็กอีกหนึ่งอัน พวกมันดูคล้ายกับของที่พวกนักรบโครงกระดูกเคยใช้ ตรงมุมของพื้นที่ยังมีอาหารแห้งและถุงน้ำดื่มวางเอาไว้ ข้างๆยังมีกองชุดเสื้อผ้าและด้านบนสุดก็มีเข็มกลัดวางเอาไว้

เมื่อพบเจอสิ่งที่ต้องการ ร็อดก็นำหนังสือและม้วนคัมภีร์ออกมา จากนั้นจึงอาศัยแสงจันทร์ตรวจดูหน้าปกหนังสือ

ปกของหนังสือเล่มแรกเขียนเอาไว้ว่า “การเลือกแนวทางพื้นฐาน” ขณะที่พวกม้วนคัมภีร์นั้นไม่มีตัวอักษร มีเพียงสัญลักษณ์อันแปลกประหลาดที่ไม่ทราบความหมายถูกเขียนเอาไว้ แต่ร็อดจำสัญลักษณ์พวกนี้ได้ มันก็คือ [ไลท์นิ่งโบลท์] [เมจิกแอโรว์] และ [ฮีลลิ่งวูนด์] อีกสองม้วน

ร็อดถือหนังสือเอาไว้ในมือ จากนั้นจึงเก็บไอเท็มที่เหลือเข้าแหวนมิติ

ร็อดเก็บพวกม้วนคัมภีร์ตามความเคยชิน ในชีวิตก่อนนั้นเขามักจแยกหนังสือและม้วนคัมภีร์เอาไว้อย่างชัดเจน นั่นก็เพื่อที่จะทำให้เขาสามารถดึงม้วนคัมภีร์ออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ร็อดลูบปกหนังสือ จากนั้นจึงเปิดหน้าแรก

หน้าหนังสือถูกพลิกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดผ่านๆไปไม่กี่หน้า ร็อดก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร มันคือตำราเวทของเอลล็อต

ตำราเวทนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้เวทมนตร์ของนักเวท เนื่องจากความจำของมนุษย์นั้นยังไม่ดีพอ ด้วยเวลาและปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นๆ ความเป็นไปได้ที่จะหลงๆลืมจึงเพิ่มขึ้นตาม ตำราเวทก็คือสิ่งที่มีไว้เพื่อช่วยในการจดจำ

ตำราเวทจะช่วยให้นักเวทสามารถจดแก่นสารสำคัญเอาไว้ ขณะเดียวกันก็เพื่อที่จะร่ายเวทให้ออกมาถูกต้องตามผลลัพธ์ ที่นักเวทต้องทำก็คือร่ายเวทตามตำราที่บันทึกไว้

เนื่องจากนักเวทจะใช้เงินทองส่วนใหญ่ในการศึกษาและเรียนรู้เวทมนตร์ ตำราเวทที่ถูกบันทึกไว้โดยนักเวทผู้หนึ่งจึงล้ำค่ามาก ล้ำค่าเกินกว่าจะถูกเรียกว่าสมบัติธรรมดา

ขณะที่พลิกหน้าหนังสือ ร็อดก็ใช้แต้มสกิล 1 แต้มเพื่อเรียนรู้สกิลรอบรู้

—————————————–

[รอบรู้ ระดับต่ำ]: โดยการเรียนรู้ผ่านสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ สติปัญญาของคุณจึงได้รับการยกระดับ ขณะเดียวกันภูมิความรู้ของคุณก็เพิ่มมากขึ้น บทร่ายจำนวนหนึ่งได้ปรากฏขึ้นในจิตใจ คุณเริ่มที่จะเข้าใจสัจธรรมที่บรรจุไว้ในบทร่าย ตอนนี้คุณสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ระดับ 1 ได้แล้ว

—————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ผู้กล้าอาคมดำ 14

Now you are reading ผู้กล้าอาคมดำ Chapter 14 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ผู้กล้าอาคมดำ ตอนที่ 14

กลางดึก

แสงจันทร์ส่องลอดทะลุแมกไม้ ลมโชยพัดพาทำต้นไม้ไหวโอนเอน เผยให้เห็นร่างหนึ่งอย่างคลุมเครือ

บนกิ่งไม้ที่แข็งแกรงมั่นคง ร่างหนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิหลังพิงต้นไม้พลางหลับตา แม้ท่านั่งจะไม่ค่อยถูกต้องนัก แต่ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นจากร่างนี้

หากไม่ทราบมาก่อนก็ย่อมไม่มีผู้ใดคาดคาดว่าจะมีคนมานั่งสมาธิอยู่บนต้นไม้กลางป่าทึบเช่นนี้

สภาพแวดล้อมที่แต่เดิมเคยเงียบสงบเริ่มมีเสียงดังขึ้น หากเงี่ยหูตั้งใจฟังก็จะได้ยินเสียงเคี้ยวดังขึ้นมา ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น สีหน้าของร่างที่นั่งสมาธํิอยู่ก็ค่อยๆแย่ลง

ตอนนี้ร็อดอารมณ์ไม่ค่อยดีนัก เขาเพิ่งจะสงบใจลงได้เองแท้ๆ ตอนนี้กลับถูกเสียงดังขึ้นรบกวนจนสมาธิกระเจิดกระเจิงหมดสิ้น

ผลลัพธ์ของการทำสมาธิยิ่งมายิ่งลดน้อยถอยลง และยิ่งมาก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิด ไม่ว่าจะพยายามสักเท่าใด ทว่าจิตใจของเขากลับไม่สงบลงเลย บางทีที่แห่งนี้อาจจะไม่เหมาะสมในการทำสมาธิก็เป็นได้ ร็อดถอนหายใจก่อนจะลืมตาขึ้น

ชั่วขณะที่ร็อดเปิดเปลือกตาขึ้นมานั้นเอง การรับรู้ที่ถูกกดข่มไว้เพราะต้องการสมาธิก็หวนคืนกลับมา ดวงตาของร็อดหรี่ลงขณะมองไปยังทิศทางที่สัญชาตของเขาส่งเสียงแจ้งเตือน

ภายในความมืด ดวงตาสีเขียวหลายคู่ที่สะท้อนแสงในความมืดทำให้บรรยากาศดูน่าขนลุกขึ้นมา ร็อดก้มหน้าลงมองดู จากนั้นจึงเห็นหมาป่าฝูงหนึ่งอยู่ด้านล่าง

กลับกลายเป็นว่า ระหว่างที่ร็อดเข้าสู่สภาวะสมาธินั้น กลิ่นของซากศพเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดและพวกซอมบี้นั้นได้ดึงดูดเหล่านักล่าแห่งป่าให้มาที่นี่ และนั่นก็คือฝูงหมาป่าที่อยู่ด้านล่างตอนนี้

ร็อดมองพวกมันเงียบๆ ตอนนี้พวกหมาป่าที่หิวโหยกำลังกัดกินซากศพตามพื้นอยู่ โดยปกติแล้วนั้นพวกหมาป่ามักจะไม่ค่อยกินซากศพ นอกเสียจากพวกมันจะหิวโหยมากจริงๆ หากไม่หิวถึงขีดสุดพวกมันคงไม่กัดกินซากศพที่ทั้งแข็งทั้งเย็นชืดของพวกซอมบี้หรอก

ในระหว่างที่มองดูอยู่นั้น ร็อดก็พบความผิดปกติบางอย่าง เทียบกับซากศพของพวกซอมบี้ที่มีหมาป่ารุมกินกันนั้น ศพของเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดกลับมีหมาป่าเพียงตัวเดียวที่อยู่ใกล้ๆ หมาป่าตัวอื่นๆแย่งอาหารจนเกิดการทะเลาะกัน กระนั้นกลับไม่มีสักตัวที่กล้าเข้ามาแย่งศพเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดกับหมาป่าตัวนี้

ขณะสังเกตอย่างละเอียด ร็อดก็พบความผิดปกติอีกอย่างของหมาป่าตัวนี้ หมาป่าตัวอื่นๆนั้นจะก้มหน้าก้มตากินศพซอมบี้โดยไม่สนใจสิ่งรอบตัว มีเพียงหมาป่าตัวนี้ที่คอยมองไปรอบๆอย่างระแวดระวังขณะที่กิน และไม่เพียงเท่านั้น ขนาดของหมาป่าตัวนี้ยังใหญ่กว่าตัวอื่นๆ

ร็อดตระหนักได้ทันทีว่าหมาป่าตัวนี้ก็คือตัวจ่าฝูง

ร็อดกวาดสายตามองดูพวกหมาป่าพลางนับจำนวนของพวกมัน หมาป่าฝูงนี้มีกันเกือบสิบตัว เมื่อประเมินความแข็งแกร่งของเขาดูแล้ว ร็อดก็ขมวดคิ้วมุ่น

ศัตรูคราวนี้ต่างจากพวกอันเดด พวกอันเดดนั้นมีพลังชีวิตที่สูง ทว่าเคลื่อนไหวเชื่องช้าและการโจมตีก็ไร้ประสิทธิภาพ อาศัยเพียงทักษะดาบก็สามารถกำจัดจนสิ้นซาก แต่พวกหมาป่านั้นไม่เหมือนกัน พวกมันมีกลยุทธ์ พวกมันแข็งแกร่งยามออกล่าเป็นฝูง และแม้ว่าด้านสภาพร่างกายจะเทียบกับพวกอันเดดไม่ได้ แต่พวกมันก็เร็วกว่า นี่ทำให้ร็อดรู้สึกปวดหัวอยู่บ้าง

ยามเมื่อถูกพวกมันโอบล้อมเอาไว้ เขาจะตกอยู่ในสภาพที่เสียเปรียบอย่างมาก ขอเพียงมีหมาป่าตัวนึงหลุดรอดมางับเข้าที่ขาของเขาได้ เขาก็จะสูญเสียการเคลื่อนไหว จากนั้นหมาป่าตัวอื่นๆก็จะเข้ามากลุ้มรุม ยังมีจ่าฝูงหมาป่านั่นอีก…

ร็อดรู้ว่าสิ่งมีชีวิตอย่างตัวจ่าฝูงนี้ก็คือหมาป่าที่พัฒนาขึ้นมาจากหมาป่าธรรมดา และมันก็สามารถใช้เวทมนตร์ได้ เทียบกับหมาป่าทั่วไปแล้ว จ่าฝูงหมาป่าตัวนี้ต่างหากที่เป็นภัยคุกคามของจริง

‘ลอบสังหารเหมือนกับเนโครแมนเซอร์คนนั้น?’ ร็อดครุ่นคิดอย่างลังเล

นึกถึงฉากที่ทิ้งตัวลงไปสังหารเนโครแมนเซอร์ฝึกหัดคนนั้นแล้ว ร็อดก็ส่ายศีรษะเบาๆ

ตอนที่เขาทิ้งตัวลงไปนั้น เนโครแมนเซอร์ฝึกหัดก็รู้สึกตัวและหันกลับมาทันที แต่เป็นเพราะขาดซึ่งความแข็งแกร่งและความคล่องตัว เขาจึงหลบคมดาบไม่พ้น

จ่าฝูงหมาป่านั้นไม่เหมือนกัน สัญชาตญาณระวังภัยของมันสูงมาก วินาทีที่เขาทิ้งตัวลงไป มันจะต้องรู้ตัวแน่ และด้วยร่างกายที่คล่องแคล่วปราดเปรียวของมัน มันจะหลบได้ทันที

หากว่าไม่ลอบสังหารแล้วลงไปปะทะกันซึ่งหน้า ผลลัพธ์นั้นก็ยากจะบอกได้ ต่อให้สุดท้ายแล้วเขาจะชนะ แต่นั่นก็คงเป็นชัยชนะที่ได้มาแบบเส้นยาแดงผ่าแปด และตอนนั้นเขาก็คงใกล้หมดแรงเต็มที

ขณะที่สายตากวาดมองดูฝูงหมาป่าที่อยู่รอบๆ ร็อดก็ยังคิดอะไรไม่ออก

เขาลองค้นทบทวนดูสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกันในความทรงจำ และทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรออก ดวงตาของร็อดไหววูบ เขามีวิธีแล้ว

เพื่อที่จะใช้วิธีการนั้น ร็อดจำเป็นจะต้องเตรียมตัวสักหน่อย

เขาลุกขึ้นยืน จากนั้นจึงเคลื่อนไปยังตำแหน่งที่มีแสงจันทร์ส่องถึง จากนั้นจึงเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมา

…………..

“…..”

“สิ้นสุดการทำสมาธิ”

“พิจารณาจากความก้าวหน้าในการทำสมาธิ ค่ามานาสูงสุดของคุณเพิ่มขึ้น 8 ค่ามานาปัจจุบันของคุณ 14/14”

“การทำสมาธิระยะต้นไม่ได้รับผลลัพธ์พิเศษ”

……………

มานาเพียงพอแล้ว

คิดได้ดังนั้น ร็อดก็ถ่ายเทมานาเข้าไปในแหวนมิติที่อยู่บนนิ้วมือ

ในหน้าต่างคุณสมบัตินั้น ค่ามานาค่อยๆลดลง เมื่อมานาลดลงจนถึง 10/14 แหวนมิติก็หยุดดูดซับมานา

ในตอนนั้นเองร็อดก็รู้สึกได้ว่าแหวนมิติวงนั้นกำลังทำการสร้างพันธะระหว่างมันกับเขาขึ้นมา เพียงแค่ใช้ความคิด จตสำนึกของเขาก็สามารถทะลุเข้าไปภายในแหวนและเรียกใช้งานสิ่งของด้านใน

ร้อดปล่อยจิตสำนึกเข้าไปในแหวนมิติ แหวนมิติวงนี้มีพื้นที่ราวสองถึงสามลูกบาศก์เมตร สิ่งแรกที่จิตสำนึกของร็อดตรวจพบก็คือเหรียญทองที่กองรวมกันไว้ กะประมาณโดยคร่าวๆดูแล้วคงจะมีสักสองพันเหรียญ

หนังสือสองเล่มและม้วนคัมภีร์อีกหลายม้วนถูกวางไว้บนกองเหรียญทอง และมันยังมีดาบเหล็กสองเล่มและโล่เหล็กอีกหนึ่งอัน พวกมันดูคล้ายกับของที่พวกนักรบโครงกระดูกเคยใช้ ตรงมุมของพื้นที่ยังมีอาหารแห้งและถุงน้ำดื่มวางเอาไว้ ข้างๆยังมีกองชุดเสื้อผ้าและด้านบนสุดก็มีเข็มกลัดวางเอาไว้

เมื่อพบเจอสิ่งที่ต้องการ ร็อดก็นำหนังสือและม้วนคัมภีร์ออกมา จากนั้นจึงอาศัยแสงจันทร์ตรวจดูหน้าปกหนังสือ

ปกของหนังสือเล่มแรกเขียนเอาไว้ว่า “การเลือกแนวทางพื้นฐาน” ขณะที่พวกม้วนคัมภีร์นั้นไม่มีตัวอักษร มีเพียงสัญลักษณ์อันแปลกประหลาดที่ไม่ทราบความหมายถูกเขียนเอาไว้ แต่ร็อดจำสัญลักษณ์พวกนี้ได้ มันก็คือ [ไลท์นิ่งโบลท์] [เมจิกแอโรว์] และ [ฮีลลิ่งวูนด์] อีกสองม้วน

ร็อดถือหนังสือเอาไว้ในมือ จากนั้นจึงเก็บไอเท็มที่เหลือเข้าแหวนมิติ

ร็อดเก็บพวกม้วนคัมภีร์ตามความเคยชิน ในชีวิตก่อนนั้นเขามักจแยกหนังสือและม้วนคัมภีร์เอาไว้อย่างชัดเจน นั่นก็เพื่อที่จะทำให้เขาสามารถดึงม้วนคัมภีร์ออกมาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ร็อดลูบปกหนังสือ จากนั้นจึงเปิดหน้าแรก

หน้าหนังสือถูกพลิกเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว หลังจากเปิดผ่านๆไปไม่กี่หน้า ร็อดก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร มันคือตำราเวทของเอลล็อต

ตำราเวทนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเรียนรู้เวทมนตร์ของนักเวท เนื่องจากความจำของมนุษย์นั้นยังไม่ดีพอ ด้วยเวลาและปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นๆ ความเป็นไปได้ที่จะหลงๆลืมจึงเพิ่มขึ้นตาม ตำราเวทก็คือสิ่งที่มีไว้เพื่อช่วยในการจดจำ

ตำราเวทจะช่วยให้นักเวทสามารถจดแก่นสารสำคัญเอาไว้ ขณะเดียวกันก็เพื่อที่จะร่ายเวทให้ออกมาถูกต้องตามผลลัพธ์ ที่นักเวทต้องทำก็คือร่ายเวทตามตำราที่บันทึกไว้

เนื่องจากนักเวทจะใช้เงินทองส่วนใหญ่ในการศึกษาและเรียนรู้เวทมนตร์ ตำราเวทที่ถูกบันทึกไว้โดยนักเวทผู้หนึ่งจึงล้ำค่ามาก ล้ำค่าเกินกว่าจะถูกเรียกว่าสมบัติธรรมดา

ขณะที่พลิกหน้าหนังสือ ร็อดก็ใช้แต้มสกิล 1 แต้มเพื่อเรียนรู้สกิลรอบรู้

—————————————–

[รอบรู้ ระดับต่ำ]: โดยการเรียนรู้ผ่านสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเวทมนตร์ สติปัญญาของคุณจึงได้รับการยกระดับ ขณะเดียวกันภูมิความรู้ของคุณก็เพิ่มมากขึ้น บทร่ายจำนวนหนึ่งได้ปรากฏขึ้นในจิตใจ คุณเริ่มที่จะเข้าใจสัจธรรมที่บรรจุไว้ในบทร่าย ตอนนี้คุณสามารถเรียนรู้เวทมนตร์ระดับ 1 ได้แล้ว

—————————————–

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+