My Iron Suit ตอนที่ 149. “ไอรอนมาสเตอร์” โอปาดิยา

 

ภายใต้การควบคุมของ โทนี่ เครื่องขับดันขาของ มาร์คทู ได้รับการขับเคลื่อนอย่างเต็มที่และพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

ในไม่ช้าโทนี่ก็มาถึงความสูง 85,000 ฟุตซึ่งเป็นสถิติความสูงในการบินสูงสุดของเครื่องบินความเร็วสูงรุ่น sr-71 แบล็คเบอร์ด แต่โทนี่ไม่ได้หยุดที่นี่ แต่ยังคงบินต่อไปในระดับความสูงที่สูงขึ้นไป

 

เมื่อ มาร์คทู ขึ้นไปถึงความสูง 150,000 ฟุตและเห็นโทนี่ ยังคงไม่หยุดเฉินโม่ก็อดไม่ได้ที่จะกลอกตาและตะโกนอย่างรุนแรงในผู้สื่อสาร

 

“ โทนี่!”

 

โทนี่สตาร์คที่จมอยู่กับสิ่งเร้าที่หาที่เปรียบมิได้เกินขีดจํากัด ได้ยินเสียงที่รุนแรงจากเฉินโม่ซึ่งตั้งอยู่ในหูของเขา จากนั้นก็จําความลําบากใจของเฉินโม่ก่อนออกเดินทาง

 

“โอเคโอเคฉันรู้แล้ว”

 

โทนี่เห็นด้วยอย่างไม่เต็มใจนัก

อ่านนิยาย เรื่องนี้ ก่อนใคร ที่ novelza.com

มองไปที่ด้านบนสุดของดวงตาที่ปราศจากเมฆและฝุ่นปกคลุมในความมืดที่บริสุทธิ์แต่งแต้มด้วยท้องฟ้าของแสงดาว โทนี่ไม่ยอมหยุดและยังคงปืนขึ้นไปรอให้การต่อสู้ช้าลงอย่างช้าๆภายใต้การกระทําของแรงโน้มถ่วงและในที่สุดก็เริ่มลดลงเมื่อมันตกลงสิ่งนี้จะเจ็ทอีกครั้งและทิศทางของการเลี้ยวจะพุ่งไปทางด้านล่าง

 

เที่ยวบินทดสอบของ มาร์คทู นั้นสมบูรณ์แบบและประสิทธิภาพของมันก็เกินความคาดหมายของ โทนี่ เรียกได้ว่า โตเต็มที่ไม่ต้องดัดแปลง สิ่งที่เขาคาดหวังคือการเปลี่ยนแปลงมากมาย การทดสอบอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ และมีการสร้างชุดรบหลายชุดเพื่อให้เป็นไปตามข้อกําหนดที่แท้จริงในที่สุด

 

สมัยนี้มันง่ายมากที่จะได้ครั้งเดียวจนไม่สามารถหยิบจับความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ เขารู้ว่าทั้งหมดนี้เป็นเครดิตของเฉินโม่ การเข้าร่วมและการชี้แนะของเขาไม่เพียงแต่ให้เขาไม่ออกนอกเส้นทาง แต่ยังช่วยประหยัดเวลาและพลังงานได้มากอีกด้วย นอกจากนี้ประสิทธิภาพของการรบยังได้รับการป รับปรุงอย่างมากในทุกด้านของเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์ที่เขาจัดหาให้

 

หากทําเช่นนั้นอาจใช้เวลานานในการอุดช่องโหว่ แต่เทคโนโลยีที่เฉินโม่ จัดหาให้ไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถค้นคว้าได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสําหรับชุดสูทซึ่งมีความสําคัญมากสําหรับการบินเจ็ท…

 

เครื่องยนต์พลังงานที่ออกแบบโดยเฉินโม่ ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานหรืออัตราส่วนแรงขับต่อน้ําหนักนั้นแข็งแกร่งกว่าเครื่องยนต์ที่เขาออกแบบไว้มาก

 

ประโยชน์โดยตรงที่สุดคือความเร็วในการบินที่รุนแรงของ มาร์คทู นั้นสูงถึง 2 มัค ซึ่งมากกว่า 2,400 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและ มาร์คทู ซึ่งนําไปใช้จริงในภาพยนตร์ได้ทําลายความเร็วของเสียง

โทนี่พอใจกับชุดนี้มาก แต่เฉินโม่ไม่พอใจ

 

ด้วยข้อเสนอแนะเชิงคาดการณ์ล่วงหน้าของ เฉินโม่ และ การเพิ่มประสิทธิภาพของเทคโนโลยีของไฮดรา ทําให้มาร์คทู ฝใหม่แข็งแกร่งกว่า มาร์คทรี ซึ่งได้รับการปรับปรุงอีกครั้ง ในภาพยนตร์ แต่ก็ยังมีปัญหาใหญ่สองประการ

 

หนึ่งคือนักรบเหล็กนั้นยุ่งยากเกินกว่าจะจัดเตรียมได้ พวกเขาต้องใช้แพลตฟอร์มอุปกรณ์พิเศษ แขนหุ่นยนต์อัตโนมัติจํานวนมากประกอบขึ้นพร้อมกันซึ่งยังคงใช้เวลานาน ซึ่งทําให้ความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดลดลงอย่างมาก

 

หากศัตรูเข้ามาที่ประตูคุณไม่สามารถคาดหวังว่าพวกเขาจะหยุดรอให้คุณสวมชุดและโจมตีอีกครั้ง?

 

ในอเวนเจอร์สลีกมาร์คหมายเซเว่นจะบินโดยอัตโนมัติ และระบบการติดตามการติดตั้งอย่างรวดเร็วด้วยเลเซอร์ นําที่ห่อหุ้มหีบอาร์กจากด้านหลังโดยตรงหรือวิธีการถอดชิ้นส่วนของชุดประกอบอัตโนมัติแบบแยกส่วนของ มาร์ค42 นั้นรวดเร็ว และสะดวกกว่าไม่ต้องถูกจํากัด ด้วย แพลตฟอร์มการประกอบให้ยุ่งยากอีกต่อไปคุณสามารถแต่งตัวได้ทุกที่อย่างรวดเร็ว

 

นอกจากนี้แม้ว่าด้วยความช่วยเหลือของ เฉินโม่ ประสิทธิภาพของ มาร์คทู ก็พัฒนาขึ้นมาก แต่ในความเป็นจริงมันยังห่างไกลจากขีดจํากัด จํากัด ด้วยการขาดกําลังเอาต์พุตของเครื่องปฏิกรณ์ อาร์ก รุ่นที่สองประสิทธิภาพของ ความเร็วในการบินและพลังโจมตีของมาร์คทู ไม่ได้เล่นเต็มที่ 

 

แม้ว่าโทนจะค่อนข้างพอใจกับ มาร์คทู ในปัจจุบัน แต่ภายใต้การล่อลวงของชุดต่อสู้ที่ทรงพลังกว่าของ เฉินโม่ โทนี่ ก็ไม่ลังเลที่จะเสริมสร้างเสื้อต่อไป

 

จากนั้นทั้งสองเริ่มศึกษาเครื่องปฏิกรณ์อาร์ก รุ่นที่สาม ซึ่งมีกําลังการผลิตที่ทรงพลังกว่าและปรับปรุงวิธีการแต่งกายของชุดสูท

 

เครื่องปฏิกรณ์อาร์ก รุ่นที่สองฝังอยู่ในโลหะแพลเลเดียม แบบเดียวกับรุ่นแรก หลังจากใช้งานแล้วจําเป็นต้องทิ้งและเปลี่ยนใหม่ รุ่นที่สามในภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้แผ่นโลหะแพลเลเดียม เมื่อใช้หมดแล้วสามารถเปลี่ยนแผ่นโลหะแพลเลเดียมใหม่ได้ สะดวกกว่าด้วยประสิทธิภาพการส่งออกพลังงานที่สูงขึ้นและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้น

 

ในขณะที่พวกเขาปรับปรุงเสื้อเหล็กอย่างต่อเนื่อง เฉินโม่ ได้รับข่าวสารจากไฮดรา และ โอปาดิยา ได้รับต้นแบบ มาร์ควัน และภาพวาดการออกแบบเรียบร้อยแล้ว

 

อย่างไรก็ตามมีตอนที่อยู่ตรงกลาง ตามที่ เฉินโม่ คาดไว้ โอปาดิยา ไม่ได้ตั้งใจจะค้าขายอย่างตรงไปตรงมา แต่ตั้งใจจะเก็บไว้เอง แต่น่าเสียดายที่เขาเลือกของผิด

 

บร็อครัมโลว์ ไม่ใช่ผู้นาหัวโล้นคนเดิม คนของเขาไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายของคนขี้โวยวาย เมื่อโอปาดิยาเปิดเครื่องอาการชาของเส้นประสาทอย่างเงียบ ๆ และอยู่ใกล้กับบร็อครัมโลว์เขาก็อยากจะเริ่ม แต่เครื่องแบบสบาย ๆ ของบร็อครัมโลว์ที่เฝ้าระวังอยู่เสมอ

 

ถ้าโดยปกติเขาจะฆ่าโอปาดิยาโดยตรง แต่งานที่ไฮดรา ได้รับมอบหมายจะต้องเสร็จสิ้นดังนั้น โอปาดิยา จึงรอดชีวิตมาได้อย่างดี แต่เพื่อเป็นการลงโทษบร็อครมโลว์ จึงตัดเส้นประสาทมือซ้ายของเขาออก

 

เมื่อเขาจ่ายเงินสองเท่าและค่าใช้จ่ายของมือซ้ายเขาก็ช่วยชีวิตของเขาและเมื่อเขาได้สิ่งที่ต้องการ โอปาดิยา ก็เดินออกจากเต็นท์และเตรียมเรียกคนของเขามาล้างแค้น เขาอยู่ข้างนอกและบอดี้การ์ดชั้นยอดหลายคนที่ควบคุมสถานการณ์ได้แล้วทั้งหมดนอนอยู่บนพื้น

 

ม่านของเต็นท์ถูกเปิดออกอีกครั้งและบร็อคมโลว์ที่ออกมาข้างหลังเขาเห็นรอยยิ้มเย้ยหยันบนริมฝีปากของเขา

 

“ ดูเหมือนว่าคุณจะต้องส่งพวกมันกลับเอง”

 

เมื่อเฉินโม่ และ โทนี่ ประสบความสําเร็จในการปรับปรุง เครื่องปฏิกรณ์อาร์ค พวกเขาได้สร้างเครื่องปฏิกรณ์อาร์ค รุ่นที่สามที่ใช้แผ่นโลหะแพลเลเดียมที่สามารถเปลี่ยนได้โดยตรงในขณะที่ให้พลังงานที่ยาวนานขึ้นและความทนทาน ภายใต้การนําของคนอื่น ๆ โอปาดิยากลับไปนิวยอร์กจากอัฟกานิสถานพร้อมกับ มาร์ควัน

 

เร็วที่สุดเท่าที่ โทนี่ เพิ่งกลับมาและประกาศการเลิกกิจการของแผนกการผลิตอาวุธอุตสาหกรรม สตาร์ค ในงานแถลงข่าว โอปาดิยา ซีอีโอของสตาร์คอินดัสทรี ใช้ประโยชน์จากราคาหุ้นที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่าคณะกรรมการได้ จํากัด สิทธิ์ของโทนี่ และทําให้พวกเขาควบคุมในอุตสา หกรรมสตาร์ค

 

คราวนี้ฉันจ่ายเงินมหาศาลเพื่อให้ได้ต้นแบบเสื้อเหล็ก หลังจากที่ โอปาดิยา กลับไปที่บริษัท เขาไม่มีเวลาไปโรงพยาบาลเพื่อจัดการกับมือที่ขาดของเขาดังนั้นฉันแทบรอไม่ไหวที่จะเรียกนักวิจัยมาวิจัยกับต้นแบบภาพวาด

 

มีแบบสําเร็จรูปและทําเครื่องหมาย 1 ต้นแบบ การวิจัยชุดรบเหล็กกล้านั้นราบรื่นมาก เสื้อผ้าสงครามเหล็กซึ่งมีชื่อรหัสว่า “ไอรอนมาสเตอร์” ได้รับการออกแบบและเริ่มผลิตอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาด้านพลังงานที่ใช้ในการขับเคลื่อน เสื้อเหล็กไม่เคยได้รับการแก้ไข

 

ทีมวิจัยของเขาได้ทําการวิจัยเครื่องปฏิกรณ์อาร์ค ขนาดใหญ่ในสตาร์คมานานแล้วและต้องการสร้างเครื่องปฏิกรณ์อาร์ค ขนาดจิ๋วเหมือนโทนี่ เป็นเวลานาน แต่ไม่เคยมีความคืบหน้าแม้แต่น้อย

 

โอปาดิยาอดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองโทนี่สตาร์ค

 

เพราะเฉินโม่สามคนได้สังหารผู้ก่อการร้ายที่ลักพาตัวโทนี่ไปหมดและทิ้งกระดูกบร้อครั้มโลว์ไว้เพื่อนํากองกําลังพิเศษไปทําลายล้างผู้ก่อการร้ายที่เหลือดังนั้นแผนการตีบ้านเกิดของผู้ก่อการร้ายจึงไม่ได้เกิดขึ้น

 

โทนี่ยังหมกมุ่นอยู่กับการพัฒนาเสื้อเหล็กแบบใหม่และไม่รู้ว่า บริษัท กําลังทําอะไรอยู่

 

ดังนั้นโทนี่จึงเพิกเฉยต่อการกระทําที่โอปาดิยามีที่ต่อสตาร์คอินดัสตรีส์

 

อย่างไรก็ตาม เฉินโม่ รู้ดีถึงการกระทําของ โอปาดิยา และถึงเวลาแล้วที่ โทนี่ จะได้รู้ถึงสีที่แท้จริงของเขา

 

คืนนั้นฟิลโคลสันมาถึงบ้านพักริมทะเลของโทนสตาร์ค โดยนํารูปถ่ายของการขายอาวุธจํานวนมหาศาลของสตาร์คอินดัสตรีไปให้ผู้ก่อการร้ายและกองกําลังต่อต้านรัฐบาล รวมถึงขีปนาวุธเจริโครุ่นล่าสุด

 

หลังจากอ่านภาพ สตาร์ค ถามด้วยใบหน้าที่จริงจัง” นี่ใช้เวลาเมื่อไหร่”

 

ฟิลโคสัน ตอบอย่างใจเย็น”เมื่อวานนี้”

 

โทนี่ ส่ายหัวและพูดอะไรบางอย่างที่ไม่แน่นอน” ฉันยังไม่ได้อนุมัติการทําธุรกรรมใด ๆ

 

 “โคลสันมองไปที่โทนช้าๆ”แต่บริษัท ของคุณอนุมัติแล้ว”

 

โทนี่สตาร์คได้ยินดังนั้นเขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่าเขาถูกคณะกรรมการจํากัด และหยุดงานและเขาโกรธ

 

“ฉันแตกต่างจาก บริษัท ของฉัน!”

 

ฟิลเคอร์สันมองไปที่โทนี่สตาร์คและไม่พูดอะไรอีกแล้ว ทิ้งข้อมูลไว้และหันไป

 

โทนี่สตาร์กมองไปที่ด้านหลังของเขาและพึมพัม นอกจาก เขาในสตาร์คอินดัสตรีส์ แล้วมีเพียงคนเดียวที่สามารถทําทั้งหมดนี้ได้ อดไม่ได้ที่จะนึกถึงใบหน้าของโอปาดิยา ตอนนี้บริษัทอยู่ภายใต้การควบคุมของเขาอย่างสมบูรณ์เรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเขา

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ โทนี่ ก็กดโทรศัพท์ของ โอปาดิยา อย่างใจเย็น

 

บทสนทนาไม่ถูกใจ เมื่อเห็นโทนี่พบธุรกรรมเบื้องหลังของ เขาและตั้งคําถามกับเขา ในขณะที่โรงพยาบาลจัดการกับความโกรธของ โอปาดิยา ที่แตกสลายเขายอมรับว่าเขาสมัคร เข้าร่วมคณะกรรมการและหยุดงานของโทนี่

 

ตอนนี้โทนี่สตาร์คถูกเขาล้างหมดสิทธิ์ในสตาร์คอินดัสตรีส์โดยสิ้นเชิงและไม่ได้คุกคามเขา ตอนนี้เขามีอาวุธที่ทรงพลังอย่างเสื้อเชิ้ตเหล็กไม่จําเป็นต้องอยู่ใต้โทนี่ ที่ฉันต้องแสร้งเป็นพี่ที่เป็นมิตร

 

การวางโทรศัพท์ โทนี่ดูลําบากใจเล็กน้อย เขาปฏิบัติกับโอปาดิยาในฐานะญาติมาโดยตลอด แต่เขาไม่คาดคิดว่าเขาจะเขี่ยตัวเองและแย่งชิงอํานาจในบริษัทไป

 

ความรู้สึกทรยศของคนใกล้ชิดเช่นนี้ทําให้เขาอีดอัดเป็นพิเศษ