ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง 518 Bug ในเกมชัดๆ

Now you are reading ยอดไทเฮาเขย่าวังหลัง Chapter 518 Bug ในเกมชัดๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ด้วยการฝึกฝนที่ผ่านมาของเซียวเฉิน ย่อมต้องมีกระดูกแข็งประดุจกำแพงเหล็ก แต่ว่าตู๋กูซิงหลันเหมือนไม่ได้ใช้กำลังใดๆด้วยซ้ำ ก็ทำเอาเขาซี่โครงหักไปแล้ว  

 

 

เซียวเฉิน ถูกนางเหยียบอยู่ใต้ฝ่าเท้า จะขยับอย่างไรก็ขยับไม่ได้  

 

 

นางขยับร่างไหววูบ เพิ่มกำลังเพียงเล็กน้อย เซียวเฉินก็แทบจะกระอักเลือดออกมาแล้ว  

 

 

เขาเงยศีรษะขึ้นมา ก็เห็นตู๋กูซิงหลันที่มีสีหน้าเย็นชาราวน้ำแข็ง แววเนตรอหังการของนางเปี่ยมไปด้วยความดูถูกเหยียดหยาม  

 

 

เหล่านักพรตที่ติดตามเซียวเฉินมาต่างก็ตกตะลึงจนบ้าใบ้ไปแล้ว ฮ่องเต้หญิงเยาว์วัยผู้นี้ใช้หมัดเดียวก็ต่อยเทวบุตรของพวกเขาจนกระเด็นได้แล้ว?  

 

 

แถมเมื่อกระทืบลงไปเท้าเดียว คนก็ถึงกับไม่สามารถขยับเขยื้อนได้?  

 

 

เทวบุตรของพวกเขา….คงไม่ใช่ว่าจงใจแกล้งยอมแพ้เพื่อเอาใจโฉมสคราญหรอกนะ?  

 

 

ผู้คนทั้วทั้งพระตำหนักจิ่นซิ่วกงต่างก็งุนงงกันไปหมดแล้ว ฮ่องเต้หญิงทรง?  

 

 

มีวรยุทธ์ที่แข็งแกร่งเกินไปแล้วกระมัง?  

 

 

ไม่เสียทีที่ตระกูลตู๋กูเลี้ยงดูขึ้นมา พลังที่ออกมาจากหมัดนี้ต้องเรียกว่าสามารถเปรียบเทียบกับท่านแม่ทัพผู้พิชิตได้อย่างสูสีเลย!  

 

 

เทวบุตรหน้าเหม็นอันใดกัน ช่างโอ้อวดเกินจริงนัก สมควรสั่งสอนเขาสักทีแต่แรกแล้ว!  

 

 

ตู๋กูจุนกับตู๋กูถิงพุ่งออกมาขวางหน้าเอาไว้ กันพวกนักพรตเหล่านั้นเอาไว้ด้านหลัง ไม่เปิดโอกาสให้พวกทำร้ายตู๋กูซิงหลันได้  

 

 

ยอดดวงใจของพวกเขาคิดจะสั่งสอนผู้คน เช่นนั้นย่อมต้องส่งดาบให้กับนาง หากผู้อื่นคิดจะกรุ้มรุมเข้ามา อย่าได้หวังว่าจะมีโอกาสเลย  

 

 

อู๋เจินและอู๋ซื่อเองก็รีบขยับเข้ามา ตระเตรียมจะประมือกับเหล่านักพรตเช่นกัน  

 

 

ที่นี่คือถิ่นฐานของตนเอง ไหนเลยจะถึงรอบให้พวกที่มาจากจิ่วโจวมาก่อนความวุ่นวายได้กัน  

 

 

ก่อนที่ฮ่องเต้จีเฉวียนจะเสด็จจากไป ก็เคยมีพระบัญชาเอาไว้แล้ว ทรงมีพระประสงค์ให้พวกเขาทุ่มเท พละกำลังทั้งหมดเพื่อปกป้องไทเฮาน้อย  

 

 

อีกด้านหนึ่ง เซียวเฉินก็ถูกตู๋กูซิงหลันเหยียบอกจนกระอักเลือดออกมาเรื่อยๆ  

 

 

เขารีบปรับลมหายในภายในร่างกาย สายตาจับจ้องอยู่ที่ตู๋กูซิงหลัน ขณะที่มือข้างหนึ่งก็กดทรวงอกเอาไว้ “ฮ่องเต้หญิง ท่านทำกับข้าเช่นนี้ ไม่กลัวตายจริงๆใช่หรือไม่?”  

 

 

“สำนักหงเหมินของข้า…..วังตันติ่งกงจะต้อง….”  

 

 

ทันทีที่เขาเอ่ยปากขึ้นมา ตู๋กูซิงหลันก็สะบัดฝ่ามือตบลงไปหนึ่งฝ่ามือเต็มๆ   

 

 

เสียงตบฉาดดังชัด  

 

 

โดนตบไปครั้ง ฟันกรามของเซียวเฉินถึงกับร่วงลงมา  

 

 

“มาถึงดินแดนของเราก็คิดจะก่อเรื่องเสพสุขรักสบาย หากเราไม่จัดการเจ้า ใต้หล้าจะไม่เห็นว่าเรารังแกได้ง่ายๆหรอกหรือ?”  

 

 

นางยังคงเหยียนเซียวเฉินเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ทั้งยังฉวยโอกาสนี้ตรวจสอบพลังภายในของเซียวเฉิง ชัดเจนเลยว่า….มีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับพลังของตัวประหลดซ่งเจียงซู่นั่นอย่างยิ่ง  

 

 

เบาะแสที่ส่งมาถึงหน้าประตู…..  

 

 

ไม่ตรวจสอบดูก็เสียเปล่าแล้ว  

 

 

“วังตันติ่งกงคือตำหนักเซียนอันดับหนึ่งของจิ่วโจว เจ้าที่เป็นเพียงฮ่องเต้หญิงตัวเล็กๆในดินแดนนี้ คิดหรือว่าจะสามารถต่อกรกับวังตันติ่งกงได้?” เซียวเฉินประคองเครื่องในและตับไตที่ช้ำเลือดจนแทบจะพลิกกลับ มองดูนาง  

 

 

ก่อนหน้านี้เขาดูเบาฮ่องเต้หญิงผู้นี้ไปแล้ว นางพอจะมีความสามารถอยู่บ้างจริงๆ ทำให้เขาที่ไม่ทันได้ระวังตัวถูกนางต่อยใส่ไปหมัดหนึ่ง….แต่นั่นก็มิได้หมายความว่าเขาจะอ่อนด้อยกว่านาง  

 

 

นางเห็นว่าตนเองมีเปรียบอยู่บ้าง ก็คิดว่าตนเองไม่จำเป็นจะต้องเห็นวังตันติ่งกงอยู่ในสายตาได้แล้วหรือ?  

 

 

ตู๋กูซิงหลันคร้านจะสนใจเขา เท้าของนางกระทืบลงไปก็หักกระดูกของเซียวเฉินป่นจนแตกละเอียด  

 

 

นางคือธิดาของราชาเผ่ามังกรทมิฬ สืบทอดพลังทมิฬอยู่ในร่าง นับตั้งแต่ที่กลับมายังดินแดนโบราณแห่งนี้ นางก็ไม่เคยจะหยุดพักการฝึกฝนเลยสักช่วงเวลา เพื่อที่จะให้ตนเองแข็งแกร่งขึ้น แข็งแกร่งจนสามารถขึ้นไปสังหารผู้คนบนสวรรค์ได้ แข็งแกร่งจนสามารถที่จะปกป้องเหล่าคนที่นางรักทั้งหมดได้  

 

 

บางทีอาจเป็นเพราะหัวใจของนางรั้นจนเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะนางมีพรสวรรค์ในการฝึกฝนมาแต่กำเนิด เพียงช่วงเวลาสั้นๆแค่หนึ่งเดือน พลังของนางก็รุดหน้าขึ้นไปอีกขั้นแล้ว  

 

 

พอดีเชียว เทวบุตรหงเหมินที่ไม่รักชีวิตผู้นี้ก็มาให้นางซ้อมมือถึงที่  

 

 

คนที่สมควรโดนอัดขนาดนี้ หากนางไม่สั่งสอนมันเสียบ้าง จิตใจจะสบายได้อย่างไร  

 

 

พอเท้านี้กระทืบลงไปเซียวเฉินก็ถึงกับสลบไปแล้ว เขายังไม่ทันได้แสดงฝีมือเลยสักครั้ง  

 

 

เหล่านักพรตเห็นดังนั้น ก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป แต่ละคนนำอาวุธออกมากระชับไว้ในมือ พุ่งเข้าใส่ตู๋กูซิงหลัน  

 

 

ตู๋กูซิงหลันทรงฉลองพระองค์ฮ่องเต้หญิงสีแดงทั้งร่าง ประทับยืนนิ่งอยู่ที่เดิม แต่ในมือของนางมีแสงสีเงินเข้มสว่างวาบขึ้นมา ขณะที่นักพรตเหล่านั้นบุกเข้ามาอย่างพร้อมเพรียง ก็เห็นว่าท่ามกลางแสงสีเงินยวงกลางฝ่ามือของตู๋กูซิงหลันนั้น พลันปรากฏไม้คฑาสีดำมะเมื่อมรูปทรงโบราณขึ้นมาด้ามหนึ่ง  

 

 

ไม้คฑานี้ใช้งานอย่างไร ตู๋กูซิงหลันก็ยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด  

 

 

นางรู้สึกเพียงว่าไม้คฑานี้ยังแข็งแกร่งกว่าดาบยักษ์ของพี่ใหญ่อยู่หลายส่วน แต่ว่านอกจากอักขระที่ซับซ้อนสับสนบนด้ามแล้ว ก็ยังไม่เห็นว่ามันจะพิเศษที่ตรงไหน  

 

 

นางจึงได้แต่ทดลองใช่มันเป็นอาวุธดู  

 

 

ทันทีที่กำลังภายในและพลังหยินในร่างขับเคลื่อนเข้าสู่ไม้คฑาพร้อมกัน ไม้คฑานี้ก็เปล่งเสียงที่ดังกึกก้องไปทั้งตำหนักตันติ่งกงออกมา  

 

 

ชั่วพริบตาเดียว ก็เหมือนเกิดแรงระเบิดขึ้นขุมหนึ่ง นักพรตที่สูงส่งเหล่านั้นถูกลมหอบพัดกระจายกันออกไปดุจใบไม้ร่วง แต่ละคนถูกกระแทกจนตัวปลิว  

 

 

และขณะที่ลอยออกไปนั้นต่างก็พากันกระอักเลือดออกมาคำโต  

 

 

ภาพที่เลือดสดๆพุ่งเป็นสายอยู่กลางอากาศ กลายเป็นฉากอันหน้าประหลาดใจ  

 

 

ไม่ต้องให้พี่ใหญ่ ท่านตา หลงเซียวและพวกอู๋เจินลงมือเลยด้วยซ้ำ………….  

 

 

พวกเขากลายเป็นฉากหลังที่ไร้ประโยชน์ใดๆไปเสียแล้วหรือ?  

 

 

เมื่อตู๋กูซิงหลันดึงไม้คฑากลับมา ก็อดจะมองดูให้ดีไม่ได้ เมื่อครู่นี้ นางเหมือนจะเห็นว่าอักขระบนไม้คฑาบังเกิดความเคลื่อนไหว  

 

 

คลื่นพลังที่ระเบิดออกมา…..คล้ายจะเกิดจากการใช้กำลังภายในและพลังจิตวิญญาณของนางอย่างพร้อมเพรียงกัน  

 

 

ดีทีเดียว เดิมทีนางคิดจะใช้มันเป็นไม้กระบอง แทนที่ดาบยักษ์ คิดไม่ถึงว่ามันจะแข็งแกร่งกว่าที่ตนเองคาดคิดเอาไว้มากนัก?  

 

 

ขณะที่ตู๋กูซิงหลันดึงไม้คฑากลับมานั้น เหล่านักพรตก็ตกลงกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง แต่ละคนประคองทรวงอกด้วยสีหน้าเจ็บปวดอย่างที่สุด  

 

 

ทั้งยังเห็นว่า พลังจิตในร่างของพวกเขาถูกไม้คฑาในมือของตู๋กูซิงหลันดูดซับเข้าไปอย่างรวดเร็ว จนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า  

 

 

พลังทั้งหมดไหลไปรวมกันที่ไม้คฑา….ในมือของตู๋กูซิงหลัน  

 

 

เพียงพริบตาเดียวไม้คฑานี้ก็ดูดกลืนพลังจิตของพวกเขาจนเกลี้ยงเกลาหมดจด!  

 

 

นักพรตเหล่านี้กลับกลายเป็นแก่เฒ่าลงไปอีกยี่สิบปีในทันที แต่ละคนกลายเป็นคนผมขาวทั่วศีรษะ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ช่างแปลกประหลาดนัก  

 

 

ตู๋กูซิงหลันหรี่ดวงเนตรลง มองด้วยความประหลาดใจอยู่บ้าง  

 

 

นางรู้สึกได้ถึงขุมพลังที่ไม้คฑาพึ่งจะดึงดูดออกมา รวมกันอยู่ที่ใจกลางฝ่ามือของนาง จากนั้นก็ไหลเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างไม่มีหลงเหลือ ชำระไขกระดูกทั่วทั้งร่าง  

 

 

ไม้คฑานี่มัน….  

 

 

สายตาของตู๋กูซิงหลันเข้มข้นขึ้นมา อดที่จะมองดูมันอีกหลายๆครั้งไม่ได้  

 

 

ก่อนหน้านี้นางไม่เคยค้นพบมาก่อนว่าเจ้าสิ่งนี้มีความสามารถในการดึงดูดจิตวิญญาณของศัตรู เพื่อนำมาปรับใช้  

 

 

ความสามารถเช่นนี้….หากพูดออกไปก็คงไม่ค่อยมีหน้ามีตาสักเท่าไหร่  

 

 

มันก็เหมือนมีBugอยู่ในเกมอย่างไรอย่างนั้น  

 

 

พลังที่ผู้อื่นลำบากฝึกฝนมานานหลายร้อยปี กลับถูกนางดูดซับไปจนหมดสิ้นในไม่กี่ลมหายใจ….  

 

 

แถมเมื่อไหลผ่านเข้าสู่ร่างกายของนาง พลังจิตเหล่านี้ยังผ่านการชำระล้างจากไม้คฑามาแล้วรอบหนึ่ง กลายเป็นเหมาะสมกับร่างกายของนางอย่างที่สุด ไม่มีที่ใดอึดอัดติดขัดแม้แต่น้อย มีแต่จะทำให้นางรู้สึกว่าทั่วทั้งร่างมีพลังไหลเวียนท่วมท้นไม่ขาดสาย  

 

 

…………………………  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด