รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ 163 ลองรัก

Now you are reading รักครั้งแรกของคุณชายปีศาจ Chapter 163 ลองรัก at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่163ลองรัก

มู่เทียนซิงร้องไห้ไปเช็ดน้ำตาไป แล้วจู่ๆ เธอก็พุ่งออกไปทางประตูหลัง นั่นทำให้ฉวีซือเหวินกับจั๋วซีตกใจมาก!

ในที่สุดพวกเขาก็เข้าใจเจตนาของซือซ่าวสักที เขาต้องการให้คุณหนูมู่มาขอร้องอ้อนวอนเขาด้วยตัวเองนี่เอง!

ซึ่งไม่ใช่การรอให้เขากลับไป แต่เป็นการที่เธอทนไม่ไหวจนต้องวิ่งมาซบเขาทั้งน้ำตา มาขอให้เขาเอาใจ ขอให้เขาปลอบใจ!

ระหว่างสองคนนี้มีเนื้อแท้ที่ต่างกัน!

ด้วยเนื้อแท้ที่ต่างกัน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ก็แตกต่างกันไปด้วย!

โหดร้ายจริงๆ!

ฉวีซือเหวินวางสาย จากนั้นก็หันมาชูนิ้วโป้งให้กับกล้อง ในเวลาเดียวกัน หลังของเธอก็กำลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ!

จั๋วซีเอามือถือคืนกลับไปให้ซือซ่าว พร้อมกับกลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ “ซือซ่าวเป็นคนที่ปราดเปรื่องยิ่งนัก กระหม่อมขอตัวก่อนนะขอรับ”

หลิงเล่ไม่ได้พูดอะไร

เขาปิดจอคอมลง ความรู้สุดพึงพอใจค่อยแสดงออกมาจากดวงตาที่เป็นประกายของเขา รอยยิ้มแห่งชัยชนะดั่งหมาป่าปรากฏขึ้นบนใบหน้า!

มู่เทียนซิงรู้จักทางเชื่อระหว่างวิลล่ากับวังหลังอยู่

ทางแรกก็คือใช้ลิฟต์ลงไปทางชั้นใต้ดิน แล้วมันก็สามารถเข้าไปทางห้องทำงานของพนักงานได้เลย

แต่นี่มันเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็รู้ และที่สำคัญคือที่นี่มีการติดตั้งระบบตรวจจับอินฟราเรดเอาไว้ด้วย แค่เดินผ่าน สัญญาณเตือนที่โต๊ะทำงานของจั๋วซีก็จะดังขึ้นทันที เธอเคยได้ยินหลิงเล่บอกว่ามันเป็นทางที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ในเวลาฉุกเฉิน

ส่วนอีกทางก็คือไปทางประตูหลังของวิลล่า เดินเข้าไปทางประตูหน้าของวังหลัง แล้วใช้ลิฟต์ขึ้นชั้นสองตรงไปที่ห้องทำงานของหลิงเล่ไปเลย หลิงเล่เคยพาเธอเดินมาทางนี้แล้วสองครั้ง มันค่อนข้างเงียบและเร็วมากด้วย ที่สำคัญคือมันไม่ค่อยเป็นที่สนใจสักเท่าไหร่

และในตอนนี้ ตอนที่เธอกำลังยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องทำงานของหลิงเล่ เธอทนรอไม่ไหวจนต้องเปิดประตูเข้าไปในทันที

ในแทบจะทันทีนั้น ประตูรั้วอิเล็กทรอนิกส์ก็ถูกเปิดออกในทันที

สิ่งแรกที่วิ่งเข้ามาในตาก็คือวีลแชร์ตัวหนึ่ง

มู่เทียนซิงจ้องเขม็งไปยังที่กำลังนั่งอยู่บนวีลแชร์ตัวนั้น น้ำตาไหลลงมาอย่างกับห่าฝน ทั้งรู้สึกโกรธและรู้สึกผิดไปในเวลาเดียวกัน เธออยากจะอธิบายให้เขาได้เข้าใจถึงอะไรบางอย่าง แต่ลิ้นแสนดื้อก็พันกันซะได้ บวกกับการที่เธอเพิ่งวิ่งมาเป็นเวลานานแถมยังร้องไห้มาตลอดทางด้วย ท่าทางที่กำลังของเธอช่างดูน่าสงสารอะไรอย่างนี้

“แง~คุณ อา คะ~ แงแง~คุณอาอย่า~แงงงงงง~!”

เธอไม่สามารถพูดมันให้จบได้ เธอกำลังรู้สึกร้อนรนมาก จึงไม่พูดมันซะเลย ร้องมันทั้งอย่างนี้แหละ!

แต่ว่า สาวน้อยถือว่ายังพอมีสมองอยู่บ้าง เพราะในขณะที่กำลังร้องไห้อยู่นั้น พอเขามาในห้องของหลิงเล่แล้วเธอก็ใช้ขาปิดประตูลงในทันที แล้วฟุบลงบนตักของหลิงเล่ในทันที กอดขาเขาไว้ กอดไว้แน่นๆ!

พอร้องไห้หนักเข้า เธอก็เล็งไปยังมือของเขาที่วางอยู่ข้างตัว แล้วจับมือใหญ่ๆ ของเขาขึ้นมาใช้เป็นกระดาษเช็ดไปบนใบหน้าที่เต็มไปด้วยหยาดน้ำตาของเธอ!

หลิงเล่กำลังหลงเสน่ห์ของเธอ!

เด็กคนนี้ ช่างตลกอะไรอย่างนี้ เรื่องมาถึงขึ้นนี้แล้วยังจะมาไม้นี้อีก นี่เธอกำลังแสดงออกอย่างชัดเจนเลยไม่ใช่เหรอว่าต้องการให้เขาเอาใจ?

หัวใจที่แข็งดั่งเหล็กกล้าในตอนแรก กลับถูกเธอทำให้มันอ่อนลงในทันที!

ไม่มีทางที่จะหาเด็กน้อยที่น่ารักแบบนี้ได้อีกแล้ว!

แม้แต่ตอนร้องไห้ก็ยังน่ารักขนาดนี้!

มือใหญ่ๆ ของเขาขยับอยู่บนใบหน้าของเธออย่างควบคุมไม่ได้ ไม่ต้องให้เธอบังคับแล้ว เขาเองก็อยากช่วยเธอเช็ดน้ำตาขึ้นมาแล้ว

“เด็กดี ไม่ร้องแล้วนะครับ”

น้ำเสียงที่แสนเรียบง่ายอันเต็มไปด้วยความอดกลั้น

หลิงเล่กลัวว่าหัวใจทั้งดวงของเขาจะต้องละลายหายไปเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเธอแบบนี้!

เมื่อมู่เทียนซิงเห็นว่าเขากำลังเช็ดน้ำตาให้เธอและในที่สุดเขาก็พูดกับคุยกับเธอแล้ว เธอถึงได้เงยหน้าขึ้น กุมมือของเขาแล้วถูกไปบนหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำตา พร้อมกับจ้องเขาด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง “คุณอาคะ! แงแง ~คุณอาอย่าเข้าใจหนูผิดนะคะ~ แงแง~คุณอาจะเมินใส่หนูแบบนี้ไม่ได้นะคะ~ ไม่ได้นะคะ! แงแง ~ หนูอาจจะตายเอาจริงๆ ก็ได้นะคะ อาจจะตาย อาจตายได้จริงๆ นะคะ! แงแง~”

หลิงเล่ทำหน้าเคร่งเครียดขึ้นมาในทันที “นี่เธอพูดเพ้อเจ้ออะไรออกมา?”

เธอพูดต่อ “ไม่นะ หนูไม่ได้พูดเพ้อเจ้อสักหน่อย แงแง~ ตอนคุณไม่อยู่ หนูไม่กินข้าว ไม่กินน้ำ ไม่หลับไม่นอน ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป เดี๋ยวหนูก็ซี้แหงแก๋แล้ว! น้ำตาของหนูมันไหลไม่ยอมหยุด อีกไม่นานตาก็คงบอดแล้ว! หนูรู้สึกเสียใจ รู้สึกร้อนรน รู้สึกเจ็บปวด จนอาจจะเป็นโรคหัวใจเอาได้นะคะ! หนู………”

“หยุด!”

มือใหญ่ๆ ของเขา ปิดปากที่พูดอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดของเธอ!

สิ่งที่เธอกำลังพูดออกมา มันทำให้เขารู้สึกกระวนกระวายใจ!

มีใครที่ไหนเขาแช่งตัวแช่งตัวเองแบบนี้กัน?

จู่ๆ หลิงเล่ก็รู้ตัวว่าความคิดของเด็กคนนี้มันอยู่นอกเหนือความคาดหมายของเขาไปแล้ว เขาสามารถบีบให้เธอมาอยู่ตรงนี้ได้ แต่ไม่คิดว่าการที่เธอมาอยู่ตรงนี้ผลลัพธ์ที่ออกมาจะแตกต่างจากแผนที่วางไว้แบบนี้!

ผลลัพธ์ที่กำลังเกิดขึ้นตรงหน้ามันเริ่มห่างไกลจากสิ่งที่เขาคิดไว้ไปทุกทีแล้ว มันไม่ได้ใกล้เคียงเลยสักนิด!

เขาชักมือกลับ ทำหน้าเคร่งขรึม เอาแขนที่กำลังกอดเขาออก เลื่อนวีลแชร์ออกไปข้างหลังเล็กน้อย หันหลัง แล้วเคลื่อนไปทางห้องนั่งเล่น

มู่เทียนซิงรู้สึกสิ้นหวัง เมื่อเห็นชายที่ตัวเองรักกำลังจากไปทีละน้อยทีละน้อย และรู้ในทันทีว่าเขายังเข้าใจตัวเองผิดอยู่!

เธอลุกขึ้นยืน เช็ดน้ำตาแล้วเดินตามไป เธอยืนอยู่ตรงประตูห้องนั่งเล่น มองดูเขาที่กำลังเคลื่อนที่ไปทางเตียงนอน แล้วเธอก็พูดออกมาอย่างสุดทนว่า “คุณอาคะ! คุณอาจะโกรธหนูแบบนี้ไม่ได้นะ! แงแง~ มันไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจนะคะหนูรักคุณอานะคะ~!”

“คุณอา ฉันรักคุณ ถ้าคุณยังเมินฉันอยู่แบบนี้ อีกไม่นานฉันก็จะตายนะคะ!”

“หุบปาก!”

หลิงเล่หยิบหมอนที่วางอยู่บนที่นอนขึ้นมา แล้วเขวี้ยงไปทางมู่เทียนซิง

เธอใช้แขนรับไว้ได้ แล้วอุ้มมันไว้เหมือนกับเด็กน้อย จากนั้นก็ค่อยๆ ก้าวมาข้างหน้า “คุณอาคะ หนูรักคุณอานะคะ มันไม่ใช่ความสงสาร จริงๆ นะคะ แงแง~คุณต้องเชื่อฉันนะคะ ฉัน แงแง~ ฉันรักคุณจริงๆ นะคะ~!”

หลิงเล่จ้องมองเธอด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย แล้วพูดย้ำออกมาทีละคำ “เหรอ? แล้วทำไมเธอถึงไม่ยอม……ช่างมันเถอะต่อไปฉันจะไม่พูดถึงมันอีก!”

เขาดูเหมือนคนที่กำลังรู้สึกผิดหวังมาก เขาละสายตาออกจากเธอ แล้วไม่หันมามองเธออีก!

มู่เทียนซิงเริ่มร้อนรน เธอจึงรีบรุกเข้าไปดึงแขนเขาแล้วส่งตัวเองเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา มือน้อยที่อ่อนนุ่มกำลังคล้องอยู่บนคอของเขา ก้นน้อยๆ นั่งลงบนตักของเขา ดวงตาจ้องมาที่เขา “แงแง~หนูไม่ได้ไม่ยินยอม หนูแค่กลัวเจ็บกลัวเจ็บเท่านั้น~! แงแง~นี่มันครั้งแรกของเขานะ~!”

หลิงเล่แอบถอนหายใจอยู่ข้างใน ในที่สุดก็เข้าเรื่องได้สักทีนะ เหนื่อยเป็นบ้าเลย!

มือข้างหนึ่งของเขาคล้องเอวของเธอไว้อย่างอ่อนโยน มืออีกข้างก็เช็ดน้ำตาให้เธอเบาๆ แล้วพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยนว่า “เด็กดี ไม่ว่าผู้หญิงคนไหนก็ต้องผ่านประสบการณ์แบบนี้ทั้งนั้นแหละ เธอจะใช้ความเจ็บเป็นข้ออ้างมาทิ้งฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ เธอทำอย่างนี้ รู้ไหมว่าฉันเจ็บปวดขนาดไหน ฉันหลงคิดไปว่าเธอไม่เคยรักฉันเลยด้วยซ้ำ”

“ไม่นะ หนูรักคุณนะคะ!” เมื่อเธอเห็นว่าเขาอ่อนโยนแบบนี้ เธอก็รู้สึกเบาใจลงไปมากเลย และรีบอธิบายไปว่า “ก็หนูกลัวเจ็บจริงๆ หนิคะ”

เขาหอมแก้มเธอเบาๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย้ายวนว่า “งั้นเรามาลองดูก่อนนะ ถ้าเธอรู้สึกเจ็บแม้แต่นิดเดียวละก็ เราก็จะหยุดในทันที โอเคไหม?”

มู่เทียนซิงกัดริมฝีปาก มองมาที่เขา ใบหน้าที่งดงามกำลังลังเล!

เขาพูดต่อ “ถ้าในอีกสามปีข้างหน้าเรามีลูกด้วยกันไม่ได้ เราก็ต้องหย่ากันเลยนะ เธอทำใจได้เหรอที่ต้องจากฉันไปแบบนี้?”

เธอลังเลอีก และได้ตัดสินใจในที่สุด ไม่ขัดขืนอีกต่อไปแล้ว หลับตาลงแล้วตอบไปว่า “งั้น งั้นลองดูก็ได้ค่ะ แต่ให้ลองแค่ครั้งเดียวนะคะ! ส่วนคุณก็ต้องรักษาคำพูดด้วย ถ้าเธอเจ็บต้องรีบหยุดในทันที และจะไม่มีครั้งต่อไปอีก!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *