ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! 975 ไม่มีแฟน

Now you are reading ลูกชายของประธาน….เรียกฉันหม่ามี๊?! Chapter 975 ไม่มีแฟน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ได้ครับ”

ฟางยู่เชินตกลงคำขอของพวกเขาอย่างง่ายดาย

“ยู่เชิน” ท่านหยางลุกขึ้นอย่างตะลึง เขาไม่รู้เหรอว่าคำขอนี้ไม่ดีต่อเขา?

ฟางยู่เชินหันไปมองเขา ยิ้มบางๆ “ปู่หยาง ผมไม่มีทางส่งฟางซื่อกรุ๊ปออกไปแน่นอนครับ”

สีหน้าและดวงตาของเขาแน่วแน่มาก

หัวใจที่ขึ้นสูงของท่านหยางกลับไปที่เดิมอีกครั้ง ยิ้มอย่างพอใจ “ฉันเชื่อนาย”

คณะกรรมการคนอื่นๆ นายมองฉัน ฉันมองนาย ใบหน้าภูมิใจปิดไม่มิด

ถือว่าถึงจุดประสงค์ของพวกเขาแล้ว

หลังจากจบการประชุม ท่านหยางเปิดคนสุดท้ายที่ออกไป เขาเดินไปข้างหน้าของฟางยู่เชิน “เรื่องวันนี้ล้วนพุ่งหานาย ฉันอายุมากแล้ว เรื่องบางเรื่องนั้นเข้ามาแทรกได้ยาก แต่ว่าถ้ามีส่วนที่ต้องให้ช่วย ก็พูดเลยนะ”

ฟางยู่เชินยิ้มให้เขาอย่างขอบคุณ “ขอบคุณครับปู่หยาง”

“ไม่ต้องเกรงใจกับฉัน” ท่านหยางมองไปรอบๆ ใบหน้านิ่ง ถอนหายใจ “ฟางซื่อกรุ๊ปนี้ฉันและปู่ของนายเป็นคนสร้างขึ้น ฉันไม่อยากให้มีคนมาทำลาย”

“ปู่หยาง ท่านวางใจครับ ผมจะไม่มีทางให้มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น”

ท่าทางแน่วแน่ของเขา ก็เหมือนตัวเองในตอนนั้น

ท่านหยางยิ้ม “นายพูดแล้วต้องทำให้ได้”

ฟางยู่เชินพยักหน้าแรงๆ “แน่นอนครับ”

ส่งท่านหยางกลับ ฟางยู่เชินกลับเข้าห้องทำงานของตัวเอง กำลังจะนั่งลง

ผู้ช่วยวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน “ท่านประธานครับ แย่แล้ว หน้าบริษัทมีนักข่าวมาเต็มเลยครับ”

เมื่อได้ยิน สีหน้าของฟางยู่เชินเปลี่ยน “ใครเป็นคนบอกสื่อ?”

ผู้ช่วยส่ายหัว “ไม่ทราบครับ”

สีหน้าของฟางยู่เชินตึงเครียด กำหมัดแน่น ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ปล่อยเขาจริงๆ

ในขณะเดียวกัน ฟางอี้หมิงรู้ข่าวที่สื่อกำลังมา หัวเราะเสียงดังในห้องทำงาน

“ดีจริงๆ ฉันจะดูว่าครั้งนี้ฟางยู่เชินจะหลบยังไง”

“อี้หมิง ทำแบบนี้ไม่ดีต่อบริษัทหรือเปล่า?” ฟางเฉิงเป็นห่วงเล็กน้อย

แม้ว่าจุดประสงค์ของพวกเขาคือการดึงฟางยู่เชินลงมาจากตำแหน่งประธาน แต่หากมีผลกระทบไม่ดีกับฟางซื่อกรุ๊ป ก็ไม่มีผลดีต่อใคร

“พ่อ มีผลกระทบ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่”

ฟางอี้หมิงกระตุกมุมปาก “ที่สำคัญที่สุดคือถ้าครั้งนี้ฟางยู่เชินไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ดีต่อสาธารณะ เขาก็ทำได้เพียงส่งฟางซื่อกรุ๊ปออกมา”

ถึงเวลา ฟางซื่อกรุ๊ปก็เป็นของเขาแล้ว

นึกถึงเรื่องนี้ ปากของฟางอี้หมิงจะฉีกถึงหู ใบหน้าเต็มไปด้วยความภูมิใจ

……

กลุ่มเจียงสื้อสื้อกินอาหารเช้าเสร็จ ออกมาจากร้านอาหาร ซ่างกวนหยวนหยุดฝีเท้า “สื้อสื้อ”

เจียงสื้อสื้อหันไป

“วันนี้ขอบคุณเธอมาก วันหลังฉันเลี้ยงเธอ” ซ่างกวนหยวนพูดด้วยรอยยิ้ม

เจียงสื้อสื้อรีบพูด “ไม่เป็นไร เธอเคยช่วยฉัน ฉันเลี้ยงเธอก็สมควรแล้ว”

ซ่างกวนหยวนยิ้ม หันไปมองฟางเสว่มั่น “คุณน้าคะ วันหลังฉันไปเยี่ยมท่านอีก ฉันไปก่อนนะคะ”

ต่อมา เธอเชยตา สายตาหยุดลงบนใบหน้าหล่อเหลาของจิ้นเฟิงเฉิน “แล้วพบกันใหม่ ประธานจิ้น”

จิ้นเฟิงเฉินพยักหน้าเบาๆ

“ระหว่างทางก็ระวังด้วยนะ” เจียงสื้อสื้อพูด

ซ่างกวนหยวน “อืม” เบาๆ หมุนตัวเดินไปอีกทาง

มองแผ่นหลังที่จากไปของเธอ จู่ๆ ฟางเสว่มั่นก็พูดขึ้น “ผู้หญิงคนนี้เหมาะกับยู่เชินนะ”

ได้ยินประโยคนี้ เจียงสื้อสื้อและจิ้นเฟิงเฉินสบตากัน พูดอย่างประหลาดใจ “แม่คะ อย่าพูดมั่ว หยวนหยวนอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้”

“ฉันก็แค่พูดเฉยๆ” ฟางเสว่มั่นมองบนใส่เธอ

เจียงสื้อสื้อกอดเธอแล้วยิ้ม “ฉันรู้ ฉันก็แค่พูดเฉยๆ”

“จริงๆ แล้วฉันรู้สึกว่าเธอเหมาะสมกับยู่เชินจริงๆ” ฟางเสว่มั่นอดไม่ได้ที่จะพูดอีก

เจียงสื้อสื้อหลุดขำอย่างช่วยไม่ได้ “ได้ค่ะ มีโอกาสจะถามหยวนหยวนดูว่าเธอมีแฟนหรือยัง”

“งั้นเธอต้องจำไว้นะ”

“ค่ะ ฉันจะจำไว้”

หลังจากที่ส่งคุณแม่กลับโรงพยาบาล จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อก็กลับไปที่บ้านใหญ่ตระกูลฟาง

เมื่อเข้าบ้าน ก็ได้ยินซ่างหยิงพูด “นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

น้ำเสียงดูกระวนกระวายมาก

จิ้นเฟิงเฉินและเจียงสื้อสื้อสบตากัน รีบเดินเข้าไป

“น้าสะใภ้เล็ก เกิดอะไรขึ้นคะ?”

ทีวีในห้องนั่งเล่นเปิดไว้ กำลังฉายข่าวใหม่ล่าสุด

“โกดังของฟางซื่อกรุ๊ปไฟไหม้ในช่วงเวลาก่อนรุ่งเช้า เสียหายหนักมาก โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ……”

ซ่างหยิงเห็นพวกเขากลับมา ขมวดคิ้วแน่น ชี้ไปที่ทีวีแล้วถาม “สื้อสื้อ เฟิงเฉิน พวกเธอรู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”

“คือ……” เจียงสื้อสื้อไม่รู้ควรอธิบายอย่างไรในทันที

เธอส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปให้จิ้นเฟิงเฉิน จิ้นเฟิงเฉินเดินไปด้านหน้า “น้าสะใภ้เล็กครับ นี่เป็นอุบัติเหตุ ท่านอย่าคิดมาก”

“อุบัติเหตุ?” ซ่างหยิงหัวเราะ “เฟิงเฉิน ฟางซื่อกรุ๊ปอยู่มาหลายปี ไม่เคยเกิดเรื่องโกดังไฟไหม้ นายว่ายู่เชินรับฟางซื่อกรุ๊ปต่อ ก็เกิดเรื่องนี้ขึ้น

พวกเธอเชื่อเหรอว่าบนโลกนี้มีเรื่องบังเอิญขนาดนี้?”

เจียงสื้อสื้อเม้มปาก ก้มหน้าไม่กล้ามองเธอ

น้าสะใภ้เล็กไม่เคยยุ่งเรื่องบริษัท แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเธอไม่เข้าใจ เธอมองปัญหาออกทันที

จิ้นเฟิงเฉินเงียบ

ซ่างหยิงสูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันไม่เคยคิดเลยว่าความคิดของคนจะโหดร้ายขนาดนี้”

ฟางเถิงที่อยู่ข้างๆ รีบปลอบ “ไม่มีเรื่องอะไร เธออย่าคิดไปเรื่อย”

“ฉันไม่ได้คิดไปเรื่อย เรื่องนี้พี่ใหญ่พี่รองพวกเขาเป็นคนทำแน่นอน” น้ำเสียงของซ่างหยิงมั่นใจมาก

“เธอ……” ฟางเถิงคิดประโยคที่จะค้านเธอไม่ออก ทำได้เพียงส่ายหน้าและถอนหายใจ

เจียงสื้อสื้อเดินไปดึงเธอให้นั่งลงบนโซฟา จากนั้นก็ปลอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “น้าสะใภ้เล็ก เรื่องยังตรวจสอบไม่ชัดเจน เรายังพูดอะไรไม่ได้ เกรงว่าถึงเวลาเขามีโอกาสสวนกลับอีก”

ซ่างหยิงหลับตา “ตั้งแต่ฉันแต่งงานเข้ามาในตระกูลฟาง ดีกับพวกเขา ไม่เคยคิดจะทำร้ายพวกเขา ทำไมพวกเขาต้องทำแบบนี้กับยู่เชิน?”

“เพราะฟางซื่อกรุ๊ป” จิ้นเฟิงเฉินพูดเบาๆ คุณตาส่งฟางซื่อกรุ๊ปให้ยู่เชิน พวกเขาไม่ยอม แน่นอนว่าจะทำทุกวิถีทาง”

เมื่อได้ยิน ซ่างหยิงหันไปจ้องสามีอย่างไม่พอใจ “เพราะนาย ฉันพูดตั้งนานแล้วเราไม่เอาฟางซื่อกรุ๊ป ไม่ต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยว ตอนนี้เป็นยังไง ยู่เชินมีปากก็อธิบายไม่ชัดเจนแล้ว”

เจียงสื้อสื้อหลุดขำ “น้าสะใภ้เล็ก ท่านคิดมากไปแล้วค่ะ เรื่องโกดังไฟไหม้ เป็นฟางซื่อกรุ๊ปที่เสียหาย ไม่เป็นอันตรายต่อทุกคน พี่ชายแค่ต้องอธิบายให้คณะกรรมการก็ได้แล้วค่ะ”

“ฉันรู้” ซ่างหยิงถอนหายใจหนักๆ อีกครั้ง “แต่หลังจากที่ผ่านเรื่องนี้ คนอื่นจะพูดเกี่ยวกับยู่เชินยังไง ว่าเขาไม่มีความสามารถยังพอได้ ถ้าพูดว่าชีวิตของเขามีนำพาความโชคร้ายจะทำยังไง?”

“น้าสะใภ้เล็ก ท่านเชื่อเรื่องโชคเกินไปแล้วค่ะ” จู่ๆ เจียงสื้อสื้อก็รู้สึกว่าเธอน่ารักมาก

“ฉันพูดจริงๆ นะ”

ซ่างหยิงจริงจังมาก แม้แต่จิ้นเฟิงเฉินยังหัวเราะ “น้าสะใภ้เล็ก ไม่ต้องสนใจว่าคนอื่นพูดอะไร เพียงแค่ยู่เชินมีความสามารถ เขาก็จะพลิกสถานการณ์”

ความหมายก็คือเธอต้องเชื่อในตัวลูกชายของตัวเอง

ฟางเถิงพูดเสริม “ใช่แล้ว อย่าไม่มั่นใจในตัวยู่เชิน”

จากการปลอบของหลายคน ในที่สุดซ่างหยิงก็ใจเย็นลง “ฉันรู้แล้ว ฉันจะเชื่อมั่นในตัวของยู่เชิน”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด