วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 984 อย่าปล่อยไอ้สารเลวนั่นรอดไปได้

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 984 อย่าปล่อยไอ้สารเลวนั่นรอดไปได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เร็วเข้า! ใครก็ได้มาช่วยพยุงประธานฟ่านที” หลินเหว่ยเซินตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “ส่งตัวเขาไปถึงบ้านอย่างปลอดภัยด้วย”

 

 

ประธานฟ่านได้สติขึ้นมาหลังจากสะดุ้งกับน้ำเย็นเฉียบก่อนลุกขึ้นยืนโดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยพยุงเอาไว้ เขาชี้ไปทางซย่าหันโม่ทั้งร่างที่สั่นเทา “เธอ… เธอต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปวันนี้แน่!”

 

 

ซย่าหันโม่ไม่ได้สะทกสะท้าน “แล้วฉันจะรอนะคะ”

 

 

ถังหนิงมองทั้งสองฝ่ายก่อนส่ายหน้า หลังจากประธานฟ่านถูกส่งตัวออกไป เธอก็หันมาพูดกับซย่าหันโม่ “นี่เป็นปัญหาของฉัน ไม่อยากให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”

 

 

ซย่าหันโม่ถึงกับอึ้งไป

 

 

“เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับจู้ซิงมีเดียอีกแล้ว เลิกเข้ามายุ่งเรื่องของฉันกับหลินเฉี่ยนสักที

 

 

“ไอ้สารเลวนั่นไม่ใช่คนที่เธอจะมีปัญญารับมือได้หรอกนะ จำเอาไว้ว่าถ้าเจอเขาอีก อยู่ให้ห่างจากเขาเท่าที่จะทำได้ซะ… มันไม่ใช่เรื่องของเธอ

 

 

“ดูเหมือนว่าเธอจะสะใจที่ได้แก้แค้นคืนแล้วนะ ถ้างั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่เธอจะนั่งข้างฉันอีกแล้วล่ะ”

 

 

ซย่าหันโม่ได้แต่เงียบขณะที่หันกลับไปนั่งที่เดิม

 

 

เธอรู้ว่าไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ว่าเธอจะพูดหรือทำอะไร เธอก็ถูกไล่ออกจากจู้ซิงมีเดียแล้ว

 

 

“ถิงคะ คุณต้องจับตาดูประธานฟ่านเอาไว้เผื่อว่าเขาจะหาทางแก้แค้นซย่าหันโม่นะคะ”

 

 

โม่ถิงพยักหน้าขณะที่ยืนด้านหลังถังหนิง “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะบอกให้ลู่เช่อจัดการให้ทันทีที่เรากลับถึงบ้าน”

 

 

“แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนของจู้ซิงมีเดียแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับเธอน่ะค่ะ”

 

 

โม่ถิงเข้าใจว่าถังหนิงคิดอะไรอยู่ ถึงอย่างไรพวกเขาก็แต่งงานกันมานาน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากให้

 

 

ซย่าหันโม่มาติดร่างแหด้วย

 

 

“วันนี้ฉันแค่ทำให้เขาอับอาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ยอมรามือนะคะ”

 

 

โม่ถิงไม่ได้พูดสิ่งใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา เพราะเขาได้แอบวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หากแต่เรื่องบางอย่างย่อมต้องใช้เวลา

 

 

ไม่นานงานแต่งงานก็กลับมาเป็นปกติสุข หลังจากมื้อเที่ยง ถึงเวลาสำหรับงานเลี้ยงต้อนรับ

 

 

ด้วยตอนนี้เธอท้องอยู่ ไม่อาจเข้าร่วมในการเต้นได้อยู่แล้ว จึงได้แต่นั่งอยู่ข้างๆ โม่ถิง

 

 

เพราะเป็นการรวมตัวของศิลปิน แขกหลายคนจึงสามารถร้องเพลงและเต้นได้

 

 

โดยเฉพาะภรรยาของหลินเหว่ยเซินที่มีความสามารถในการเต้นหลายแบบ อย่างที่เขาว่าไว้ก่อนหน้านี้ว่าเธอมีฝีมือไม่น้อย

 

 

“คุณวางแผนจะให้ผู้หญิงคนนี้เซ็นสัญญาเข้าจู้ซิงมีเดียจริงๆ เหรอครับ”

 

 

“คุณก็ได้ยินไม่ใช่เหรอคะ หลินเหว่ยเซินมาขอร้องฉันด้วยตัวเอง ฉันจะปฏิเสธเขาได้ยังไงล่ะ” ถังหนิงตอบ “คุณเองก็เห็นการแสดงที่น่าประทับใจของเธอเมื่อกี้แล้วนี่คะ พวกเขาตั้งใจทำให้ฉันเห็นว่าสามารถปั้นเธอให้โด่งดังได้”

 

 

“ผมเข้าใจว่าคุณต้องตอบแทนความช่วยเหลือของเขานะครับ แต่ผมก็รู้ว่าคุณไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน”

 

 

“คุณโม่ บางทีคุณอาจเป็นพยาธิในท้องฉันก็ได้นะคะเนี่ย” ถังหนิงหัวเราะคิกคัก “คุณรู้ทุกอย่างที่ฉันคิดได้ยังไงกัน”

 

 

โม่ถิงบีบปลายจมูกถังหนิง บางอย่างก็เห็นกันอยู่ชัดๆ

 

 

ในตอนนี้เอง ถังหนิงมองสำรวจไปรอบตัว พบว่าซย่าหันโม่หายตัวไปแล้ว เดิมทีเธอนึกว่าอีกฝ่ายกลับไปเพราะติดงาน แต่เธอไม่รู้ว่าซย่าหันโม่ได้ถูกล่อลวงไปที่อื่นเสียแล้ว

 

 

บรรยากาศด้านนอกงานแต่งงานชื่นมื่นท่ามกลางเสียงเพลงและการเต้นรำ ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังมีความสุขและสนุกสนาน ความน่าขนลุกพลันแผ่ซ่านมาจากที่ไหนสักแห่ง

 

 

เสียงแก้วแตกลั่นดังขึ้นหลังจากนั้นพร้อมกับคนคนหนึ่งที่ตกลงมาบนพื้นหญ้า ใครบางคนรู้ว่าเป็นใครทันที

 

 

“นั่นซย่าหันโม่นี่… ซย่าหันโม่!”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อซย่าหันโม่ ถังหนิงก็ลุกขึ้นยืนโดยมีโม่ถิงคอยประคองและพาเธอเดินฝ่าฝูงชน ภาพของซย่าหันโม่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นสู่สายตา เธอนอนอยู่บนพื้นพร้อมเลือดที่ไหลทะลักออกมาทางปากและจมูก ถังหนิงทรุดลงข้างๆ เธอในทันใด

 

 

“หันโม่…”

 

 

ซย่าหันโม่ตัวสั่นระริกพลางชี้นิ้วไปด้านบน “ชั้นห้า…ชั้นห้า…”

 

 

ถังหนิงเข้าใจว่าเธอคงตกลงมาจากชั้นห้า

 

 

โม่ถิงที่อยู่ด้านหลังเธอได้โทรเรียกตำรวจและรถพยาบาล

 

 

“ถังหนิง…ประธานฟ่าน…อยู่บนชั้นห้าเขา…ผลัก…ฉัน!”

 

 

ประธานฟ่านไม่ได้ถูกส่งตัวกลับบ้านไปแล้วหรือ อีกอย่างซย่าหันโม่ขึ้นไปชั้นห้าของโรงแรมตั้งแต่ตอนไหนกัน

 

 

“หนิง…ทุกคนมีจุดจบของตัวเอง ฉันว่า…นี่อาจเป็นจุดจบที่ดีที่สุดของฉัน..” หลังจากพูดเช่นนี้ ซย่าหันโม่ก็จับมือถังหนิงไว้แน่น “คุณจะให้อภัยฉันไหม. คุณ…จะ…ยกโทษ…”

 

 

“เลิกพูดได้แล้ว ถ้าเธอมีชีวิตรอดฉันจะอภัยให้เธอ” ถังหนิงว่าขึ้นพลางปิดปากซย่าหันโม่ไว้ “แค่เธอรอดตายก็พอ”

 

 

ซย่าหันโม่จมอยู่ในกองเลือดพร้อมสายตาที่สบมองถังหนิง เมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย เธอก็หลุดหัวเราะออกมา

 

 

หากแต่ถังหนิงกลับสะเทือนใจอย่างรุนแรง

 

 

เมื่อซย่าหันโม่หมดสติไป ถังหนิงกำหมัดแน่น เธอปรานีกับประธานฟ่านเกินไป เขาเลยได้ใจจนถึงขั้นทำร้ายคนที่เธอรักครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

โม่ถิงรู้ว่าถังหนิงโกรธ เขากุมมือเธอเอาไว้ “ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว”

 

 

“ไม่ค่ะ ฉันต้องการทำให้เขาใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น”

 

 

ไม่นานตำรวจก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ตามมาด้วยรถพยาบาล ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซย่าหันโม่ก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล

 

 

ถังหนิงและโม่ถิงเดินทางไปยังโรงพยาบาลเช่นกัน พลันรู้สึกในตอนนั้นว่าความขัดแย้งทุกอย่างก่อนหน้านี้ได้เลือนหายไป

 

 

ซย่าหันโม่ผิด แล้วถังหนิงล่ะ

 

 

ถังหนิงเริ่มโทษตัวเอง ยิ่งเมื่อมาถึงโรงพยาบาลและเห็นคำว่า ฉุกเฉิน เขียนไว้บนห้องรักษาพยาบาล เธอได้แต่นั่งรออยู่ด้านนอกด้วยท่าทีนิ่งสงบจนน่าหวั่นใจ

 

 

อย่างไรก็ตามไม่นานโม่ถิงก็สังเกตเห็นรอยเลือดที่ชายกระโปรงของเธอ…

 

 

เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เลือดของซย่าหันโม่เพราะมันไหลมาจากทางต้นขาของเธอ

 

 

“หมอครับ…หมอ!”

 

 

ด้วยเหตุนี้ถังหนิงจึงถูกส่งตัวเข้ารักษาที่แผนกสูตินรีเวชก่อนที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะรีบมาดูอาการของเธอและลูกในท้อง หมอส่ายหน้าในขณะตรวจดูอาการของถังหนิง “ผู้หญิงท้องควรรักษาอารมณ์ให้คงที่เอาไว้ค่ะ อารมณ์ที่แปรปรวนแบบนี้จะส่งผลอันตรายต่อลูกในท้องได้

 

 

“คุณแม่และเด็กควรพักผ่อนบนเตียงอย่างน้อยสักครึ่งเดือนนะคะ แล้วก็จะให้อารมณ์ของคุณแม่แปรปรวนมากไม่ได้ด้วยค่ะ”

 

 

ถังหนิงฟื้นขึ้นมาและได้ยินคำสั่งของหมอ เธอหันไปมองโม่ถิงและถามทันที “ซย่าหันโม่เป็นยังไงบ้างคะ”

 

 

“เธอพ้นขีดอันตรายแล้วครับ” โม่ถิงตอบพลางนั่งลงข้างเตียงของเธอ “ต่อไปนี้คุณไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ ให้ผมรับผิดชอบเรื่องที่เหลือเอง”

 

 

“ถิงคะ…”

 

 

“ฟังผมนะ ไม่อย่างนั้นผมจะรู้สึกผิดที่ทำให้คุณเป็นอย่างนี้มากนะครับ”

 

 

ถังหนิงเข้าใจว่าเขาจริงจังขนาดไหน จึงพยักหน้ารับ

 

 

“นับจากนี้ไป กลับบ้านแล้วพักผ่อนซะนะครับ ผมจะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง”

 

 

เธอดูออกว่าประธานโม่กำลังโกรธ…

 

 

อันที่จริงเขากำลังโกรธอย่างถึงที่สุด…

 

 

“ถิงคะ…อย่าปล่อยไอ้สารเลวนั่นรอดไปได้นะคะ” ถังหนิงขอร้องขณะกุมมือเขาไว้

 

 

“ตามใจคุณเลยครับ” โม่ถิงตอบรับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ 984 อย่าปล่อยไอ้สารเลวนั่นรอดไปได้

Now you are reading วิวาห์พลิกรัก ฉบับซุปตาร์ Chapter 984 อย่าปล่อยไอ้สารเลวนั่นรอดไปได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เร็วเข้า! ใครก็ได้มาช่วยพยุงประธานฟ่านที” หลินเหว่ยเซินตะโกนเรียกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย “ส่งตัวเขาไปถึงบ้านอย่างปลอดภัยด้วย”

 

 

ประธานฟ่านได้สติขึ้นมาหลังจากสะดุ้งกับน้ำเย็นเฉียบก่อนลุกขึ้นยืนโดยมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคอยพยุงเอาไว้ เขาชี้ไปทางซย่าหันโม่ทั้งร่างที่สั่นเทา “เธอ… เธอต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไปวันนี้แน่!”

 

 

ซย่าหันโม่ไม่ได้สะทกสะท้าน “แล้วฉันจะรอนะคะ”

 

 

ถังหนิงมองทั้งสองฝ่ายก่อนส่ายหน้า หลังจากประธานฟ่านถูกส่งตัวออกไป เธอก็หันมาพูดกับซย่าหันโม่ “นี่เป็นปัญหาของฉัน ไม่อยากให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน”

 

 

ซย่าหันโม่ถึงกับอึ้งไป

 

 

“เธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับจู้ซิงมีเดียอีกแล้ว เลิกเข้ามายุ่งเรื่องของฉันกับหลินเฉี่ยนสักที

 

 

“ไอ้สารเลวนั่นไม่ใช่คนที่เธอจะมีปัญญารับมือได้หรอกนะ จำเอาไว้ว่าถ้าเจอเขาอีก อยู่ให้ห่างจากเขาเท่าที่จะทำได้ซะ… มันไม่ใช่เรื่องของเธอ

 

 

“ดูเหมือนว่าเธอจะสะใจที่ได้แก้แค้นคืนแล้วนะ ถ้างั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่เธอจะนั่งข้างฉันอีกแล้วล่ะ”

 

 

ซย่าหันโม่ได้แต่เงียบขณะที่หันกลับไปนั่งที่เดิม

 

 

เธอรู้ว่าไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ว่าเธอจะพูดหรือทำอะไร เธอก็ถูกไล่ออกจากจู้ซิงมีเดียแล้ว

 

 

“ถิงคะ คุณต้องจับตาดูประธานฟ่านเอาไว้เผื่อว่าเขาจะหาทางแก้แค้นซย่าหันโม่นะคะ”

 

 

โม่ถิงพยักหน้าขณะที่ยืนด้านหลังถังหนิง “ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะบอกให้ลู่เช่อจัดการให้ทันทีที่เรากลับถึงบ้าน”

 

 

“แม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นคนของจู้ซิงมีเดียแล้ว ฉันเองก็ไม่ได้อยากให้เกิดเรื่องขึ้นกับเธอน่ะค่ะ”

 

 

โม่ถิงเข้าใจว่าถังหนิงคิดอะไรอยู่ ถึงอย่างไรพวกเขาก็แต่งงานกันมานาน เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากให้

 

 

ซย่าหันโม่มาติดร่างแหด้วย

 

 

“วันนี้ฉันแค่ทำให้เขาอับอาย แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังไม่ยอมรามือนะคะ”

 

 

โม่ถิงไม่ได้พูดสิ่งใดเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมา เพราะเขาได้แอบวางแผนเอาไว้เรียบร้อยแล้ว หากแต่เรื่องบางอย่างย่อมต้องใช้เวลา

 

 

ไม่นานงานแต่งงานก็กลับมาเป็นปกติสุข หลังจากมื้อเที่ยง ถึงเวลาสำหรับงานเลี้ยงต้อนรับ

 

 

ด้วยตอนนี้เธอท้องอยู่ ไม่อาจเข้าร่วมในการเต้นได้อยู่แล้ว จึงได้แต่นั่งอยู่ข้างๆ โม่ถิง

 

 

เพราะเป็นการรวมตัวของศิลปิน แขกหลายคนจึงสามารถร้องเพลงและเต้นได้

 

 

โดยเฉพาะภรรยาของหลินเหว่ยเซินที่มีความสามารถในการเต้นหลายแบบ อย่างที่เขาว่าไว้ก่อนหน้านี้ว่าเธอมีฝีมือไม่น้อย

 

 

“คุณวางแผนจะให้ผู้หญิงคนนี้เซ็นสัญญาเข้าจู้ซิงมีเดียจริงๆ เหรอครับ”

 

 

“คุณก็ได้ยินไม่ใช่เหรอคะ หลินเหว่ยเซินมาขอร้องฉันด้วยตัวเอง ฉันจะปฏิเสธเขาได้ยังไงล่ะ” ถังหนิงตอบ “คุณเองก็เห็นการแสดงที่น่าประทับใจของเธอเมื่อกี้แล้วนี่คะ พวกเขาตั้งใจทำให้ฉันเห็นว่าสามารถปั้นเธอให้โด่งดังได้”

 

 

“ผมเข้าใจว่าคุณต้องตอบแทนความช่วยเหลือของเขานะครับ แต่ผมก็รู้ว่าคุณไม่ชอบผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน”

 

 

“คุณโม่ บางทีคุณอาจเป็นพยาธิในท้องฉันก็ได้นะคะเนี่ย” ถังหนิงหัวเราะคิกคัก “คุณรู้ทุกอย่างที่ฉันคิดได้ยังไงกัน”

 

 

โม่ถิงบีบปลายจมูกถังหนิง บางอย่างก็เห็นกันอยู่ชัดๆ

 

 

ในตอนนี้เอง ถังหนิงมองสำรวจไปรอบตัว พบว่าซย่าหันโม่หายตัวไปแล้ว เดิมทีเธอนึกว่าอีกฝ่ายกลับไปเพราะติดงาน แต่เธอไม่รู้ว่าซย่าหันโม่ได้ถูกล่อลวงไปที่อื่นเสียแล้ว

 

 

บรรยากาศด้านนอกงานแต่งงานชื่นมื่นท่ามกลางเสียงเพลงและการเต้นรำ ทว่าในขณะที่ทุกคนกำลังมีความสุขและสนุกสนาน ความน่าขนลุกพลันแผ่ซ่านมาจากที่ไหนสักแห่ง

 

 

เสียงแก้วแตกลั่นดังขึ้นหลังจากนั้นพร้อมกับคนคนหนึ่งที่ตกลงมาบนพื้นหญ้า ใครบางคนรู้ว่าเป็นใครทันที

 

 

“นั่นซย่าหันโม่นี่… ซย่าหันโม่!”

 

 

เมื่อได้ยินชื่อซย่าหันโม่ ถังหนิงก็ลุกขึ้นยืนโดยมีโม่ถิงคอยประคองและพาเธอเดินฝ่าฝูงชน ภาพของซย่าหันโม่ค่อยๆ ปรากฏขึ้นสู่สายตา เธอนอนอยู่บนพื้นพร้อมเลือดที่ไหลทะลักออกมาทางปากและจมูก ถังหนิงทรุดลงข้างๆ เธอในทันใด

 

 

“หันโม่…”

 

 

ซย่าหันโม่ตัวสั่นระริกพลางชี้นิ้วไปด้านบน “ชั้นห้า…ชั้นห้า…”

 

 

ถังหนิงเข้าใจว่าเธอคงตกลงมาจากชั้นห้า

 

 

โม่ถิงที่อยู่ด้านหลังเธอได้โทรเรียกตำรวจและรถพยาบาล

 

 

“ถังหนิง…ประธานฟ่าน…อยู่บนชั้นห้าเขา…ผลัก…ฉัน!”

 

 

ประธานฟ่านไม่ได้ถูกส่งตัวกลับบ้านไปแล้วหรือ อีกอย่างซย่าหันโม่ขึ้นไปชั้นห้าของโรงแรมตั้งแต่ตอนไหนกัน

 

 

“หนิง…ทุกคนมีจุดจบของตัวเอง ฉันว่า…นี่อาจเป็นจุดจบที่ดีที่สุดของฉัน..” หลังจากพูดเช่นนี้ ซย่าหันโม่ก็จับมือถังหนิงไว้แน่น “คุณจะให้อภัยฉันไหม. คุณ…จะ…ยกโทษ…”

 

 

“เลิกพูดได้แล้ว ถ้าเธอมีชีวิตรอดฉันจะอภัยให้เธอ” ถังหนิงว่าขึ้นพลางปิดปากซย่าหันโม่ไว้ “แค่เธอรอดตายก็พอ”

 

 

ซย่าหันโม่จมอยู่ในกองเลือดพร้อมสายตาที่สบมองถังหนิง เมื่อได้ยินคำตอบของอีกฝ่าย เธอก็หลุดหัวเราะออกมา

 

 

หากแต่ถังหนิงกลับสะเทือนใจอย่างรุนแรง

 

 

เมื่อซย่าหันโม่หมดสติไป ถังหนิงกำหมัดแน่น เธอปรานีกับประธานฟ่านเกินไป เขาเลยได้ใจจนถึงขั้นทำร้ายคนที่เธอรักครั้งแล้วครั้งเล่า

 

 

โม่ถิงรู้ว่าถังหนิงโกรธ เขากุมมือเธอเอาไว้ “ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมวางแผนทุกอย่างไว้แล้ว”

 

 

“ไม่ค่ะ ฉันต้องการทำให้เขาใช้ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็น”

 

 

ไม่นานตำรวจก็เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ตามมาด้วยรถพยาบาล ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซย่าหันโม่ก็ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาล

 

 

ถังหนิงและโม่ถิงเดินทางไปยังโรงพยาบาลเช่นกัน พลันรู้สึกในตอนนั้นว่าความขัดแย้งทุกอย่างก่อนหน้านี้ได้เลือนหายไป

 

 

ซย่าหันโม่ผิด แล้วถังหนิงล่ะ

 

 

ถังหนิงเริ่มโทษตัวเอง ยิ่งเมื่อมาถึงโรงพยาบาลและเห็นคำว่า ฉุกเฉิน เขียนไว้บนห้องรักษาพยาบาล เธอได้แต่นั่งรออยู่ด้านนอกด้วยท่าทีนิ่งสงบจนน่าหวั่นใจ

 

 

อย่างไรก็ตามไม่นานโม่ถิงก็สังเกตเห็นรอยเลือดที่ชายกระโปรงของเธอ…

 

 

เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เลือดของซย่าหันโม่เพราะมันไหลมาจากทางต้นขาของเธอ

 

 

“หมอครับ…หมอ!”

 

 

ด้วยเหตุนี้ถังหนิงจึงถูกส่งตัวเข้ารักษาที่แผนกสูตินรีเวชก่อนที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะรีบมาดูอาการของเธอและลูกในท้อง หมอส่ายหน้าในขณะตรวจดูอาการของถังหนิง “ผู้หญิงท้องควรรักษาอารมณ์ให้คงที่เอาไว้ค่ะ อารมณ์ที่แปรปรวนแบบนี้จะส่งผลอันตรายต่อลูกในท้องได้

 

 

“คุณแม่และเด็กควรพักผ่อนบนเตียงอย่างน้อยสักครึ่งเดือนนะคะ แล้วก็จะให้อารมณ์ของคุณแม่แปรปรวนมากไม่ได้ด้วยค่ะ”

 

 

ถังหนิงฟื้นขึ้นมาและได้ยินคำสั่งของหมอ เธอหันไปมองโม่ถิงและถามทันที “ซย่าหันโม่เป็นยังไงบ้างคะ”

 

 

“เธอพ้นขีดอันตรายแล้วครับ” โม่ถิงตอบพลางนั่งลงข้างเตียงของเธอ “ต่อไปนี้คุณไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะ ให้ผมรับผิดชอบเรื่องที่เหลือเอง”

 

 

“ถิงคะ…”

 

 

“ฟังผมนะ ไม่อย่างนั้นผมจะรู้สึกผิดที่ทำให้คุณเป็นอย่างนี้มากนะครับ”

 

 

ถังหนิงเข้าใจว่าเขาจริงจังขนาดไหน จึงพยักหน้ารับ

 

 

“นับจากนี้ไป กลับบ้านแล้วพักผ่อนซะนะครับ ผมจะจัดการเรื่องทุกอย่างเอง”

 

 

เธอดูออกว่าประธานโม่กำลังโกรธ…

 

 

อันที่จริงเขากำลังโกรธอย่างถึงที่สุด…

 

 

“ถิงคะ…อย่าปล่อยไอ้สารเลวนั่นรอดไปได้นะคะ” ถังหนิงขอร้องขณะกุมมือเขาไว้

 

 

“ตามใจคุณเลยครับ” โม่ถิงตอบรับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+