เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน 293 สามารถขึ้นสวรรค์ได้ตลอดเวลา

Now you are reading เกิดใหม่ทั้งทีข้าขอเป็นเซียน Chapter 293 สามารถขึ้นสวรรค์ได้ตลอดเวลา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่​ 293 สามารถ​ขึ้น​สวรรค์​ได้​ตลอดเวลา​

หลังจาก​เสียง​นั้น​เงียบ​ลง​

ภายใน​หมอก​ที่​เปล่งแสง​เรืองรอง​ออกมา​ ก็​ค่อย ๆ​ ปรากฏ​ร่าง​ ๆ หนึ่ง​ขึ้น​

ร่าง​นั้น​คุกเข่า​ลง​กับ​พื้น​ต่อหน้า​เย่​ฉางชิงอย่าง​นอบน้อม​

ใน​ตอนนั้น​แม้เย่​ฉางชิงก็​ยังคง​มีท่าที​มิต่าง​ไป​จาก​เดิม​ ทว่า​ภายในใจ​กลับ​ตื่นตระหนก​และ​มึนงง​เป็นอย่างมาก​ แต่​เขา​กลับ​สงบนิ่ง​ได้​อย่าง​มิน่าเชื่อ​

ความจริง​แล้ว​ตอนที่​เขา​นำ​ไม้ฟ้าผ่า​ชิ้น​นี้​กลับ​มาจาก​นอกเมือง​เสี่ยว​ฉือ​นั้น​

ผู้เฒ่าผู้แก่​ใน​หมู่บ้าน​ก็ได้​บอก​เอาไว้​แล้ว​ว่า​ ไม้ฟ้าผ่า​ชิ้น​นี้​เหมือน​จะมิใช่ไม้ธรรมดา​

อีก​ทั้ง​ผู้​ที่​เคย​อ่าน​ประวัติ​ลัทธิ​เต๋า​มามากมาย​ตอน​อยู่​ใน​โลก​นั้น​เช่น​เขา​ ย่อม​รู้ดี​ว่า​ไม้ฟ้าผ่า​สามารถ​ใช้ปัดเป่า​สิ่งชั่วร้าย​ได้​

ยิ่งกว่านั้น​ ที่นี่​ยัง​เป็น​โลก​แห่ง​การ​บำเพ็ญ​เพียร​อีกด้วย​

เช่นนั้น​เพราะเหตุนี้​ จึงเป็น​เหตุผล​ว่า​เหตุใด​เขา​จึงนำ​ไม้ฟ้าผ่า​กลับมา​

แต่ว่า​สิ่งที่​เขา​คาด​มิถึงก็​คือ​

ตอนแรก​เขา​เพียงแค่​นำ​ไม้ฟ้าผ่า​ชิ้น​นี้​ฝังไว้​ใน​ลาน​ด้านหลัง​แบบ​ส่ง ๆ เท่านั้น​

ทว่า​พอ​เวลา​ผ่าน​ไป​ได้​ประมาณ​ครึ่ง​ปี​

ก็​เกิดเรื่อง​ที่​คาด​มิถึงขึ้น​

ไม้ฟ้าผ่า​ชิ้น​นี้​กลับ​มีราก​งอก​ออกมา​

และ​ด้วย​การ​ดูแล​จาก​เขา​ ทำให้​ไม้ฟ้าผ่า​ชิ้น​นี้​ค่อย ๆ​ เจริญเติบโต​ จน​สูงตระหง่าน​แผ่​กิ่งก้านสาขา​ดั่ง​เช่น​ทุกวันนี้​

แต่​สิ่งที่​ทำให้​เย่​ฉางชิงคาด​มิถึงก็​คือ​

ไม้ฟ้าผ่า​ชิ้น​นี้​มิเพียง​กลับมา​มีชีวิต​อีกครั้ง​ บัดนี้​กลับ​มีความคิด​เป็น​ของ​ตัวเอง​ ถึงขนาด​มีอิทธิฤทธิ์​แปลงกาย​ได้​อีกด้วย​ !

น่า​เหลือเชื่อ​ !

ช่างน่า​เหลือเชื่อ​จริง ๆ​ !

ขณะเดียวกัน​

การ​ที่​ต้น​หลิว​ที่​มิรู้​ว่า​มีชีวิต​มาแล้ว​กี่​ยุค​กี่​สมัย​ต้น​นี้​ เรียก​ตนเอง​ขณะ​อยู่​ต่อหน้า​เย่​ฉางชิงว่า​เสี่ยว​หลิว​

ปัญหา​นี้​ความจริง​แล้ว​ หลาย​ปี​มานี้​นาง​เอง​ก็​ขบ​คิดถึง​มัน​มาโดยตลอด​

นาง​มองว่า​สักวันหนึ่ง​ นาง​จะต้อง​เผย​ตัวตน​ที่​แท้จริง​ออกมา​ เพื่อ​สนทนา​กับ​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ท่าน​นี้​ให้ได้​

และ​แม้จะบำเพ็ญ​เพียร​อยู่​ที่​ลาน​แห่ง​นี้​มาหลาย​ปี​ ทว่า​แท้จริง​แล้ว​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ท่าน​นี้​มีตบะ​บารมี​เช่นไร​นั้น​ นาง​เอง​ก็​มอง​มิออก​เช่นกัน​

พิณ​ หมาก​ พู่กัน​ ภาพวาด​ ทุก​การกระทำ​และ​คำพูด​ ล้วน​แฝงไว้​ซึ่งจิต​แท้​แห่ง​เต๋า​อัน​มิมีที่​สิ้นสุด​

บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​เช่นนี้​ ไหน​เลย​จะเป็น​ผู้​ที่​นาง​จะสามารถ​คาดเดา​ได้​ ?

อีก​ทั้ง​ก่อนหน้านี้​ตอน​ที่อยู่​ใน​ส่วนลึก​ใน​แดน​ต้องห้าม​ของ​สิ่งมีชีวิต​ ด้วย​เพราะ​ความ​แข็งแกร่ง​ของ​ตน​ นาง​จึงถูก​บรรดา​สิ่งมีชีวิต​อื่น​ ๆ ยกย่อง​ว่า​เป็น​เทพ​หลิว​

ทว่า​นาง​คง​มิอาจ​เรียก​ตัวเอง​ต่อหน้า​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ที่​มอบ​ชีวิต​ใหม่​ให้​ และ​มีตบะ​บารมี​ลึกล้ำ​จน​สุด​จะหยั่ง​เช่นนี้​ว่า​เทพ​หลิว​หรอก​กระมัง​ ?

เช่นนั้น​นาง​จึงทำได้​เพียง​แทน​ตัวเอง​ว่า​เสี่ยว​หลิว​เท่านั้น​

แน่นอน​ว่าการ​ที่​จู่ ๆ นาง​ได้​ปรากฏตัว​ขึ้น​ในเวลานี้​ก็​เพราะ​มีเหตุผล​

ประการ​แรก​ หลังจาก​ผ่าน​มาหลาย​ปี​ด้วย​การ​หล่อเลี้ยง​ของ​ไอ​พลัง​เต๋า​อัน​รุนแรง​ที่​ปกคลุม​ลาน​เล็ก​ ๆ แห่ง​นี้​เอาไว้​ ทำให้​ในที่สุด​นาง​ก็​สามารถ​ฟื้นฟู​ร่าง​จนถึง​ระดับ​สูงสุด​ได้​อีกครั้ง​

กล่าวอีกนัยหนึ่ง​ก็​คือ​ แม้นาง​จะเคย​ประสบ​กับ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​มาแล้ว​ครั้งหนึ่ง​ ทว่า​บัดนี้​กลับ​สามารถ​เรียก​ทัณฑ์​สวรรค์​ได้​ตลอดเวลา​ เพื่อ​บรรลุ​ขึ้น​สวรรค์​

ประการ​ที่สอง​ ห้า​ปี​มานี้​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ที่​แทบจะ​มิเคย​บำเพ็ญ​เพียร​ท่าน​นี้​ จู่ ๆ ก็​เริ่ม​บำเพ็ญ​เพียร​อย่าง​เป็น​เอาตาย​ขึ้น​มา

อีก​ทั้ง​นาง​ยัง​สัมผัส​ได้​ว่า​ไอ​พลัง​เต๋า​ที่​ปกคลุม​ลาน​เล็ก​ ๆ แห่ง​นี้​ กลับ​ยิ่ง​ทวี​บริสุทธิ์​มากยิ่งขึ้น​

เช่นนี้​ก็​หมายความว่า​ มีความเป็นไปได้​สูงที่​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ท่าน​นี้​ อีก​มินาน​ก็​คงจะ​ไป​จาก​โลก​มนุษย์​แห่ง​นี้​แล้ว​

ผู้​ที่อยู่​มาหลาย​ยุค​หลาย​สมัย​เช่น​นาง​ เคย​รับ​รู้เรื่องราว​เกี่ยวกับ​เบื้องบน​มาบ้าง​

กล่าว​กัน​ว่า​โลก​หลังจาก​บรรลุ​เป็น​เซียน​ มีพื้นที่​กว้างใหญ่​ไพศาล​ พลัง​มีความ​สลับซับซ้อน​เป็นอย่างมาก​

หาก​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ไป​จาก​โลก​มนุษย์​จริง ๆ​ ต่อให้​นาง​บรรลุ​เป็น​เซียน​ เกรง​ว่า​ภายภาคหน้า​ก็​มิแน่​ว่า​จะมีโอกาส​ได้​พบกัน​อีก​

เช่นนั้น​เมื่อ​ครู่​ ตอนที่​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ท่าน​นี้​ บอก​ให้​จิ้งจอก​น้อย​ตัว​นั้น​แปลงร่าง​เป็น​มนุษย์​

จึงเป็น​โอกาส​เหมาะ​ที่​ตน​จะได้​เผย​ตัวตน​ที่​แท้จริง​ เพื่อ​สนทนา​กับ​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ท่าน​นี้​ได้​

ขณะเดียวกัน​นาง​ก็​หวัง​ว่า​ ระหว่าง​ที่​ยังอยู่​บน​โลก​มนุษย์​ตนเอง​จะสามารถ​ทำ​อะไร​เพื่อ​บุคคล​ที่​ไร้​เทียมทาน​ท่าน​นี้​ได้​บ้าง​ เพื่อ​เป็น​การตอบแทน​บุญคุณ​ใน​ครั้งนี้​

หลังจาก​นิ่งเงียบ​ไป​พักใหญ่​ เย่​ฉางชิงก็​สูด​หายใจเข้า​ลึก​ ๆ ก่อน​จะค่อย ๆ​ เรียบเรียง​คำพูด​ออกมา​

“ดูท่า​เจ้าคง​ดีขึ้น​มาก​แล้ว​สินะ​”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ขึ้น​เรียบ ๆ​

ต้อง​บอ​กว่า​เวลานี้​เย่​ฉางชิงเอง​ก็​มิรู้​ว่า​ควรจะ​พูด​อะไร​กับ​ปีศาจ​ต้น​หลิว​ ที่​จู่ ๆ ก็​โผล่​ออกมา​เช่นนี้​ดี​

แต่​เมื่อ​ลอง​ชั่งน้ำหนัก​ดู​แล้ว​

เขา​มองว่า​ราชัน​ทมิฬ​และ​ถูสือ​ซาน​ล้วนแต่​ถูก​ชักจูง​ให้​มอมเมา​ จน​คิด​ว่า​เขา​เป็นยอด​ฝีมือ​ที่​สูงส่งอะไร​นั่น​ไป​แล้ว​

ใน​เมื่อ​เป็น​เช่นนั้น​ ปีศาจ​ต้นไม้​ตน​นี้​เอง​ก็​คง​ถูก​ชักจูง​กัน​มาเหมือนกัน​

มิเช่นนั้น​จะยกย่อง​ให้​เขา​เป็น​นาย​ท่าน​ได้​เยี่ยง​ไร​ ?

วินาที​ต่อมา​ เทพ​หลิว​ก็​ชั่งใจเล็กน้อย​ ก่อน​จะเอ่ย​อย่าง​ตรงไปตรงมา​ว่า​ “เรียน​นาย​ท่าน​ ข้า​สามารถ​ฟื้นฟู​จน​ปกติ​แล้ว​”

“บัดนี้​จึงสามารถ​เรียก​ทัณฑ์​สวรรค์​ได้​ตลอด​ อีก​ทั้ง​ยัง​เคย​ประสบ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​มาแล้ว​ครา​หนึ่ง​ เชื่อ​ว่า​ครา​นี้​หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​คงจะ​สามารถ​ขึ้น​สวรรค์​ได้​สำเร็จ​เสียที​”

‘ทัณฑ์​สวรรค์​ ? ’

‘ประสบ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​มาแล้ว​ครา​หนึ่ง​ ? ’

‘ขึ้น​สวรรค์​ได้​สำเร็จ​ ? ’

เย่​ฉางชิงมีท่าทาง​ตกตะลึง​ ดวงตา​เรียว​ยาว​คู่​นั้น​กระพริบ​ปริบ ๆ​ อย่าง​ห้าม​มิได้​

เมื่อ​ครู่​จิ้งจอก​น้อย​ตัว​นั้น​บอ​กว่า​ตน​มีตบะ​บารมี​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​แล้ว​

มาตอนนี้​ปีศาจ​ต้นไม้​ที่​จู่ ๆ ก็​โผล่​ออกมา​ และ​บอ​กว่า​เคย​ประสบ​ทัณฑ์​สวรรค์​พิฆาต​มาแล้ว​ครั้งหนึ่ง​ มาบัดนี้​ยัง​สามารถ​ขึ้น​สวรรค์​ได้​ตลอดเวลา​อีกด้วย​

‘นี่​มัน​ ! ’

‘นี่​มัน​ ! ’

‘นี่​มัน​ ! ’

‘พวก​เจ้าอย่า​ทำ​เช่นนี้​กับ​ข้า​เลย​ ! ’

‘อย่า​มาล้อ​ข้า​เล่น​ แล้วก็​มิต้อง​มากลั่นแกล้ง​ข้า​ด้วย​’

‘จิตใจ​ของ​ข้า​อ่อนแอ​มาก​จริง ๆ​ จน​เริ่ม​จะทน​มิไหว​แล้ว​นะ​ ! ’

ทว่า​ตอนนั้น​เอง​ ราชัน​ทมิฬ​ที่​หมอบ​อยู่​ด้านหน้า​เย่​ฉางชิง ก็​มีดวงตา​เบิกโพลง​ขึ้น​มาทันที​ ท่าทาง​ของ​มัน​เต็มไปด้วย​ความประหลาดใจ​

พลัง​ของ​ต้น​หลิว​แข็งแกร่ง​เพียงใด​นั้น​

แม้เขา​จะเห็นภาพ​การสังหาร​จ้าว​ปีศาจ​พยัคฆ์​ดำ​ด้วย​ตา​ตนเอง​มาแล้ว​ ทว่า​ภายในใจ​กลับ​ยังคง​เต็มไปด้วย​ความสงสัย​มิคลาย​

แต่​เมื่อ​ได้ยิน​การ​สนทนา​เมื่อ​ครู่​แล้ว​ ในที่สุด​เขา​ก็ได้​รู้​เสียที​

เช่นนี้​แล้ว​ขอ​เพียง​ต้น​หลิว​ยัง​มิได้​ขึ้น​สวรรค์​ มัน​ก็​สามารถ​วางก้าม​โดย​อ้าง​ชื่อ​ต้น​หลิว​ได้​น่ะ​สิ ?

หลังจาก​เงียบ​อยู่​สักพัก​ ราชัน​ทมิฬ​ก็​แสยะ​ยิ้ม​ออกมา​ เผย​ให้​เห็น​ฟัน​ขาว​วาววับ​ที่​เรียง​ตัวอย่าง​เป็นระเบียบ​ ก่อน​จะเพ่ง​กระแสจิต​ออก​ไป​ว่า​

“พี่​ต้นไม้​ ยินดี​ด้วย​ที่​ท่าน​หาย​ดีแล้ว​”

มินาน​เทพ​หลิว​ก็​ตอบกลับ​ไป​ ทว่า​กลับ​พูดถึง​เรื่อง​อื่น​แทน​

“ราชัน​ทมิฬ​ หลาย​ปี​มานี้​แม้ตบะ​บารมี​ของ​เจ้าจะก้าวหน้า​ขึ้น​ แต่​ก็​ยัง​มิเพียงพอ​”

“อีก​อย่าง​ช่วงนี้​เจ้าอย่า​ได้​ออก​ไป​ข้างนอก​จะดีกว่า​ หาก​ข้า​เดา​มิผิด​ล่ะ​ก็​ อีก​มินาน​นาย​ท่าน​คงจะ​กลับ​ขึ้น​สวรรค์​แล้ว​”

‘กลับ​ขึ้น​สวรรค์​ ? ’

ราชัน​ทมิฬ​ได้ยิน​เช่นนั้น​ก็​หลุบ​ตา​ลง​ ท่าทาง​เต็มไปด้วย​ความ​เศร้าสร้อย​

พี่​ต้น​ไม้เป็น​คน​เช่นไร​นั้น​ เขา​ย่อม​รู้ดี​อยู่​แก่​ใจ นาง​มิมีทาง​ล้อ​เขา​เล่น​อย่าง​แน่นอน​

อีก​ทั้งหลาย​ปี​มานี้​เพราะ​นาย​ท่าน​มุ่งมั่น​บำเพ็ญ​เพียร​มาโดยตลอด​ ทำให้​เขา​จำต้อง​ออก​ไป​บำเพ็ญ​เพียร​ด้านนอก​

แต่กลับ​มีเพียง​ต้น​หลิว​ที่​คอย​อยู่​เคียงข้าง​นาย​ท่าน​มาโดยตลอด​

ขณะเดียวกัน​ ราชัน​ทมิฬ​ก็​หวน​คิดถึง​ช่วงเวลา​ที่​คอย​ติดตาม​นาย​ท่าน​ขึ้น​มา

ห้า​ปี​แรก​นาย​ท่าน​มิเคย​บำเพ็ญ​เพียร​มาก่อน​ ทุกวัน​เอาแต่​ดีด​พิณ​ วาดภาพ​ เขียน​อักษร​อยู่​ใน​เมือง​เสี่ยว​ฉือ​

ทว่า​ห้า​ปี​ให้หลัง​มานี้​ นาย​ท่าน​กลับ​มุ่งมั่น​บำเพ็ญ​เพียร​อย่าง​เอาเป็นเอาตาย​

เช่นนี้​ก็​สามารถ​อธิบาย​ข้อสงสัย​ได้​มากมาย​แล้ว​

ราชัน​ทมิฬ​คิดถึง​ตรงนี้​ ดวงตา​ดำขลับ​คู่​นั้น​ก็​มีหยาด​น้ำตา​เอ่อ​คลอ​ขึ้น​มา

เขา​ชำเลือง​มอง​ไป​ทาง​เย่​ฉางชิงที่​มีท่าทาง​สงบนิ่ง​ จากนั้น​ก็​ส่งกระแสจิต​ถามต้น​หลิว​อีกครั้ง​ว่า​

“พี่​ต้นไม้​ นาย​ท่าน​เตรียม​จะไป​เมื่อใด​หรือ​ขอรับ​ ? ”

ผ่าน​ไป​ครู่หนึ่ง​ เทพ​หลิว​ก็​ตอบกลับ​ว่า​ “นาย​ท่าน​มิได้​บอก​ แต่​หาก​มิมีสิ่งใด​ผิดพลาด​ คาด​ว่า​คง​อีก​มินาน​นัก​”

ราชัน​ทมิฬ​ส่งเสียงร้อง​หงิง ๆ​ ออกมา​ทันที​

ตอนนั้น​เอง​

“ท่าน​เย่”​

เสียง​นุ่มนวล​เสียง​หนึ่ง​ก็​ดัง​ขึ้น​มา

นาง​ก็​คือ​ถูสือ​ซาน​ที่อยู่​ใน​ชุด​สีขาว​บริสุทธิ์​ ราวกับ​เทพธิดา​ที่​มิได้​แปดเปื้อน​สิ่งชั่วร้าย​ของ​โลก​มนุษย์​

เย่​ฉางชิงได้สติ​ขึ้น​มาทันที​ พร้อมกับ​หันไป​มองตาม​เสียง​เรียก​

วินาที​ต่อมา​ เขา​ก็​มีสีหน้า​เปลี่ยนไป​ สายตา​นิ่ง​ค้าง​ขณะ​มอง​ร่าง​ของ​ถูสือ​ซาน​

‘สมกับ​ที่​เป็น​ปีศาจ​จิ้งจอก​จริง ๆ​ ความงาม​ช่างน่า​ตกตะลึง​ยิ่งนัก​’

‘หรือ​อาจจะ​เป็น​เพราะ​ตบะ​บารมี​ระดับ​จ้าว​ปีศาจ​’

ถูสือ​ซาน​จึงมิได้​ดู​เย้ายวน​แต่อย่างใด​ ทว่า​กลับ​ดู​สดใส​งดงาม​ราวกับ​เทพธิดา​น้อย​นาง​หนึ่ง​เท่านั้น​

สิ่งนี้​ทำให้​เย่​ฉางชิงพึงพอใจ​เป็นอย่างมาก​

เวลานี้​จู่ ๆ ก็​มีสตรี​ที่​งดงาม​หยาดเยิ้ม​เช่นนี้​โผล่​ขึ้น​มา เชื่อ​ว่า​หลังจากที่​เปา​ต้า​เหมย​ได้​เห็น​แล้ว​ คงจะ​มิมาพูด​เรื่อง​ดูตัว​อีก​เป็นแน่​

ตอนนั้น​เอง​เย่​ฉางชิงก็​ถอน​สายตา​กลับมา​ ก่อน​จะหันไป​มอง​ร่าง​เงาที่​ยังคง​คุกเข่า​อยู่​ที่​พื้น​

“เสี่ยว​หลิว​ เจ้าลุกขึ้น​เถอะ​ และ​เข้าไป​เปลี่ยน​อาภรณ์​ใน​ห้อง​เสีย​ แล้ว​ค่อย​ออกมา​คุย​กัน​”

เย่​ฉางชิงเอ่ย​ออกมา​เสียง​เรียบ​

มิรู้​ทำไม​

แม้เสียง​ของ​ต้น​หลิว​จะฟังมิออ​กว่า​อีก​ฝ่าย​เป็น​ชาย​หรือ​หญิง​กัน​แน่​ แต่​เย่​ฉางชิงกลับ​รู้สึก​ว่า​น่าจะเป็น​ผู้หญิง​มากกว่า​

อีก​ทั้ง​ความงาม​คงจะ​เหนือกว่า​ถูสือ​ซาน​ด้วยซ้ำ​

‘ใน​เมื่อคืนนี้​ทุกคน​ต่าง​ก็​เปิดเผย​ตัวตน​ที่​แท้จริง​ออกมา​แล้ว​ เช่นนั้น​ก็​มาลองดู​หน้าตา​ตอน​แปลงกาย​เป็น​มนุษย์​ของ​พวก​นาง​ด้วย​เลย​ก็แล้วกัน​’

‘ส่วน​ราชัน​ทมิฬ​… ช่างเถอะ​ ! ’

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด