ท้าทายลิขิตสวรรค์ 49 เหรียญมีด

Now you are reading ท้าทายลิขิตสวรรค์ Chapter 49 เหรียญมีด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 49 เหรียญมีด

 

ตอนที่ 49 เหรียญมีด

 

ท่ามกลางความเงียบงันนั้นคนหนึ่งกําลังเตรียมชา ส่วนอีกคนกําลังดื่มมัน ขณะที่กลิ่นหอมของชาฟังกระจายและลอยไปทั่วห้อง และหากคนนอกเห็นเช่นนี้ พวกเขาก็คงจะคิดว่าบรรยากาศนี้เป็นฉากแห่งความอบอุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“ซือเหมย! คุณหายไปไหนมาตั้งสิบปี? ผมรอคุณอยู่!”

 

ซ่งซวนเริ่มบทสนทนา แต่สุดท้ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีแต่เรื่องเศร้าที่เธอไม่ต้องการจะนึกถึงมันอีก ดังนั้นหัวใจของผู้ที่ได้ยินคําถามจึงเต้นแผ่วเบาลง

 

เมื่อหยางซือเหมยวางถ้วยน้ําชาลงแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้ากับผู้ชายตรงหน้า ทําให้ค้นพบว่าคิ้วของเขาขมวดขึ้นด้วยอารมณ์ซับซ้อนและเกิดความรู้สึกที่ฝังแน่นอยู่ในรูม่านตาคู่นั้น

 

ซึ่งสิ่งนี้ทําให้เธอเกิดความรู้สึกสับสนในใจ

 

สาเหตุที่เขาไม่แต่งงานกับภรรยาและมีลูกเหมือนที่เคยเห็นในชาติก่อน อาจเป็นเพราะเธอหรือเปล่า?

 

ไม่มีทาง! จะเป็นไปได้อย่างไร?

 

ในเมื่อครั้งแรกที่เธอพบเขาคือการปรากฏตัวของเด็กที่มีอายุเพียงแค่ห้าขวบในขณะที่เขาอายุยี่สิบแปดปีแล้ว! มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

 

ถึงแม้ว่าเธอจะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่จากโหงวเฮ้งของเขาตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น

 

“อาจารย์ซ่งคะ ต้องขอโทษด้วย เนื่องจากฉันได้รับอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันทําให้กระดูกและเส้นเอ็นได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงต้องดูแลอาการบาดเจ็บเหล่านี้มาเป็นเวลาถึงสิบปี และตอนนี้ก็หายเป็นปกติแล้ว” หยางซือเหมยกล่าวด้วยความรู้สึกผิด

 

และเมื่อได้ยินว่าเธอได้รับบาดเจ็บ ทันใดนั้นหัวใจของซ่งซวนก็บีบแน่นขึ้น ราวกับว่ามีใครมาบีบมัน และอดไม่ได้ที่จะมองเธอด้วยสายตาที่เห็นอกเห็นใจ

 

เนื่องจากหัวใจของเขาเกิดความรู้สึกเจ็บปวดที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดในวัยเด็กเช่นนั้น ทําให้เขาต้องการที่จะเอื้อมมือไปกอดเธอ แต่ก็รู้สึกกลัวเช่นกัน

 

เพราะปัจจุบันเขาเป็นคุณลุงที่มีอายุสามสิบแปดปีแล้วและเธอก็เป็นวัยรุ่นอายุเพียงแค่สิบห้าปี

 

และในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้เขาได้ปฏิเสธข้อเสนอมากมาย แม้กระทั่งการแต่งงานที่ดีเยี่ยมโดยบิดามารดาของตนเองทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายเป็นหญิงงามที่อ่อนโยนและมีคุณธรรม

 

เนื่องจากเขารู้อย่างชัดเจนว่า ตนเองกําลังเฝ้ารอการกลับมาของเด็กผู้หญิงร่างเล็กๆ คนหนึ่งให้ปรากฏตัวขึ้น

 

แต่เมื่อเธอมาปรากฏตัว เขาก็แก่เสียแล้ว!

 

เมื่อคิดได้ดังนี้ มันก็ทําให้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น เนื่องจากไม่รู้ว่าจะทําอย่างไรดี และในท้ายที่สุดตอนนี้เขาก็ไม่ได้หวังที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางกับเธอ แต่เพียงแค่พยายามที่จะมองดูเธออย่างชื่นชมก็เพียงพอแล้ว

 

และเมื่อนึกถึงสิ่งนี้หัวใจของเขาก็ชัดเจนขึ้น ขณะที่ความตึงเครียดในใจเริ่มผ่อนคลายลง ส่งผลให้รอยยิ้มของเขาอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ทําให้เกิดเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ชายที่อยู่ในวัยวัยฉกรรจ์

 

โดยสิ่งนี้ทําให้จิตวิญญาณของหยางซื่อเหมยตกอยู่ในภวังค์ขณะที่ในความทรงจําของเธอกําลังนึกถึงใบหน้าของเด็กหนุ่ม อีกคนที่หล่อเหลาที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่ท่าทางของชายหนุ่มคนนั้นช่างเงียบขรึมและโดดเดี่ยวจนน่าแปลกใจ

 

เป็นเวลาสิบปีแล้วสินะที่เธอไม่ได้พบกับเขา ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นที่ชื่อหลงจูเทียนน่าจะอายุ ยี่สิบห้าปีแล้ว! สงสัยจังเลยว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง?

 

ในขณะที่เธอตกอยู่ในห้วงของความคิดตนเองนั้น ซ่งซวนก็จ้องมองเธอจากด้านข้าง และเมื่อได้เห็นขนตายาวหนาคู่นั้นของเธอโค้งงอราวกับปีกผีเสื้อที่ค่อย ๆ พัดเข้าไปในหัว ใจของเขาทันใดนั้นสายใยในหัวใจของเขาเกิดอาการสั่นไหวอย่างรุนแรงอีกครั้ง

 

จากนั้นหยางซื่อเหมยได้กลับคืนมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงและสังเกตเห็นอาการแปลกประหลาดของซงซวน มันจึงทําให้หูของเธอแดงขึ้นด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน เธอจึงรีบหยิบเหรียญมีดที่เธอทําความสะอาดมาก่อนแล้วยื่นให้เขา

 

“อาจารย์ซ่งคะ ช่วยประเมินราคานี้ให้ฉันหน่อยได้หรือไม่ว่าสิ่งนี้มีที่มาหรือเปล่า?”

 

ซ่งซวนรับเหรียญมีดมาตรวจดูอย่างละเอียดและยืนขึ้นเพื่อเทน้ํายาชนิดหนึ่งลงไปหนึ่งถ้วยและใช้สําลีเช็ดรอยเปื้อนเดิมที่เปื้อนเหรียญออก ส่งผลให้เหรียญนั้นค่อย ๆ เผยให้เห็นสีทองอร่ามที่สวยงาม

 

แต่ที่ลึกซึ้งมากไปกว่านั้นคือมีการแกะสลักด้วยคําว่า “มีดหนึ่งเล่ม” และเหนือส่วนวงกลมของเหรียญที่เป็นส่วนของใบมีดมีคําว่า “ มูลค่าห้าพัน” ปรากฏอยู่

 

“ความงามมอบใบมีดเลี่ยมทองให้ฉัน…แล้วฉันจะตอบแทนได้อย่างไร?………..”

 

ทันใดนั้นช่งซวนก็ท่องบทกวี โดยน้ําเสียงของเขาในตอนที่ท่องบทกวีนั้นช่างน่าฟังยิ่งกว่าที่คุณครูฉินไคเหวินท่องให้ฟังเมื่อเช้า ซึ่งมันสามารถสัมผัสได้ถึงความรักที่ลึกซึ้งและนุ่มนวล

 

อย่างไรก็ตามเธอไม่เข้าใจว่าทําไมเขาถึงท่องบทกวีนี้เมื่อได้ เห็นเหรียญโบราณ

 

ต่อมาหลังจากที่เหรียญโบราณนี้ได้รับการเช็ดทําความสะอาดแล้ว ก็เห็นได้ว่ามันช่างมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ และแม้จะมีความหมองคล้ำแบบโบราณ แต่ก็ยังเผยให้เห็นถึงรัศมีที่สง่างามและละเอียดอ่อน

 

และเมื่อยิ่งคิด เธอก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าทําไมเหรียญโบราณนี้จึงไม่เหมือนกับเหรียญอื่น ๆ ที่มีการแกะสลักเช่นเดียวกัน

 

เหรียญมีดหนึ่งเหรียญมีมูลค่าห้าพัน…มันหมายถึงอะไร?

 

และนี่เป็นอีกครั้งที่เธอรู้สึกว่าประสบการณ์ของตัวเองช่างน้อยนิด และความรู้ในหัวสมองก็ไม่เพียงพอที่จะทําความเข้าใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

 

“ซือเหมย คุณขายเหรียญโบราณนี้ให้ฉันในราคาหนึ่งล้านได้หรือเปล่า?”

 

นิ้วเรียวของซึ่งชวนวนเบา ๆ ไปทั่วใบมีดของเหรียญราวกับสัมผัสกับผิวของคนรักด้วยความอ่อนโยนอย่างผิดปกติ

 

หนึ่งล้าน?

 

หยางซือเหมยรู้สึกประหลาดใจมาก

 

แม้เธอทราบว่ามันเป็นเหรียญโบราณที่ล้ําค่า แต่ก็คาดไม่ถึงว่ามันจะมีค่ามากมายถึงเพียงนี้

 

“อาจารย์คะ เหรียญนี้มีที่มาอย่างไรคะ? และความหมายของคําว่า หนึ่งเหรียญมีมูลค่าห้าพันคืออะไรคะ?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ท้าทายลิขิตสวรรค์ 49 เหรียญมีด

Now you are reading ท้าทายลิขิตสวรรค์ Chapter 49 เหรียญมีด at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

ท้าทายลิขิตสวรรค์ ตอนที่ 49 เหรียญมีด

 

ตอนที่ 49 เหรียญมีด

 

ท่ามกลางความเงียบงันนั้นคนหนึ่งกําลังเตรียมชา ส่วนอีกคนกําลังดื่มมัน ขณะที่กลิ่นหอมของชาฟังกระจายและลอยไปทั่วห้อง และหากคนนอกเห็นเช่นนี้ พวกเขาก็คงจะคิดว่าบรรยากาศนี้เป็นฉากแห่งความอบอุ่นอย่างไม่ต้องสงสัย

 

“ซือเหมย! คุณหายไปไหนมาตั้งสิบปี? ผมรอคุณอยู่!”

 

ซ่งซวนเริ่มบทสนทนา แต่สุดท้ายในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีแต่เรื่องเศร้าที่เธอไม่ต้องการจะนึกถึงมันอีก ดังนั้นหัวใจของผู้ที่ได้ยินคําถามจึงเต้นแผ่วเบาลง

 

เมื่อหยางซือเหมยวางถ้วยน้ําชาลงแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมาเผชิญหน้ากับผู้ชายตรงหน้า ทําให้ค้นพบว่าคิ้วของเขาขมวดขึ้นด้วยอารมณ์ซับซ้อนและเกิดความรู้สึกที่ฝังแน่นอยู่ในรูม่านตาคู่นั้น

 

ซึ่งสิ่งนี้ทําให้เธอเกิดความรู้สึกสับสนในใจ

 

สาเหตุที่เขาไม่แต่งงานกับภรรยาและมีลูกเหมือนที่เคยเห็นในชาติก่อน อาจเป็นเพราะเธอหรือเปล่า?

 

ไม่มีทาง! จะเป็นไปได้อย่างไร?

 

ในเมื่อครั้งแรกที่เธอพบเขาคือการปรากฏตัวของเด็กที่มีอายุเพียงแค่ห้าขวบในขณะที่เขาอายุยี่สิบแปดปีแล้ว! มันจะเป็นไปได้อย่างไร?

 

ถึงแม้ว่าเธอจะบอกว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่จากโหงวเฮ้งของเขาตอนนี้ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น

 

“อาจารย์ซ่งคะ ต้องขอโทษด้วย เนื่องจากฉันได้รับอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันทําให้กระดูกและเส้นเอ็นได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงต้องดูแลอาการบาดเจ็บเหล่านี้มาเป็นเวลาถึงสิบปี และตอนนี้ก็หายเป็นปกติแล้ว” หยางซือเหมยกล่าวด้วยความรู้สึกผิด

 

และเมื่อได้ยินว่าเธอได้รับบาดเจ็บ ทันใดนั้นหัวใจของซ่งซวนก็บีบแน่นขึ้น ราวกับว่ามีใครมาบีบมัน และอดไม่ได้ที่จะมองเธอด้วยสายตาที่เห็นอกเห็นใจ

 

เนื่องจากหัวใจของเขาเกิดความรู้สึกเจ็บปวดที่เธอต้องทนทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดในวัยเด็กเช่นนั้น ทําให้เขาต้องการที่จะเอื้อมมือไปกอดเธอ แต่ก็รู้สึกกลัวเช่นกัน

 

เพราะปัจจุบันเขาเป็นคุณลุงที่มีอายุสามสิบแปดปีแล้วและเธอก็เป็นวัยรุ่นอายุเพียงแค่สิบห้าปี

 

และในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้เขาได้ปฏิเสธข้อเสนอมากมาย แม้กระทั่งการแต่งงานที่ดีเยี่ยมโดยบิดามารดาของตนเองทั้ง ๆ ที่อีกฝ่ายเป็นหญิงงามที่อ่อนโยนและมีคุณธรรม

 

เนื่องจากเขารู้อย่างชัดเจนว่า ตนเองกําลังเฝ้ารอการกลับมาของเด็กผู้หญิงร่างเล็กๆ คนหนึ่งให้ปรากฏตัวขึ้น

 

แต่เมื่อเธอมาปรากฏตัว เขาก็แก่เสียแล้ว!

 

เมื่อคิดได้ดังนี้ มันก็ทําให้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น เนื่องจากไม่รู้ว่าจะทําอย่างไรดี และในท้ายที่สุดตอนนี้เขาก็ไม่ได้หวังที่จะเป็นเพื่อนร่วมทางกับเธอ แต่เพียงแค่พยายามที่จะมองดูเธออย่างชื่นชมก็เพียงพอแล้ว

 

และเมื่อนึกถึงสิ่งนี้หัวใจของเขาก็ชัดเจนขึ้น ขณะที่ความตึงเครียดในใจเริ่มผ่อนคลายลง ส่งผลให้รอยยิ้มของเขาอ่อนโยนมากยิ่งขึ้น ทําให้เกิดเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของผู้ชายที่อยู่ในวัยวัยฉกรรจ์

 

โดยสิ่งนี้ทําให้จิตวิญญาณของหยางซื่อเหมยตกอยู่ในภวังค์ขณะที่ในความทรงจําของเธอกําลังนึกถึงใบหน้าของเด็กหนุ่ม อีกคนที่หล่อเหลาที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่ท่าทางของชายหนุ่มคนนั้นช่างเงียบขรึมและโดดเดี่ยวจนน่าแปลกใจ

 

เป็นเวลาสิบปีแล้วสินะที่เธอไม่ได้พบกับเขา ตอนนี้ผู้ชายคนนั้นที่ชื่อหลงจูเทียนน่าจะอายุ ยี่สิบห้าปีแล้ว! สงสัยจังเลยว่าตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง?

 

ในขณะที่เธอตกอยู่ในห้วงของความคิดตนเองนั้น ซ่งซวนก็จ้องมองเธอจากด้านข้าง และเมื่อได้เห็นขนตายาวหนาคู่นั้นของเธอโค้งงอราวกับปีกผีเสื้อที่ค่อย ๆ พัดเข้าไปในหัว ใจของเขาทันใดนั้นสายใยในหัวใจของเขาเกิดอาการสั่นไหวอย่างรุนแรงอีกครั้ง

 

จากนั้นหยางซื่อเหมยได้กลับคืนมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงและสังเกตเห็นอาการแปลกประหลาดของซงซวน มันจึงทําให้หูของเธอแดงขึ้นด้วยความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน เธอจึงรีบหยิบเหรียญมีดที่เธอทําความสะอาดมาก่อนแล้วยื่นให้เขา

 

“อาจารย์ซ่งคะ ช่วยประเมินราคานี้ให้ฉันหน่อยได้หรือไม่ว่าสิ่งนี้มีที่มาหรือเปล่า?”

 

ซ่งซวนรับเหรียญมีดมาตรวจดูอย่างละเอียดและยืนขึ้นเพื่อเทน้ํายาชนิดหนึ่งลงไปหนึ่งถ้วยและใช้สําลีเช็ดรอยเปื้อนเดิมที่เปื้อนเหรียญออก ส่งผลให้เหรียญนั้นค่อย ๆ เผยให้เห็นสีทองอร่ามที่สวยงาม

 

แต่ที่ลึกซึ้งมากไปกว่านั้นคือมีการแกะสลักด้วยคําว่า “มีดหนึ่งเล่ม” และเหนือส่วนวงกลมของเหรียญที่เป็นส่วนของใบมีดมีคําว่า “ มูลค่าห้าพัน” ปรากฏอยู่

 

“ความงามมอบใบมีดเลี่ยมทองให้ฉัน…แล้วฉันจะตอบแทนได้อย่างไร?………..”

 

ทันใดนั้นช่งซวนก็ท่องบทกวี โดยน้ําเสียงของเขาในตอนที่ท่องบทกวีนั้นช่างน่าฟังยิ่งกว่าที่คุณครูฉินไคเหวินท่องให้ฟังเมื่อเช้า ซึ่งมันสามารถสัมผัสได้ถึงความรักที่ลึกซึ้งและนุ่มนวล

 

อย่างไรก็ตามเธอไม่เข้าใจว่าทําไมเขาถึงท่องบทกวีนี้เมื่อได้ เห็นเหรียญโบราณ

 

ต่อมาหลังจากที่เหรียญโบราณนี้ได้รับการเช็ดทําความสะอาดแล้ว ก็เห็นได้ว่ามันช่างมีเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์ และแม้จะมีความหมองคล้ำแบบโบราณ แต่ก็ยังเผยให้เห็นถึงรัศมีที่สง่างามและละเอียดอ่อน

 

และเมื่อยิ่งคิด เธอก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าทําไมเหรียญโบราณนี้จึงไม่เหมือนกับเหรียญอื่น ๆ ที่มีการแกะสลักเช่นเดียวกัน

 

เหรียญมีดหนึ่งเหรียญมีมูลค่าห้าพัน…มันหมายถึงอะไร?

 

และนี่เป็นอีกครั้งที่เธอรู้สึกว่าประสบการณ์ของตัวเองช่างน้อยนิด และความรู้ในหัวสมองก็ไม่เพียงพอที่จะทําความเข้าใจสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

 

“ซือเหมย คุณขายเหรียญโบราณนี้ให้ฉันในราคาหนึ่งล้านได้หรือเปล่า?”

 

นิ้วเรียวของซึ่งชวนวนเบา ๆ ไปทั่วใบมีดของเหรียญราวกับสัมผัสกับผิวของคนรักด้วยความอ่อนโยนอย่างผิดปกติ

 

หนึ่งล้าน?

 

หยางซือเหมยรู้สึกประหลาดใจมาก

 

แม้เธอทราบว่ามันเป็นเหรียญโบราณที่ล้ําค่า แต่ก็คาดไม่ถึงว่ามันจะมีค่ามากมายถึงเพียงนี้

 

“อาจารย์คะ เหรียญนี้มีที่มาอย่างไรคะ? และความหมายของคําว่า หนึ่งเหรียญมีมูลค่าห้าพันคืออะไรคะ?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+