Dawn of a new era รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ 93

Now you are reading Dawn of a new era รุ่งอรุณแห่งยุคใหม่ Chapter 93 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 93 คำขู่

พนักงานสองสามคนที่เตรียมจะเข้า พอได้ยินคำพูดนั้นกลัวและรีบกลับอย่างรวดเร็วหลังจากนั้นบรรยากาศในห้องก็สงบลง

ใบหน้าของเถ้าแก่หวางซีดเผือดจนเป็นสีขาว

จอมยุทธไม่ใช่คนธรรมดา ยิ่งคุณรู้มากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งรู้จักน่ากลัวของคนเหล่านั้นมากขึ้นเท่านั้น

ตำแหน่งของพวกเขาอาจจะไม่สูงนัก อำนาจส่วนตัวของพวกเขาอาจจะไม่ได้ใหญ่โตอะไร แต่ฐานะของพวกเขานั้นสูงและพวกเขาก็เสพสุขกับการปฏิบัติที่ได้รับสิทธิพิเศษของรัฐ ไม่มีใครจะลงโทษจอมยุทธโดยไม่มีเหตุผลแม้แต่จอมยุทธที่ทำผิดกฎหมาย ในหลายๆครั้งทำได้เพียงแค่ปิดตาปิดปาก ไม่สามารถสอบสวนหารายละเอียดได้

เถ้าแก่หวางรีบเผยรอยยิ้มที่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้อย่างรวดเร็ว เขาพูดต่อว่า น้องชาย เข้าใจผิด เข้าใจผิดไปแล้ว คนอย่างฉันนี่ตาไม่ดี มีตาหามีแววไม่!

แล้วเงินล่ะ?

ฉันจะคืนให้ทันทีอย่างแน่นอน หน้าผากของเถ้าแก่กลังจนขี้ขึ้นสมองและชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขาพูดด้วยคำพูดที่ชัดเจน ใครจะกล้าโกงเงินของจอมยุทธ ไม่งั้นชีวิตคงไม่ยืนยาวแน่ๆ

งั้นไปที่ห้องทำงานของคุณ?

“ได้ๆๆๆ”

เฉินโจวอี้พาเถ้าแก่หวางและเดินออกจากห้องรับแขก เขากวาดมองด้วยสายตาที่เยือกเย็นชาไปที่พนักงานทุกคนพวกเขาแสร้งทำเป็นสบายๆเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เขาพูดเสียงต่ำและเดินเข้าไปในห้องทำงานของผู้จัดการทั่วไป แล้วโยนเถ้าแก่หวางลง

แม่ของเฉินโจวอี้ที่เดินตามอยู่ข้างหลังไม่พูดอะไรเลย ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมาและเดินตามเข้าไปใยห้องด้วย

เถ้าแก่หวางลุกขึ้นมาจากพื้นและนั่งตรงตำแหน่งที่ทำงาน มือสั่นของเขาเอื้อมไปเปิดสมุดบัญชีในคอมพิวเตอร์ เขาฉีกยิ้มแล้วพูดว่า จำนวนเงินทั้งหมด 3.83 ล้าน พี่เจียงยืนยันอีกทีว่าใช่จำนวนเลขนี้ถูกต้องมั้ย?”

แม่ของเฉินโจวอี้กะจำนวนดูแล้วก็พูดออกมา ถูกต้อง!

งั้นก็ดี งั้นก็ดีแล้ว ฉันจะรีบโอนให้คุณเลย

เดี๋ยวก่อน! เฉินโจวอี้พูดขัดจังหวะขึ้น ไม่ได้มีเงินดอกเบี้ยด้วยเหรอ?

ใช่ใช่ ฉันลืมไปได้ยังไง ดอกเบี้ย ! เภ้าแก่หวางยิ้มและเช็ดเหงื่อเย็น ๆ บนหน้าผากของเขา เขาหยิบเครื่องคิดเลขออกมาแล้วกดมันอย่างรวดเร็ว งั้นก็จะเป็น 4.11 ล้าน ปัดให้เป็นเลขกลมๆ ผมจะโอนให้คุณ 4.20 ล้าน พวกคุณลองคิดดูว่าถูกต้องมั้ย?”

สำหรับ 4.11 ล้านเมื่อถูกปัดเศษมันจะกลายเป็น 4.20 ล้านและเฉินโจวอี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้ว

….

การโอนเงินไม่สามารถโอนได้ทันที เฉินโจวอี้ยังคงไม่วางใจและยังคงนั่งอยู่ในห้องทำงานของเถ้าแก่หวางต่อ

เถ้าแก่หวางนั่งด้วยความกระสับกระส่าย บรรยากาศที่ดูกดดันจนไม่กล้าหายใจ แม้แต่บริษัทก็เงียบกริบทั้งหมด

หนึ่งชั่วโมงต่อมา ก็ได้รับการตรวจสอบหมายเลขบัญชีจากธนาคาร เฉินโจวอี้และแม่ของเขาถึงจะออกจากบริษัท

….

ในระหว่างทาง

” รู้หน้าไม่รู้ใจและคิดไม่ถึงว่าจิตใจคนนี้จะมืดมนได้ขนาดนี้ เห็นอยู่ชัดๆว่ามีเงินแต่ไม่ยอมคืน เงินนี้อีกนิดเดียวก็เกือบจะสูญเปล่าไปแล้ว” แม่ของเฉินโจวอี้ถอนหายใจ

” โชคดีที่ฉันฉลากปราดเปรื่องมองออกว่าเถ้ากาหวางมีแผนอะไร” เฉินโจวอี้กล่าวด้วยใบหน้าที่ภูมิใจ

ฉลาดปราดเปรื่องเป็นที่หนึ่ง! ตอนนี้แม่ว่าแกมีความรุนแรงมากขึ้นนะ ตอนแรกไม่ยอมพูดดีๆกัน ต้องทำเหมือนจะฆ่าจะแกงกัน แม่ของเฉินโจวอี้ถลึงตาใส่ เมื่อนึกถึงเสียงที่ดังจนทำให้เธอตกใจจนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จนถึงตอนนี้เมื่อเธอยิ่งคิดยังรู้สึกตกใจจนใจเต้นตุ้บๆ

เมื่อก่อนลูกชายของเธอว่านอนสอนง่าย ช่วงนี้มันกลายเป็นความกังวลแทน

….

ที่ถัดไปคือบริษัทตัวแทนอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายบ้านเก่า

ตอนนี้ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองตงหนิงได้ลดลงอย่างสิ้นเชิง เมื่อก่อนราคาเช่าทั่วไปก็ 8-9 พันถึง 1หมื่น แต่ราคาปัจจุบันนี้ลดลงเหลือ 3-4 พัน อีกทั้งยังราคาตกลงอย่างต่อเนื่อง

บ้านของเฉินโจวอี้นั้นทำเลดีและเป็นบ้านที่มีหน้าร้านที่หันหน้าไปทางถนน มีพื้นที่สองร้อยสามสิบตารางเมตร รวมถึงลานบ้านเล็ก ๆ ห้าหกสิบตารางเมตร ถ้าหากเป็นเมื่อก่อนก็คงขายได้อย่างน้อยก็ 4ล้าน อีกทั้งยังคงรีบแย่งกันซื้ออีก

แต่ตอนนี้เพื่อที่จะขายโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ คงได้ราคาต่ำๆเพียงแค่ 1.2 ล้านเท่านั้น

เมื่อเธอกลับมาถึงบ้าน แม่ของเฉินโจวอี้ก็ถอนหายใจไม่หยุด

บางทีนอกจากความเจ็บปวดจากราคาอาจแล้วก็คือความรู้สึกที่ไม่สามารถตัดใจได้ได้

….

เมื่อถึงเวลาเย็น พวกเขาก็ออกไปกินข้าวข้างนอกที่ร้านอาหารเล็กๆร้านหนึ่ง

เฉินต้าเหว่ยพูดขึ้นว่า ถ้างั้นพรุ่งนี้เราชวนพี่ชายคนโตและพี่สะใภ้ออกมากินข้าวด้วยกันนะ

พ่อเขากำลังพูดถึงครอบครัวลุง

” อย่าเพิ่งเลย รอจนกว่าเมืองตงหนิงกลับมามั่นคงแล้วค่อยชวนดีกว่า อีกทั้งยู่ถิงก็กำลังจะไปเรียนที่วิมหาทยาลัยที่เมืองเหอตง ตอนนั้นคงติดต่อกันได้สะดวกกว่า” แม่ของเฉินโจวอี้พูดอย่างระมัดระวัง

เฉินต้าเหว่ยถอนหายใจและสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

….

ในพื้นที่ของความทรงจำ

สภาพจิตใจของเฉินโจวอี้หมกหมุ่นไปที่ผู้อำนวยการฟาง เขาเข้าใจทุกการเคลื่อนไหวในร่างกายของเขาอย่างละเอียด

การเต้นของหัวใจที่มีพลังและพลังการกล้ามเนื้อที่แฝงไปด้วยพลัง

ร่างกายที่แข็งแกร่งจริงๆ!

กล้ามเนื้อที่มีประสิทธิภาพสูงถูกรวมเข้าด้วยกันเหมือนกับเครื่องจักรที่มีจิตวิญญาณและลับเฉพาะ ไม่มีความเสียหายภายในแต่น้อย ทุกๆคำสั่งปฏิบัติจนสำเร็จจนถึงที่สุด ทุกๆการเคลื่อนไหวให้ความรู้สึกแห่งสุทรียภาพที่เข้ากันได้อย่างกระชับ

นี่คือมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เขาเคยเห็นมา

ในความคิดของเขา เขาคาดว่าความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ถึง 1.6 เท่า ความแข็งแกร่งเกือบจะห้าหกร้อยกิโลกรัมเปลี่ยนเป็นคุณลักษณะพิเศษได้ประมาณ 14.5

แต่น่าเสียดายที่เขาไม่มีความทรงจำของอีกฝ่ายในการต่อสู้และความสามารถในการตอบโต้นั้นก็เลยยากที่จะคาดเดา

ถึงอย่างไรก็ตามนี่ก็เป็นแค่ความทรงจำและจิตใจของเขาไม่มีวิธีควบคุมร่างกายนี้

แต่ความแข็งแกร่งอันน่ากลัวนี้ก็เพียงพอที่จะเอาชนะจอมยุทธทั้งหมด

นี่คือจอมยุทธที่ยิ่งใหญ่ใช่มั้ย?

ในการเผชิญกับการมีอยู่นี้ เฉินโจวอี้รู้สึกว่าเขาไม่สามารถขัดขวางได้เลย

….

เขาออกจากพื้นที่ของความจำ เมื่อลืมตาขึ้นก็เห็นร่างเล็กๆลอยตัวกลางอากาศผ่านหน้าเขาไป เขาจึงเอื้อมมือออกไปและจับไว้

วินาทีต่อมาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องแหลมๆออกมา

ปล่อยฉันไป @ # ¥的巨人คุณทำให้ฉันเจ็บ

เมื่อเฉินโจวอี้จ้องมองดูก็พบว่าเธอคือเด็กหญิงเปลือกหอย เขาก็รีบปล่อยเธอทันที เขาสำรวจเธอออย่างละเอียด โชคดีที่เธอไม่ถูกเขาบีบตาย

เธอกระโดดไปกระโดดมาทำไม ? เฉินโจวอี้ถามด้วยอารมณ์ที่ไม่ได้ดีนัก

เมื่อสักครู่ถ้าหากว่าเขาออกแรงมากกว่านี้อีกนิด เกรงว่าเด็กหญิงเปลือกหอยจะถูกเขาบีบจนตายไปแล้ว

เด็กหญิงเปลือกหอยพูดขึ้นด้วยความเจ็บปวดและมีน้ำตา” ฉันแค่อยากลองดูว่าฉันจะบินได้มั้ย?”

แล้วบินได้ไหม?

ไม่ได้! เด็กหญิงเปลือกหอยส่ายหัวของเธอและเธอดูเหมือนจะมีอารมณ์อ่อนไหวพร้อมกับร้องไห้ออกมา ฉันลืมวิธีบินไปแล้ว

” เธอจะต้องบินได้เหมือนดิม แต่คเธอมาที่นี่เลยไม่สามารถบินได้” เฉินโจวอี้ปลอบใจเธอ

” ฉันต้องกลับไปที่เดิมของฉัน ที่นี่อะไรก็ไท่ดีสักอย่าง!” เด็กหญิงเปลือกหอยพูดอย่างยอมจำนนและหลังจากนั้นน้ำตาของเธอก็ไหลออกมา

หลายวันมานี้เธอไม่เคยได้ดูทีวีเลย ยำซ้ำยังต้องอยู่ในกระเป๋าเอกสารทุกวัน เห็นได้ชัดเจนว่าทำให้เธอต้องทรมาน

ที่เดิมของเธอไม่มีเป๊ปป้าพิคนะ เธอไม่อยากดูมันแล้วเหรอ เฉินโจวอี้พูดหลอกล่อเธอ

“ก็คุณไม่ให้ฉันดูมันอีก! เด็กหญิงเปลือกหอยตัวสั่นและเช็ดน้ำตาของเธออย่างรวดเร็ว ใบหน้าเล็ก ๆ นั่นก็ฮึกเหิมขึ้นมา ถ้าให้ฉันดูตอนนี้ ฉันก็ไม่กลับไปแล้ว

ต้องรออีกสองสามวัน!

” พระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกยังคงเป็นพระอาทิตย์ขึ้นพระอาทิตย์ตกเหมือนเดิมทุกวัน”

นานที่สุดก็หกวัน! เฉินโจวอี้คิดแล้วคิดอีกจึงพูดออกมา

หกวันต่อมาจะมีการประชุมของจอมยุทธเล็กๆที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลของเมือง เมื่อใดก็ตามที่บ้านสามารถขายออกไปได้อย่างราบรื่น เขาจะต้องรีบไปที่เมืองเหอตง

เด็กหญิงเปลือกหอยเริ่มนับนิ้วของเธอและส่ายหัวอย่างสุดกำลัง ไม่! ไม่! ไม่!

มากพอแล้ว … ทันใดนั้นเธอก็หยุดส่ายหัว แต่ถ้าคุณให้อัญมณีชิ้นใหญ่อีกชิ้น ฉันก็จะรับปาก ไม่งั้นฉันจะกลับไป

เธอโบกไม้โบกมือของเธอใหญ่

แย่หล่ะ นี่เป็นการขู่หรือเปล่า?

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด