Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน 858

Now you are reading Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน Chapter 858 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 858 : หลงเป่ย

 

อู่หลงมั่นใจอย่างยิ่งว่าการดิ้นรนของฉินหยุนไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงโหมบุกโจมตีดดันต่อเนื่องยิ่งไปกว่านั้นเขายังมั่นใจในกําลังตนเองดังนั้นจึงไม่หวาดเกรงการโจมตีของฉินหยุนขณะนี้ระหว่างเขาและฉินหยุนยังอยู่ห่างจากกันถึงหลายเมตร…

 

ตุ้ม!

 

แรงโน้มถ่วงรุนแรงมหาศาลพลันสะกดลงมาบดทับอู่หลงกับพื้นร่างกายอู่หลงครอบครองอํานาจป้องกันสูงล้ําสิ่งยืนยันบ่งชัดคือความจริงที่เขายังสามารถต้านรับแรงโน้มถ่วงมหาศาลโดยไม่ล้มคุกเข่ากับพื้นเขายังคงสามารถรุกคืบกระนั้นความเร็วกลับเชื่องช้ายิ่ง

 

ฉินหยุนใช้งานเงาปลิดชีพลมหายใจสมบูรณ์หายวับ ออร่าของเขาจะหายไปอย่างไม่หลงเหลือชั่วระยะเวลาหนึ่งอู่หลงที่ถูกแรงโน้มถ่วงมหาศาลสะกดเอาไว้เวลานี้ทั้งเดือดแค้นและร้อนรนตอนนี้เขาคลาดสายตาจากคู่ต่อสู้ที่ทําได้จึงเพียงคํารามร้องกราดเกรี้ยว

 

ฉินหยุนที่เลือนหายพลันปรากฏตัวด้านหลังอู่หลงในพริบตา พลังแปดฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ปะทะเข้ากับแผ่นหลังอู่หลงรุนแรง เสียงมังกรร้องโศกศัลย์ดังกึกก้องหลงเปยที่รับชมการต่อสู้พลันต้องหรี่ดวงตาจับจ้องสีหน้ากลับกลายเป็นหนักอึ้งอู่หลงถูกฝ่ามือโจมตีเล่นงานพลังที่ควบแน่นในร่างจึงกระจายหายจากนั้นฉินหยุนจึงใช้ความสามารถเทวะทรมาน

 

“อ๊าก!” อู่หลงร่างต้องล้มลงกับพื้นกรีดร้องเจ็บปวด

 

พลังที่ควบแน่นชวนสะพรึงในร่างของอู่หลงก่อนหน้านี้ เป็นผลให้พลังความสามารถเทวะทรมานไม่อาจแสดงผลได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อพลังเหล่านั้นมลายหาย ฉินหยุนจึงใช้ความสามารถเทวะทรมานกับอีกฝ่ายได้เต็มที่

 

อู่หลงกรีดร้องเจ็บปวด กระนั้นก็เริ่มรวบรวมพลังอีกครั้งหนึ่ง ทว่าฉินหยุนไม่คิดหยุดยืนรับชมเขาพุ่งทะยานพร้อมใช้สามฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์หนึ่งฝ่ามือเชื่อมต่ออีกฝ่ามือ พลังโจมตีแต่ละฝ่ามือเท่าทวีภายในร่างอู่หลง เป็นผลให้อาการบาดเจ็บยิ่งหนักหนา แต่ละฝ่ามือของฉินหยุนเป็นผลให้อู่หลงต้องคํารามร้องโหยหวน

 

“ท่านปู่ ช่วยข้า… ข้ายอมแพ้!” อู่หลงตะโกนร้อง

 

หลงเปยถอนหายใจยาว เขาปรากฏตัวต่อหน้าฉินหยุนพร้อมยับยั้งหมัดไว้ “พอแล้ว เขายอมแพ้แล้ว”

 

ฉินหยุนจึงนั่งลงกับพื้นฟื้นฟูตัวเองในทันที เพราะเขายังต้องรับศึกกับหลงเป๋ย อีกฝ่ายแข็งแกร่งเขาสามารถต้านรับฝ่ามือฉินหยุนง่ายดาย เป็นผลให้ฉันหยุนได้ทราบว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งทรงอํานาจเพียงใด

 

“เจ้าหนู เป็นเจ้าแข็งแกร่งไม่ใช่น้อย!” หลงเปียกล่าวชม

 

“ข้าต้องใช้อุบายไปบ้าง หากเทียบด้านพลัง ข้าคงไม่มีทางเทียบอู่หลงได้!” ฉินหยุนนึกย้อนถึงพลังชวนสะพรึงที่อู่หลงปลดปล่อยออกมาภายในใจเวลานี้ยังต้องนึกหวาดกลัว

 

“เจ้าจึงเป็นผู้ปราดเปรื่องใช้พลัง แม้พลังอ่อนด้อยกว่า กระนั้นกลับใช้ต้านรับที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี่จึงเป็นฝีมือเจ้า!”หลงเปยกล่าว “หลายคนไม่อาจทําดังเช่นเจ้า พวกเขาเหล่านั้นครอบครองพลังมากมายอย่างสูญเปล่าเป็นพวกเขาขาดประสบการณ์ความรู้จนไม่อาจใช้งานมันได้อย่างหมดจด”

 

“การใช้งานพลังให้เกิดประโยชน์สูงสุด มันก็จําเป็นต้องอาศัยหลายปัจจัยเช่นกัน” ก่อนหน้าฉินหยุนใช้พลังและความสามารถเทวะนานาชนิดเพื่อถ่วงเวลาให้ตนเองสบโอกาสเอาชนะคู่ต่อสู้อันแข็งแกร่ง

 

“เป็นเช่นนั้น นั่นแหละคือความสามารถของตัวเจ้าเอง” หลงเปยกล่าว

 

ความเจ็บปวดของอู่หลงเวลานี้ทุเลาลงไม่น้อย ดวงตาจึงกลับกลายเป็นสีแดงพร้อมคํารามใส่ฉินหยุน “ไอ้ลิงหัวล้าน ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้น! เป็นเจ้าอ่อนแอกว่าข้า ดังนั้นจึงไม่มีทางเอาชนะข้าได้!เจ้าต้องคดโกงอันใดเป็นแน่!”

 

อู่หลงพุ่งทะยานร่างเข้าหาฉินหยุน กระนั้นหลงเป๋ยกลับคว้าตัวอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนโยนลงบันไดไป

 

“ผลย้อนกลับเข้าตนเอง” หลงเป๊ยเอ่ยคําเสียงเย็น ก่อนจะถอนหายใจเดินไปทางบันไดฝ่ามือของเขาโบกวูบก่อนบันไดจะหายวับ

 

บริเวณที่ซึ่งมีบันไดกลับกลายเป็นพื้นเรียบ ได้พบเห็นเรื่องราว ฉินหยุนยิ่งรู้สึกหนักอึ้ง หลงเปยผู้นี้จึงเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในหอคอยแห่งนี้แล้ว และแม้ออร่าของหลงเปียเผยว่าเป็นราชันยุทธ์ระดับสูงกระนั้นความรู้สึกที่ผู้ คนสัมผัสได้กลับชวนให้ต้องคิดว่าน่าสะพรึงยิ่งกว่านั้นก่อนหน้าฉินหยุนไม่ทันตระหนัก แต่ครั้งหลงเปยรับฝ่ามือ ของเขาง่ายดายจึงตระหนักอย่างชัดแจ้ง

 

“คิดพักก่อนหรือไม่? ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนไป ใช้เวลาเท่าที่เจ้าต้องการ ข้ารอได้” หลงเบี้ยกล่าวออกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

 

“ท่านคิดอยากล้างแค้นให้หลานชายหรือ?” ฉินหยุนกล่าวถามอย่างร้อนใจ

 

“ข้าไม่คิดล้างแค้นให้แก่หลานชาย เพียงแต่ขวางไม่ให้เจ่าออกไปได้!” หลงเป่ยหัวเราะ “เจ้าคิดอยากเร่งรีบออกไปดังนั้นก็ต้องใช้พลังเต็มที่สู้กับข้าใช่หรือไม่?

 

“ถูกต้องขอรับ!” ฉินหยุนภายในเวลานี้เกิดหวาดกลัวยามได้เห็นรอยยิ้มหลงเป๋ย นับเป็นเรื่องยากที่เขาจะเกิดความรู้สึกเช่นนี้ขึ้น

 

“เจ้าหนู ข้าไม่ทราบว่าเจ้าประสบพบเจออะไร กระนั้นสถานการณ์ภายในกายเจ้าคล้ายน่าสนใจไม่น้อย!”หลงเปียกล่าว

 

“ท่านผู้อาวุโส ปล่อยข้าไปได้หรือไม่? ข้ามีเรื่องเร่งด่วนต้องไปทําจริงขอรับ!” ฉินหยุนกล่าวออกเขาไม่คิด อยากสู้กับชายชราผู้นี้แม้แต่น้อย

 

เพราะเขาทราบว่าตนเองไม่อาจเอาชนะ การต่อสู้ยังไม่ทันเริ่ม ฉินหยุนก็ได้ทราบว่าตนเองได้โอกาสเอาชนะต่ออีกฝ่ายสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับเขาน้อยครั้งมาก

 

“นั่นไม่ได้! เจ้าต้องสู้กับข้า! มีแต่ทําเช่นนี้ข้าจึงเอาไปใช้คุยโอ้อวดกับหลานชายข้าได้!” หลงเปียหัวเราะดัง

 

ฉินหยุนเผยยิ้มขึ้นขม “คล้ายข้าไม่อาจออกไปได้แล้วกระมัง…”

 

หลงเปยหัวเราะรับ “เจ้าหนู อย่าได้หมดกําลังใจ ผู้ใดทราบกัน บางทีเจ้าอาจเอาชนะข้าได้”

 

ฉินหยุนถอนหายใจ “ข้าก็คาดหวังเช่นนั้นขอรับ…”

 

“เหตุใดจึงเร่งร้อนออกไปกันเล่า?” หลงเป๋ยกล่าวถาม

 

“ผู้อาวุโส ท่านอยู่ภายในนี้ยาวนานเพียงใดแล้ว? ท่านไม่ได้ออกไปภายนอกเลยหรือ? คล้ายท่านไม่ทราบสถานการณ์ภายนอก ด้วยกําลังท่าน สมควรมีตําแหน่งสูงส่งในคฤหาสน์ราชันมังกรด้วยซ้ํา!” ฉินหยุนกล่าวถามด้วยความสงสัย

 

หลายผู้คนแข็งแกร่งเลิศลําซ่อนตัวภายในคฤหาสน์ราชันมังกร หลงทั้งเฉิงที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ก็ชวนสะพรึง และตอนนี้ยังมีหลงเป๋ยที่เต็มเปี่ยมด้วยความลึกลับ

 

หลงเปยตอบค่า “ข้าแทบไม่สนใจเรื่องราวของคฤหาสน์ราชันมังกร ทั้งยังออกไปน้อยครั้ง สาเหตุที่ข้าอยู่ที่นี่ก็เพื่อช่วยหลานชายตัวน้อย ให้เขาได้หลุดพ้นจากนรกของเต๋อสูร!”

 

ข้อสันนิษฐานก่อนหน้าของฉินหยุนถูกต้อง อู่หลงผู้คือที่การฝึกฝนแตกซ่านและร่วงหล่นสู่เต๋อสูร

 

“เสี่ยวหยุน อู่หลงผู้นั้นสมควรเป็นมังกรแล้ว!” หลิงหยุนเอ่อพลันกล่าวขึ้น “พลังชวนสะพรึงระดับนั้นที่ขอบเขตราชันยุทธ์ระดับสูง จะมีก็แต่มังกรจําแลงกายเป็นมนุษย์จึงสามารถครอบครอง!”

 

ฉินหยุนจึงมองที่หลงเปยอย่างนึกถึงหลังได้ทราบความจากหลิงหยุนเอ่อ หากอู่หลงเป็นมังกรที่จําแลงกายเป็นมนุษย์เช่นนั้นหลงเป๋ยตรงหน้าผู้นี้ก็ต้องเป็นมังกรที่แข็งแกร่งเลิศล่า!

 

“คฤหาสน์ราชันมังกรแท้จริงมีมังกรอยู่กี่ตัวกันแน่?” ฉินหยุนเกิดนึกสงสัยที่ภายใน เขาได้ฟังมาว่าคฤหาสน์ราชันมังกรเลี้ยงดูมังกรไว้จํานวนหนึ่ง กระนั้นเขาไม่คาดคิด ที่หอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูรแห่งนี้จะถึงขั้นมีมังกรสองตัวทั้งยังเป็นผู้ที่แข็งแกร่งยิ่ง

 

“ผู้อาวุโส ข้าต้องออกไปเพื่อเข้าร่วมงานประลองยุทธ์ขอรับ! ข้าอยู่ที่นี่มาวันกว่าแล้ว งานแข่งขันสมควรจะเริ่มขึ้นในไม่ช้านี้!” ฉินหยุนอธิบายเรื่องราวต่อหลงเป๋ย แน่นอนว่าเขาไม่เอ่ยถึงเรื่องวิญญาณมังกรเซียนเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะคิดใช้สิ่งนั้นเป็นเครื่องต่อรอง

 

“สํานักมังกรฟ้า? เหอะ… พวกมันเอาแต่ส่งคนมาแทรกแซงเรื่องราวโดยตลอด ไม่เพียงแต่ไม่นําผลประโยชน์ใดมา แต่ยังสร้างปัญหามากมายทิ้งไว้!” หลงเปยครวญคราง เห็นได้ชัดว่าเขามีความเกลียดชังต่อสํานักมังกรฟ้า

 

“ผู้อาวุโส ท่านและสํานักมังกรฟ้าไม่ลงรอยกันหรือขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม “ทั้งที่ผู้อาวุโสทั้งหลายของคฤหาสน์ราชันมังกรต่างใกล้ชิดคนของสํานักมังกรฟ้า!”

 

หลงเป๋ยกล่าวตอบ “ตัวบัดซบสํานักมังกรฟ้า พวกมันคิดอยากใช้คฤหาสน์ราชันมังกรเป็นโรงผลิตให้แก่พวกมัน! ครั้งนี้มาเยือน พวกมันย่อมมีจุดประสงค์อื่น ทั้งยังไม่ลงทุนใด ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยพบเห็นพวกมันสร้างเรื่องดีแม้สักครั้งทว่าข้าก็ไม่อาจตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกมันได้!”

 

คฤหาสน์ราชันมังกรย่อมมีหลายฝักฝ่ายภายใน หลังอยู่มาชั่วระยะเวลาหนึ่ง ฉินหยุนจึงได้ทราบว่าสถานการณ์ของคฤหาสน์ราชันมังกรก็ไม่ใช่มั่นคง หากความขัดแย้งภายในปะทุออกเมื่อนั้นกําลังโดยรวมของตระกูลหลงจะลดทอนมหาศาล

 

ฉินหยุนเวลานี้ฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว

 

“ผู้อาวุโส เช่นนั้นพวกเราเริ่มกันได้เลย!” ฉินหยุนถอนหายใจยาว ขณะนี้ลุกยืนขึ้นแล้ว เขามีแต่ต้องทําเช่นนี้ 

 

หลงเปี่ยมองฉันหยุนพร้อมเผยเสียงหัวเราะ “ใช้อุบายดังเช่นที่ใช้กับอู่หลงได้เลย! ข้าคิดอยากทราบว่าเขาแพ้ได้อย่างไร!”

 

คํากล่าวออก ร่างเขาจึงพุ่งทะยานเข้าหาฉินหยุนด้วยความเร็วสูง แม้การเคลื่อนไหวรวดเร็ว กระนั้นก็มีเวลาให้ตั้งรับ เห็นได้ชัดว่าจงใจยั้งมือ

 

ฉินหยุนจึงปลดปล่อยกรงเล็บพฤกษาเข้าพันธนาการต้นขาหลงเปย ก่อนจะรั้งอีกฝ่ายไว้เป็นการลากถ่วงจากนั้นแรงโน้มถ่วงอันมหาศาลจึงเผยออก เสียงปะทะดังกึกก้อง หลงเป๋ยผู้ซึ่งบินเข้าหาเวลานี้ฝีเท้ากระแทก พื้นหนักอึ้ง

 

ฉินหยุนพุ่งทะยานไปพร้อมส่งเสียงร้องคารามปลดปล่อยสิบฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ พลังฝ่ามือเผยออกเสียงกรีดร้องโศกศัลย์ของมังกรดังโหยหวน มันราวกับเสียงร้องของมังกรที่ถูกไล่ต้อนจนมุมร้องขอความตาย

 

ตู้ม!

 

พลังฝ่ามือปะทะร่างหลงเปียก่อนจะถูกดูดกลืนหายวับโดยสมบูรณ์ มันไม่สร้างแรงอัดอากาศปะทุใดออกด้วยซ้ําได้พบเห็นฉินหยุนยิ่งหวาดกลัว ฝ่ามือส่งออกอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้งหลงเปยต้านรับไว้ได้หมดสิ้น

 

“อ๊าก!” ฉินหยุนรู้สึกราวฝ่ามือถูกฉีกกระชากออกจนต้องกรีดร้อง

 

“มวลมังกรคุ้มกาย!” ฉินหยุนถูกส่งร่างกระเด็นปะทะผนังกําแพงกระอักเลือด

 

“เมื่อครู่ ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของพระสูตรหัวใจเก้สมบูรณ์ใช่หรือไม่?” หลงเป๋ยจับจ้องฉินหยุนด้วยสีหน้าหนักอึ้งพร้อมกล่าวถาม

 

ฉินหยุนลุกขึ้นยืนเชื่องช้าและพยักหน้ารับ “ท่านชนะแล้ว ข้าไม่อาจใช่คู่ต่อสู้ของท่าน!”

 

หลงเป๋ยเผยสีหน้าหนักอึ้งเจือรอยยิ้มกล่าวค่า “เจ้าไม่ใช่คนของตระกูลหลง”

 

“ท่านมั่นใจได้อย่างไร?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

 

“คนของตระกูลหลงไม่มีทางเรียนรู้ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์!” หลงเปยตอบกลับ

 

“ก็ได้ ดูเหมือนข้าคงมีแต่ต้องติดอยู่ที่นี่จนกว่าจะเอาชนะท่าน!” ฉินหยุนไม่คาดคิด วาผู้คุมชั้นที่เก้าจะครอบครองอํานาจชวนสะพรึงได้เพียงนี้

 

“เจ้าย่อมออกไปได้ แต่ต้องสัญญาต่อข้า ว่าเจ้าจะกลับมาที่นี่หลังงานประลองยุทธ์เสร็จสิ้นแล้ว!” หลงเป่ยเผยการตัดสินใจ คํากล่าวของเขาเป็นผลให้ฉินหยุนต้องนิ่งงัน

 

“ผู้อาวุโส นี่ท่าน… ท่านกล่าวจริงหรือ?” ฉินหยุนยังคิดว่าเรื่องราวนี้ยากเชื่อได้

 

“ตามข้ากล่าวไป! ข้าต้องการให้เจ้ากลับมาเพื่อประมือกับอู่หลงอีกครั้งหนึ่ง! ข้าต้องการสอนสั่งแก่เขาในช่วงเวลาที่มีนี้!ข้าคิดอยากฝึกสอนให้เขาทราบวิธีรับมือฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์!”หลงเปยยิ้มกล่าว“ถือว่านี้เป็นการ แลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมก็แล้วกัน!”

 

“อย่างนั้น… ครั้งหน้าข้าจะเข้ามาได้อย่างไร?” ฉินหยุนกล่าวถาม

 

“ใช้ตราโลหะนี้ แล้วเจ้าจะเข้าตรงมาถึงชั้นนี้ได้โดยทันที!” หลงเปยตราโลหะสีทองออกมามอบให้แก่ฉันหยุน

 

ฉินหยุนรับตราโลหะดังกล่าวพร้อมเอ่ยคําขอบคุณต่อหลงเปย

 

“เมื่อใดเจ้าส์ในงานประลองยุทธ์ จงเอาชนะคนของสํานักมังกรฟ้าให้ได้! ดีที่สุดหากเจ้าสังหารพวกมันอย่างไม่ต้องลังเลใด!” หลงเปยกล่าวค่าชี้แนะ

 

“ข้าทราบขอรับ!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน 858

Now you are reading Nine Sun God King ราชันเทพเก้าสุริยัน Chapter 858 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 858 : หลงเป่ย

 

อู่หลงมั่นใจอย่างยิ่งว่าการดิ้นรนของฉินหยุนไร้ประโยชน์ ดังนั้นเขาจึงโหมบุกโจมตีดดันต่อเนื่องยิ่งไปกว่านั้นเขายังมั่นใจในกําลังตนเองดังนั้นจึงไม่หวาดเกรงการโจมตีของฉินหยุนขณะนี้ระหว่างเขาและฉินหยุนยังอยู่ห่างจากกันถึงหลายเมตร…

 

ตุ้ม!

 

แรงโน้มถ่วงรุนแรงมหาศาลพลันสะกดลงมาบดทับอู่หลงกับพื้นร่างกายอู่หลงครอบครองอํานาจป้องกันสูงล้ําสิ่งยืนยันบ่งชัดคือความจริงที่เขายังสามารถต้านรับแรงโน้มถ่วงมหาศาลโดยไม่ล้มคุกเข่ากับพื้นเขายังคงสามารถรุกคืบกระนั้นความเร็วกลับเชื่องช้ายิ่ง

 

ฉินหยุนใช้งานเงาปลิดชีพลมหายใจสมบูรณ์หายวับ ออร่าของเขาจะหายไปอย่างไม่หลงเหลือชั่วระยะเวลาหนึ่งอู่หลงที่ถูกแรงโน้มถ่วงมหาศาลสะกดเอาไว้เวลานี้ทั้งเดือดแค้นและร้อนรนตอนนี้เขาคลาดสายตาจากคู่ต่อสู้ที่ทําได้จึงเพียงคํารามร้องกราดเกรี้ยว

 

ฉินหยุนที่เลือนหายพลันปรากฏตัวด้านหลังอู่หลงในพริบตา พลังแปดฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ปะทะเข้ากับแผ่นหลังอู่หลงรุนแรง เสียงมังกรร้องโศกศัลย์ดังกึกก้องหลงเปยที่รับชมการต่อสู้พลันต้องหรี่ดวงตาจับจ้องสีหน้ากลับกลายเป็นหนักอึ้งอู่หลงถูกฝ่ามือโจมตีเล่นงานพลังที่ควบแน่นในร่างจึงกระจายหายจากนั้นฉินหยุนจึงใช้ความสามารถเทวะทรมาน

 

“อ๊าก!” อู่หลงร่างต้องล้มลงกับพื้นกรีดร้องเจ็บปวด

 

พลังที่ควบแน่นชวนสะพรึงในร่างของอู่หลงก่อนหน้านี้ เป็นผลให้พลังความสามารถเทวะทรมานไม่อาจแสดงผลได้อย่างเต็มที่ แต่เมื่อพลังเหล่านั้นมลายหาย ฉินหยุนจึงใช้ความสามารถเทวะทรมานกับอีกฝ่ายได้เต็มที่

 

อู่หลงกรีดร้องเจ็บปวด กระนั้นก็เริ่มรวบรวมพลังอีกครั้งหนึ่ง ทว่าฉินหยุนไม่คิดหยุดยืนรับชมเขาพุ่งทะยานพร้อมใช้สามฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์หนึ่งฝ่ามือเชื่อมต่ออีกฝ่ามือ พลังโจมตีแต่ละฝ่ามือเท่าทวีภายในร่างอู่หลง เป็นผลให้อาการบาดเจ็บยิ่งหนักหนา แต่ละฝ่ามือของฉินหยุนเป็นผลให้อู่หลงต้องคํารามร้องโหยหวน

 

“ท่านปู่ ช่วยข้า… ข้ายอมแพ้!” อู่หลงตะโกนร้อง

 

หลงเปยถอนหายใจยาว เขาปรากฏตัวต่อหน้าฉินหยุนพร้อมยับยั้งหมัดไว้ “พอแล้ว เขายอมแพ้แล้ว”

 

ฉินหยุนจึงนั่งลงกับพื้นฟื้นฟูตัวเองในทันที เพราะเขายังต้องรับศึกกับหลงเป๋ย อีกฝ่ายแข็งแกร่งเขาสามารถต้านรับฝ่ามือฉินหยุนง่ายดาย เป็นผลให้ฉันหยุนได้ทราบว่าคู่ต่อสู้แข็งแกร่งทรงอํานาจเพียงใด

 

“เจ้าหนู เป็นเจ้าแข็งแกร่งไม่ใช่น้อย!” หลงเปียกล่าวชม

 

“ข้าต้องใช้อุบายไปบ้าง หากเทียบด้านพลัง ข้าคงไม่มีทางเทียบอู่หลงได้!” ฉินหยุนนึกย้อนถึงพลังชวนสะพรึงที่อู่หลงปลดปล่อยออกมาภายในใจเวลานี้ยังต้องนึกหวาดกลัว

 

“เจ้าจึงเป็นผู้ปราดเปรื่องใช้พลัง แม้พลังอ่อนด้อยกว่า กระนั้นกลับใช้ต้านรับที่แข็งแกร่งยิ่งกว่านี่จึงเป็นฝีมือเจ้า!”หลงเปยกล่าว “หลายคนไม่อาจทําดังเช่นเจ้า พวกเขาเหล่านั้นครอบครองพลังมากมายอย่างสูญเปล่าเป็นพวกเขาขาดประสบการณ์ความรู้จนไม่อาจใช้งานมันได้อย่างหมดจด”

 

“การใช้งานพลังให้เกิดประโยชน์สูงสุด มันก็จําเป็นต้องอาศัยหลายปัจจัยเช่นกัน” ก่อนหน้าฉินหยุนใช้พลังและความสามารถเทวะนานาชนิดเพื่อถ่วงเวลาให้ตนเองสบโอกาสเอาชนะคู่ต่อสู้อันแข็งแกร่ง

 

“เป็นเช่นนั้น นั่นแหละคือความสามารถของตัวเจ้าเอง” หลงเปยกล่าว

 

ความเจ็บปวดของอู่หลงเวลานี้ทุเลาลงไม่น้อย ดวงตาจึงกลับกลายเป็นสีแดงพร้อมคํารามใส่ฉินหยุน “ไอ้ลิงหัวล้าน ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้น! เป็นเจ้าอ่อนแอกว่าข้า ดังนั้นจึงไม่มีทางเอาชนะข้าได้!เจ้าต้องคดโกงอันใดเป็นแน่!”

 

อู่หลงพุ่งทะยานร่างเข้าหาฉินหยุน กระนั้นหลงเป๋ยกลับคว้าตัวอีกฝ่ายเอาไว้ก่อนโยนลงบันไดไป

 

“ผลย้อนกลับเข้าตนเอง” หลงเป๊ยเอ่ยคําเสียงเย็น ก่อนจะถอนหายใจเดินไปทางบันไดฝ่ามือของเขาโบกวูบก่อนบันไดจะหายวับ

 

บริเวณที่ซึ่งมีบันไดกลับกลายเป็นพื้นเรียบ ได้พบเห็นเรื่องราว ฉินหยุนยิ่งรู้สึกหนักอึ้ง หลงเปยผู้นี้จึงเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดในหอคอยแห่งนี้แล้ว และแม้ออร่าของหลงเปียเผยว่าเป็นราชันยุทธ์ระดับสูงกระนั้นความรู้สึกที่ผู้ คนสัมผัสได้กลับชวนให้ต้องคิดว่าน่าสะพรึงยิ่งกว่านั้นก่อนหน้าฉินหยุนไม่ทันตระหนัก แต่ครั้งหลงเปยรับฝ่ามือ ของเขาง่ายดายจึงตระหนักอย่างชัดแจ้ง

 

“คิดพักก่อนหรือไม่? ไม่จําเป็นต้องรีบร้อนไป ใช้เวลาเท่าที่เจ้าต้องการ ข้ารอได้” หลงเบี้ยกล่าวออกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

 

“ท่านคิดอยากล้างแค้นให้หลานชายหรือ?” ฉินหยุนกล่าวถามอย่างร้อนใจ

 

“ข้าไม่คิดล้างแค้นให้แก่หลานชาย เพียงแต่ขวางไม่ให้เจ่าออกไปได้!” หลงเป่ยหัวเราะ “เจ้าคิดอยากเร่งรีบออกไปดังนั้นก็ต้องใช้พลังเต็มที่สู้กับข้าใช่หรือไม่?

 

“ถูกต้องขอรับ!” ฉินหยุนภายในเวลานี้เกิดหวาดกลัวยามได้เห็นรอยยิ้มหลงเป๋ย นับเป็นเรื่องยากที่เขาจะเกิดความรู้สึกเช่นนี้ขึ้น

 

“เจ้าหนู ข้าไม่ทราบว่าเจ้าประสบพบเจออะไร กระนั้นสถานการณ์ภายในกายเจ้าคล้ายน่าสนใจไม่น้อย!”หลงเปียกล่าว

 

“ท่านผู้อาวุโส ปล่อยข้าไปได้หรือไม่? ข้ามีเรื่องเร่งด่วนต้องไปทําจริงขอรับ!” ฉินหยุนกล่าวออกเขาไม่คิด อยากสู้กับชายชราผู้นี้แม้แต่น้อย

 

เพราะเขาทราบว่าตนเองไม่อาจเอาชนะ การต่อสู้ยังไม่ทันเริ่ม ฉินหยุนก็ได้ทราบว่าตนเองได้โอกาสเอาชนะต่ออีกฝ่ายสถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับเขาน้อยครั้งมาก

 

“นั่นไม่ได้! เจ้าต้องสู้กับข้า! มีแต่ทําเช่นนี้ข้าจึงเอาไปใช้คุยโอ้อวดกับหลานชายข้าได้!” หลงเปียหัวเราะดัง

 

ฉินหยุนเผยยิ้มขึ้นขม “คล้ายข้าไม่อาจออกไปได้แล้วกระมัง…”

 

หลงเปยหัวเราะรับ “เจ้าหนู อย่าได้หมดกําลังใจ ผู้ใดทราบกัน บางทีเจ้าอาจเอาชนะข้าได้”

 

ฉินหยุนถอนหายใจ “ข้าก็คาดหวังเช่นนั้นขอรับ…”

 

“เหตุใดจึงเร่งร้อนออกไปกันเล่า?” หลงเป๋ยกล่าวถาม

 

“ผู้อาวุโส ท่านอยู่ภายในนี้ยาวนานเพียงใดแล้ว? ท่านไม่ได้ออกไปภายนอกเลยหรือ? คล้ายท่านไม่ทราบสถานการณ์ภายนอก ด้วยกําลังท่าน สมควรมีตําแหน่งสูงส่งในคฤหาสน์ราชันมังกรด้วยซ้ํา!” ฉินหยุนกล่าวถามด้วยความสงสัย

 

หลายผู้คนแข็งแกร่งเลิศลําซ่อนตัวภายในคฤหาสน์ราชันมังกร หลงทั้งเฉิงที่ปรากฏตัวก่อนหน้านี้ก็ชวนสะพรึง และตอนนี้ยังมีหลงเป๋ยที่เต็มเปี่ยมด้วยความลึกลับ

 

หลงเปยตอบค่า “ข้าแทบไม่สนใจเรื่องราวของคฤหาสน์ราชันมังกร ทั้งยังออกไปน้อยครั้ง สาเหตุที่ข้าอยู่ที่นี่ก็เพื่อช่วยหลานชายตัวน้อย ให้เขาได้หลุดพ้นจากนรกของเต๋อสูร!”

 

ข้อสันนิษฐานก่อนหน้าของฉินหยุนถูกต้อง อู่หลงผู้คือที่การฝึกฝนแตกซ่านและร่วงหล่นสู่เต๋อสูร

 

“เสี่ยวหยุน อู่หลงผู้นั้นสมควรเป็นมังกรแล้ว!” หลิงหยุนเอ่อพลันกล่าวขึ้น “พลังชวนสะพรึงระดับนั้นที่ขอบเขตราชันยุทธ์ระดับสูง จะมีก็แต่มังกรจําแลงกายเป็นมนุษย์จึงสามารถครอบครอง!”

 

ฉินหยุนจึงมองที่หลงเปยอย่างนึกถึงหลังได้ทราบความจากหลิงหยุนเอ่อ หากอู่หลงเป็นมังกรที่จําแลงกายเป็นมนุษย์เช่นนั้นหลงเป๋ยตรงหน้าผู้นี้ก็ต้องเป็นมังกรที่แข็งแกร่งเลิศล่า!

 

“คฤหาสน์ราชันมังกรแท้จริงมีมังกรอยู่กี่ตัวกันแน่?” ฉินหยุนเกิดนึกสงสัยที่ภายใน เขาได้ฟังมาว่าคฤหาสน์ราชันมังกรเลี้ยงดูมังกรไว้จํานวนหนึ่ง กระนั้นเขาไม่คาดคิด ที่หอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูรแห่งนี้จะถึงขั้นมีมังกรสองตัวทั้งยังเป็นผู้ที่แข็งแกร่งยิ่ง

 

“ผู้อาวุโส ข้าต้องออกไปเพื่อเข้าร่วมงานประลองยุทธ์ขอรับ! ข้าอยู่ที่นี่มาวันกว่าแล้ว งานแข่งขันสมควรจะเริ่มขึ้นในไม่ช้านี้!” ฉินหยุนอธิบายเรื่องราวต่อหลงเป๋ย แน่นอนว่าเขาไม่เอ่ยถึงเรื่องวิญญาณมังกรเซียนเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายจะคิดใช้สิ่งนั้นเป็นเครื่องต่อรอง

 

“สํานักมังกรฟ้า? เหอะ… พวกมันเอาแต่ส่งคนมาแทรกแซงเรื่องราวโดยตลอด ไม่เพียงแต่ไม่นําผลประโยชน์ใดมา แต่ยังสร้างปัญหามากมายทิ้งไว้!” หลงเปยครวญคราง เห็นได้ชัดว่าเขามีความเกลียดชังต่อสํานักมังกรฟ้า

 

“ผู้อาวุโส ท่านและสํานักมังกรฟ้าไม่ลงรอยกันหรือขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม “ทั้งที่ผู้อาวุโสทั้งหลายของคฤหาสน์ราชันมังกรต่างใกล้ชิดคนของสํานักมังกรฟ้า!”

 

หลงเป๋ยกล่าวตอบ “ตัวบัดซบสํานักมังกรฟ้า พวกมันคิดอยากใช้คฤหาสน์ราชันมังกรเป็นโรงผลิตให้แก่พวกมัน! ครั้งนี้มาเยือน พวกมันย่อมมีจุดประสงค์อื่น ทั้งยังไม่ลงทุนใด ชั่วชีวิตนี้ไม่เคยพบเห็นพวกมันสร้างเรื่องดีแม้สักครั้งทว่าข้าก็ไม่อาจตั้งตนเป็นศัตรูกับพวกมันได้!”

 

คฤหาสน์ราชันมังกรย่อมมีหลายฝักฝ่ายภายใน หลังอยู่มาชั่วระยะเวลาหนึ่ง ฉินหยุนจึงได้ทราบว่าสถานการณ์ของคฤหาสน์ราชันมังกรก็ไม่ใช่มั่นคง หากความขัดแย้งภายในปะทุออกเมื่อนั้นกําลังโดยรวมของตระกูลหลงจะลดทอนมหาศาล

 

ฉินหยุนเวลานี้ฟื้นตัวดีขึ้นแล้ว

 

“ผู้อาวุโส เช่นนั้นพวกเราเริ่มกันได้เลย!” ฉินหยุนถอนหายใจยาว ขณะนี้ลุกยืนขึ้นแล้ว เขามีแต่ต้องทําเช่นนี้ 

 

หลงเปี่ยมองฉันหยุนพร้อมเผยเสียงหัวเราะ “ใช้อุบายดังเช่นที่ใช้กับอู่หลงได้เลย! ข้าคิดอยากทราบว่าเขาแพ้ได้อย่างไร!”

 

คํากล่าวออก ร่างเขาจึงพุ่งทะยานเข้าหาฉินหยุนด้วยความเร็วสูง แม้การเคลื่อนไหวรวดเร็ว กระนั้นก็มีเวลาให้ตั้งรับ เห็นได้ชัดว่าจงใจยั้งมือ

 

ฉินหยุนจึงปลดปล่อยกรงเล็บพฤกษาเข้าพันธนาการต้นขาหลงเปย ก่อนจะรั้งอีกฝ่ายไว้เป็นการลากถ่วงจากนั้นแรงโน้มถ่วงอันมหาศาลจึงเผยออก เสียงปะทะดังกึกก้อง หลงเป๋ยผู้ซึ่งบินเข้าหาเวลานี้ฝีเท้ากระแทก พื้นหนักอึ้ง

 

ฉินหยุนพุ่งทะยานไปพร้อมส่งเสียงร้องคารามปลดปล่อยสิบฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ พลังฝ่ามือเผยออกเสียงกรีดร้องโศกศัลย์ของมังกรดังโหยหวน มันราวกับเสียงร้องของมังกรที่ถูกไล่ต้อนจนมุมร้องขอความตาย

 

ตู้ม!

 

พลังฝ่ามือปะทะร่างหลงเปียก่อนจะถูกดูดกลืนหายวับโดยสมบูรณ์ มันไม่สร้างแรงอัดอากาศปะทุใดออกด้วยซ้ําได้พบเห็นฉินหยุนยิ่งหวาดกลัว ฝ่ามือส่งออกอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้งหลงเปยต้านรับไว้ได้หมดสิ้น

 

“อ๊าก!” ฉินหยุนรู้สึกราวฝ่ามือถูกฉีกกระชากออกจนต้องกรีดร้อง

 

“มวลมังกรคุ้มกาย!” ฉินหยุนถูกส่งร่างกระเด็นปะทะผนังกําแพงกระอักเลือด

 

“เมื่อครู่ ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์ของพระสูตรหัวใจเก้สมบูรณ์ใช่หรือไม่?” หลงเป๋ยจับจ้องฉินหยุนด้วยสีหน้าหนักอึ้งพร้อมกล่าวถาม

 

ฉินหยุนลุกขึ้นยืนเชื่องช้าและพยักหน้ารับ “ท่านชนะแล้ว ข้าไม่อาจใช่คู่ต่อสู้ของท่าน!”

 

หลงเป๋ยเผยสีหน้าหนักอึ้งเจือรอยยิ้มกล่าวค่า “เจ้าไม่ใช่คนของตระกูลหลง”

 

“ท่านมั่นใจได้อย่างไร?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

 

“คนของตระกูลหลงไม่มีทางเรียนรู้ฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์!” หลงเปยตอบกลับ

 

“ก็ได้ ดูเหมือนข้าคงมีแต่ต้องติดอยู่ที่นี่จนกว่าจะเอาชนะท่าน!” ฉินหยุนไม่คาดคิด วาผู้คุมชั้นที่เก้าจะครอบครองอํานาจชวนสะพรึงได้เพียงนี้

 

“เจ้าย่อมออกไปได้ แต่ต้องสัญญาต่อข้า ว่าเจ้าจะกลับมาที่นี่หลังงานประลองยุทธ์เสร็จสิ้นแล้ว!” หลงเป่ยเผยการตัดสินใจ คํากล่าวของเขาเป็นผลให้ฉินหยุนต้องนิ่งงัน

 

“ผู้อาวุโส นี่ท่าน… ท่านกล่าวจริงหรือ?” ฉินหยุนยังคิดว่าเรื่องราวนี้ยากเชื่อได้

 

“ตามข้ากล่าวไป! ข้าต้องการให้เจ้ากลับมาเพื่อประมือกับอู่หลงอีกครั้งหนึ่ง! ข้าต้องการสอนสั่งแก่เขาในช่วงเวลาที่มีนี้!ข้าคิดอยากฝึกสอนให้เขาทราบวิธีรับมือฝ่ามือมังกรสัมบูรณ์!”หลงเปยยิ้มกล่าว“ถือว่านี้เป็นการ แลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียมก็แล้วกัน!”

 

“อย่างนั้น… ครั้งหน้าข้าจะเข้ามาได้อย่างไร?” ฉินหยุนกล่าวถาม

 

“ใช้ตราโลหะนี้ แล้วเจ้าจะเข้าตรงมาถึงชั้นนี้ได้โดยทันที!” หลงเปยตราโลหะสีทองออกมามอบให้แก่ฉันหยุน

 

ฉินหยุนรับตราโลหะดังกล่าวพร้อมเอ่ยคําขอบคุณต่อหลงเปย

 

“เมื่อใดเจ้าส์ในงานประลองยุทธ์ จงเอาชนะคนของสํานักมังกรฟ้าให้ได้! ดีที่สุดหากเจ้าสังหารพวกมันอย่างไม่ต้องลังเลใด!” หลงเปยกล่าวค่าชี้แนะ

 

“ข้าทราบขอรับ!” ฉินหยุนพยักหน้ารับ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+