“ผู้นำตระกูลหลี่ได้นำพาผู้แข็งแกร่งแดนเทพไปหนึ่งกลุ่มไปต่อสู้กับราชวงศ์ซ่านกวน ได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มตายทั้งสองฝ่าย กษัตริย์ซ่านกวนได้รับบาดเจ็บสาหัส ยังไม่ทราบสถานการณ์ ตอนนี้ซ่านกวนโหรวหลานสาวของกษัตริย์ซ่านกวนทำหน้าที่ดูแลราชวงศ์ชั่วคราว”

“หลี่เจียงสงผู้นำตระกูลหลี่พาคนของตระกูลหลี่ที่ได้รับบาดเจ็บออกมาจากราชวงศ์”

“หลี่เจียงสงบอกว่าถ้าเขาจะไม่ตายก็จะไม่ยอมรามือ เมื่อตระกูลหลี่ฟื้นตัวแล้ว ต้องให้ราชวงศ์ชดใช้อย่างแน่นอน!”

……

ข่าวมากมายที่พาดหัวข่าวเกินจริงปรากฏในพาดหัวข่าวของเมืองราชวงศ์ซ่านกวน

ชั่วขณะหนึ่ง คนทั่วทั้งเมืองราชวงศ์ซ่านกวนต่างรู้สึกตกตะลึง

ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่กองกำลังตระกูลอื่นที่อยู่นอกเมืองราชวงศ์ซ่านกวน ตอนที่พวกเขาได้ยินข่าวนี้ พวกเขาต่างรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก

เมืองราชวงศ์ซ่านกวน คฤหาสน์ขนาดใหญ่ เหนือประตูทางเข้าและทางออก มีแผ่นโลหะสีทองขนาดใหญ่ที่มีคำว่าโต่วซื่อกรุ๊ป

ตระกูลโต่วเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองราชวงศ์ซ่านกวน ซึ่งมีชื่อเสียงพอ ๆ กับตระกูลหลี่ สืบทอดมาเป็นเวลาหลายร้อยปี

แม้ว่าความแข็งแกร่งของตระกูลโต่วจะสู้ตระกูลหลี่ไม่ได้ แต่มีชื่อเสียงพอ ๆ กับตระกูลหลี่ ก็เพียงพอที่จะแสดงให้เห็นว่าตระกูลโต่วนั้นแข็งแกร่งเพียงใด แม้ว่าจะอ่อนแอกว่าตระกูลหลี่ แต่ก็ไม่ได้อ่อนแอมากนัก

ขณะนี้ ห้องประชุมของอาคารแบบโบราณ สมาชิกระดับสูงของโต่วซื่อกรุ๊ปกำลังนั่งอยู่รอบโต๊ะประชุม

หัวหน้าเป็นชายชราผมขาวอายุประมาณเจ็บสิบปี ชายชราสวมชุดราชวงศ์ถังสีดำและรองเท้าผ้าเรียบง่าย บนร่างกายของเขายังมีพลังบูโดจาง ๆ ที่กดทับทุกคน จนทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าถูกภูเขากดทับอยู่บนไหล่

ชายชราไม่ใช่ใครอื่น คือโต่วเฮ่อ ซึ่งเป็นผู้นำตระกูลโต่ว

“ทุกคนรู้ข่าวราชวงศ์และตระกูลหลี่แล้วใช่ไหม? ตอนนี้ทุกคนยกมือเพื่อลงคะแนนเสียง หากคุณเห็นด้วยที่จะลงโจมตีราชวงศ์ ก็ให้ยกมือขึ้น!”

โต่วเฮ่อกวาดสายตาไปทั่วห้อง ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยปากพร้อมยกมือขวาขึ้น

เห็นได้ชัดว่าเขาเลือกที่จะโจมตีราชวงศ์

ในห้องประชุม มีสมาชิกระดับสูงของโต่วซื่อกรุ๊ปสิบกว่าคน หลังจากโต่วเฮ่อกล่าวจบ คนที่อยู่ในห้องประชุมสิบกว่าคนยกมือเกือบจะพร้อมกันโดยไม่ลังเล

“อนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์ เมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นคราวนี้โต่วซื่อกรุ๊ปจะสามารถแทนที่ราชวงศ์ซ่านกวนได้หรือไม่นั้นก็ขึ้นอยู่กับทุกคนแล้ว หลังจากครึ่งชั่วโมง ผู้แข็งแกร่งแดนเทพทั้งหมดจะไปที่ราชวงศ์ซ่านกวนพร้อมกัน!”

โต่วเฮ่อออกคำสั่ง คำพูดของเขานั้นสงบ แต่ทุกคนที่นี่ ดูเหมือนจะสามารถสัมผัสถึงความตื่นเต้นภายในใจของโต่วเฮ่อในขณะนี้ได้

“ครับ!”

ฝูงชนตอบรับเสียงดัง

ไม่เพียงแค่โต่วเฮ่อเท่านั้น แต่ทุกคนก็รู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน

นอกจากราชวงศ์แล้ว โต่วซื่อกรุ๊ปเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองราชวงศ์ซ่านกวน ราชวงศ์ซ่านกวนและตระกูลหลี่ต่อสู้กันจนผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ตอนนี้มองแล้วทั่วทั้งเมืองราชวงศ์ซ่านกวน เหลือเพียงไช่ซื่อกรุ๊ปที่เป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ ซึ่งพอจะมีคุณสมบัติที่จะแข่งขันกับโต่วซื่อกรุ๊ปได้

เพียงแต่ไช่ซื่อกรุ๊ปเป็นตระกูลอ่อนแอที่สุดในสามตระกูลใหญ่ หลายปีที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าถูกหลี่ซื่อกรุ๊ปและโต่วซื่อกรุ๊ปปราบจนเกือบจะล่มสลายไปแล้ว

ในสายตาของหลี่ซื่อกรุ๊ปและโต่วซื่อกรุ๊ปแล้ว ไช่ซื่อกรุ๊ปไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการจัดอันดับเป็นสามตระกูลใหญ่ควบคู่ไปกับสองตระกูลอีกต่อไป

นั่นหมายความว่า ตอนนี้ในสายตาของโต่วซื่อกรุ๊ปแล้ว ตอนนี้ในเมืองราชวงศ์ซ่านกวนไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของโต่วซื่อกรุ๊ปแล้ว

เกือบจะเวลาเดียวกัน ไช่ซื่อกรุ๊ปซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลใหญ่

ห้องประชุมไช่ซื่อกรุ๊ป ไช่เสียนซึ่งผู้นำไช่ซื่อกรุ๊ป กำลังนั่งอยู่บนที่นั่งของผู้นำ แล้วคนของไช่ซื่อกรุ๊ปนั่งอยู่ด้านล่าง

ขณะนี้ สีหน้าของสมาชิกไช่ซื่อกรุ๊ปทุกคนเต็มไปด้วยท่าทางเคร่งขรึม

“ผู้นำ พวกเราจะเข้าไปแทรกแซงศึกชิงราชวงศ์จริงหรือ?”

ผู้อาวุโสคนหนึ่งของไช่ซื่อกรุ๊ปกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตอนนี้ความแข็งแกร่งของไช่ซื่อกรุ๊ปไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แม้ว่านี่จะเป็นโอกาสที่ดี แต่ยังมีโต่วซื่อกรุ๊ปอยู่พวกเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโต่วซื่อกรุ๊ป”

หลังจากอีกฝ่ายกล่าวจบ ผู้อาวุโสอีกคนหนึ่งลุกขึ้นแล้วกล่าวว่า “ผู้นำ โปรดคิดใหม่เถอะ! ตอนนี้สำหรับไช่ซื่อกรุ๊ปแล้ว การซ่อนเร้นความสามารถถึงจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ศึกชิงราชวงศ์คราวนี้ พวกเราล้มเลิกเถอะ!”

สองคนนี้เป็นผู้อาวุโสของไช่ซื่อกรุ๊ป และมีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่กล้าต่อต้านไช่เสียนเช่นนี้

หลังจากพวกเราสองคนกล่าวจบ คนอื่น ๆ ต่างเงียบ หลังจากนั้นครู่หนึ่ง สายตาของทุกคนก็จับจ้องไปที่ไช่เสียน

ไช่เสียนไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น การที่เขาเรียกประชุมฉุกเฉินเช่นนี้ เพื่อที่จะปรึกษาหารือกับคนในตระกูลว่าจะเข้าร่วมศึกชิงราชวงศ์คราวนี้หรือไม่

ตอนนี้ สมาชิกอาวุโสที่สุดของไช่ซื่อกรุ๊ปสองคนได้แสดงการคัดค้าน และดูเหมือนว่าเขาจำเป็นต้องประนีประนอม

“ผมรู้ความกังวลของทุกคน แต่ความเปลี่ยนแปลงของราชวงศ์คราวนี้ เป็นโอกาสเดียวที่ไช่ซื่อกรุ๊ปของพวกเราจะได้ขึ้นครองตำแหน่ง”

ไช่เสียนกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ถ้าปล่อยโอกาสที่ดีเช่นนี้ผ่านไป ผมไม่เต็มใจจริง ๆ ไช่ซื่อกรุ๊ปนั้นเสื่อมโทรมมากเกินไปแล้ว หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าวันหนึ่งความรุ่งโรจน์ของไช่ซื่อกรุ๊ปจะหายไปอย่างสิ้นเชิง”

หลังจากได้ยินคำพูดของไช่เสียนแล้ว คนอื่น ๆ ต่างแสดงสีหน้าไม่เต็มใจเช่นกัน เหนือไช่ซื่อกรุ๊ปนั้นยังมีโต่วซื่อกรุ๊ปที่แข็งแกร่งกว่า และแม้ว่าพวกเขาจะเข้าไปแทรกแซง แต่พวกเขาก็จะไม่มีโอกาสชนะ

“ผู้นำ ผมเห็นด้วยที่จะเข้าร่วมศึกชิงราชวงศ์!”

ขณะนี้ มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งลุกขึ้นและกล่าวทันที

ชั่วขณะหนึ่ง สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ชายวัยกลางคน

สีหน้าของชายวัยกลางคนคนนั้นสงบ และดวงตาที่ฉลาดของเขานั้นเป็นประกาย เขามองไช่เสียนและกล่าวว่า “ผู้นำรู้ว่าภรรยาของผมเป็นสมาชิกของตระกูลฟั่น ซึ่งเป็นตระกูลชั้นสูงแห่งเมืองราชวงศ์เย่”

“กล่าวโดยไม่ปิดบังผู้นำ เมื่อสักครู่ก่อนที่ผมจะเข้าร่วมการประชุม พ่อตาของผมติดต่อผมเป็นการส่วนตัว โดยบอกว่าถ้าไช่ซื่อกรุ๊ปต้องการเข้าร่วมศึกชิงราชวงศ์ พวกเขายินดีที่จะช่วยเหลือตระกูลไช่”

“ตระกูลฟั่นเป็นหนึ่งในตระกูลชั้นสูงแห่งเมืองราชวงศ์เย่ ในแง่ของความแข็งแกร่ง ก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าไช่ซื่อกรุ๊ป หากผู้นำเต็มใจ ตระกูลฟั่นยินดีที่จะส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดห้าคนมาช่วยไช่ซื่อกรุ๊ป”

หลังจากชายวัยกลางคนกล่าวประโยคนี้ออกมา ทุกคนรู้สึกยินดีปรีดา ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความหวัง

ผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดห้าคน ความแข็งแกร่งดังกล่าว สามารถเทียบไช่ซื่อกรุ๊ปได้แล้ว

“ไช่เฉียง จริงหรือ? ตระกูลฟั่นจะส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดห้าคนมาช่วยพวกเราจริงเหรอ?”

ไช่เสียนรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของตระกูลฟั่นแห่งเมืองราชวงศ์เย่เป็นอย่างดี อย่างมากที่สุดก็พอ ๆ กับไช่ซื่อกรุ๊ป แล้วการที่พวกเขาส่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดห้าคนมาพร้อมกัน มันรู้สึกเหลือเชื่อ

ถึงแม้จะเป็นไช่ซื่อกรุ๊ป ก็มีผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดเพียงสามคนเท่านั้น

ไช่เฉียงพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “พ่อตาของผมรับรองด้วยตนเอง หากผู้นำรู้สึกกังวล สามารถรอจนกระทั่งผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดห้าคนของตระกูลฟั่นมาถึงตระกูลไช่ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมศึกชิงราชวงศ์หรือไม่?”

“โอเค!”

ไช่เสียนรู้สึกยินดีปรีดามากและกล่าวอย่างรวดเร็วว่า “ตอนนี้คุณรีบติดต่อตระกูลฟั่นทันที บอกพวกเขาว่าขอเพียงตระกูลฟั่นสามารถช่วยให้ตระกูลไช่กลายเป็นราชวงศ์ได้ ตระกูลฟั่นจะเป็นผู้มีพระคุณของตระกูลไช่ และไช่ซื่อกรุ๊ปจะไม่ทำให้ตระกูลฟั่นต้องผิดหวัง!”

“ครับ ผู้นำ ผมจะติดต่อพ่อตาทันที!” ไช่เฉียงกล่าวอย่างรวดเร็ว

ไม่นาน ไช่เฉียงได้ติดต่อกับพ่อตาของเขา พ่อตาของเขากล่าวว่าผู้แข็งแกร่งแดนเทพชั้นยอดทั้งห้าคนจะมาถึงเมืองราชวงศ์ซ่านกวนภายในสองชั่วโมง

ไม่เพียงแค่โต่วซื่อกรุ๊ปและไช่ซื่อกรุ๊ปเท่านั้น กองกำลังของตระกูลที่แข็งแกร่งทั่วทั้งเมืองราชวงศ์ซ่านกวน กำลังเคลื่อนไหวที่จะก่อการร้ายแล้ว