The King of Warบทที่ 1489 กลอุบาย

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 1489 กลอุบาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

มองดูซ่านกวนจื่อฉินที่ขับรถออกไป หลี่เจียงสงคิดลึกๆ ในใจ

“ซ่านกวนจื่อฉินกำลังจะบอกฉันว่าห้ามแตะต้องหยางเฉินงั้นหรือ?” จู่ๆ เขาก็บ่นขึ้นมา

จากนั้นเขาก็มาที่ห้องของหลี่จ้ง และได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่ซ่านกวนจื่อฉินบอกกับเขา พร้อมทั้งออกความเห็นเกี่ยวกับการคาดเดาของเขา

ทันใดนั้น หน้าตาของหลี่จ้งดูเคร่งขรึมและพูดว่า “กษัตริย์ซ่านกวนหมายความอย่างไรกันแน่?”

แม้กระทั่งหลี่จ้งเองก็ไม่รู้ว่าแผนการของกษัตริย์ซ่านกวนตอนนี้คืออะไร แต่ก่อนอื่นให้ซ่านกวนจื่อฉินพูดเรื่องงานแต่งก่อน และในตอนท้ายค่อยแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันสนิทสนมระหว่างหยางเฉินกับราชวงศ์ซ่านกวน

สองเรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แต่ก็เหมือนจะเกี่ยวข้องกันอยู่นิดหน่อย ไม่อย่างนั้นกษัตริย์ซ่านกวนคงไม่ให้ซ่านกวนจื่อฉินมาบอกสองเรื่องนี้กับเขา

“ท่านพ่อ ตอนนี้เราควรทำอย่างไรครับ? เรายังจะเสี่ยงลงมือกับหยางเฉินอีกไหม?” หลี่เจียงสงถาม

หลี่จ้งส่ายหัว “ในเมื่อราชวงศ์ซ่านกวนได้ใบ้ให้เราอย่างชัดเจนขนาดนี้แล้ว ถ้าเราลงมือกับหยางเฉินในตอนนี้ มันจะทำให้ราชวงศ์ซ่านกวนไม่พอใจเป็นอย่างมากแน่นอน”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เราคงต้องยกเลิกแผนการลงมือกับหยางเฉินไปก่อน ถ้าหากเขาได้สูญเสียศิลปะการต่อสู้ไปแล้วจริงๆ ถึงปล่อยเขาไปก็ไม่ทำให้เกิดเรื่องอะไร แต่ถ้าศิลปะการต่อสู้ยังคงอยู่ เราลงมือกับเขาตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากขุดหลุมฝังศพตัวเอง ในเมื่อราชวงศ์ซ่านกวนอยากให้เราปล่อยหยางเฉินไป งั้นก็ปล่อยเขาไป”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของหลี่เจียงสงดูกังวล พร้อมกับพูดว่า “ท่านพ่อครับ ท่านคิดเหมือนกันไหมว่าราชวงศ์ซ่านกวนต้องไปรู้เรื่องอะไรมาแน่ๆ เพราะพวกเขาก็เริ่มสงสัยเรื่องที่หยางเฉินได้สูญเสียศิลปะการต่อสู้ไป ดังนั้นพวกเขาจึงใช้โอกาสนี้ให้หยางเฉินอยู่ในภายใต้การดูแลของราชวงศ์ซ่านกวนแล้วค่อยหาวิธีถามความลับบางอย่างจากตัวหยางเฉิน?”

หลี่จ้งพยักหน้า “ก็มีความเป็นไปได้ แต่กษัตริย์ซ่านกวนคนนี้ร้ายลึกและคาดเดาได้ยากมาก แม้ทุกวันนี้เขาจะดูอ่อนโยนเข้ากับคนง่าย แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครรู้ว่าลึกๆแล้วเขากำลังคิดอะไรอยู่”

“อย่างไรก็ตาม ตระกูลหลี่ยังไม่ควรอยู่ฝั่งตรงข้ามกับราชวงศ์ซ่านกวน ในเมื่อพวกเขาต้องการจัดงานแต่งงาน ก็ทำตามในสิ่งที่พวกเขาต้องการไปก่อน”

“แกไปเตรียมสินสอดให้พร้อม อีกสามวัน พาหลี่เป่าจุ้นไปราชวงศ์ซ่านกวนด้วยตัวเอง และจัดการเรื่องสู่ขอพร้อมกำหนดวันจัดงานให้เรียบร้อย”

หลี่เจียงสงรีบพยักหน้าตอบรับ “ครับ ท่านพ่อ!”

ในเวลาเดียวกัน ที่พักของกษัตริย์ซ่านกวนในราชวงศ์ซ่านกวน “ฝ่าบาท ทำไมจู่ๆ เอ็งถึงคิดจะให้ซ่านกวนโหรวแต่งงานกับตระกูลหลี่ล่ะ?”

ชายชราในชุดธรรมดาเดินออกมาจากด้านข้างด้วยสีหน้าที่สงสัยเล็กน้อย

กษัตริย์ซ่านกวนขำเล็กน้อย มองไปที่ชายชราแล้วพูดว่า “ทำไม? คราวนี้แม้กระทั่งเสด็จอาเองก็ดูไม่ออกแล้วเหรอครับ ว่าผมคิดจะทำอะไร?”

ปรากฏว่าชายชราในชุดธรรมดาคนนี้คือลุงของกษัตริย์ซ่านกวน ชื่อซ่านกวนฟู่เป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นเดียวกับหลี่จ้ง

แต่ในราชวงศ์ซ่านกวน มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ความเป็นอยู่ของซ่านกวนฟู่

ซ่านกวนฟู่หัวเราะ “ฮ่า ฮ่า!” แล้วพูดว่า “ถึงแม้ฉันจะดูแผนการของเอ็งไม่ออก แต่ฉันรู้ว่าที่เอ็งทำแบบนี้ จะต้องมีจุดประสงค์ของตัวเองแน่นอน”

กษัตริย์ซ่านกวนหัวเราะ “ผมจะใบ้ให้เสด็จอานะครับ เรื่องที่จะให้โหรวเอ๋อร์แต่งเข้าตระกูลหลี่ มันมีความเกี่ยวข้องกับหยางเฉิน”

ซ่านกวนฟู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาก็เคยคิดว่าสองเรื่องนี้อาจมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ก็คิดไม่ได้สักทีว่า การเตือนของกษัตริย์ซ่านกวนในตอนนี้ พิสูจน์ได้แล้วว่าสองเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกันจริงๆ

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ทันใดนั้นซ่านกวนฟู่พูดขึ้นว่า “สมแล้วที่เป็นฝ่าบาทรุ่นใหม่ที่ฉันซ่านกวนฟู่เลือกขึ้นมา ฉลาดจริงๆ”

กษัตริย์ซ่านกวนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ดูเหมือนว่าเสด็จอาจะรู้แผนการของผมแล้ว”

ซ่านกวนฟู่พยักหน้าแล้วพูดว่า “มีข่าวลือว่า หยางเฉินสูญเสียศิลปะการต่อสู้แล้ว แต่นั่นก็เป็นแค่ข่าวลือ หากข่าวลือนั้นเป็นจริง ด้วยความแข็งแกร่งของตระกูลหลี่ในตอนนี้ ต่อให้โหรวเอ๋อร์แต่งงานกับตระกูลหลี่ สำหรับราชวงศ์ซ่านกวนแล้ว ก็แค่สูญเสียทายาทที่เก่งคนหนึ่งไปก็แค่นั้น”

“แม้ว่าโหรวเอ๋อร์จะเก่งแค่ไหน แต่ยังไงเธอก็เป็นเด็กผู้หญิง เอ็งสามารถแต่งตั้งให้ซ่านกวนจื่อฉินพ่อของโหรวเอ๋อร์เป็นฝ่าบาทคนต่อไปได้ ถ้าเป็นเช่นนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์ซ่านกวนและตระกูลหลี่ก็จะใกล้ชิดกันมากขึ้น เพราะความสัมพันธ์ที่มีต่อโหรวเอ๋อร์ ตระกูลหลี่จะต้องช่วยเหลือซ่านกวนจื่อฉินสุดกำลังอย่างแน่นอน”

กษัตริย์ซ่านกวนพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อเสด็จอาสามารถเดาแผนการนี้ออก แสดงว่าแผนอื่นก็คงจะเดาออกแล้ว?”

ซ่านกวนฟู่พูดต่อว่า “ที่ข้าพูดเมื่อกี้นี้คือ ในกรณีที่หยางเฉินได้สูญเสียศิลปะการต่อสู้แล้ว แต่หากหยางเฉินไม่ได้สูญเสีย ก็แสดงว่ากำลังทดสอบตระกูลหลี่อยู่ แต่ตระกูลหลี่นั้นล้มเหลวตั้งแต่เริ่มสงสัยหยางเฉินแล้ว”

“เมื่อพูดเช่นนี้ แน่นอนว่าหยางเฉินอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลหลี่ และเอ็งเองก็รู้ว่าเขาเป็นคนที่เห็นคุณค่าของความรักและความชอบธรรม ถ้าเขารู้ว่าที่โหรวเอ๋อร์ต้องแต่งงานกับตระกูลหลี่ก็เพื่อช่วยเขา ด้วยนิสัยของหยางเฉินเขาไม่ยอมให้มีงานแต่งนี้เกิดขึ้นแน่นอน”

“ไม่เพียงแค่นี้ เขายังจะลงมือกับตระกูลหลี่ด้วย และเอ็งก็จะใช้โอกาสนี้เพื่อทำลายล้างตระกูลหลี่!”

“ดังนั้น แผนการที่ให้โหรวเอ๋อร์แต่งงานกับตระกูลหลี่ ไม่ว่าศิลปะการต่อสู้ของหยางเฉิน จะเสียไปแล้วหรือไม่ก็จะไม่มีข้อเสียใดๆกับราชวงศ์ซ่านกวนเพราะผลลัพธ์สุดท้ายก็คือราชวงศ์ซ่านกวนจะแข็งแกร่งขึ้น”

หลังจากฟังซ่านกวนฟู่พูดจบ กษัตริย์ซ่านกวนก็หัวเราะ “สมแล้วที่เป็นเสด็จอา ทุกแผนการที่ผมวางไว้ไม่เคยหลบสายตาของเสด็จอาได้เลย”

พูดจบ เขาได้จ้องไปที่ซ่านกวนฟู่อีกรอบด้วยสายตาที่แหลมคมและถามว่า “เสด็จอา คุณบอกผมได้ไหมว่า ระดับบู๊ของคุณตอนนี้ ถึงแดนไหนแล้ว?”

ซ่านกวนฟู่ยิ้มแล้วไม่พูดอะไร พูดแค่ว่า “เอ็งรู้แค่ว่า เมืองราชวงศ์ซ่านกวน ยังคงอยู่ภายใต้ราชวงศ์ซ่านกวน แค่ตระกูลหลี่เพียงครอบครัวเดียวมันยังไม่เพียงพอ”

คำพูดที่เย่อหยิ่งเหล่านี้ ทำให้กษัตริย์ซ่านกวนรู้สึกเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขารู้ว่าซ่านกวนฟู่นั้นแข็งแกร่งมาก แต่คิดไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งถึงขั้นเพิกเฉยตระกูลหลี่ นั่นแสดงว่าความแข็งแกร่งของซ่านกวนฟู่ในตอนนี้ ต้องอยู่เหนือกว่าหลี่จ้งแล้ว

เมื่อนึกถึงแผนการทุกอย่างที่ตัวเองวางไว้ กษัตริย์ซ่านกวนยิ้มด้วยมุมปากแล้วส่ายหัว “แม้ว่าฉันจะไม่ได้วางแผนทั้งหมดนี้ตระกูลหลี่ก็ช่วยอะไรราชวงศ์ซ่านกวนไม่ได้อยู่แล้ว!”

ในเวลาเดียวกันที่ตระกูลหลี่

“ท่านพ่อครับ เมื่อไหร่จะปล่อยหยางเฉินเหรอครับ?” หลี่เจียงสงถาม

หลี่จ้งตอบ “แกไปปล่อยตัวเขาเดี๋ยวนี้เลย”

“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ” หลี่เจียงสงพูดเสร็จก็หันหลังเดินออกไปทันที

“เดี๋ยวก่อน!”

เขาที่เดินไปถึงประตู ก็ถูกหลี่จ้งเรียกให้หยุด

หลี่จ้งหรี่สายตาพร้อมพูดว่า “ไม่ว่าจุดประสงค์ของกษัตริย์ซ่านกวนคืออะไร ในเมื่อเขาต้องการจะแย่งคนไปจากเรา เราสามารถให้เขาได้ แต่จะไม่ปล่อยให้เขาเอาคนไปง่ายๆ แบบนี้อีก”

“ท่านพ่อ ความหมายของท่านคือ?”

หลี่เจียงสงตกใจ และถามอย่างเกรงๆ

หลี่จ้งพูดว่า “แกไปบอกหยางเฉิน ไม่รู้กษัตริย์ซ่านกวนไปได้ยินมาจากไหน ว่าหยางเฉินได้สูญเสียศิลปะการต่อสู้แล้ว จึงส่งคนมาที่ตระกูลหลี่เพื่อขอตัวเขา ให้เขาไปเข้าพบราชวงศ์ซ่านกวนเดี๋ยวนี้”

ดวงตาของหลี่เจียงสงเปล่งประกายขึ้นมาทันที ทีแรกซ่านกวนจื่อฉินพูดว่ากษัตริย์ซ่านกวนบอกว่า หยางเฉินเป็นเพื่อนของราชวงศ์ซ่านกวน หากบอกหยางเฉินตามที่หลี่จ้งสั่งมานั้น จะทำให้หยางเฉินเป็นศัตรูกับราชวงศ์ซ่านกวนอย่างแน่นอน

ขณะนี้ ในคฤหาสน์ของหยางเฉิน เขายังคงนั่งขัดสมาธิเพื่อฝึกเทคนิคการหายใจขั้นหนึ่งของคัมภีร์ต้าเต้าเทียนหยานอย่างไม่หยุด

เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ยังคงเป็นเทคนิคการหายใจขั้นหนึ่งที่ได้แค่ห้าถึงหกวินาทีเหมือนเดิม แต่โชคดีที่เพราะห้าหกวินาทีของทุก ๆ ครั้งที่สะสมมา จึงทำให้อาการบาดเจ็บในร่างกายของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ในเวลานี้ก็มีคนมาเคาะประตู หลี่เจียงสงเดินเข้ามาอย่างระมัดระวัง เหลือบมองไปที่หยางเฉินกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่อย่างกลัวๆ และพูดว่า “คุณหยางครับ ไม่รู้ว่ากษัตริย์ซ่านกวนไปรู้มาจากไหนว่าคุณสูญเสียศิลปะการต่อสู้ และส่งคนมาหาคุณ บอกว่าให้คุณรีบเข้าพบราชวงศ์ซ่านกวนเดี๋ยวนี้ หากไปช้า คุณต้องรับผิดชอบกับผลที่จะตามมาด้วยตัวเอง!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *