The King of Warบทที่ 1740 หยุดพักหน่อยเถอะ

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 1740 หยุดพักหน่อยเถอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บริเวณโดยรอบของจวนมู่ มีผู้แข็งแกร่งมากมายซ่อนตัวอยู่ ในเวลานี้ ผู้แข็งแกร่งของตระกูลเจียงได้เริ่มลงมือ สมาชิกในแต่ละตระกูล ต่างก็อยากจะลงมือ
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ยังไม่มีใครลงมือ
ก่อนหน้านี้ที่จวนเมืองหวยเฉินและจวนมู่เปิดศึกกัน การต่อสู้กันอย่างดุเดือด พวกเขาได้ฟังจากการร่ำลือเท่านั้น ส่วนความแข็งแกร่งของเจ้าเมืองมู่และนักดาบเงาเพชฌฆาตนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน พวกเขาไม่รู้
ด้วยเหตุนี้เอง พวกเขาจึงซ่อนตัวอยู่รอบๆจวนมู่เป็นเวลานาน และไม่ยอมลงมือสักที ต่างก็รอมีคนลงมือก่อน แล้วสังเกตดูความแข็งแกร่งที่แท้จริงของเจ้าเมืองมู่กับนักดาบเงาเพชฌฆาตก่อน ค่อยตัดสินใจว่าจะลงมือหรือไม่
ในขณะนี้ นักดาบเงาเพชฌฆาตใช้ดาบเดียวก็สามารถขวางผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลาย ทั้งสามไว้ได้ ทำให้ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดต้องตกตะลึงกับสิ่งนี้
“ใช้ดาบเพียงเล่มเดียว ก็คิดจะขวางทางพวกเรางั้นหรือ?”
ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งของตระกูลเจียงก็เยาะเย้ย แล้วโบกมือใหญ่”ฆ่า!”
ทันทีที่เสียงของเขาลดลง เขาก็พุ่งตรงไปที่นักดาบเงาเพชฌฆาตเป็นคนแรก
ผู้แข็งแกร่งอีกสองคนของตระกูลเจียงก็รีบพุ่งเข้าไปหานักดาบเงาเพชฌฆาตด้วยกัน
นักดาบเงาเพชฌฆาตดึงดาบยาวที่จมอยู่ใต้ดินครึ่งหนึ่งออกมา และวินาทีที่เขาถือดาบยาว รัศมีความรุนแรงก็ปะทุออกมาจากเขาในทันใด
ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคนในทันใด เดิมที เขามีเพียงลมหายใจของแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายเท่านั้น และเขาก็เข้าสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดโดยตรง
“ฆ่า!”
นักดาบเงาเพชฌฆาตตะโกนในทันใด และดาบยาวในมือของเขาก็เหวี่ยงออกไปในทันที
“บูม!”
เสียงดังปั้ง
ดาบยาวข้ามผ่าน และลำธารก็ปรากฏบนพื้นโดยตรง
วินาทีถัดมา ร่างกายของเขาก็ขยับ
เกือบจะในทันที เขาปรากฏตัวต่อหน้าชายฉกรรจ์ทั้งสามคน ยกดาบยาวในมือขึ้นมา และเหวี่ยงไปทางชายผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง
“พู่!”
แสงดาบวูบวาบ แขนหนึ่งตกลงไปบนพื้นโดยตรง
“อ๊าก…มือของผม มือผม…”
เป็นผู้แข็งที่พูดว่าจะลงมือคนนั้น แขนทั้งแขนของเขาถูกตัดออกด้วยดาบยาวโดยตรง ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ร่ำร้องอย่างทรมาน
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ผู้แข็งแกร่งอีกสองคนต่างก็หวาดกลัว เท้าที่พุ่งเข้าหานักดาบเงาเพชฌฆาตก็หยุดลงกลางทาง
ผู้แข็งแกร่งที่ถูกดาบยาวของนักดาบเงาเพชฌฆาตเฉือนแขนนั้น เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาพวกเขาทั้งสามคน
แม้แต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดยังโดนตัดแขนไปข้างนึง พวกเขาไป ก็เท่ากับไปตายฟรีไม่ใช่หรอกเหรอ?
“ปัง!”
ในขณะนั้น เสียงชนกันทื่อๆดังขึ้น และร่างวัยกลางคนก็บินออกไปไกลหลายสิบเมตร และกระแทกเข้ากับหินเทียมที่ทางเข้าจวนมู่
ชายวัยกลางคนที่ถูกโจมตีจนบินออกไปนั้น คือเจียงเหยียน
ในทางกลับกัน เจ้าเมืองมู่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น ไม่เปลี่ยนสีหน้า ราวกับว่าคนที่เพิ่งผ่านการต่อสู้อันดุเดือดไม่ใช่เขา
เจียงเหยียนลุกขึ้นจากพื้นดิน ใบหน้าของเขาซีด และมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขาด้วย
เจียงเหยียนกัดฟันและพูดว่า “ไอ้เฒ่า! แกกล้าดียังไงมาทำร้ายผม!”
เจ้าเมืองมู่กล่าวอย่างเย็นชา“แพ้ไม่เป็น?”
เจียงเหยียนหายใจเข้าลึกๆสองสามครั้ง และพยายามสงบสติอารมณ์ของตนเอง สำหรับเขา นี่เป็นความอัปยศอดสูอย่างยิ่ง
เขาเป็นถึงสมาชิกของตระกูลบู๊โบราณแห่งตระกูลเจียง เคยได้รับความอับอายเช่นนี้ที่ไหนกัน?
เขาพาผู้แข็งแกร่งสามคนมาที่จวนมู่เพื่อมาขอตัวหยางเฉิน แต่พ่ายพ้ให้กับคู่ต่อสู้อย่างง่ายดาย และผู้ใต้บังคับบัญชาคนหนึ่งของเขาก็ถูกตัดแขนอีกด้วย
เจียงเหยียนจ้องไปที่เจ้าเมืองมู่อย่างโกรธเคืองและกล่าวว่า”ดี! ดีมาก เจ้าเมืองมู่ ผมจะจำคุณไว้! หวังว่าคุณจะไม่มาเสียใจภายหลังกับสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้”
หลังจากพูดจบ เขาก็โบกมือ”ไปกันเถอะ!”
ผู้แข็งแกร่งสามคนในตระกูลเจียงก็รีบตามเจียงเหยียนจากไป
เจ้าเมืองมู่หรี่ตาลงอย่างเย็นชา และทันใดนั้นก็กวาดสายตาไปรอบๆจวนมู่ และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “อย่าคิดว่าพวกคุณซ่อนตัวอยู่ในที่ลับ ผมก็จะไม่รู้ว่าพวกคุณเป็นใคร ขอเตือนนะ รีบไสหัวไปซะ หากใครกล้ามายั่วยุจวนมู่อีก ผมรับรองว่าจะไม่ปล่อยให้เขามีชีวิตรอดออกไปจากบ้านมู่ไปได้”
หลังจากพูดจบ มู่ฮว๋าก็ดันรถเข็นและพาเขาไป
นักดาบเงาเพชฌฆาตก็รีบตามไปด้วย
จนกระทั่งหลังจากกลับมาถึงที่ห้อง เจ้าเมืองมู่ก็ไออย่างรุนแรง
“เจ้าเมือง!”
สีหน้าของมู่ฮว๋าเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และรีบก้าวไปข้างหน้า
นักดาบเงาเพชฌฆาตก็มองไปที่เจ้าเมืองมู่ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม เจ้าเมืองมู่ส่ายหัวเล็กน้อย ใบหน้าขาวซีด และพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ“คาดไม่ถึงว่า ความแข็งแกร่งของรุ่นหลานตระกูลเจียงผู้นี้จะน่ากลัวขนาดนี้ หากผมไม่ใช้ท่าไม้ตาย คงไม่ง่ายที่จะทำให้เขาพ่ายแพ้”
“สิ่งสำคัญคือ ฝ่ายตรงข้ามมีความแข็งแกร่งเป็นเพียงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นปลายเท่านั้น ก็สามารถกดดันผมมาถึงขั้นนี้แล้ว”
นักดาบเงาเพชฌฆาตรู้สึกประหลาดใจมากและกล่าวว่า “เจ้าเมือง ผมกำลังครุ่นคิดอยู่ว่า การที่เราปกป้องหยางเฉินอย่างสุดกำลังมันเป็นเรื่องดีหรือร้ายกันแน่?”
เจ้าเมืองมู่หัวเราะ “เราได้เลือกแล้วไม่ใช่หรือ?ในโลกนี้ ไม่มีหรอก ผลประโยชน์ที่ได้มาโดยไม่ต้องเสี่ยง?”
“ตอนนี้ จะพูดอะไรก็สายเกินไปแล้ว สิ่งที่เราต้องทำคือพยายามพัฒนาความแข็งแกร่งของเรา ถ้า เจียงเหยียนนำผู้แข็งแกร่งที่แข็งแกร่งกว่ามาอีก เราจะสู้ได้หรือไม่นั้นยังไม่รู้เลย”
นักดาบเงาเพชฌฆาตกล่าว”หรือว่า พวกเขายังกล้าส่งผู้แข็งแกร่งแดนนภามางั้นหรือ?มีพันธมิตรพิทักษ์ อยู่ แม้แต่ตระกูลบู๊โบราณก็ไม่กล้าฝ่าฝืนกฏ!”
เจ้าเมืองมู่ส่ายหัว และกล่าวอย่างเคร่งขรึม“เมื่อก่อนไม่มีใครกล้าที่จะฝ่าฝืน เพราะพวกเขากลัวพันธมิตรพิทักษ์ และไม่มีผลประโยชน์มากพอ แต่ตอนนี้มันแตกต่างออกไป ตัวของหยางเฉินนั้นมีค่ามหาศาล แม้แต่ตระกูลบู๊โบราณก็ต้องการที่จะนำเขาไปเพื่อค้นหาความลับในตัวหยางเฉิน”
“ในเมื่อเราได้เลือกแล้ว เราก็ต้องปกป้องหยางเฉินให้ดีที่สุด ห้ามปล่อยให้เขาเกิดเรื่องเด็ดขาด”
นักดาบเงาเพชฌฆาตพยักหน้า “ท่านวางใจได้เลย ผมจะคอยดูแลหยางเฉินให้ดีแน่นอน”
เจ้าเมืองมู่กล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “ด้วยการต่อสู้ในวันนี้ มันน่าจะสามารถยับยั้งเหล่าผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ในที่ลับที่พร้อมจะลงมือทุกเมื่อ ผมจะจำศีลสักระยะ ช่วงนี้ คุณช่วยผมดูแลจวนมู่หน่อย”
นักดาบเงาเพชฌฆาตพยักหน้าแล้วถามว่า”ท่านวางแผนที่จะบุกทะลุแดนนภาหรือ?”
เจ้าเมืองมู่ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มขมขื่น“ยังไม่ถึงเวลา เป็นเพราะการต่อสู้กันอย่างเข้มข้นในช่วงนี้ ทำให้ผมเข้าใจอะไรบางอย่าง ผมจึงอยากจะจำศีลฝึกฝนสักระยะ ดูว่าแดนบูโดยังสามารถพัฒนาไปข้างหน้าได้ไหม”
นักดาบเงาเพชฌฆาตกล่าว”ท่านไม่ต้องกังวล มีผมอยู่ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าได้คิดที่จะมาหาเรื่องที่จวนมู่”
“โอเค!”
เจ้าเมืองมู่จากไปโดยตรง
ในเวลานี้ จวนมู่ บ้านหลังที่หยางเฉินพวกเขาพักอยู่
หวยหลันมองไปที่เฝิงเสียวหว่าน และพูดด้วยความไม่พอใจ”เสียวหว่าน เมื่อไหร่พี่หยางถึงจะตื่น? ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าเขาแกล้งทำเป็นหลับ?”
เฝิงเสียวหว่านดูงงงวย”เป็นไปได้อย่างไร? ทำไมพี่หยางต้องแกล้งหลับด้วย?”
ใบหน้าของหวยหลันแดงก่ำ พูดด้วยน้ำเสียงที่อายและโกรธว่า”เริ่มจากวันนี้ คุณช่วยพี่หยางเช็ดทำความสะอาดร่างกายของเขา”
“ได้สิ!”
เฝิงเสียวหว่านตอบตกลง
ทันใดนั้น หวยหลันทำท่าเหมือนแผนร้ายของตนสำเร็จ หัวเราะและพูดว่า”งั้นตกลงตามนี้นะ ห้ามกลับคำล่ะ!”
เฝิงเสียวหว่านไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า”ก็แค่ช่วยพี่เช็ดทำความสะอาดร่างกายไม่ใช่หรือ? ฉันก็เคยทำ มีอะไรน่าอาย?”
หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็เริ่มช่วยหยางเฉินเช็ดทำความสะอาดร่างกาย
หวยหลันรีบออกจากห้องไป และไม่นานก็มีเสียงกริ๊ดร้องดังออกมาจากห้อง หวยหลันดูได้ใจ หัวเราะและพูดว่า “สาวน้อย ตอนนี้รู้แล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่อยากเช็ดทำความสะอาดให้พี่หยาง?”
หลังจากที่เฝิงเสียวหว่านเช็ดทำความสะอาดร่างกายให้หยางจิ่วเทียนเสร็จออกมา ใบหน้าของเธอก็แดง แดงจนถึงคอของเธอ
ในเวลานี้ หยางจิ่วเทียนที่ฟื้นคืนสติแต่ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้ ในใจเต็มไปด้วยความขมขื่น “น้องชายนะน้องชาย ช่วงนี้แกเป็นอะไรของแกเนี่ย ฤดูใบไม้ผลิยังไม่มา!แกหยุดพักสักหน่อยได้ไหม? ”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *