The King of Warบทที่ 1875

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 1875 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1875
ฉินยีมาแล้ว
ในเวลานี้ ทุกคนต่างจับจ้องไปที่ร่างสีดำ
หม่าชาวยังคงตะลึงอยู่กับที่ แต่เดิมเขาคิดว่าตนกำลังจะตายแล้วแต่จู่ๆ ก็มีคนมาช่วยไว้
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายสองคนที่กำลังปิดล้อม หนิงเทียนเหอ อยู่ก็หยุดการโจมตีลงเช่นกัน พวกเขามองไปที่ร่างสีดำที่อยู่ข้างหน้าหม่าชาวด้วยสีหน้าตกใจ
“สวัสดีผู้อาวุโส พวกเรามาจากตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่ มีความแค้นกับหยางเฉินแห่งสมาพันธ์บูโด ที่เรามาที่นี่ในวันนี้ก็เพื่อชำระความแค้นระหว่างพวกเรากับหยางเฉิน โปรดผู้อาวุโสอย่าได้เข้ามายุ่งเกี่ยว”
ในเวลานี้ หนึ่งในสองของผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายที่ติงเหวินจัวนำมากำลังมองไปที่คนชุดดำและเอ่ยขึ้น
คนชุดดำแต่งกายด้วยชุดดำทั้งตัวและสวมหน้ากากเอาไว้จนมองไม่เห็นหน้า
“ปึง!”
“ปึง!”
ในเวลาเดียวกันกับที่เสียงของผู้แข็งแกร่งของตระกูลไป๋หลี่คนนั้นเอ่ยขึ้น คนชุดดำก็มาอยู่ที่ตรงหน้าพวกเขาแล้ว ทุกคนล้วนมองไม่เห็นเลยสักนิดว่าเขาลงมืออย่างไร แต่ได้ยินแค่เพียงเสียงกระแทกอย่างรุนแรงสองครั้งเท่านั้น จากนั้นก็เห็นว่าผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายที่ตระกูลบู๊โบราณไป๋หลี่พามากำลังถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปทีละคน
ฉากนี้ ทำให้ทุกคนตื่นตะลึง
นี่จะต้องเป็นนักบู๊ที่ทรงพลังมากแค่ไหน ถึงสามารถทำให้ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายกระเด็นออกไปได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว?
ติงเหวินจัวที่เห็นแบบนั้นก็ตะลึงไปอย่างสมบูรณ์ ร่างกายของเขาสั่นด้วยความกลัว
แม้ว่าเขาจะไม่ทราบตัวตนของคนชุดดำ แต่เขาก็รู้ว่าคนชุดดำมาเพื่อช่วยหนิงเทียนเหอและพรรคพวก
อีกทั้งเขาก็มาเพื่อช่วย หนิงเทียนเหอจัดการกับพวกเขา
ส่วนผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายสองคนที่ถูกคนชุดดำโจมตีจนกระเด็นไป ตอนนี้กำลังได้รับบาดเจ็บสาหัสและล้มลงบนพื้นห่างออกไปกว่าสิบเมตร จนไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้น
หนิงเทียนเหอ ดีใจมากทันทีและพูดว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสที่ช่วยชีวิต!”
เขารู้ดีว่าถ้าไม่ใช่เพราะคนชุดดำผู้แข็งแกร่งตรงหน้า เขาคงตายไปแล้ว
หม่าชาวจ้องไปที่เงาร่างสีดำ ไม่รู้ว่าทำไม เมื่อครู่ที่เขามองไปยังดวงตาของคนชุดดำแล้วถึงได้เกิดความรู้สึกคุ้นเคยอย่างมาก
เขามั่นใจมากว่าคนชุดดำเป็นเพื่อนเก่าของเขา
อย่างไรก็ตาม เขาจำไม่ได้จริงๆ ว่าใครในหมู่คนที่เขารู้จักที่มีความแข็งแกร่งขนาดนี้
ผู้ที่มีพลังสามารถจัดการผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายได้เพียงพริบตา อย่างนั้นความแข็งแกร่งของคนชุดดำอย่างน้อยๆ ก็ควรอยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด แต่หม่าชาวกลับเชื่อว่าความแข็งแกร่งของคนชุดดำน่าจะอยู่ที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นต้น
ในเวลานี้เอง จู่ๆ คนชุดดำก็มองไปยังด้านติงเหวินจัวและเดินเข้าไปหา
“ตุบ!”
ขาของติงเหวินจัวอ่อนยวบทันที เขาคุกเข่าลงในทิศทางของคนชุดดำแล้วพูดด้วยสีหน้าหวาดกลัวว่า “ท่านผู้อาวุโส โปรดไว้ชีวิตฉันสักครั้ง ฉันผิดไปแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว”
คนชุดดำยังคงไม่พูดจา ขณะที่ติงเหวินจัวกำลังร้องขอความเมตตา เขาก็มายืนอยู่หน้าติงเหวินจัวแล้ว
“ปึง!”
ทันใดนั้น คนชุดดำก็เหยียดนิ้วทั้งห้าออกและกุมหัวของติงเหวินจัวเอาไว้ ออร่าพลังอันน่าสะพรึงกลัวไหลเข้าสู่สมองของติงเหวินจัวทันที จนติงเหวินจัวไม่มีแม้โอกาสที่จะตอบสนอง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันใด จากนั้นเลือดก็ไหลออกจากทวารทั้งเจ็ด ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ร่างของเขาค่อยๆ ล้มลงกับพื้น
“ตายแล้ว!”
เหล่าผู้แข็งแกร่งที่ติงเหวินจัวพามาต่างก็ตื่นตะลึงไป แต่ละคนล้วนมีสีหน้าหวาดกลัว เกรงว่าพวกเขาจะกลายเป็นเป้าหมายต่อไปของคนชุดดำ
ติงเหวินจัวแม้กระทั่งตายก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองไปทำอะไรให้คนชุดดำโกรธเคือง
ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายสองคนที่เขาพามารวมทั้ง ว่านฉี ในเวลานี้ต่างก็พยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาและเมื่อพวกเขาเห็นว่าคนชุดดำฆ่าติงเหวินจัว ใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นซีดขาว
ดวงตาของ ว่านฉีหนาวเหน็บ ทันใดนั้นเขาก็กัดฟันและพูดว่า “ทุกท่าน ไม่ต้องเก็บงำตนเองแล้ว เห็นได้ชัดว่าท่านนี้ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะปล่อยพวกเราไป ไม่ว่าเขาจะแข็งแกร่งกว่านี้แล้วอย่างไร? พวกเราผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์กว่า 30 คน อีกทั้งในนั้นยังมี:black”แดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายสองคน และแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นกลางอีกหนึ่งคน จะยังต้องเกรงกลัวเขาอีกหรือไง?”
“เขาไม่มีพลังที่จะฆ่าพวกเราได้ในพริบตา ก็หมายความว่า พลังของเขาน่าจะอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นยอด หากพวกเราร่วมมือกัน ก็อาจสู้กับเขาได้ง!”
หลังจากฟังคำพูดของ ว่านฉีผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายสองคนที่มาจากตระกูลไป๋หลี่ในดวงตาต่างก็มีประกายวาบผ่าน
พวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าคนชุดดำแข็งแกร่งมากแค่ไหน แต่พวกเขารู้สึกว่าคนชุดดำมีเจตนาฆ่าพวกเขาอย่างแรงกล้าแล้ว และตอนนี้ก็ทำได้แค่ร่วมมือกันถึงจะยังมีโอกาส
“พวกเราร่วมมือกัน!”
ผู้แข็งแกร่งสองคนของตระกูลไป๋หลี่มองหน้ากันและพุ่งเข้าใส่คนชุดดำ
เมื่อทั้งสองพุ่งไปหาคนชุดดำ ดวงตาของ ว่านฉีก็ฉายประกายชั่วร้ายดั่งใจ เขาขยับเท้าจากนั้นก็วิ่งหนีไปในทิศทางตรงกันข้าม
เขาถึงกับหนีไปแล้ว!
อย่างไรก็ตามนี่ก็พอจะสามารถเข้าใจได้ เขาได้เห็นถึงความแข็งแกร่งของคนชุดดำแล้ว ถ้าเขาไม่หนี อย่างนั้นก็เหลือแค่ทางเดียวคือความตาย เป็นการดีกว่าที่จะหลอกลวงผู้แข็งแกร่งสองคนของตระกูลบู๊โบราณให้เข้าไปรบรากับคนชุดดำ
“พรูด!”
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาวิ่งออกไปได้แค่ 20 กว่าเมตร ก้อนหินขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือก็แทงเข้าที่ด้านหลังศีรษะของเขาทันทีและโผล่ทะลุออกมาจากกึ่งกลางคิ้วของเขา
เนื่องจากแรงเฉื่อย ร่างกายของเขาจึงยังพุ่งไปข้างหน้าสองสามก้าว จากนั้นก็ล้มลงบนพื้นโดยไม่เคลื่อนไหว ในไม่ช้าทุกคนก็เห็นเลือดที่นองเต็มพื้นที่ที่เขาล้มลง
“ว่านฉี ตายแล้วเหรอ?”
ผู้แข็งแกร่งของสมาพันธ์บูโดล้วนตกตะลึงไป
ในสมาพันธ์บูโด หยางเฉินเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด แต่ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและหมดสติอยู่
ตู้จ้งเป็นผู้แข็งแกร่งรองลงมา ส่วนหนิงเทียนเหอ และ ว่านฉีนั้นมีความแข็งแกร่งเท่ากัน ในสมาพันธ์บูดด พวกเขาจัดว่าเป็นอันดับสามและอันดับสี่
แต่ในตอนนี้ กลับถูกเจาะทะลุด้วยหินขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือ
และคนที่ขว้างหินนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคนชุดดำ
หลังจากที่เขาฆ่า ว่านฉีแล้ว ผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายสองคนของตระกูลไป๋หลี่ก็พุ่งเข้ามาตรงหน้าเขาพอดี
ในขณะที่คนชุดดำกำลังเตรียมจะฆ่าแข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นแปดชั้นปลายสองคนของตระกูลไป๋หลี่ จู่ๆ ชายชราในชุดเสื้อคลุมก็มายืนอยู่ข้างหน้าคนชุดดำและโบกมือไปข้างหน้า
“ปึง!”
คนชุดดำเองก็โบกฝ่ามือทันที ฝ่ามือทั้งสองปะทะกัน จนเกิดเป็นเสียงกระแทกดังสนั่นขึ้น
จากนั้นก็เห็นว่าคนชุดดำซึ่งเพิ่งปรากฏตัวในท่าทีไร้เทียมทาน จู่ๆ ก็ถอยออกไปมากกว่าสิบก้าวก่อนจะหยุดลงได้มั่นคง
ในทางกลับกัน ชายชราในชุดเสื้อคลุมกลับไม่ได้ล่าถอยและจ้องมองคนชุดดำด้วยใบหน้าอาฆาต
“นายเป็นใคร? กล้าดียังไงมายุ่งเรื่องของตระกูลไป๋หลี่ของเรา?”
ชายชราในชุดเสื้อคลุมมองคนชุดดำอย่างเย็นชาและถามเสียงดัง
เสียงนั้นดังลั่นราวกับฟ้าร้องและดังก้องเข้ามาในหูของคนชุดดำ
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของคนชุดดำ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ชายชราในชุดเสื้อคลุมอย่างเอาเป็นเอาตาย ร่างกายของเขาก็สั่นเทาไปหมด
“หึ!”
ชายชราในชุดผ้าคลุมพูดอย่างเย็นชา “ในเมื่อนายอยากตาย อย่างนั้นฉันก็จะส่งนายไปตายซะ!”
เมื่อพูดจบ ชายชราในชุดผ้าคลุมก็พุ่งไปหาคนชุดดำ
คนชุดดำกัดฟันและพุ่งเข้าใส่ชายชราในชุดผ้าคลุมเช่นกัน
“ปึง!”
เพียงแต่ เมื่อไปถึงหน้าชายชราในชุดผ้าคลุม คนชุดดำก็ไม่มีกำลังที่จะสู้กลับเลยสักนิดจนถูกอีกฝ่ายโจมตีอีกครั้ง ร่างกายของเขาลอยไปว่าวที่ขาด และกระเด็นออกไปไกลกว่าสิบเมตรก่อนจะตกลงบนพื้นอย่างแรง
ส่วนหน้ากากบนใบหน้าของเขาก็ตกลงมาบนพื้นเช่นกัน
เมื่อเขาเห็นใบหน้าของเขา หม่าชาวก็ตื่นตะลึงและตะโกนเสียงหลง “ฉินยี!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *