The King of Warบทที่ 1928 ผู้แข็งแกร่งในแดนเดียวกัน

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 1928 ผู้แข็งแกร่งในแดนเดียวกัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ภูเขามาร ที่สำนักมาร

ภายในอาคารทรงโบราณหลังหนึ่ง หยางเฉินนอนอย่างสงบบนเตียงใหญ่หลังหนึ่ง สีหน้าของเขาสุขสงบ หายใจอ่อนมาก ถ้าหากไม่ดูที่สีหน้า คนที่ไม่รู้ จะต้องมองว่าเขาตายไปแล้วแน่นอน

ในห้องมีแต่เขาคนเดียว นอกประตูมีผู้แข็งแกร่งระดับสุดยอดฝีมือแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าที่ลี่เฉินจัดไว้ให้คอยเฝ้าระวังภัยสองนาย

หม่าชาวได้ถูกลี่เฉินพาไปที่หอหนังสือของสำนักมาร

“นี่นะหรือที่เรียกว่าหอหนังสือของสำนักมาร?”

ภายในหอหนังสือ หม่าชาวแหงนหน้าขึ้นดู กวาดตามองรอบ ๆ กับชั้นหนังสือสูงถึงหก-เจ็ดเมตรด้วยสายตาตื่นตะลึง กับจำนวนหนังสือที่นับกันไม่ถ้วน ถามไปอย่างสะท้านใจจากความรู้สึก

ลี่เฉินหัวเราะเหอ ๆ พูดไปว่า “ที่นี่แหละคือหอหนังสือที่สั่งสมมานับร้อยปีของสำนักมารของพวกเรา ในนี้ ไม่เพียงมีตำราฝึกพลังสารพัดแบบ ยังมีบันทึกการรู้แจ้งของเหล่าผู้อาวุที่เคยฝึกวิชาของสำนักมารจนก้าวทะลุขึ้นไปยังแดนนภาอย่างหลากหลาย”

“และสถานที่ที่ข้าจะพาเจ้าไปต่อไปนี้ จึงจะเป็นที่ที่เหมาะสมที่เจ้าควรจะไป”

ลี่เฉินพูดพลาง ก็มุ่งหน้าเดินต่อไป หม่าชาวก็รีบเดินตามไป ในใจเต็มไปด้วยความตื่นใจ

แรกทีเดียวเขาคิดว่าที่นี่คือทั้งหมดของหอหนังสือแล้ว ที่ไหนได้ ลี่เฉินเดินต่อไปจนถึงจุดตรงศูนย์กลางของโถง แล้วระเบิดพลังบูโดในตัวออกมาในทันใด ตามมาด้วยเสียง “บรึม” ดังลั่น ใต้เท้าของเขาปรากฏเป็นทางเข้าที่จะไปสู่สถานที่อีกแห่งหนึ่ง

หม่าชาวถึงกับงงเซ่อ “ที่นี่ยังมีฟ้าของโลกใหม่อีก!”

ลี่เฉินหัวเราะโดยไม่พูดอะไร นำพาหม่าชาว มุ่งหน้าเดินเข้าไป

ในไม่ช้า หม่าชาวก็รู้สึกได้ว่า พวกเขากำลังเดินลงไปในพื้นใต้ดิน

ช่องทางเดินนี้ยาวมาก เป็นทางเดินมุ่งไปข้างหน้า หม่าชาวลองคิดประเมินในใจ ความลึกน่าจะเท่ากับความสูงของอาคารสิบชั้นได้ ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงชั้นล่างสุด

“กลิ่นอายแห่งชี่ทิพย์ช่างเข้มข้นจริง!”

หม่าชาวพอก้าวเข้าไปถึงห้องหนังสือใต้ดิน ก็สัมผัสได้กับกระแสชี่ทิพย์ที่เข้มข้น

ลี่เฉินหัวเราะและพูดไปว่า “หอหนังสือเป็นสถานที่ลับเฉพาะของสำนักมาร ทั้งสำนักมาร จะมีเพียงเจ้าสำนักและทายาทมารเท่านั้นจึงมีสิทธิ์ย่างก้าวเข้ามาได้ ให้แม้แต่ผู้อาวุโสหลายท่านในสำนักมาร ก็ยังไม่เคยเข้ามาในนี้”

“ที่นี่เป็นห้องลับในการฝึกวิชาของสำนักมารสืบต่อมานับร้อยปีแล้ว ใต้พื้นที่เรายืนอยู่นี้ สถิตซ่อนสายชีพจรมังกรอยู่สายหนึ่ง หลายร้อยปีมานี้ เหตุที่บรรพชนของสำนักมารมาปักหลักตั้งฐานสำนักมารไว้ที่นี่ ก็ด้วยเพราะพบสายชีพจรมังกรเส้นนี้”

“เหล่าบรรพชนของสำนักมารยังได้วางซ่อนค่ายกลไว้ที่นี่ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งแดนนภาเหยียบมาถึงสำนักมารเรา ก็ไม่มีทางสัมผัสรู้ได้ ว่าที่นี่มีซ่อนสถิตสายชีพจรมังกรอยู่สายหนึ่ง”

ได้ฟังเรื่องที่ลี่เฉินพูด หม่าชาวใจสะท้านขึ้นมาอย่างที่สุด

ผู้ที่อยู่ในวงการฝึกปฏิบัติด้านบูโด เขาย่อมรู้ดีว่าสายชีพจรมังกรหมายถึงอะไร นี่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในตำนานนิยายที่ยังมีความเป็นจริงอยู่

กล่าวกันว่า หลายร้อยปีก่อนนี้ ในยุคสมัยบูโดรุ่งเรืองมากนั้น ได้เคยมีเหตุอันเนื่องจากสายชีพจรมังกรเส้นหนึ่ง ทำให้ระเบิดศึกแบบตะลุมบอนกันของนักบูโดแดนนภาชั้นล่างกว่าร้อยนาย สุดท้ายบาดเจ็บล้มตายกันไปกว่าครึ่ง

หากข่าวการที่สำนักมารมีสายชีพจรมังกรแพร่กระจายออกไป น่ากลัวจะต้องสะท้านสะเทือนไปทั่วโลก ถึงเวลานั้น แม้กระทั่งกลุ่มอิทธิพลวงการบู๊โบราณ ก็คงอดใจกันไม่ไหวต้องลงมือด้วย

ความลับสำคัญขนาดนี้ ลี่เฉินกลับมาพูดให้ตัวเขารู้ได้ หม่าชาวก็ให้รู้สึกประทับใจ ในขณะเดียวกันก็รู้สึกหนักขึ้นมาบนบ่ากับภาระที่ต้องแบกเพิ่ม

ขณะนี้ เขาเป็นทายาทมารของสำนักมารแล้ว ก็คือเจ้าสำนักสำนักมารในอนาคต เขาจะต้องปกป้องสำนักมาร

“ก็ด้วยเพราะการมีอยู่ของสายชีพจรมังกร เพราะฉะนั้นการสัมผัสถึงชี่ทิพย์ในบริเวณนี้จึงมีความเข้มข้นขนาดนี้ ต่อให้ในเขตดินแดนบู๊โบราณ ก็ไม่แน่นักว่าจะมีชี่ทิพย์เข้มข้นถึงขนาดนี้ได้”

ลี่เฉินพูดต่อไปว่า “สายชีพจรมังกรเส้นนี้ยังไม่ใช่สายชีพจรมังกรชั้นสุดยอด ทั้งผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว สายชีพจรมังกรก็อ่อนพลังลงไปมาก ไม่งั้นชี่ทิพย์ในที่นี้จะเข้มข้นมากกว่านี้อีก”

“ในเมื่อเจ้าได้ตกลงยอมเป็นทายาทมารของสำนักมารแล้ว ฉะนั้น ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็ฝึกวิชาอยู่ที่นี่ มีสายชีพจรมังกรช่วยเสริม ผลการฝึกวิชาของเจ้าก็จะเร็วขึ้นชนิดมองตามกันไม่ทันทีเดียว”

หม่าชาวมองหน้าลี่เฉินด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย “ท่านผู้อาวุโสลี่ ทำแบบนี้ ดูไม่ค่อยจะดีไหม?ถึงว่าจะให้ข้าอยู่ที่นี่ฝึกวิชา อย่างน้อยก็น่าจะให้อยู่หลังจากข้าได้เข้าเป็นทายาทมารอย่างเป็นพิธีการเสียก่อนไหม?”

ลี่เฉินแค่นหัวเราะเสียงเยือก “ในสำนักมาร ใครแน่จริงก็คนนั้นพูดคำเดียวจบ ข้าตอนนี้แข็งแกร่งที่สุด ก็คือข้าพูดคำเดียวจบ ต่อไปนี้ข้าให้เจ้าให้เข้ามาฝึกวิชาที่นี่ ใครกล้าพูดคำว่าไม่ได้?”

หม่าชาวฝืนกลืนขมเข้าปาก เขามีความรู้สึกไม่ค่อยดีอยู่บ้าง แต่ก็อยากที่จะฝึกวิชาอยู่ที่นี่เป็นอย่างมาก

จากเยี่ยนตูมาครั้งนี้ ติดตามหยางเฉินมาถึงภูเขามาร เดิมก้หวังจะมาฝึกฝน มุ่งมั่นยกระดับพลังฝีมือของตัวเอง

เวลานี้เขาก็ได้สมัครเข้าอยู่ในสำนักมารแล้ว ทั้งยังได้มีโอกาสฝึกฝีมือในที่ที่มีชี่ทิพย์เข้มข้นขนาดนี้ เขาก็ต้องยินดีอย่างมาก ๆ แน่นอน

ลี่เฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจังขึ้นมาในทันใด “เริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เจ้าก็อยู่ฝึกฝนวิชาอยู่ที่นี่ ข้าจะเป็นคนสอนเจ้าด้วยตัวเอง ทุกสิ่งที่มีอยู่กับข้า จะถ่ายทอดให้เจ้าทั้งหมด”

เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าลี่เฉินหายไป สีหน้าหม่าชาวก็เคร่งขรึมขึ้นมา รีบตอบรับไปว่า “ครับผม!”

ลี่เฉินพูดขึ้นว่า “ต่อจากนี้ ข้าจะถ่ายทอดเคล็ดกถามารในการฝึกสุดยอดวิชาของสำนักมารให้เจ้า เจ้าจงตั้งใจฟังให้ดี!”

เคล็ดกถามาร วิชาการฝึกพลังฝีมือสุดยอดของสำนักมาร และก็เฉพาะเจ้าของสำนักมารเท่านั้น จึงจะมีสิทธิ์ได้ฝึก

ให้แม้แต่ทายาทมารก็ไม่ได้มีสิทธิ์ แต่มาตอนนี้ ลี่เฉินกลับจะเอาเคล็ดวิชาการฝึกพลังฝีมือสุดยอดของสำนักมารนี้ถ่ายทอดให้กับหม่าชาว คิดดูก็รู้ได้เลย ว่าเขาให้ความสำคัญในตัวหม่าชาวขนาดไหน

ในห้องหยางเฉิน ในขณะเดียวกันกับที่ลี่เฉินกำลังถ่ายทอดเคล็ดกถามารให้หม่าชาวอยู่นั้น

ขณะนั้น หยางเฉินคงยังนอนอย่างสงบสบายบนเตียงผู้ป่วย ลมหายใจที่อ่อนระทวยตั้งแต่ต้น ค่อย ๆ เปลี่ยนเข้มขึ้นในทันทีนั้น ค่อย ๆ เข้าสู่สภาพปกติ

ไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังมีอานุภาพพลังมารที่เห็นเลือนราง แผ่กระจายออกมาจากตัวของเขา

“เกิดอะไรขึ้นนั่น?”

สัมผัสถึงอานุภาพพลังมารไม่ขาดสายที่แผ่ออกมาจากตัวหยางเฉิน สองผู้แข็งแกร่งแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดที่อยู่หน้าประตู ต่างรู้สึกหวาดผวาขึ้นมา

มีนายหนึ่งพูดขึ้นด้วยความตื่นตกใจ “เขาคงไม่ใช่จะตื่นแล้วนะ?”

“เป็นไปได้ยังไง?”

อีกคนบนใบหน้าที่ไม่คิดเชื่อ พูดเสียงขรึม “ท่านเจ้าสำนักก็บอกแล้วว่า หยางเฉินจะฟื้นตื่นขึ้นมาได้นั้น อย่างน้อยต้องสลบไสลอยู่ถึงหนึ่งสัปดาห์ นี่เขาเพิ่งสลบหลับไปยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมง มีที่ไหนจะฟื้นตื่นมาได้เร็วขนาดนี้?”

คนก่อนหน้านี้ก็ถามอีกว่า “ถ้างั้นไอ้กระแสอานุภาพพลังมารที่แผ่ออกมาจากตัวของเขา จะอธิบายได้ว่ายังไง?”

ทั้งสองเลยมองหน้ากันอย่างข้องใจด้วยกัน หันมองเข้าในห้องพร้อมกันโดยไม่ได้นัดกัน

แต่ หยางเฉินก็ยังคงนอนอย่างสงบสุขอย่างมากบนเตียงเหมือนเดิม นอกจากกระแสอานุภาพพลังมารที่เปล่งกระจายออกมา นอกนั้นทั้งหมด ล้วนยังคงอยู่ในสภาพเดิม

คนหนึ่งก็พูดว่า “พวกเราก็รอดูไปอีกสักพักหนึ่ง ถ้าสภาพมีอะไรผิดปกติ เราคงต้องไปหาท่านเจ้าสำนักแล้วแหละ”

แต่แค่เขาเพิ่งพูดจบ จู่ ๆ ก็มีพลังกดดันบูโดที่น่าสะพรึงกลัวมากสุด ๆ กระแสหนึ่ง ครอบคลุมลงใส่สำนักมาร

ทั้งสองต่างมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างทันใด

“ใครกันนั่น?”

พวกเขาต่างก็รู้สึกได้ถึง กระแสพลังบูโดนี้แข็งแกร่งมาก น่ากลัวต้องเข้าไปถึงขั้นสุดยอดรองลงจากแดนนภาแล้ว อีกทั้งดูเหมือนกับพลังของลี่เฉินอย่างมาก

กูพูดได้ว่า ผู้ที่มานี้ เป็นไปได้อย่างมากว่าเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเดียวกับลี่เฉิน

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *