The King of Warบทที่ 1935 กล้าสู้สักตั้งไหม

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 1935 กล้าสู้สักตั้งไหม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เกาสง บังอาจ!”

ขณะนั้น มารแดงก็มาถึงพอดี ตวาดใส่เกาสงอย่างเกรี้ยวกราดว่า “หม่าชาวเป็นผู้ได้รับคัดเลือกจากอาจารย์มารับตำแหน่งทายาทมาร จะให้เจ้ามาท้าทายยังไงได้?”

ได้ยินคำพูดของมารแดง เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร ต่างมีสีหน้าแตกตื่น ต่างก็คิดกันไม่ถึงว่า มารแดงเองกลับมาพูดช่วยหม่าชาว

ใครก็รู้ว่า ในบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร มารแดงจึงใช่ผู้มีคุณสมบัติที่จะเป็นทายาทมาร มากที่สุด

เกาสงสะบัดเสียงฮึออกจมูก จ้องหน้ามารแดงพูดไปว่า “มารแดง จะยอมรับหรือไม่ยอมรับมันเรื่องของข้า ไม่เกี่ยวกับเจ้า”

“จะพูดไป ข้าก็เพียงคิดว่าไม่อยากเห็นสำนักมารจะเสียอนาคตไปเพราะเด็กวานซืนคนหนึ่ง นี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องการท้าทาย หากว่าเขานั้นแค่สามกระบวนท่าก็รับมือข้าไม่ไหว แล้วจะมีคุณสมบัติอะไรมารับตำแหน่งทายาทมาร?”

“ถ้าท่านเจ้าสำนักมีคำสั่งแต่งตั้งให้เจ้าเป็นทายาทมาร ข้าไม่มีอะไรต้องพูด แต่จะมาปล่อยให้ระดับมดปลวกแดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นยอดมาเป็นทายาทมารของสำนักมารของเรา ข้าเกาสงขอไม่ยอมรับเป็นคนแรก”

ตาที่กำลังโกรธของมารแดงยิ่งเข้มข้นหนักขึ้น พลังปราณมารกระแสหนึ่ง มุ่งกดดันไปที่เกาสง

เกาสงไม่มีแสดงอาการหวาดหวั่น ก็ปล่อยพลังปราณมารออกไป หรี่ตาจ้องมารแดงพูดว่า “เจ้าคงคิดจะเข้าข้างพวกมดปลวกที่เพิ่งเข้ามาในสำนักมาร แล้วจะมาสู้กับข้างั้นหรือ?”

มารแดงพูดเสียงเยือก “ท่านอาจารย์ก็ได้รับหม่าชาวเป็นลูกศิษย์แล้ว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็เป็นศิษย์ผู้น้องของข้า ต่อไปนี้เขาก็คือทายาทมารแห่งสำนักมาร มีข้าอยู่ ใครก็อย่าได้มาท้าทายกวนใจเขา”

“เหอ ๆ!”

เกาสงหัวเราะเสียงเหยียด “ถ้าอย่างนั้น ข้าก็อยากจะขอรับการแนะนำสักหน่อย ให้รู้ว่ามารแดงเก่งกาจอยู่แค่ไหน”

เสียงพูดจบ พลังปราณบูโดจากตัวของเกาสง ระเบิดออกมาในทันที ฉับพลันนั้น ขึ้นไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น

เวลานั้น เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร ต่างตาลุกโพลง

มารแดงก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาอยู่หน่อย

“ระดับแดนบูโดของเกาสง ก็ไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งแล้ว!”

มีผู้แข็งแกร่งสำนักมาร พูดขึ้นมาด้วยเสียงตื่นใจ

ตอนที่เกาสงยังอยู่ในแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดนั้น ก็มีพลังฝีมือถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว มาตอนนี้ระดับบูโดของเขาไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น แล้วพลังฝีมือจริงจะเก่งกาจไปถึงแค่ไหน?

คิดมาถึงจุดนี้ ผู้แข็งแกร่งสำนักมารหลายคนรู้สึกร้อนตาขึ้นมา ใคร่อยากดูกันว่า ในสี่ยอดขุนพลมารแห่งสำนักมาร สองคนที่เป็นสุดยอดพลังฝีมือนี้ ใครจะเก่งกาจกว่าใคร

ก่อนหน้านี้คือมารแดง แต่ว่ามาตอนนี้ ระดับขั้นบูโดของเกาสงก้าวขึ้นไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว ใครจะแน่กว่าใคร ทั้งหมดยังไม่รู้ได้

“ปึง!”

มารแดงไม่มีพูดพร่ำทำเพลง ย่ำขาลงไปอย่างดุดัน ตัวร่างก็พุ่งทะยานเข้าใส่เกาสง

ในชั่ววูบที่มารแดงขยับตัว เกาสงก็ขยับ

“ปึง!”

ในวินาทีต่อจากนั้น ทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน ระเบิดพลังปราณบูโดที่น่าสะพรึงกลัวออกมากระแสหนึ่ง เหมือนดั่งพลิกทะเลเทคลื่นน้ำ กวาดตลบออกไปทั่วทุกทิศทาง

“ถอย!”

เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร ต่างพากันถอยหลบกันพัลวัล

เวลานี้มารแดงกับเกาสงต่างก็เป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น มองไปทั้งภูเขามาร นอกจากห้าสุดยอดผู้แข็งแกร่งนั้นแล้ว พวกเขาก็คือชุดที่ยืนในจุดสุดยอดแล้ว

ผู้แข็งแกร่งระดับนี้ การปะทะกันครั้งหนึ่ง พลังงานที่ระเบิดออกมา น่าสะพรึงกลัวจริง ๆ

ถ้าไม่ใช่พวกผู้แข็งแกร่งสำนักมารถอยหลบไปได้เร็ว ด้วยกระแสพลังปราณจากการกระแทกกันของทั้งสองเมื่อครู่นี้ ก็จะทำให้นักบูโดที่พลังฝีมือด้อยหน่อยถึงกับบาดเจ็บได้

“ปึง ปึง ปึง !”

ทั้งสองถล่มใส่กันอย่างบ้าคลั่ง

เหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร มองกันให้ตาลาย นี่มันเป็นงานบุฟเฟ่ระดับหรูทางสายตาแท้ ๆ

ก่อนหน้านี้ ในสี่ยอดขุนพลมาร พลังฝีมือเก่งกาจที่สุดคือมารแดง

นอกนั้นอีกสามคน ก็อยู่เพียงแค่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด แต่มาตอนนี้ ระดับแดนของเกาสง ก็ก้าวไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้นแล้ว

การต่อสู้กันของทั้งสอง ก็คือการศึกระหว่างผู้แข็งแกร่งที่เก่งกาจที่สุดรองจากแดนนภา

ในขณะนั้น ท่ามกลางกลุ่มบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมาร ยังมีเงาร่างคนหนุ่มแทรกอยู่สองคน

หม่าชาวยืนอยู่ด้วยสีหน้าห่วงกังวล

หยางเฉินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองเหตุการณ์ที่กำลังต่อสู้ประลองกำลังกันอยู่ด้วยแววตาเย็นชา

หยางเฉินรู้อยู่แจ้งชัด ถ้าไม่สามารถจัดการเกาสงได้ การที่หม่าชาวจะก้าวเข้าเป็นทายาทมารแห่งสำนักมารน่ากลัวจะยุ่งยากไม่สะดวกนัก

ในสำนักมาร เดิมทีก็มีผู้แข็งแกร่งระดับยอดส่วนใหญ่ ไม่พอใจกับการที่หม่าชาวเข้ามารับสืบตำแหน่งทายาทมาร ตอนนี้มีเกาสงเข้ามาเขี่ยนำ

ถ้าหากมารแดงสู้แพ้ ประกายเหิมเกริมของเกาสงก็มีแต่จะเข้มข้นขึ้น

ถึงเวลานั้น ต่อให้ลี่เฉินออกคำสั่งด้วยตัวเองตั้งให้หม่าชาวเป็นทายาทมาร น่ากลัวก็คงไม่สามารถทำให้เป็นที่สยบของกลุ่มคนได้

แต่มาที่มารแดง กลับเป็นเรื่องผิดคาดของหยางเฉิน เดิมเขาคิดว่า มารแดงคนนี้นี่แหละจะเป็นคนที่ไม่ยอมสยบด้วย แต่ดูมาตอนนี้ มันไม่ใช่เสียแล้ว เขากลับเป็นฝ่ายผู้ให้การสนับสนุนหม่าชาว

ส่วนจะเป็นเพราะอะไร หยางเฉินก็ไม่รู้

แต่เขารู้ เรื่องนี้จะต้องเกี่ยวกับลี่เฉินแน่นอน

“จะแพ้แล้ว!”

ในขณะนั้นเอง หยางเฉินเอ่ยพูดขึ้นมาในทันใด

ได้ยินคำพูดของหยางเฉิน หม่าชาวตกใจในทันที รีบถามว่า “พี่เฉิน พี่ว่า เกาสงจะแพ้หรือ?”

หยางเฉินส่ายหน้า “มารแดงจะแพ้แล้ว!”

สีหน้าหม่าชาวดูวุ่นวายขึ้นมาในพลัน

เขารู้อยู่ การที่ตัวเขาเองจะเข้ารับสืบทอดเป็นทายาทมารอย่างสะดวก ก็ต้องจัดการกับเกาสงให้อยู่ ถ้ามารแดงแพ้ การที่เขาจะเข้ารับตำแหน่งทายาทมาร ก็จะยุ่งยากมาก

“ปึง!”

เป็นดังว่า คำพูดของหยางเฉินจบลง เสียงทุ้มหนักของวัตถุกระแทกกันดังขึ้น ภาพที่เห็นคือร่างของมารแดง ลอยออกไปกลางอากาศไกลไปหลายเมตร ตกลงไปที่พื้นอย่างหนักแล้ว มีขาข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนอกของเขา

“แกแพ้แล้ว!”

เกาสงมองจากที่สูงลงไปที่มารแดง พูดเสียงเยือก

เสียงเงียบเป็นตายไปทั่วทั้งบริเวณ แต่ละคนล้วนตลึงสะท้านไปกับภาพที่เกิดขึ้น

มารแดง นับร้อยปีที่ผ่านมา เป็นอัจฉริยะบูโดที่เก่งกาจที่สุด อายุยังไม่ถึงห้าสิบ ระดับแดนบูโดก็ก้าวขึ้นไปถึงกึ่งแดนนภาขั้นหนึ่งชั้นต้น

ไม่เพียงแต่เท่านั้น เขายังเป็นศิษย์ของลี่เฉินเจ้าสำนักแห่งสำนักมาร และในเหล่าบรรดาผู้แข็งแกร่งสำนักมารนี้ เป็นตัวเลือกที่มีคุณสมบัติมากที่สุดในการเป็นทายาทมาร

แต่มาถึงตอนนี้ เขากลับมาแพ้ให้กับเกาสง

เสียงเย็นชาของเกาสง เหมือนแรงทุบจากตุ้มหนัก อัดใส่หน้าอกของมารแดงอย่างสุดโหด

สีหน้ามารแดงสลดซีด เขาไม่เคยคิดเลย จะมีวันนี้ ที่ตัวเขาเองต้องมาแพ้ให้กับเกาสง

เกาสงใช้สายตาเหยียดหมิ่นมองที่มารแดงแวบหนึ่ง แล้วก็หันหลังกลับ ค่อย ๆ ก้าวทีละก้าวเข้าไปกลางลานประลองยุทธ กวาดสายตามองทั่วบริเวณ แล้วก็หยุดลงที่หม่าชาวในทันใด “เจ้าหนู จะกล้าขึ้นมาสู้กันสักตั้งไหม?ขอแค่ให้เจ้าสามารถรับมือข้าได้เพียงสามกระบวนท่า ข้าก็จะยกย่องนับถือให้เจ้าเป็นทายาทมาร”

ในขณะนั้น สายตาทุกคู่ พร้อมใจกันมองไปที่หม่าชาว

หม่าชาวกำหมัดทั้งสองขึ้นมาแน่น ตาจ้องอย่างเอาเป็นเอาตายไปที่เกาสง พลังลูกแก้วดูดเลือด ก็เริ่มลุกตื่น

พลังปราณบูโดที่บ้าคลั่งกระแสหนึ่ง แผ่กระจายออกมาจากภายในตัวของเขา

เกาสงขมวดคิ้วเข้าหากันน้อย ๆ เขาสามารถรู้สึกได้แน่นอน หม่าชาวมีพลังฝีมือที่แดนเหนือมนุษย์ขั้นห้าชั้นยอด แต่ขณะนี้ พลังบูโดกลับปะทุขึ้นเรื่อย ๆ ไม่หยุด ในช่วงสั้น ๆ ไม่กี่วินาที ปะทุขึ้นไปจนถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเจ็ดชั้นยอด

ถ้าหากพลังบูโดของหม่าชาวขึ้นไปถึงแดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอด จะระเบิดพลังฝีมือออกมาได้ถึงขนาดไหน?

ในขณะที่หม่าชาวกำลังเตรียมจะก้าวขึ้นไป ทันทีนั้น มือข้างหนึ่ง วางลงบนหัวไหล่ของเขา เสียงทุ้มต่ำเสียงหนึ่งดังขึ้น “ข้าไปเอง!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *