The King of Warบทที่ 1942 รีบไปที่สำนักบู๊

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 1942 รีบไปที่สำนักบู๊ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ดวงตาของอิงเทียนสิงหรี่ลงเล็กน้อย มีความโหดเหี้ยมอยู่ในสายตา หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาจึงพูดอย่างเย็นชาว่า“ถ้าชายหนุ่มคนนั้นมีภูมิหลังของโลกบู๊โบราณกลางจริงๆ ถ้าพวกเราไปโจมตีสำนักมาร อีกฝ่ายจะไม่ปล่อยพวกเราไปอย่างแน่นอน”

“ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็ทำได้เพียงลงมือฆ่าเขาด้วยตนเองแล้ว!”

เมื่อได้ยินคำพูดของอิงเทียนสิง กลุ่มคนใหญ่คนโตของคามิ โคโซต่างก็ตกตะลึง อิงเทียนสิงบ้าไปแล้วหรือ?

แต่เมื่อนึกถึงผลร้ายแรงที่จะตามมาของคามิ โคโซในการโจมตีสำนักมาร พวกเขาก็เข้าใจเหตุผลที่อิงเทียนสิงทำเช่นนั้น

ในเวลานี้ หยางเฉินที่อาศัยอยู่ในสำนักมาร ถูกหม่าชาวพาไปที่ห้องลับของหอเก็บหนังสือของสำนักมาร

ตามที่ลี่เฉินกล่าว ต้องรอให้หม่าชาวขึ้นครองตำแหน่งเจ้าสำนักของสำนักมารแล้ว หยางเฉินจึงจะได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องลับใต้ดินที่ซ่อนอยู่ในหอเก็บหนังสือ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร จู่ๆลี่เฉินก็เปลี่ยนความคิดของเขา ตอนนี้ เขาได้อนุญาตให้หยางเฉินเข้าไปในห้องลับนั้นแล้ว

“ชี่ทิพย์เข้มข้นจริงๆ!”

ทันทีที่เข้าไปในห้องลับ หยางเฉินก็อดไม่ได้ที่จะอุทานออกมา

ตั้งแต่เล็กจนโต นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกถึงชี่ทิพย์ที่เข้มข้นขนาดนี้ ฝึกฝนในสภาพแวดล้อมเช่นนี้ แดนบูโดจะต้องก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดแล้วใช่ไหม?

หม่าชาวยิ้มและแนะนำห้องลับนี้ให้หยางเฉิน

เมื่อเขารู้ว่ามีสายมังกรซ่อนอยู่ใต้ห้องลับนี้ หยางเฉินก็ตกใจมาก แน่นอนว่า เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับสายมังกรมาบ้าง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้สัมผัสกับสายมังกรในระยะใกล้แบบนี้

เดิมที หยางเฉินคิดว่ามีเพียงโลกบู๊โบราณเท่านั้นที่มีสายมังกร และถึงแม้ว่าในโลกมนุษย์จะมีด้วย มันก็ถูกผู้แข็งแกร่งในโลกบู๊โบราณแย่งมาตั้งนานแล้ว

เห็นได้ว่า ที่ลี่เฉินอนุญาตให้เขาเข้ามาฝึกฝนที่นี่นั้นมีความจริงใจมากแค่ไหน

ถ้าหยางเฉินปล่อยข่าวของสายมังกรออกไป แม้ต้องแหกกฎ ผู้แข็งแกร่งโลกบู๊โบราณก็จะมาที่ภูเขามารอย่างแน่นอน เมื่อถึงตอนนั้น ก็ถึงคราอวสานของสำนักมารแล้วจริงๆ

ข้อมูลที่เป็นความลับเช่นนี้ ลี่เฉินกลับยอมให้หยางเฉินรู้ เห็นได้ว่าเขาไม่ได้มองหยางเฉินเป็นคนนอก

“พี่เฉิน ฝึกฝนในนี้มันพัฒนาได้เร็วจริงๆ วันนี้ ผมแค่ฝึกไปครึ่งวันเท่านั้น ผมก็รู้สึกว่าการฝึกฝนของผมได้ผลมากกว่าการฝึกฝนในโลกมนุษย์ถึงสิบเท่า!”

สีหน้าหม่าชาวดูตื่นเต้น มองไปที่หยางเฉินและกล่าวว่า“พี่เฉิน ผมว่าพี่อยู่กับผมที่ภูเขามารสักระยะ ด้วยพรสวรรค์ด้านบูโดของพี่ ถ้าฝึกฝนอยู่ที่นี่ บูโดของพี่จะพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างแน่นอน บางที ฝึกฝนที่นี่สักพัก พี่ก็จะสามารถทะลวงไปสู่แดนเหนือมนุษย์ขั้นเก้าชั้นยอดก็ได้”

“ทางที่ดีที่สุด ก่อนอายุ 30 แดนบูโดก็สามารถทะลุสู่แดนนภา!ถึงตอนนั้น แม้ว่าพี่จะไปที่โลกบู๊โบราณ พี่เฉินก็จะเป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุด”

หยางเฉินยิ้มอย่างขมขื่น“การฝึกฝนมันไม่ได้ง่ายเหมือนที่คุณพูด ไม่ใช่ว่าอยากทะลุก็ทะลุได้ ถ้ามันทะลุง่ายขนาดนั้น ในโลกนี้ก็ไม่มีผู้อ่อนแอแล้ว”

หม่าชาวพูดอย่างช่วยไม่ได้“พี่เฉิน พี่ไม่รู้หรือว่า การทะลุของพี่นั้น มันง่ายเหมือนอย่างที่ผมพูดจริงๆ?”

หยางเฉินหัวเราะและกล่าวว่า“เรามาฝึกฝนกันเถอะ!”

“ครับ!”

ไม่นาน ทั้งสองคนก็เข้าสู่สภาวะการฝึกฝน

ตลอดทั้งคืนไม่ได้คุยอะไรกัน เช้าวันรุ่งขึ้น หยางเฉินเสร็จสิ้นจากการฝึก และเมื่อเขาลืมตาขึ้น ก็ไม่เห็นตัวหม่าชาว

หยางเฉินสัมผัสแดนบูโดของเขา ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า หลังจากฝึกฝนเพียงคืนเดียว แดนบูโดของเขาก็พัฒนาขึ้นมาก แม้ว่าไม่ได้ทะลุทะลวง แต่แดนบูโดที่เขาเพิ่งทะลุไปเมื่อวานนี้ก็แข็งแกร่งขึ้นมาก

ถ้าฝึกฝนไปแบบนี้เรื่อยๆ คาดว่าอีกไม่นาน ตนเองจะมีโอกาสทะลุทะลวงได้จริงๆ

ทันใดนั้น เขาก็นึกขึ้นได้อะไรบางอย่าง สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก”แย่แล้ว!”

เขาลุกขึ้นทันทีและรีบออกจากห้องลับ

“น้องหยาง มีเรื่องอะไรหรือ ทำไมรีบร้อนเช่นนี้?”

เมื่อเห็นหยางเฉินที่เดินมาอย่างรีบร้อน ลี่เฉินที่กำลังรับประทานอาหารเช้าก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า”มาๆนั่งลง มารับประทานอาหารกับผม!”

หม่าชาวยืนอยู่ข้างหลังของลี่เฉิน กำลังปรนนิบัติลี่เฉิน ได้เข้าสู่บทบาทลูกศิษย์เจ้าสำนักของสำนักมารแล้ว

หยางเฉินรีบกล่าวว่า“ท่านผู้อาวุโส ผมไม่กินแล้ว ตอนนี้ ผมมีเรื่องด่วนต้องไปที่สำนักบู๊ โปรดช่วยจัดรถให้ผมสักคัน แล้วส่งผมไปที่สำนักบู๊เดี๋ยวนี้”

ลี่เฉินยังไม่รู้ข่าวที่ว่าหยางเฉินตอบตกลงที่จะเข้าร่วมสำนักบู๊ และหลังจากได้ยินว่า หยางเฉินจะไปที่สำนักบู๊ เขาก็แปลกใจเล็กน้อย”ผมได้ยินมาว่า วันนี้ สำนักบู๊จะจัดการแข่งขันเพื่อแย่งชิงเข้าสู่หอบรรพบุรุษเทพบู๊คุณจะไปเข้าร่วมการแข่งขันนี้หรือ?

หยางเฉินไม่ได้ปิดบัง พยักหน้าและกล่าวว่า“ใช่ครับผู้อาวุโส ผมตอบตกลงที่จะเข้าร่วมสำนักบู๊แล้ว การจัดการแข่งขันเพื่อแย่งชิงเข้าสู่หอบรรพบุรุษเทพบู๊นั้น อันที่จริงแล้ว จัดขึ้นเพราะผม เพราะว่า ผมเพิ่งเข้าร่วมสำนักบู๊ ถ้าผมเข้าไปในหอบรรพบุรุษเทพบู๊ทันที ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นของสำนักบู๊คงไม่พอใจกับสิ่งนี้มาก”

เมื่อได้ยินคำพูดของหยางเฉิน ลี่เฉินรู้สึกประหลาดใจมาก เขาเกือบจะพ่นน้ำชาที่เขาเพิ่งดื่มเข้าไปออกมา และพูดด้วยความตกใจว่า”คุณพูดอะไรนะ?คุณเข้าร่วมสำนักบู๊แล้ว?”

หยางเฉินพยักหน้า

สีหน้าท่าทางของลี่เฉินนั้นซับซ้อนมาก เขาอยากจะชักชวนหยางเฉินเข้าร่วมสำนักมารมานานแล้ว แต่เขาคิดว่า คนอย่างหยางเฉิน ไม่ได้เป็นของโลกมนุษย์ และไม่มีทางที่จะเข้าร่วมกองกำลังทางโลก

แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ หยางเฉินกลับเข้าร่วมสำนักบู๊แล้ว

ถ้ารู้แต่แรก เขาคงลงมือไปนานแล้ว ถ้าให้หยางเฉินมาสืบทอดตำแหน่งทายาทมารของสำนักมาร มันถึงจะเป็นแผนที่สมบูรณ์แบบที่สุด

หยางเฉินกล่าวอย่างรีบร้อน“ผู้อาวุโสลี่ ตอนนี้ผมรีบมาก ท่านช่วยจัดคนส่งผมไปที่สำนักบู๊ให้เร็วที่สุดได้ไหม?”

เพราะเขาได้รับปากตู้ป๋อแล้ว อีกอย่าง การแข่งขันในวันนี้จัดขึ้นเพราะเขา ถ้าเขาไม่ไปที่สำนักบู๊ตามเวลา คนในสำนักบู๊จะคิดอย่างไร?

สิ่งสำคัญคือ เขาจะไม่สามารถเข้าไปในหอบรรพบุรุษเทพบู๊ถ้าเขาไม่สามารถเข้าไปในหอบรรพบุรุษเทพบู๊ ก็ช่วยตู้ป๋อไม่ได้

ลี่เฉินพึ่งดึงสติกลับมาได้ และสั่งอย่างรวดเร็ว”เร็วเข้า ใช้รถของผม พาน้องหยางไปที่สำนักบู๊!”

“ครับ!”

ไม่นาน ก็มีรถออฟโรดจอดอยู่ข้างๆ และหยางเฉินก็รีบอำลา

จนกระทั่งหยางเฉินจากไป ลี่เฉินจึงพูดด้วยท่าทีโทษตัวเอง“ทำไมผมถึงไม่ชวนหยางเฉินเข้าร่วมสำนักมารตั้งแต่แรกนะ?”

หลังจากพูดจบ เขาก็มองไปที่หม่าชาว และถามอย่างรวดเร็ว“คุณมีวิธีให้หยางเฉินเข้าร่วมสำนักมารไหม?”

สีหน้าหม่าชาวดูขมขื่น ส่ายหัวและกล่าวว่า”อาจารย์ เท่าที่ผมรู้ ด้วยนิสัยพี่หยาง เขายอมเข้าร่วมสำนักบู๊ ไม่ใช่เพราะเหตุผลส่วนตัวแน่นอน ในเมื่อเขาได้เข้าร่วมสำนักบู๊แล้ว เขาก็จะไม่เปลี่ยนใจแน่นอน”

ลี่เฉินกล่าวอย่างมีความหวัง”ผมยอมให้เขาเข้าร่วมสำนักมาร ในขณะที่เขาได้เข้าร่วมสำนักบู๊แล้ว กล่าวคือ ตราบเท่าที่เขาตอบตกลง เขาเป็นทั้งสมาชิกของสำนักบู๊ และเป็นสมาชิกของสำนักมารด้วย”

ดวงตาของหม่าชาวเป็นประกายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสำนักมารหรือสำนักบู๊ ต่างก็เป็นหนึ่งในห้ากองกำลังชั้นนำของภูเขามาร หากหยางเฉินกลายเป็นสมาชิกในสองกองกำลังชั้นนำนี้ สำหรับหยางเฉิน มีแต่ข้อดี ไม่มีข้อเสียเลย

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาพูดว่า“ผมจะบอกเรื่องนี้กับพี่เฉินดู”

ในเวลานี้ หยางเฉินกำลังอยู่ระหว่างทางแล้ว ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล เขาเป็นคนที่พูดคำไหนคำนั้น ในเมื่อรับปากคนอื่นแล้ว ก็ต้องทำให้ได้

เขารับปากว่าจะเข้าร่วมสำนักบู๊ ดังนั้น เพื่อเขา สำนักบู๊จึงได้จัดการแข่งขันเพื่อชิงเข้าหอบรรพบุรุษเทพบู๊แต่เขายังอยู่ระหว่างทาง ถ้าเขาไปไม่ทัน เขาจะอธิบายให้สำนักบู๊อย่างไร?

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *