The King of Warบทที่ 2122 จริงหรือปลอมยากจะแยกได้

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 2122 จริงหรือปลอมยากจะแยกได้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The king of War บทที่ 2122 จริงหรือปลอมยากจะแยกได้

“พี่เฉิง มีอะไรหรือ พวกคุณทำไมดีใจกันแบบนี้?”

“คงไม่ใช่ว่าคุณหยางเรียนวิธีปรุงยาสำเร็จแล้วนะ?”

“พี่ใหญ่หยางมีพรสวรรค์เก่งกาจในบูโด ข้ายอมรับ แต่ถ้าจะบอกว่าเขายังเป็นหมอปรุงยาที่เก่งกาจด้วย ข้ารู้สึกว่ายังไม่น่าจะเป็นได้”

ทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น หลังจากเห็นหยางเฉินเดินออกมาจากห้องแล้ว ต่างพากันพูดกันไปคาดเดากันไป

หยางเฉินยิ้ม ๆ ไม่พูดอะไร

ส่วนเฝิงเสียวหว่านก็ยิ้มและมองไปที่ซ่งจั่ว พูดว่า “คุณปู่จั่ว ท่านทายไม่ผิด พี่ใหญ่หยางปรุงยาได้แล้ว”

“อะไรนะ?”

ทุกคนต่างผวางง ซ่งจั่วพูดอย่างหวั่นไหวว่า “คุณหยางถึงขนาดปรุงยาได้จริงหรือ สั้นขฌ ๆ แค่ช่วงกลางวันวันเดียว ก็เรียนรู้การปรุงยาแล้ว นั่นก็หมายความว่า พรสวรรค์ด้านการปรุงยาของคุณหยาง ก็ประเภทฟ้ายังอายเลยหรือ?”

ถึงแม้ซ่งจั่วก็คาดเดาได้ถูกแล้วว่าเป็นไปได้ที่หยางเฉินเรียนจนปรุงยาได้แล้ว แต่เมื่อเฝิงเสียวหว่านยืนยันกับปากของหล่อนเองแล้ว เขาก็ยังรู้สึกอัศจรรย์ใจ

คนอื่น ๆ ก็มีความรู้สึกแบบเดียวกันนี้ ต่างก็เป็นที่อัศจรรย์ใจกันสุด ๆ

“พี่เฉิน พี่ก็ช่างเหลือร้ายเลยนะ?แค่ช่วงเวลาสั้น ๆ ก็สามารถปรุงยาขั้นหนึ่งชั้นต้นได้แล้ว ถ้ามีเวลาให้พี่มากพอในการปรุงยา พี่คงถึงขนาดปรุงยาขั้นสองได้อย่างรวดเร็วเลยมั้ง?”

ใบหน้าของหม่าชาวเต็มไปด้วยความตื่นเต้น พูดอย่างภูมิใจสุด ๆ ว่า “ผมคิดว่า ถ้าให้เวลาพี่เฉินอีกสิบปี ไม่อ่ะ อย่างมากสักห้าปี พี่เฉินต้องปรุงยาขั้นสามได้แล้วแน่!”

หวยหลันพูดด้วยเสียงหัวเราะ “ต่อให้พี่ใหญ่หยางมีพรสวรรค์ในการปรุงยาสูงแค่ไหนก็ตาม คิดจะเริ่มหัดปรุงยาในวัยเกือบสามสิบแล้วนี่ จะให้ใช้เวลาแค่ห้าปีปรุงยาได้ถึงขั้นสาม น่ากลัวคงไม่มีหวังเลยสักนิด”

หล่อนจัดว่าเป็นผู้หญิงที่มีความรู้รอบตัวกว้างมาก ตั้งแต่ตอนสมัยอยู่ที่จวนเมืองหวยเฉิงแล้ว ก็คุ้นเคยกับสภาพของโลกบู๊โบราณล่างอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นสิ่งที่หล่อนพูดย่อมมีหลักการ

หล่อนก็พูดต่อไปอีกว่า “ควรรู้ว่า ทั่วทั้งโลกบู๊โบราณล่าง หมอปรุงยามีจำนวนน้อยมาก ส่วนหมอปรุงยาที่สามารถปรุงยาได้ถึงขั้นสามนั้น ล้วนยังไม่มีการขึ้นในทะเบียน ฉันสงสัยว่า ไม่ก็ทั่วทั้งโลกบู๊โบราณไม่มีหมอปรุงยาที่สามารถปรุงยาได้ถึงขั้นที่สามได้ หรือไม่ก็หญ หมอปรุงยาระดับสุดยอดพวกนี้ ได้ถูกกลุ่มอิทธิพลชั้นยอดเก็บขึ้นไปแล้ว เพื่อไว้ใช้ปรุงยาให้เฉพาะกับตระกูลพวกเขากันเอง”

“สำหรับเรื่องการปรุงยา ก็เหมือนกับบูโด ยิ่งเริ่มฝึกกันตั้งแต่อายุยังน้อย ผลความสำเร็จก็ยิ่งมาก มีส่วนที่แตกต่างกับบูโดก็คือ ปัจจัยในการที่จะเป็นหมอปรุงยามีเงื่อนไขที่โหดมาก”

“ก่อนอื่น คุณจะต้องรวบรวมไฟธาตุ ก็คือการรู้แจ้งนิสสัยธาตุไฟ และนิสสัยธาตุไฟนี้กับนิสสัยธาตุไฟของบูโด ก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง คิดจะปรุงยา ไม่เพียงแต่ต้องรู้แจ้งเรื่องนิสสัยธาตุไฟ ยังจะต้องมีนิสสัยธาตุไฟที่แข็งแกร่งมากพอด้วย ทั้งยังต้องสามารถรวบรวมไฟธาตุให้เป็นพลังธาตุไฟที่เอามาใช้ปรุงยาได้จริงด้วย”

“เพียงแค่ขั้นตอนนี้ ก็ทำให้ผู้ที่ฝันใฝ่อยากเป็นหมอปรุงยาจำนวนมากมายต้องถูกปิดกั้นให้อยู่นอกรั้วงานปรุงยาแล้ว”

“ถัดรองลงมาอีก หมอปรุงยาจะต้องมีพลังจิตที่สูงมาก ๆ นี่ก็เป็นประเด็นที่สำคัญอย่างมาก ประเด็นนี้ ผู้ที่สามารถทำได้ก็มีน้อยมาก”

“แน่นอน ยังมีประเด็นที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่ง ก็คือการสืบทอดวิธีปรุงยา หากไม่มีวิธีปรุงยาที่ได้รับการสืบทอดมา คิดจะรู้แจ้งขึ้นมาเองในวิธีปรุงยานั้น ไม่มีวี่แววของความหวังใด ๆ เลยแม้แต่น้อย”

ได้ยินที่หวยหลันพูด คนทั้งหมดจึงได้รู้ชัดถึงเงื่อนไขคุณสมบัติของการจะเป็นหมอปรุงยา มันสุดแสนจะโหดขนาดไหน

เฝิงเจียหยีถามด้วยยังข้องใจว่า “แต่ว่า เสียวหว่านก็บอกแล้ว พี่ใหญ่หยางสามารถปรุงยาได้สำเร็จแล้ว นี่เพิ่งจะเป็นการเริ่มต้น และยังมีเสียวหว่านคอยชี้แนะอยู่ข้าง ๆ พี่ใหญ่หยาง การที่พี่ใหญ่หยางจะใช้เวลาสักห้าปี ปรุงยาให้ได้ถึงขั้นสาม ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องยากนะ?”

หวยหลันหัวเราะไปพลางพูดว่า “เจียหยี เธอยังมองค่าที่ต่ำไปกับความยากในการเป็นหมอปรุงยาชั้นยอด ถ้าหากการเป็นหมอปรุงยาชั้นยอดมันง่ายจริงขนาดนั้น ในโลกบู๊โบราณล่าง ทำไมถึงมีหมอปรุงยาอยู่ไม่กี่คน?”

“ยิ่งกว่านั้น ความเก่งกาจที่แท้จริงของพี่ใหญ่หยางนั้นคือพรสวรรค์บูโด ถ้าหากพี่เขาจะโถมพลังไปใช้ในด้านปรุงยาจริง แล้วจะไม่เป็นการต้องปล่อยทิ้งด้านบูโดหรือ?ฉันคิดว่านะญท พี่ใหญ่หยางคงไม่คิดจะผ่อนคลายปล่อยวางบูโดมัง?”

ว่าแล้ว หวยหลันก็ยังมองไปที่หยางเฉิน ทำทะเล้นจากตากลมโตที่สวยงาม

หยางเฉินแค่นหัวเราะ ส่งยาที่เขาเพิ่งจะปรุงสำเร็จนั้น ยื่นไปให้หวยหลัน พูดด้วยว่า “หวยหลัน เธอช่วยดูหน่อย ยาเม็ดนี้น่าจะมีราคาสักแค่ไหน?”

หวยหลันรีบรับยาเม็ดนั้นมา พอหล่อนรับยาเม็ดนั้นใส่มือ ก็ได้กลิ่นที่หอมยาเข้มข้นกว่าที่ได้เมื่อก่อนหน้านี้อีกหลายเท่า

และยาเม็ดที่อยู่ในมือนั้น ยังอุ่นหภ ๆ อยู่ เป็นที่ชัดเจนว่า ยาเม็ด ๆ นี้ คือเพิ่งปรุงสำเร็จออกมาใหม่ ๆ

ใช่หรือว่า ยาเม็ดเม็ดนี้ ก็คือเม็ดที่หยางเฉินปรุงเพิ่งเสร็จใหม่ ๆ?

คิดถึงตรงจุดนี้ ตอนที่หวยหลันมองไปที่หยางเฉินนั้น แววตาก็เปลี่ยนไป

หล่อนเพ่งพินิจดูที่ยาเม็ด ยิ่งดูไป ความอัศจรรย์ใจบนใบหน้ายิ่งเข้มข้นขึ้น

เพราะหล่อนได้พบว่า มูลค่าของยาเม็ดนี้ไม่ได้น้อยเลย ถึงขนาดเกินกว่าระดับขั้นสอง หรือจะว่า เป็นยาในขั้นสาม?

พินิจพิเคราะห์ยาเม็ดนี้อยู่นานมาก หวยหลันจึงได้ส่ายหน้ากับรอยยิ้มเจื่อน ๆ ส่งยาเม็ดนั้นคืนให้กับหยางเฉิน เอ่ยปากพูดไปว่า “พี่ใหญ่หยาง ฉันก็ได้แต่รู้ว่ายาเม็ดนี้มีมูลค่าไม่น้อย อย่างน้อยก็ระดับยาเม็ดขั้นสองชั้นกลางขึ้นไป”

“เมื่อก่อนหน้านี้ ตอนที่ฉันอยู่ที่เมืองหวยเฉิง ยาเม็ดที่เคยสัมผัสมา ระดับขั้นที่สูงสุดนั้น ก็เพียงแค่ยาเม็ดขั้นหนึ่งชั้นสูงเท่านั้น ยาเม็ดที่สูงขั้นเกินกว่านั้น ก็คือนี่แหละที่เคยพบเห็นเป็นครั้งแรก ฉะนั้นฉันก็คงยังแยกแยะไม่ถูก”

ได้ยินที่หวยหลันพูด คนอื่น ๆ ต่างก็สูดหายใจเยือกหนาวเข้าไป

ซ่งโย่วอดไม่ได้ถามขึ้นว่า “หรือจะว่า ยาเม็ดที่มีค่าไม่ต่ำกว่าระดับขั้นสองนี้ เป็นยาเม็ดที่คุณหยางเพิ่งปรุงเสร็จออกมาใหม่ ๆ?”

เฝิงเสียวหว่านหัวเราะหน้าทะเล้นเฉยอยู่ตลอด มองแต่ปฏิกิริยาของแต่ละคน

ตราบจนถึงนาทีนี้ หล่อนจึงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ผิด ยาเม็ดเม็ดนี้ ก็คือยาเม็ดที่พี่ใหญ่หยางเพิ่งปรุงเสร็จ…”

“อะไรนะ?”

“พี่เฉิงเพิ่งปรุงยาเป็นครั้งแรก ก็สามารถปรุงยาสำเร็จถึงขนาดยาขั้นสองชั้นกลางแล้วหรือนี่?”

“นี่ไม่ใช่ว่าเสียวหว่านปรุงเอง ก็พี่ใหญ่หยางเราตั้งใจจะปลอมตัวเองเป็นหมอปรุงยาชั้นสูง จึงได้ตั้งใจจัดให้พวกเราแสดงเป็นหน้าม้านะ?”

“ใช่แล้ว คุณหยางเจาะจงจัดให้พวกเราเป็นหน้าม้า!เล่นเอาผมตกใจหมดเลย ผมยังคิดว่าในการครั้งแรกที่คุณหยางทำการปรุงยา ก็สามารถปรุงได้ยาถึงขั้นสองชั้นกลางแล้วจริง ๆ ”

……

ไม่ทันได้รอให้เฝิงเสียวหว่านพูดให้หมด ทุกคนต่างก็ส่งเสียงด้วยความอัศจรรย์ใจกันออกมา แล้วต่างก็มีข้อคาดเดากันไปต่างๆ นานา จนสุดท้าย ทุกคนต่างก็มีความคิดที่ตรงกันว่า หยางเฉินกำลังเตรียมวางตัวเองเป็นหมอปรุงยา แล้วเตรียมจัดฉากวางตัวหน้าม้า

หยางเฉินมืดหน้าเต็มสมอง นี่มันยาเม็ดที่เราทำสำเร็จขึ้นมาด้วยตัวเองแท้ ๆ อีกทั้งยังไม่ใช่ยาขั้นสองชั้นกลางด้วย แต่เป็นยาเม็ดของแท้ขั้นสามชั้นต้น ทำไมพวกแกไม่ยอมเชื่อฉันกันบ้างนะ?

เฝิงเสียวหว่านก็เครียดขึ้นมาด้วย รีบชี้แจงไปว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องสร้างฉากนะ ยาเม็ดนี้ เป็นยาที่พี่ใหญ่หยางปรุงขึ้นมาด้วยตัวเอง อีกทั้งก็ไม่ใช่แค่ยาขั้นสองชั้นกลาง แต่เป็น……”

“เสียวหว่าน เธอไม่ต้องมาหลอกพวกเราหรอก พวกเราคนกันเองทั้งนั้น เธอวางใจได้ พวกเราไม่แพร่งพรายส่งเดชออกไปหรอก หรือไม่งั้น พวกเรามาซ้อมใหญ่กันอีกครั้งดีมั้ย ?”

ทุกคนต่างก็พูดกันไป

เฝิงเสียวหว่านเครียดจนแทบจะร้องไห้ออกมา นี่ไม่ใช่เรื่องต้องซ้อมใหญ่อะไรกันเลยนะ!

หยางเฉินก็เอาแต่หัวเราะ ไม่ได้ใส่ใจแต่อย่างใด

ถึงยังไงการที่เขาเรียนวิชาปรุงยา ก็เพียงเป็นการใช้เรื่องการปรุงยามาเป็นฉากหลอกคน เพื่อป้องกันเฝิงเสียวหว่าน

ในขณะที่ภายในห้องเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะหยอกเย้ากันอยู่ ที่นอกเรือน ผู้หญิงในชุดดำ คลุมหน้าด้วยแพรป่านสีดำ รำพึงอยู่เบา ๆ ว่า “คิดไม่ถึงว่า ข้างตัวหยางเฉินจะมีหมอปรุงยาตัวจริงอยู่ อีกทั้งยังเป็นเด็กสาวที่อายุยังน้อย ๆ ขนาดสามารถปรุงยาขั้นสามเป็นผลสำเร็จแล้วด้วย”

“ท่านอาจารย์กำลังเสาะหายาเม็ดขั้นสามอยู่ เราต้องรีบเอาข่าวนี้ไปแจ้งให้ท่านอาจารย์ละ!”

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *