The King of Warบทที่ 2209 เจตนาฆ่าที่น่ากลัว

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 2209 เจตนาฆ่าที่น่ากลัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The king of War บทที่ 2209 เจตนาฆ่าที่น่ากลัว

ผู้นำตระกูลบู๊โบราณซึ่งคิดจะล้มเลิกก่อนหน้านี้ เมื่อเห็นว่าตู้อวี้ซานวางสายการประชุมทางวิดีโอทันทีก็รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาทันที จึงรีบขอจัดประชุมทางวิดีโออีกครั้ง

ไม่ช้าการประชุมวิดีโอก็สำเร็จ แต่ตู้อวี้ซานซึ่งควรจะอยู่ในศูนย์การประชุมทางวิดีโอของพันธมิตรพิทักษ์ไม่อยู่แล้ว

“ทุกคน หัวหน้าสมาคมออกไปแล้ว พวกท่านยังมีอะไรอีกไหม”

บุคคลที่ปรากฏในศูนย์การประชุมทางวิดีโอของพันธมิตรพิทักษ์ คือจอมพลที่หนึ่งของพันธมิตรพิทักษ์

“จอมพลใหญ่ โปรดช่วยแจ้งหัวหน้าสมาคมว่าตระกูลเฉินจะไม่ถอนตัว เรายินดีที่จะต่อสู้กับหัวหน้าสมาคมโลกใหม่!”

หัวหน้าตระกูลเฉินเฉินชานชงพูดเป็นคนแรก

เมื่อคำพูดของเขาจบลงผู้นำตระกูลคนอื่นๆก็ได้สติและพูดกันว่าพวกเขาจะไม่ถอนตัว

จอมพลคนที่หนึ่งพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “เมื่อเป็นเช่นนี้ ทุกคนเตรียมพร้อมลงตอนเที่ยงคืน!”

พูดจบเขาก็วางสายการประชุมทางวิดีโอทันที

ตงโจว ศูนย์ย่อยตระบู๊โบราณเฉิน

เฉินชานชงนั่งอยู่ในหัวโต๊ะและด้านล่างคือบุคคลสำคัญของตระกูลเฉินที่นำโดยเฉินไห่เฟิง

“จะถอนตัวตอนนี้ไม่ได้ เว้นแต่ตระกูลเฉินของเราต้องการถูกทำลาย”

เฉินชานชงกล่าวอย่างเคร่งขรึม: “แต่หากเราไม่ถอนตัวเราก็ต้องเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งกองยุทธการตงโจวที่ติดอาวุธหนักครบมือ”

เมื่อพูดจบเขาก็มองเฉินไห่เฟิงและพูดว่า “ไห่เฟิงนายมีมาตรการรับมือหรือไม่”

เฉินไห่เฟิงพูดเสียงทุ้ม: “ท่านพ่อ ฉันคิดว่าถ้าเราต่อสู้กับผู้แข็งแกร่งกองยุทธการตงโจวโดยตรง แม้ว่าเราจะสามารถชนะกองยุทธการตงโจวได้ แต่ตระกูลเฉินของเราก็จะเสียหายอย่างหนัก”

“อาวุธร้อนที่ล้ำสมัยของกองยุทธการสามารถทำลายโลกบู๊โบราณล่างของทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย แต่พวกเขาจะไม่ทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน แต่พวกเขาได้เล็งอาวุธร้อนไปที่ศูนย์ใหญ่ของแต่ละตระกูลบู๊โบราณในโลกล่างแล้ว และพวกเขาสามารถยิงอาวุธร้อนได้ทุกเมื่อ ”

“ฉันคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือให้คนในศูนย์ใหญ่ตระกูลเฉินนำของที่สามารถเอาออกมาจากศูนย์ได้ ออกมาทั้งหมดทันที แม้ว่าจะมีของสำคัญที่ยังไม่ได้เอาออกไปก่อนเที่ยงคืน แต่คนของตระกูลเฉินที่อยู่ศูนย์ใหญ่ต้องออกไปทันที เผื่อว่ากองยุทธการจะยิงอาวุธร้อนใส่ศูนย์ใหญ่ของตระกูลเฉิน”

เฉินชานชงพยักหน้าและสั่งคนรอบฉันงทันที: “รีบออกคำสั่งไปที่ศูนย์ใหญ่ตามที่ไห่เฟิงพูดทันที!”

“รับทราบ!”

ลูกน้องรีบไปติดต่อคนที่ศูนย์ใหญ่ทันที

เฉินชานชงมองเฉินไห่เฟิงและพูดว่า “พูดต่อ!”

เฉินไห่เฟิงกล่าวต่อไปว่า: “เท่าที่ฉันรู้ ผู้แข็งแกร่งของกองยุทธการที่ติดอาวุธครบมือเปรียบได้กับนักบูโดแดนนภาขั้นสองชั้นยอด ความได้เปรียบในของกองยุทธการตอนนี้คือมีคนและอุปกรณ์มากมาย และหากเราต้องการชนะโดยเสียหายน้อยที่สุด เราต้องส่งผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสองชั้นยอดและเหนือกว่าออกไปต่อสู้”

“และตอนนี้พวกเรามีผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามห้าคน แดนนภาขั้นสองชั้นยอดสิบห้าคน กล่าวคือเราสามารถนำผู้แข็งแกร่งออกรบได้เพียงยี่สิบคนเท่านั้น”

“แต่ว่ากองกำ

แต่กองกำลังยุทธการตงโจวมีนักรบอาวุธครบมือไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนคนใช่ไหม? แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถติดอาวุธให้กับทหารทั้งหมดหนึ่งแสนคน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถติดอาวุธครบมือให้กับทหารหนึ่งพันคน”

“แม้ว่าเราจะผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามอีกห้าคน ด้วยช่องว่างที่ต่างกันเช่นนี้ เราไม่มีโอกาสชนะหากเราเผชิญหน้ากันโดยตรง”

การวิเคราะห์ของเขาทำให้คนของตระกูลเฉินหน้าซีด

“แล้วเราจะจัดการกับนักรบกองยุทธการตงโจวได้อย่างไร”

“ในเมื่อไม่มีโอกาสชนะ แต่เรายังต้องสู้ไม่เท่ากับไปตายหรือ?”

“ไห่เฟิงนายน่าจะมีวิธีอื่นใช่ไหม”

ทันใดนั้นบุคคลสำคัญของตระกูลเฉินก็พูดกันทีละคนและทุกคนก็กระวนกระวาย

เฉินชานชงไม่พูดแค่มองไปที่เฉินไห่เฟิง

เฉินไห่เฟิงพยักหน้าและพูดว่า “จะจับโจรให้ได้ก่อนต้องฆ่าหัวหน้าก่อน! ในเมื่อเราไม่สามารถเผชิญกันซึ่งหน้าได้ เราก็ส่งผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามห้าคนไปโจมตีศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจว!”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมาทุกคนก็อึ้ง!

“ไห่เฟิง ศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจวเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ เมื่อภารกิจจัดการหัวหน้าล้มเหลว ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามสามของเราอาจจะพินาศ!”

“ถูกต้อง เมื่อเราสูญเสียผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามห้าคนไป ตระกูลเฉิน ของเราจะเสียหายอย่างหนักแน่นอน”

คนของตระกูลเฉินต่างกังวลทันที

เฉินไห่เฟิงพูดเสียงทุ้ม: “แต่นอกเหนือจากวิธีนี้แล้วเราไม่มีทางอื่นที่จะชนะได้ ในเมื่อเราจะติดตามหัวหน้าสมาคมไปต่อสู้ในโลกใหม่ เราจึงต้องเดิมพัน! ถ้าชนะ ตระกูลเฉินของเราจะติดตามพันธมิตรพิทักษ์และกลายเป็นผู้นำโลกใหม่ หากพ่ายแพ้ตระกูลเฉินจะถูกกำจัดไปพร้อมกับพันธมิตรพิทักษ์”

“ฉันคิดว่าในเมื่อพันธมิตรพิทักษ์ตัดสินใจที่จะต่อสู้กับโลกมนุษย์ คงไม่ถูกทำลายง่ายๆใช่ไหม ถ้าเป็นเช่นนั้นเราจะต้องกลัวอะไรอีก”

ทันใดนั้นทุกคนก็เงียบ

พวกเขาทุกคนรู้ดีว่าไม่มีทางที่จะถอนตัวในตอนนี้ได้ ถอนตัวก็ได้แต่ต้องเตรียมพร้อมที่จะถูกพันธมิตรพิทักษ์ชำระบัญชี

เป็นเวลาหลายปีที่พันธมิตรพิทักษ์เป็นกองกำลังอันดับหนึ่งในโลกล่าง และไม่มีตระกูลใดที่จะมีสิทธิ์เป็นศัตรูของพันธมิตรพิทักษ์

ทุกสายตาจับจ้องไปที่เฉินชานชงรอการตัดสินใจสุดท้ายของเขา

สีหน้าของเฉินชานชงเต็มไปด้วยความกังวล เห็นได้ชัดว่าเขากำลังพิจารณาสิ่งที่เฉินไห่เฟิงพูด

หลังจากนั้นครู่หนึ่งเฉินชางชงชำเลืองมองทุกคนและพูดว่า “ไห่เฟิงพูดถูก ตอนนี้เราคงต้องเดิมพันสักครั้ง!”

“ท่านผู้นำ!”

ทุกคนในตระกูลเฉินตะลึง หรือว่าท่านผู้นำต้องการทำในสิ่งที่เฉินไห่เฟิงพูดจริงๆ?

ให้ผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามห้า ไปทำภารกิจตัดหัวหัวหน้าที่คนศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจว?

เฉินชานชงไม่สนใจฝูงชนแต่พูดกับเฉินไห่เฟิงว่า “ภารกิจนี้ให้นายจัดการ! ให้นายนำผู้แข็งแกร่งแดนภาขั้นสามของตระกูลเฉิน ไปทำภารกิจตัดหัวหัวหน้าที่คนศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจวด้วยตัวเองทันที !”

เฉินไห่เฟิงตกใจ: “หัวหน้าสมาคมบอกว่าให้ลงมือเที่ยงคืนไม่ใช่หรือ?”

เฉินชานชงกล่าวว่า: “เมื่อถึงเวลานั้น ทุกอย่างจะสายเกินไป! ตอนนี้นายแค่ต้องแอบนำคนเข้าไปที่ศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจว เมื่อถึงเที่ยงคืนค่อยลงมือ!”

“รับทราบ!”

เฉินไห่เฟิงตอบอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันอีกสามตระกูลตระกูลบู๊โบราณก็กำลังจัดการประชุมตระกูลเพื่อพิจารณาว่าจะลงมือเมื่อไหร่

ไม่ช้าเฉินไห่เฟิงก็นำผู้แข็งแกร่งแดนภาขั้นสามสี่คนไปศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจว รวมตัวเขาเองด้วยก็มีผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามห้าคน

ในบรรดาพวกเขามีผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นสามชั้นปลายหนึ่งคน

เมื่อเฉินไห่เฟิงนำผู้แข็งแกร่งในตระกูลไปที่ศูนย์อำนวยการกองยุทธการตงโจว เงาดำหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในศูนย์ย่อยตระกูลบู๊โบราณเฉิน

เฉินชานชงซึ่งอยู่ในห้องประชุม กำลังรอคำสั่งจากพันธมิตรพิทักษ์ จู่ๆก็รู้สึกถึงเจตนาฆ่าอันน่ากลัวที่ล็อคเป้าหมาย เขารีบยืนขึ้นและตะโกนด้วยความหวาดกลัว “ใคร?”

“ตี้ชุน ตี้ชิงซาน!”

วินาทีถัดมาเสียงที่ดังเหมือนฟ้าร้องดังสนั่นไปศูนย์ย่อยตระกูลบู๊โบราณเฉิน

“ตี้ชุนผู้ทรงพลัง!”

ทันใดนั้นสีหน้าของเฉินชานชงก็หวาดกลัวจนอย่างยิ่ง ความกลัวอันน่าสะพรึงกลัวผุดขึ้นจากฝ่าเท้าของเขาและพุ่งตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า

“บุกรุกเข้าโลกมนุษย์ ต้องได้รับโทษ!”

ทันใดนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้นจากศูนย์ย่อยตระกูลบู๊โบราณเฉิน

คนของตระกูลเฉินสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวที่แผ่ซ่านไปทั่วตระกูลเฉินและทุกคนก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว

การข่มขู่นี้รุนแรงมากพวกเขาไม่สามารถทนได้เลย

“พรวด!”

“พรวด!”

จากนั้นคนของตระกูลเฉินคุกเข่าลงบนพื้นทีละคน

ขณะนี้เฉินชานชงรู้สึกเพียงว่าเขาถูกขังด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัว ทำให้เขาไม่สามารถหลบหนีได้

“บูม!”

ในวินาทีถัดมาก็มีเสียงกระแทกดังสนั่น ขณะที่ทุกคนในตระกูลเฉินอยู่ในความตกใจ ร่างของเฉินชางชงก็ลอยออกจากห้องประชุมราวกับว่าวที่เชือกขาด

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *