The King of Warบทที่ 2272 ไร้คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 2272 ไร้คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The king of War นิยาย บท 2272
ราวกับสัมผัสได้ถึงไฟที่แผดเผาในดวงตาของอู่ชาง หยางเฉินขมวดคิ้วมองเข้าไป

เป็นอย่างที่คิดไว้ เพียงแค่เห็นในดวงตาของอู่ชางที่เต็มไปด้วยความละโมบ ดวงตาทั้งสองข้างจ้องกระบี่โอรสสวรรค์ในมือของเขาเขม็ง

ในใจของหยางเฉินแอบกล่าวว่าไม่ดีแล้ว ถูกผู้แข็งแกร่งชั้นยอดระดับเช่นอู่ชางจับตามอง นี่ไม่ใช่เรื่องดี

แต่ว่าในไม่ช้า เขาก็สงบอีกครั้ง อู่ชางจับตามองเขาตั้งแต่แรกแล้ว ถึงขนาดอยากให้เขาตาย ตอนนี้ต่อให้ถูกจับตามองกระบี่โอรสสวรรค์ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

“อู่ชาง เรื่องวิวาทนี้จบสิ้นแล้ว!”

ในเวลานี้เอง ทันใดนั้นอู๋สงป้าก็เอ่ยปากกล่าว

อู่ชางแค่นหัวเราะ: “จบสิ้น? ได้ ขอเพียงแค่แกนำตัวไอ้หนุ่มนั่นมอบให้ฉัน ตอนนี้ฉันก็จะพาคนของสำนักเทียนไห่ออกไป”

ถ้าหากได้รับกระบี่โอรสสวรรค์ ต่อให้ปล่อยบุญคุณความแค้นกับคฤหัสถ์เจ้าเมืองไปก่อนชั่วคราว แล้วจะอย่างไร?

อู่ชางได้แช่อิ่มอยู่ในกึ่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้นมานานหลายปีแล้ว รอโอกาสโอกาสหนึ่งมาโดยตลอด วันนี้ เขาสัมผัสได้ถึงโอกาส จากบนกระบี่โอรสสวรรค์

ถ้าหากได้รับกระบี่โอรสสวรรค์ เขามีความมีความมั่นใจหกสิบเปอร์เซ็นต์ ว่าจะบรรลุไปถึงแดนนภาขั้นเจ็ดได้ภายในสามเดือน

การบำเพ็ญสามารถเขาสู่โลกบู๊โบราณบนได้ นี่เป็นความฝันของเขา

ตอนนี้ม่านพลังระหว่างโลกบู๊โบราณกลางกับโลกมนุษย์ได้เริ่มพังทลายลงแล้ว อีกเพียงไม่นาน ก็จะสามารถหลอมรวมเข้าไปในโลกมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์

ถึงเวลา ชี่ทิพย์ของโลกใหม่จะเทียบเท่ากับชี่ทิพย์ของโลกบู๊โบราณกลาง ความเข้มข้นจะลดลงอย่างรวดเร็ว เมื่อถึงเวลานั้นอยากจะฝ่าทะลวงอีกครั้ง ก็ยากยิ่งกว่าเดิม

ทำไมอู๋สงป้าจะไม่เข้าใจเจตนาของอู่ชาง? เขาแค่นหัวเราะ: “หยางเฉินเป็นแขกคนสำคัญของฉัน อยากจะให้ฉันนำตัวเขามอบให้แก เป็นไปไม่ได้!”

อู่ชางกล่าวอย่างโมโห: “อู๋สงป้า แกต้องการจะสู้ตายกับสำนักเทียนไห่ของฉันจริงๆ?”

อู๋สงป้ากล่าวเสียงเย็นชา: “ไม่ใช่ฉัน แต่เป็นแกที่พยายามบีบบังคับ อยากจะไม่ตายก็ไม่ยอมรามือกับฉัน! วันนี้ ฉันขอพูดเอาไว้ตรงนี้เลยว่า อยากจะนำตัวหยางเฉินออกไปจากคฤหัสถ์เจ้าเมือง เป็นไปไม่ได้ นอกเสียจากจะข้ามศพฉันไป!”

ทันทีที่เสียงของเขาจบลง ออร่าที่บ้าคลั่งกลุ่มหนึ่งก็ระเบิดออกมาจากในร่างกายของเขา

ในส่วนลึกรูม่านตาของอู่ชาง เต็มไปด้วยความหนักใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

เขาคิดไม่ถึงว่า อู๋สงป้าเพื่อหยางเฉินคนหนึ่งแล้ว จะไม่ตายก็ไม่เลิกรากับเขาอย่างคาดไม่ถึง

เมื่อครู่นี้ เขากับอู๋สงป้าได้ต่อสู้ครั้งใหญ่กันมามากกว่าร้อยรอบ ก็หยั่งเชิงเส้นสนกลในของกันและกันได้แล้ว พูดได้ว่า กำลังของทั้งสองคนไม่ต่างกันมากนัก

หากจะต่อสู้กันจนตายจริงๆ ใครอยู่ใครตาย ก็ยังไม่รู้ได้

ถึงแม้ว่าอู่ชางอยากจะให้สำนักเทียนไห่มาแทนที่ตำแหน่งของคฤหัสถ์เจ้าเมืองที่เมืองไป๋หู่ แต่ก็รู้ข้อบกพร่องของตนเอง สองกองกำลังใหญ่ทันทีที่ระเบิดการต่อสู้จนตาย สุดท้ายทำได้แค่เพียงบอบช้ำทั้งสองฝ่าย

ในตอนนี้ ตอนที่ยังไม่ถึงการต่อสู้กันจนตาย

หลังจากครุ่นคิดในเวลาสั้นๆ อู่ชางจ้องอู๋สงป้ากล่าว: “แกกับฉันสู้กันอีก ก็ไม่มีความหมายอะไร ไม่สู้พวกเราเปลี่ยนวิธีอื่น เพื่อมาจบเรื่องราวในวันนี้?”

อู๋สงป้าขมวดคิ้ว แต่ยังกล่าวต่อไป: “แกว่ามา!”

อู่ชางกล่าว: “กำลังรบที่หยางเฉินแสดงฝีมือออกมาแข็งแกร่งขนาดไหน พวกเราต่างก็รู้ดี พละกำลังของเขาไม่อ่อนแอไปกว่าผู้อาวุโสของสำนักเทียนไห่หลายๆท่านเลย”

หว่างคิ้วของอู๋สงป้าขมวดเข้าหากันแน่นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าอีกฝ่ายจะยังพูดไม่จบ แต่เขาพอจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง

อู่ชางกล่าวต่อไป: “ก็ให้หยางเฉินต่อสู้กับหลีหยวนชิงผู้อาวุโสสี่ของสำนักเทียนไห่สักตั้ง ถ้าหากหลีหยวนชิงชนะ แกก็นำตัวหยางเฉินมอบให้ฉัน เป็นอย่างไร?”

อู๋สงป้าแค่นหัวเราะ: “อู่ชาง แกยังมีศักดิ์ศรีอยู่ไหม? หยางเฉินอายุเท่าไหร่ หลีหยวนชิงอายุเท่าไหร่? แกให้พวกเขาสู้รบกันตัดสินแพ้ชนะ?”

“ตามที่ฉันรู้ พรสวรรค์ด้านบูโดของลูกชายแกค่อนข้างโดดเด่น อายุเท่ากันกับหยางเฉินพอดี ไม่สู้ให้ลูกชายแกกับหยางเฉินสู้กันสักตั้ง เพียงแต่ถ้าลูกชายแกเอาชนะได้ แกพาตัวหยางเฉินไปได้ตามสบาย”

นัยน์ตาของอู่ชางฉายแววเย็นยะเยือกแวบหนึ่ง ลูกชายของเขามีสถานการณ์ยังไง เขาชัดเจนยิ่งกว่าใคร ในบรรดาคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน บางทีอาจจะนับได้ว่าเป็นบูโดอัจฉริยะ แต่เมื่อเทียบหยางเฉินแล้ว เรียกได้ว่าเป็นขยะอย่างแท้จริง

ต้องเข้าใจว่า กำลังรบที่หยางเฉินแสดงฝีมือออกมา ไกลเกินว่าคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน ได้บรรลุถึงผู้แข็งแกร่งชั้นยอดในอายุรุ่นเดียวกันเขาแล้ว

อู่ชางกล่าว: “อู๋สงป้า แกพูดแบบนี้ก็ไม่น่าสนุกแล้ว กำลังรบของหยางเฉินแข็งแกร่งมากขนาดไหน เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของทุกคน ให้คนรุ่นราวคราวเดียวสู้กับเขาสักตั้ง ในไม่ใช่เป็นการส่งไปตายหรอกเหรอ?”

อู๋สงป้าแค่นหัวเราะ: “นับว่าแกรู้ข้อบกพร่องของตนเอง รู้ว่าลูกชายของแกไร้น้ำยา ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหยางเฉิน”

“ยังไงซะฉันก็พูดออกไปที่นี่แล้ว อยากจะพาตัวหยางเฉินไป นอกซะจากฉันตาย!”

จ้องมองอู๋สงป้าที่ทำถึงขึ้นนี้เพื่อหยางเฉิน ทุกคนที่อยู่ ณ ตรงนั้นต่างก็ตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง

แม้แต่หยางเฉินก็ประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง รู้สึกอบอุ่นภายในใจ

แม้จะรู้ว่าอู๋สงป้าปกป้องเขาแบบนี้ ก็เป็นเพราะมีผลประโยชน์ แต่ไม่ได้เลยเถิดเหมือนกับคนอื่นแบบนั้น ทั้งหมดให้ความเคารพและอิสระแก่เขา

หยางเฉินเองก็รู้ดี เรื่องราวในวันนี้ อยากจะให้ดี เกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเขาก็เอ่ยปากกล่าว: “เจ้าสำนักอู่ คำพูดของท่านเมื่อครู่นี้ ถือเป็นเรื่องจริงไม่?”

ทันทีที่พูดประโยคนี้ออกไป ใบหน้าของทุกคนมองไปทางหยางเฉินด้วยความตื่นตะลึง

รูม่านตาของอู่ชางหดลงทันที จ้องหยางเฉินเขม็งกล่าว: “ฉันเป็นถึงเจ้าสำนักสำนักเทียนไห่ผู้สง่าผ่าเผย จะหลอกลวงแกต่อหน้าทุกคนอย่างงั้นหรือ?”

“ขอเพียงแกกล้าสู้กับหลีหยวนชิงผู้อาวุโสสี่ของสำนักเทียนไห่สักตั้ง ฉันจะพาคนของสำนักเทียนไห่ออกไปทันที ต่อไปจะไม่มาหาเรื่องแกอีกเป็นอันขาด”

หยางเฉิน: “การแพ้ชนะของเจ้าสำนักอู่ จะตัดสินอย่างไร?”

อู่ชางพูด: “ขอเพียงแค่แกสังหารหลีหยวนชิงได้ ก็ถือว่าแกชนะ! แต่ว่าแกวางใจ ฉันไม่มีทางให้หลีหยวนชิงฆ่าแกหรอก ขอเพียงแค่แกไม่มีกำลังรบอีก ก็ถือว่าแกแพ้ เป็นอย่างไร?”

หยางเฉินกล่าวเสียงดัง: “ดี ฉันตกลง!”

เมื่อเห็นเขาตกลง อู๋สงป้าหน้าถอดสีทันที กล่าวอย่างรีบร้อน: “หยางเฉิน เธออย่าเพิ่งวู่วาม หลีหยวนชิงเป็นถึงผู้แข็งแกร่งกึ่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้น ในการต่อสู้เมื่อครู่นี้ เขายังไม่ได้แสดงพละกำลังเต็มร้อย”

อู่ชางรีบกล่าว: “อู๋สงป้า หยางเฉินตอบตกลงแล้ว แกก็อย่ายุ่งให้มากเรื่องเลยน่า”

“แก…”

อู๋สงป้าเต็มไปด้วยความโกรธแค้น แต่กลับไม่ได้พูดจาคัดค้านออกมา

ถึงอย่างไรหยางเฉินก็เป็นคนรับปากเอง

อู๋สงป้าเองก็รู้ดีว่า ไม่มีหนทางที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรแล้ว ดังนั้นจึงกล่าวกับหยางเฉิน: “หยางเฉิน ระวังตัวด้วย!”

หยางเฉินพยักหน้า: “เจ้าเมืองอู๋วางใจ!”

อู๋สงป้าพยักหน้า ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก

อู่ชางยกมุมปากขึ้นปรากฏรัศมีโค้ง ขอเพียงแค่หยางเฉินรับปากก็พอแล้ว หลีหยวนชิงแข็งแกร่งขนาดไหน เขารู้ดี หยางเฉินก็อาศัยแค่เพียงของอาถรรพ์ชิ้นหนึ่ง อยากจะสังหารหลีหยวนชิง เป็นไปไม่ได้เลยสักนิด

ทันใดนั้น สายตาของทุกคนก็ไปรวมกันที่ตัวของหยางเฉินและหลีหยวนชิงอย่างพร้อมเพรียงกัน

ในค่ายทหารของสำนักเทียนไห่ ในดวงตาส่วนลึกของเซี่ยวชิงหยุน เต็มไปด้วยความหนักใจ สิ่งที่ไม่มีใครสังเกตเห็นคือ นัยน์ตาของเขายังมีความกังวลอันรุนแรงอยู่อีกด้วย

หยางเฉินจ้องมองหลีหยวนชิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชา กล่าวเสียงเย็นชา: “ฉันอยากจะเห็น แกเสียของอาถรรพ์ไป ยังจะสามารถแสดงพละกำลังออกมาได้สักเท่าไหร่”

นัยน์ตาของหลีหยวนชิงมีความเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมา กล่าวด้วยใบหน้าดุร้าย: “ไอ้หนุ่ม แกคิดว่าหักของอาถรรพ์ของฉันไปแล้ว ก็มั่นใจว่าตัวเองจะชนะ?”

ทันทีที่เสียงของเขาจบลง ออร่าที่น่าหวาดกลัวกลุ่มหนึ่ง ก็ระเบิดออกมาจากในร่างกายของเขา

เห็นแค่เพียงบนแขนขวาของเขา ถูกความดุร้ายกลุ่มหนึ่งพันเอาไว้รอบ

ในตอนนี้ หยางเฉินหน้าถอดสี หัวใจราวคล้ายกับกำลังสั่นอย่างรุนแรงทีหนึ่ง

ยังไม่ได้ประมือกันอีก แต่ว่าเขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ไร้คู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกลุ่มหนึ่ง จากบนแขนข้างขวาของหลีหยวนชิง

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด