The King of Warบทที่ 2273 แขนสองข้างขาดแล้ว

Now you are reading The King of War Chapter บทที่ 2273 แขนสองข้างขาดแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

The king of War นิยาย บท 2273
หลังจากอู๋สงป้ารู้สึกได้ถึงออร่าทรงพลังที่แผ่ออกมาจากแขนขวาของหลีหยวนชิงเข้ากะทันหัน ก็หน้าเปลี่ยนสีไปในทันทีเลย

และค่ายสำนักเทียนไห่ แม้กระทั่งอู่ชางก็เผยสีหน้าประหลาดใจด้วยเช่นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่า แม้แต่ท่านเจ้าสำนักอย่างเขาคนนี้ ก็คิดไม่ถึงว่าหลีหยวนชิงถึงกับยังซุกซ่อนฝีมือไว้อีก

อาศัยเพียงออร่าที่แผ่ออกมาจากตัวของหลีหยวนชิง ก็เป็นการยืนอยู่ชั้นยอดของโลกบู๊โบราณกลางแล้ว

เพียงแต่สิ่งที่แตกต่างระหว่างอู่ชางกับอู๋สงป้าซึ่งเป็นผู้แข็งแกร่งระดับขั้นแบบนี้ พวกเขามีกำลังที่เป็นของตัวเองแต่เดิม แต่หลีหยวนชิงกลับใช้วิชาลับที่ทรงพลังบางอย่าง

ยิ่งเป็นวิชาลับที่ทรงพลัง ผลข้างเคียงก็ยิ่งมาก

คราวนี้ แขนขวาของหลีหยวนชิงได้เปลี่ยนเป็นรูปร่างใหญ่ล่ำสัน บนแขนขวาเต็มไปด้วยริ้วรอยที่น่ากลัว

เขามองไปยังหยางเฉินด้วยใบหน้าดุร้ายแล้วพูดว่า : “ไอ้หนู ฉันจะฉีกแกเป็นชิ้น ๆ !”

จู่ ๆ หยางเฉินรู้สึกสิ้นหวังอยู่หน่อย ๆ เขาได้ระเบิดพลังการต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาแล้ว แต่ว่ายังคงมีความแตกต่างอยู่ไม่น้อยกับระหว่างผู้แข็งแกร่งชั้นยอดอยู่ดี

กำลังของหลีหยวนชิงในตอนนี้ ไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้แข็งแกร่งชั้นยอดเลยสักนิด ถึงขนาดที่ว่าเหนือกว่าด้วยซ้ำไป

หยางเฉินอาศัยฝีมือที่มีในตอนนี้ ไม่สามารถจัดการหลีหยวนชิงได้เลย

“หลีหยวนชิง จะพูดยังไงคุณก็เป็นผู้อาวุโสของสำนักเทียนไห่ ปะทะกับคนรุ่นหลังคนหนึ่ง ถึงกับใช้วิชาลับเลยงั้นหรือ ?”

อู๋สงป้าจ้องหลีหยวนชิงตาเขม็งด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยวแล้วถาม

หลีหยวนชิงยิ้มเยาะ ดวงตาอำมหิตและโหดร้ายคู่หนึ่งทอดไปยังตัวของอู๋สงป้าในทันที แล้วกรอดฟันพูด : “เจ้าเมืองอู๋ ในเมื่อคุณรับปากการต่อสู้ความเป็นความตายระหว่างผมกับไอ้หนูคนนั้นแล้ว งั้นคุณหุบปากไปจะดีกว่า ถ้าหากว่างไม่มีอะไรทำ ก็ไปท้าสู้ท่านเจ้าสำนักของเรา”

“นายว่าอะไรนะ ?”

อู๋สงป้าโมโหขึ้นมาในทันที ปล่อยจิตสังหารออกมาทั่วร่าง

อู่ชางขยับเท้า และระเบิดออร่าบ้าระห่ำในทันที พร้อมกับตะโกน : “อู๋สงป้า นายยังอยากต่อสู้กับฉันไหม ?”

อู๋สงป้าโมโหจนตัวสั่นทั้งตัว คาดไม่ถึงว่าหลีหยวนชิงกล้าพูดจากับเขาแบบนี้

เขาไม่ได้กลัวอู่ชาง เพียงแต่การต่อสู้กับอู่ชาง ไม่ได้มีความหมายใด ๆ เลยสักนิด ใครต่างก็ทำอะไรไม่ได้ กลับจะไม่สามารถให้ความสนใจการต่อสู้ของหยางเฉินกับหลีหยวนชิงได้ทุกเมื่อ ตอนที่กำลังต่อสู้กับอู่ชางด้วยซ้ำไป

หลีหยวนชิงเห็นรอยยิ้มเยาะเย้ยของอู๋สงป้า จึงมองหยางเฉินทันทีหลังจากนั้น แล้วหรี่ตาพูด : “ไอ้หนู หากว่าตอนนี้นายคุกเข่าคำนับยอมแพ้กับฉัน ฉันจะปล่อยนายไป ว่าไง ?”

ในนัยน์ตาของหยางเฉินปรากฏจิตสังหารอันรุนแรง จับจ้องหลีหยวนชิงอย่างเอาเป็นเอาตายแล้วพูด : “นายนึกว่านายเป็นใคร ? กล้าพูดจาแบบนี้ด้วย ?”

พร้อมกับเสียงตะโกนนี้ของเขา พลังบุพกาลที่ราวกับหลับใหลอยู่ในร่างกายของเขา ค่อย ๆ ตลบอบอวลออกมา

ดวงตาคู่นั้นของเขาเปลี่ยนเป็นแดงฉานทันที สีหน้าค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นดุร้าย

ชั่วพริบตาสั้น ๆ ออร่าที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ได้เลื่อนขั้นถึงระดับแดนนภาขั้นหกชั้นยอดแล้ว

จิตสังหารในดวงตาของหลีหยวนชิงก็ยิ่งรุนแรง จอมคนบูโดที่น่ากลัวเช่นนี้ ไม่ตายวันนี้ วันหน้าจะต้องกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตที่ร้ายกาจที่สุดของเขา

“อ๊า !”

หยางเฉินส่งเสียงร้องดังกึกก้องพร้อมกับเงยหน้าในทันที สีแดงในดวงตาคู่นั้นเปลี่ยนเป็นแดงฉานทันที สีหน้าดุร้ายสุด ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

“ยังไม่พอ !”

หยางเฉินกรอดฟันแน่น เขาพยายามที่จะเลื่อนขั้นพลังการต่อสู้อีกหน่อย แต่ว่าพยายามลองดูทั้งหมดแล้ว ก็ไม่สามารถถึงระดับของหลีหยวนชิงแบบนี้ได้เลย

“หากว่าฆ่าไม่ได้แม้แต่หลีหยวนชิง พรุ่งนี้ไปสำนักเหอฮวน จะสามารถช่วยฉินซีกับลูกสาวออกมาได้ยังไงกัน ?”

ใบหน้าของหยางเฉินเปี่ยมด้วยความไม่เต็มใจ น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาเป็นสายเลือดสองสาย

ผลการบำเพ็ญเพียรวิถีบู๊ของเขาได้ถึงระยะรวมยา ซึ่งทัดเทียมผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นห้ากับแดนนภาขั้นหกแล้ว หรือจะบอกว่า ตัวเองไม่บุกทะลวงถึงระยะบ่มเพาะปราณ ก็ไม่สามารถมีพลังที่ทัดเทียมแดนนภาขั้นเจ็ดได้ ?

แต่เขาเพิ่งจะบุกทะลวงถึงระยะรวมยาได้ไม่นานเท่าไหร่เอง จะสามารถบุกทะลวงถึงระยะบ่มเพาะปราณในระยะเวลาสั้น ๆ ได้ยังไง ?

ในเมื่อไม่สามารถบุกทะลวงถึงระยะบ่มเพาะปราณได้ งั้นก็ทำได้แต่ใช้ยามาเติมให้เต็มแล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หยางเฉินก็ไม่มีความลังเลเลยสักนิด หยิบยาเสือมังกรกำใหญ่ออกมาในทันที และทยอยกลืนลงไป

ฉากนี้ ทำให้แต่ละคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตะลึงงันในทันที คาดไม่ถึงว่าหยางเฉินกินยาที่เยอะขนาดนี้ไปทั้งหมดในรวดเดียว

เขาเป็นใครกันแน่ ?

ทำไมมียาเยอะขนาดนี้ได้ ?

แม้ว่าอยู่โลกบู๊โบราณกลาง ก็ไม่ค่อยมีนักปรุงยาเท่าไหร่นัก ยาระดับสูงย่อมมีไม่มากด้วยเช่นเดียวกัน

ยาเสือมังกรที่หยางเฉินกินไปเมื่อกี้ มองปราดเดียวก็รู้ว่าระดับชั้นไม่ธรรมดา

หรือจะบอกว่า เบื้องหลังของไอ้หนูนี่ มีผู้ฝึกมารที่กำลังแข็งแกร่งคนหนึ่งอยู่จริง ?

เมื่อคิดถึงตรงนี้ จิตสังหารในดวงตาของหลีหยวนชิงก็รุนแรงขึ้น

ในค่ายสำนักเทียนไห่ ใบหน้าของเซี่ยวชิงหยุนเปี่ยมด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

จู่ ๆ อู่ชางมองไปยังเซี่ยวชิงหยุนแล้วถาม : “ผู้อาวุโสสาม คุณคิดว่าไอ้หนูที่มาจากในโลกมนุษย์คนนี้ อยู่ได้นานแค่ไหนครับ ?”

เซี่ยวชิงหยุนพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ : “อย่างมากสุดหนึ่งนาที !”

อู่ชางหัวเราะฮ่า ๆ แล้วเอ่ยปากบอก : “บีบหลีหยวนชิงถึงระดับนี้ได้ หากว่าเขาสามารถอยู่ในเงื้อมมือของหลีหยวนชิงได้หนึ่งนาทีจริง ก็ยอดเยี่ยมจริง ๆ ”

อู๋สงป้ามีสีหน้าหนักแน่นและจริงจัง ดวงตาคู่นั้นจ้องหยางเฉินตาเขม็ง

พลังที่หยางเฉินแสดงออกมายิ่งแข็งแกร่ง เขาก็ยิ่งคิดว่าน่าเสียดาย แทบจะไม่ต้องสงสัยเลย หากว่าให้เวลาที่เพียงพอแก่หยางเฉิน หยางเฉินจะต้องเติบโตถึงขั้นที่น่ากลัวเป็นอย่างมากแน่นอน

เพียงแต่น่าเสียดาย คู่ต่อสู้ของเขาคือหลีหยวนชิง หลังจากใช้วิชาลับ สามารถบังคับให้กำลังเลื่อนขึ้นไปถึงผู้แข็งแกร่งชั้นยอดขั้นกึ่งแดนนภาขั้นเจ็ดชั้นต้นได้

หลังจากหยางเฉินกินยาเสือมังกรไปห้าเม็ดในอึดใจเดียว พลังบ้าระห่ำก็ระเบิดจากในร่างเขา วิ่งเพ่นพ่านในร่างกายของเขาอย่างรวดเร็วและบ้าคลั่ง เหมือนต้องการชนร่างกายของเขาออกมา

ความเจ็บปวดที่แทงหัวใจ ทำให้หยางเฉินมีความรู้สึกตายทั้งเป็น แต่เขายังคงฝืนทนไม่ให้ตัวเองล้มลงไป

หากว่าไม่ได้ถูกบีบจนถึงขั้นนี้ เขาจะใช้วิธีการที่เสี่ยงอันตรายแบบนี้มาบังคับเลื่อนขั้นพลังได้ยังไง ?

เขารีบใช้ตำราเทพสงคราม ดูดรับพลังที่ยาเสือมังกรระเบิดอย่างบ้าคลั่ง

ออร่าที่กายเขา เริ่มเพิ่มขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน

“หืม ?”

หลังจากหลีหยวนชิงรู้สึกได้ถึงออร่าบนตัวของหยางเฉินเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นไม่หยุด หน้าก็ถอดสี พูดด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ : “จะเป็นไปได้ยังไง ?”

เขาใช้วิชาลับจึงจะเลื่อนขั้นพลังถึงขั้นพวกนี้ได้ ทำไมหยางเฉินสามารถเลื่อนขั้นพลังถึงขั้นพวกนี้ได้ด้วย

วิชาลับที่เขาใช้ พูดให้ถูกต้องคือวิชาต้องห้าม เมื่อใช้ ก็จะต้องจ่ายค่าตอบแทนที่น่าเวทนาสุด ๆ

แต่ว่าเพื่อที่จะฆ่าหยางเฉิน เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้

ตอนนี้ คาดไม่ถึงว่าหยางเฉินเลื่อนขั้นพลังถึงระดับของเขาแล้วด้วย สามารถจินตนาการความคับแค้นของเขาได้เลย

“ไอ้หนู แกสมควรตายจริง ๆ !”

หลีหยวนชิงกรอดฟันพูดด้วยความเคียดแค้น

เหยียบพื้นเสียงดัง “ปึ๊ง” อย่างรวดเร็ว และแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ในทันที ส่วนร่างของเขาได้ปรากฏอยู่ข้างหน้าหยางเฉินแล้ว

“ตายซะ !”

หลีหยวนชิงคำราม แขนขวาที่ใหญ่และล่ำสันหนึ่งเท่าเศษ ๆ ข้างนั้น ทุบลงที่ศีรษะของหยางเฉินอย่างโหดเหี้ยมในทันที

วินาทีนี้ ทุกคนต่างกลั้นลมหายใจกันหมด จ้องฉากที่อยู่เบื้องหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย

“ปึ๊ก !”

วินาทีถัดมา เกิดฉากที่ชวนให้ทุกคนตกตะลึง เห็นเพียงหยางเฉินกอดอกในทันที หมัดของหลีหยวนชิง ทุบไปบนแขนทั้งสองข้างของเขาเข้าอย่างจัง

พร้อมกับเสียงกระดูกหักที่ดังขึ้น แขนทั้งสองข้างของหยางเฉินถูกสั่นสะเทือนจนขาด ส่วนร่างกายของเขาถอยหลังไปสิบกว่าก้าวในทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด