WN] World’s Fastest Level up! ~as a Result of the Awakening of My Incompetence Skill [Transfer Within Dungeon], I Became the Strongest Without Being Restricted by the Rules of the Dungeon. 8 สถานการณ์ของหญิงสาว

Now you are reading WN] World’s Fastest Level up! ~as a Result of the Awakening of My Incompetence Skill [Transfer Within Dungeon], I Became the Strongest Without Being Restricted by the Rules of the Dungeon. Chapter 8 สถานการณ์ของหญิงสาว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

เธอมีชื่อว่า คาไซ ยุย อายุ 18 ปีและกำลังจะเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยปีที่ 1 ในฤดูใบไม้ผลิ

 

หลังจากสอบเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ตัดสินใจเริ่มเป็นนักผจญภัยเพื่อเก็บเงินเผื่อไว้ในอนาคต

 

เหมือนว่าเธอตั้งใจเพื่อเป็นนักผจญภัยแบบพาร์ทไทม์ และเข้าร่วมปาร์ตี้กันนักผจญภัยคนอื่น ๆ เพื่อพิชิตดันเจี้ยนแทนที่จะหมกหมุ่นกับการพิชิตดันเจี้ยนทุก ๆ วันแบบผม

 

มีนักผจญภัยจำนวนมากที่ทำแบบนั้น เพราะตราบใดที่พวกเขาช่วยกันระวังความปลอดภัยกันและกัน พวกเขายังสามารถทำเงินได้มากมาย แต่อย่างไรก็ตาม เหมือนว่าเธอจะโชคร้ายนิดหน่อยแฮะ

 

ผมถอนหายใจด้วยความรู้สึกความเห็นอกเห็นใจและความหงุดหงิดไปพร้อม ๆ กัน หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมด

 

“คุณจะบอกว่า นักผจญภัยที่คุณเข้าร่วมปาร์ตี้เข้าดันเจี้ยนโดยที่ไม่รู้ว่ามีแค่ 4 คนเท่านั้นที่สามารถท้าทายบอสของดันเจี้ยนยูเมมิได้?”

 

“ชะ- ใช่แล้ว แต่ถึงเราจะรู้ว่าเราไม่สามารถเข้าท้าทายบอสได้พร้อมกัน 5 คน เราก็ไม่สามารถเสียเวลาเพื่อกลับไปด้านบนได้เช่นกัน หลังจากนั้น หัวหน้าปาร์ตี้ได้พูดขึ้นว่า มันง่ายกว่ามากที่จะกลับสู่ชั้นบนสุด ถ้าบอสของดันเจี้ยนถูกจัดการ ดังนั้น ถ้ามันเนอย่างนี้ มี 4 คนที่จะเข้าท้าทายบอสขณะที่อีก 1 คนที่เหลือรอเข้าร่วมกับปาร์ตี้ถัดไปที่จะมาที่นี่…”

 

“เพราะงั้นพวกเขาเลยทิ้งคุณที่เข้าร่วมแบบชั่วคราวไว้ข้างหลังใช่ไหม? …ไม่ใช่อะไรที่เข้าท่าเอาซะเลย”

 

พวกนั้นต้องถูกลงโทษอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าหากมีการรายงานเรื่องนี้ไปที่สมาคมนักผจญภัย

 

มีแค่นักผจญภัยข้างในดันเจี้ยนเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านใน ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอาชญากรรมแบบไหนขึ้นในดันเจี้ยน มันไม่มีทางรู้ได้เลยจากด้านนอก (เว้นแต่ว่าจะใช้ทักษะบางอย่าง) เพราะงั้นจึงมีการลงโทษที่รุนแรง หากการกระทำของเขาถูกพบ

 

ยังไงก็ตาม ผมควรทำยังไงกับสถานการณ์นี้? จัดการบอสพร้อมกันเธอน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่… ว่าตามตรง แค่ผมคนเดียวก็พอแล้ว

 

นั่นเพราะว่า รางวัลการเพิ่มเลเวลที่ได้จากการพิชิตดันเจี้ยนจะมอบให้สำหรับสมาชิกทุกคนในปาร์ตี้ หมายความว่า ถ้ามีใครสักคนต่อสู้โดยเอาชีวิตเข้าเสี่ยงและอีกคนไม่ทำอะไรนอกจากดู พวกเขาจะได้รางวัลเท่ากัน 

 

การกระทำที่รับประโยชน์จากการเพิ่มเลเวลโดยไม่มีส่วนช่วยอะไรถูกเรียกว่า [ปรสิต] และมันถูกรังเกียจจากนักผจญภัยทุกคน

 

ตามปกติแล้ว ผมควรจะไม่สนใจเธอและเข้าท้าทายบอสเพียงคนเดียว แต่…มันคงทำให้รู้สึกเหมือนอมอะไรขม ๆ ถ้าผมมองข้ามเธอไป

 

นอกจากนี้ สิ่งที่น่ารังเกียจที่สุดของเหล่าปรสิตคือเมื่อมีคนเข้าร่วมปาร์ตี้และท้าทายดันเจี้ยนที่มีระดับสูงกว่าความสามารถของพวกเขา การที่เธออยู่ที่นี่ หมายความว่าเธอควรอยู่ในเลเวลที่สามารถท้าทายดันจี้ยนระดับ D ได้

 

ถ้าเป็นอย่างนั้น ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร

 

“เอ่ออ…คาไซคือว่า…”

 

“ค่ะ!”

 

“ประตูของห้องบอสกำลังจะเปิดแล้ว ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อมและเราจะเข้าไปกัน”

 

“หมายความว่า…”

 

“เราจะไปด้วยกัน แต่…แค่ครั้งนี้เท่านั้นนะ”

 

“ขะ-เข้าใจแล้ว! ขอบคุณมากนะคะ”

 

คาไซโค้งคำนับหลายครั้งด้วยรอยยิ้มที่ร่าเริง จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้แย่ที่จะได้รับคำขอบคุณจากใครสักคน

 

ขณะที่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ประตูของห้องบอสก็ได้ถูกเปิดออก เหมือนปาร์ตี้ก่อนหน้านี้จะจัดการบอสได้แล้ว

 

“งั้น เราไปกันเถอะ”

 

“เอ่ออ มันจะไม่ดีกว่าหรอ ถ้าเราจะดูเลเวลและสกิลของแต่ละคนก่อนจะเข้าไป…”

 

คาไซพูดถูก มันสำคัญมากที่จะปรับเลเวลและความสามารถของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้จำเป็นสำหรับตอนนี้

 

ผมหันหลังกลับไปพูดเท่ ๆ กับเธอว่า

 

“ไม่จำเป็น คุณคิดว่าผมเป็นใครกัน?”

 

“แล้ว…คุณเป็นใครคะ?”

 

อุ๊ปส์! ผมยังไม่ได้แนะนำตัวเลย

 

“อามาเนะ ริน”

 

“อามาเนะ ริน-ซัง…เอ่ออ เพราะฉันรู้จักบางคนที่ชื่ออามาเนะเหมือนกัน ฉันของเรียกคุณว่าริน-ซังได้ไหม?”

 

“แน่นอน”

 

“ขอบคุณนะ ถ้าไม่ติดอะไร ช่วยเรียกฉันว่า ยุย เช่นกัน”

 

“โอเคคค”

 

ด้วยเหตุนี้ ผมและยุยได้เข้าไปในห้องบอสและจัดการฮาร์ปี้ในการโจมตีเดียว…

 

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด