ปลาตีนเสื้อเป็นสัตว์อสูรระดับกลางความแข็งแกร่งของมันไม่ได้อ่อนแอเย่เทียนไม่สนใจปลาตีนเสื้อตัวนี้เขาเลือกที่จะอ้อมหลบมัน และตามหาแมงกะพรุนประภาคารต่อ

ด้วยพรสวรรค์ในการคัดลอกสัตว์อสูรวารีทุกตัวอย่าหวังว่าจะรอดพ้นจากการตรวจสอบของเขาได้นอกจากนี้ตั้งแต่เขากลายเป็นนักรบชั้นยอด ขอบเขตการตรวจสอบของพรสวรรค์การคัดลอกก็เพิ่มขึ้นจากสามเมตรเป็นสิบเมตร

ภายในระยะ 10 เมตร เย่เทียนสามารถตรวจสอบพรสวรรค์ของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดได้

เวลาผ่านไปอย่างช้าๆ เย่เทียนได้ค้นพบสัตว์อสูรวารีอีกจํานวนมาก และที่อันตรายที่สุดก็คือตอนเขาได้พบกับสัตว์อสูรวารระดับสูงโชคดีที่เขาตรวจพบมันก่อนในระยะ 10 เมตรนอกจากนี้สัตว์อสูรระดับสูงตัวนี้ยังไม่ได้ใช้พลังจิตในการสํารวจรอบๆดังนั้นเย่เทียนจึงหลบออกไปได้ทันเวลาก่อนที่จะถูกพบตัว

ครึ่งชั่วโมงต่อมา

ในที่สุดเยู่เทียนก็พบแมงกระพรุนประภาคารและยังเป็นแมงกะพรุนประภาคารขนาดเล็ก

[ประเภท: แมงกะพรุนประภาคาร

พรสวรรค์ทางสายเลือด: ระดับเริ่มต้น

พรสวรรค์ในการรักษา: ระดับสูงสุด]

“มันเป็นพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุด!!!”

เย่เทียนตื่นเต้นมากจนมือสั่น

เดิมที่เขาคิดว่าพรสวรรค์ของแมงกะพรุนประภาคารเป็นเพียงพรสวรรค์ระดับกลางหรือระดับสูงเท่านั้นแต่เขาไม่คิดว่าจะเป็นพรสวรรค์ระดับสูงสุด

เขาไม่เคยพบพรสวรรค์ระดับสูงสุดเลย และไม่คิดว่าจะพบมันในวันนี้มันยังเป็นพรสวรรค์ของแมงกะพรุนประภาคารซึ่งเป็นเป้าหมายของเขาอีกด้วย

“คัดลอก ยังไงต้องคัดลอกมาให้ได้!”

เย่เทียนคิดอย่างตื่นเต้น

แมงกะพรุนประภาคารเป็นสัตว์อสุรที่ไม่แข็งแกร่ง มันไม่มีทางที่จะค้นพบเย่เทียนที่หลอมรวมกับความมืดดังนั้นเขาจึงสามารถลอบเข้าใกล้มันได้

เมื่อมือขวาของเย่เทียนสัมผัสแมงกะพรุนประภาคาร เขาก็ได้จําลองพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุดของมันมา

วินาทีมา

เย่เทียนก็รีบถอยห่างจากแมงกะพรุนประภาคารเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกล้อมโดยฝูงของมัน

แมงกะพรุนประภาคารไม่ได้น่ากลัวแต่ที่น่ากลัวคือหนวดของมันและที่นี่ก็ยังเป็นทะเลสาบมรณะหากเขาไปกระตุ้นสัตว์อสูรตัวอื่นๆแม้ว่าเขาจะมีพรสวรรค์เงาทมิฬเขาก็ไม่มีทางหลบหนีออกจากที่นี่ได้

ไม่นานเย่เทียนก็ออกมาจากทะเลสาบมรณะ

เมื่อเขามาถึงฝั่งก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

“เราต้องรีบออกไปเดี๋ยวนี้!”

เย่เทียนรีบหนีออกจากทะเลสาบมรณะในไม่ช้าเขาก็มาถึงถ้ำขนาดเล็กและทําการปกปิดมันจากนั้นก็เดินเข้าไปด้านใน

หลังจากเข้าไปในถ้ำเย่เทียนก็เริ่มผสานกับพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุดทันที

ผสาน!!!

การเปลี่ยนแปลงที่เป็นไปไม่ได้ได้เริ่มขึ้นแล้ว

ถ้าสามารถมองลึกเข้าไปในเซลล์ของเย่เทียนได้ จะพบว่าว่าเซลล์ทุกเซล์ของเย่เทียนกําลังอยู่ในการกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่แปลกประหลาด ดีเอ็นเอมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากราวกับว่ามันกําลังวิวัฒนาการ

ความเจ็บปวดที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เหนือกว่าครั้งก่อนๆ แต่เย่เทียนกลับตื่นเต้นกับมันมากในตอนนี้เขากําลังมีความสุขปะปนไปด้วยความเจ็บปวด

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่ ในที่สุดเย่เทียนก็ลืมตาขึ้นขณะที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นทั่วร่างกาย

เย่เทียนยืนขึ้นและมองไปที่พรสวรรค์ของเขา

[มนุษย์: เย่เทียน

พรสวรรค์ในการบ่มเพาะ: ระดับสูง

พรสวรรค์ด้านความเร็ว: ระดับเริ่มต้น

พรสวรรค์ด้านดาบ: ปานกลาง

พรสวรรค์เงาทมิฬ: ระดับเริ่มต้น

พรสวรรค์ในการรักษา: สูงสุด]

เมื่อเห็นข้อมูลทั้งหมด เย่เทียนรู้สึกสงสัยว่าพรสวรรค์ในการรักษานั้นแข็งแกร่งเพียงใด

เขาหยิบมีดออกมาแล้วค่อยๆกรีดแขนตัวเอง

ทันใดนั้น ฉากอันน่ามหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ในเวลาเสี้ยววินาทีบาดแผลก็หายสนิท

“ซูด!!”

เย่เทียนสูดหายใจเข้าลึก พรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุดมีพลังอันน่าตกตะลึงอย่างแท้จริง

ด้วยพรสวรรค์ในการรักษาเช่นนี้ ตราบใดที่ไม่ได้รับบาดเจ็บถึงชีวิต ก็ไม่มีทางที่เขาจะตายการได้พรสวรรค์ในการรักษาขั้นสูงสุดมามันได้ช่วยเพิ่มไฟในการรักษาชีวิตของเขาขึ้นอีกระดับ

อย่างไรก็ตามเย่เทียนไม่คิดว่าเขาจะเป็นอมตะ

ไม่ว่าความสามารถในการรักษาจะท้าทายสวรรค์แค่ไหน มันก็ต้องใช้พลังปราณหากร่างกายไม่มีพลังปราณแล้วล่ะก็ แม้จะเป็นพรสวรรค์ในการรักษาระดับสูงสุดก็ไร้ประโยชน์

หากต้องเผชิญหน้ากับศัตรูที่เขาไม่สามารถต่อกรได้อย่างมากเขาก็สามารถยื้อเวลาได้นานขึ้นแต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็จบลงด้วยความตายเช่นเดิม

ดังนั้นความแข็งแกร่งจึงเป็นสิ่งสําคัญที่สุด

หลังจากพักผ่อนในถ้ำหนึ่งคืน เย่เทียนก็รีบกลับไปที่ฐานหลินไหในเช้าวันรุ่งขึ้น

ในช่วงครึ่งเดือนต่อมา เย่เทียนเริ่มล่าสัตว์อสูรอย่างบ้าคลั่งอีครั้ง และเขายังซื้อรถกระบะซึ่งเป็นรถพลังเวทย์ที่ผลิตขึ้นใหม่ซึ่งใช้เงินไปทั้งหมด1 ล้านหยวน

ด้วยรถกระบะเขาสามารถล่าสัตว์อสูรกลับมาได้ทุกวัน ความสามารถในการหาเงินของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

ด้วยพรสวรรค์ในการรักษา สัตว์อสูรระดับกลางไม่มีทางที่จะฆ่าเขาได้ และสัตว์อสูรระดับสูงก็พบได้ยาก ดังนั้นเย่เทียนจึงชําระหนี้หมดภายในครึ่งเดือนและยังเหลือเงินเก็บไว้อีก 5 ล้านหยวนรวมไปถึงเลือดของสัตว์อสูรระดับกลางอีกจํานวนมาก

ด้วยทรัพยากรเช่นนี้ เย่เทียนก็พร้อมที่จะฝึกฝนและเพิ่มพูนความแข็งแกร่งอีกครั้ง

การฝึกฝนของนักรบชั้นยอดคือการขัดเกลาเลือด ร่างกายของพวกเขามีข้อกําหนดที่เข้มงวดเทคนิครวบรวมลมปราณจะช่วยขัดเกลาร่างกายของพวกเขาในเวลาเดียวกัน

ความแข็งแกร่งของเย่เทียนมีมากกว่า 10,000 จนเป็นนักรบชั้นยอดขั้นต้น และขีดจํากัดของนักรบชั้นยอดคือ 100,000 จุนตอนนี้เย่เทียนมีพลังน้อยกว่า 20,000 จินยังห่างไกลจากจุดสูงสุดของนักรบชั้นยอดมากแต่เย่เทียนมีพรสวรรค์มากมายเพียงพอที่จะต่อกรกับนักรบชั้นยอดที่มีพละกําลังมากกว่า 50,000 ชิ้นและสามารถรักษาชีวิตของเขาไว้ได้แม้จะต้องเผชิญหน้ากับนักรบชั้นยอดขั้นสูงสุด

แต่นั่นยังไม่พอ

เย่เทียนต้องการที่จะเอาชนะนักรบชั้นยอดและต่อกรกับนักรบผู้เชี่ยวชาญได้

น่าเสียดายที่พรสวรรค์ของเขาส่วนใหญ่เป็นพรสวรรค์ประเภทช่วยเหลือไม่มีพรสวรรค์ในการโจมตีโดยตรงเลย

“ครั้งต่อไปเราต้องเลือกพรสวรรค์ประเภทการโจมตีเพื่อคัดลอก!”

เย่เทียนตัดสินใจ

เขาไม่มีความหวังที่จะคัดลอกพรสวรรค์ด้านการโจมตีจากผู้ฝึกยุทธที่ฐานหลินไห่เป้าหมายของเขาคือสัตว์อสูรสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์มีมากมายกว่านักรบ หากเขาเลือกสัตว์อสูรตัวใดตัวหนึ่งได้มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะค้นหามันดีกว่าการเสี่ยงโชคงมเข็มในมหาสมุทรท่ามกลางมนุษย์

แน่นอนว่าสัตว์อสูรที่มีพรสวรรค์ในการโจมตีนั้นน่ากลัวกว่าสัตว์อสูรประเภทอื่นมากการจะคัดลอกพรสวรรค์จากสัตว์อสูรเช่นนี้ได้นั้นต้องแข็งแกร่งเพียงพอ

ดังนั้นเย่เทียนจึงฝึกฝนอย่างบ้าคลั่งในช่วงครึ่งเดือนถัดไป เนื่องจากเขามีพรสวรรค์ในการรักษาระดับสุดยอดเขาจึงไม่กลัวความเสียหายทางร่างกายที่เกิดจากการฝึกฝนและกระบวนการขัดเกลาเลือดดังนั้นความเร็วในการฝึกฝนของเขาจึงพุ่งสูงขึ้น

ในเวลาเพียงครึ่งเดือน หลังจากเลือดสัตว์อสูรระดับกลางนับไม่ถ้วนหมดไปในที่สุดเย่เทียนก็เพิ่มพละกําลังได้ถึง 30,000 จิน นี่เป็นความสําเร็จที่อัจฉริยะด้านการบ่มเพาะระดับสูงคนอื่นๆ ไม่สามารถทําได้อย่างแน่นอนวันนี้

เย่เทียนมองหาสัตว์อสูรที่เหมาะสมจากแผนที่สัตว์อสูรที่ซื้อมาใหม่

“อสรหมคลั่ง สัตว์อสูรระดับกลางแข็งแกร่งกว่าสัตว์อสูรทั่วไปถึงสองเท่าพรสวรรค์ของมันน่า จะเป็นด้านพละกําลัง!”

เย่เทียนมองไปที่ข้อมูลและส่ายหัว

หมีคลั่งอาจจะมีพรสวรรค์ด้านพละกําลัง แต่ระดับพรสวรรค์ด้านพละกําลังของมันนั้นไม่สูงนักอย่างมากก็แค่พรสวรรค์ด้านพละกําลังระดับรองเท่านั้น จึงยังไม่ใช่เป้าหมายที่ดีที่สุด

“วิหคเพลิง เป็นสัตว์อสูรระดับกลาง ที่มีพรสวรรค์ด้านเปลวเพลิง สามารถฆ่าสัตว์อสูรระดับกลางประเภทอื่นได้อย่างง่ายดาย!”

เย่เทียนส่ายหัวหลังจากอ่านจบ

พรสวรรค์ด้านเปลวเพลิงของวิหคเพลิงไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก อย่างมากก็แค่พรสวรรค์ด้านเปลวเพลิงขั้นต้นเท่านั้น พรสวรรค์เช่นนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาก็จริงแต่ก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากนัก ไม่มีทางที่เขาจะสามารถเอาชนะนักรบชั้นยอดขั้นสูงสุดได้

“หึม!! สัตว์อสูรตัวนี้ไม่เลวเลย!”

เย่เทียนมองไปที่ข้อมูลของสัตว์อสูรและรู้สึกประหลาดใจ