Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์ 77 บรรพบุรุษตระกูลเย่วมาถึงแล้ว!

Now you are reading Your Talent Is Mine ระบบคัดลอกพรสวรรค์ Chapter 77 บรรพบุรุษตระกูลเย่วมาถึงแล้ว! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในถุงเก็บสมบัติทั้งสองใบมีสิ่งของมากมาย เช่นสมุนไพรล้ำค่าที่อายุมากกว่า 100 ปีแต่ละอย่างล้วนมีมูลค่าสูง

อย่างไรก็ตามจางไคและอีก 5 คน มายังเขตแดนลับไม่ได้พกพาสิ่งของมามากมายสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดของพวกเขามีแค่หญ้าวิญญาณเพลิงเท่านั้น

นอกจากนี้แค่ได้รับถุงเก็บสมบัติสองใบก็นับว่าคุ้มค่าแล้วเช่นกัน ราคาของถุงเก็บสมบัติใบเดียวนั้นไม่ได้เลยมันไม่สามารถซื้อได้หากไม่มีช่องทางซื้อขายถึงแม้จะมีมูลค่าของมันก็สูง ถึง 2 พันล้านหยวน

เย่เทียนได้รับสมบัติมากมายและถุงเก็บสมบัติสองใบเพื่อแลกกับหญ้าวิญญาณเพลิงที่ไร้ประโยชน์กับเขา!

หลังจากนั้นเย่เทียนก็เริ่มจัดเรียงสมบัติของถุงเก็บสมบัติทั้งสองใบของที่มีมูลค่าสูงเขาแอบส่งมันเข้าไปในมิติส่วนตัว ส่วนสิ่งของอื่นๆเขาใส่มันลงในถุงเก็บสมบัติถุงเก็บสมบัติ 1 ใบเขาใส่ ไว้ในกระเป๋าเป้และอีกใบเก็บไว้ด้านนอก

เย่วหลิงหยิบหญ้าวิญญาณเพลิงอย่างทะนุถนอม เพราะกลัวว่ามันจะสูญเสียประสิทธิภาพไฟ ท่าทางแบบนี้ทําให้เย่เทียนรู้สึกว่าเย่วหลังให้ความสําคัญกับเรื่องนี้มากเกินไป ราวกับว่าเธอไม่ เคยเห็นโลกภายนอกมาก่อน

หลังจากที่ทั้งสองได้จัดแจงติดต่างๆเสร็จสิ้น พวกเขาก็มุ่งหน้าต่อไประหว่างทาง

ในที่สุดเย่วหลิงก็อดพูดออกมาไม่ได้ “เย่เทียน ฉันไม่อยากจะค้นหาสมบัติอีกแล้วหญ้าวิญญาณเพลิงมันสําคัญกับตระกูลเย่วมาก ฉันอยากออกจากที่นี่ก่อนถึงกําหนดเขตแดนลับนั้นอันตรายเกินไปบางทีฉันอาจจะตกอยู่ในอันตรายลําพังฉันคนเดียวแม้จะตายก็ไม่เป็นไรแต่หญ้าวิญญาณเพลิ้งนี้ฉันไม่สามารถสูญเสียมันไปได้!”

เย่เทียนมองเย่วหลิงอย่างลึกซึ้ง เขารู้ว่าเย่วหลิงคิดอะไรอยู่

นี่เป็นวิธีที่ปลอดภัย ถ้าออกไปก่อนก็จะไม่เกิดอุบัติเหตุ ส่วนสมบัติอื่นๆเย่วหลิงล้วนไม่สนใจ”ตกลงผมจะส่งคุณไปที่นั่น!แต่ผมจะยังไม่ออกไปข้างนอก!ผมจะออกไปก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่กําหนด!”

เย่เทียนกล่าว

“ตกลง ด้วยความแข็งแกร่งของคุณ ตราบใดที่คุณไม่ไปยั่วยุสัตว์อสูรที่ร้ายกาจหรือหยุนเฟิงในเขตแดนลับคุณย่อมจะไม่ตกอยู่ในอันตราย!” เย่วหลังกล่าวอย่างเข้าใจ

ถึงอย่างไรเธอก็ไม่ยอมให้เย่เทียนสละเวลาที่เหลือออกไปพร้อมเธอ นั่นมันไม่มีประโยชน์อะไร

และการที่เย่เทียนยังคงอยู่ในเขตแดนลับเขาจะได้รับประโยชน์มากขึ้น หลังจากตกลงกันได้แล้วเย่เทียนก็พาเย่วหลิงไปยังรอยแยกมิติ

แต่สิ่งที่เย่วหลังไม่รู้ก็คือ ตอนนี้เย่เทียนมีความสุขอย่างมาก

เขาต้องการที่จะเคลื่อนไหวตามลําพังมานานแล้ว แต่เนื่องจากข้อตกลงของเขากับเย่วหลิงเขาจึงไม่สามารถกล่าวอะไรได้

ตอนนี้เย่วหลิงเป็นฝ่ายเสนอที่จะออกจากเขตแดนลับก่อน ตอนนี้เขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ

ด้วยพลังฝีมือของเขา ความเร็วในการเก็บเกี่ยวทรัพยากรจะต้องรวดเร็วมากอย่างแน่นอน

บางที่การเก็บเกี่ยวครั้งนี้อาจจะเพียงพอสนับสนุนการฝึกฝนของเขากับน้องสาวได้อีกหลายปี

สองวันต่อมา

ในที่สุดเย่เทียนก็พาเย่วหลิงมาถึงรอยแยกมิติ

แม้ว่าระหว่างทางจะพบเจอกับอันตรายอยู่หลายครั้ง และหนึ่งในนั้นก็เป็นฝูงสัตว์อสูรที่น่ากลัวสัตว์อสูรทุกตัวล้วนแข็งแกร่งมากพลังโจมตีของพวกมันแต่ละตัวก็แข็งแกร่งกว่าเย่วหลิง

เย่เทียนมีความสามารถพอที่จะหนีไปอย่างง่ายดาย แต่เย่วหลิงไม่สามารถทําเช่นนั้นได้

เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากรับปากเย่วหลิงว่าจะพาเธอหนีออกไปอย่างปลอดภัยให้ได้

หลังจากผ่านวิกฤติครั้งแล้วครั้งเล่าเย่วหลิงก็รู้สึกประหม่าเธออยู่ในอาการตึงเครียด

แต่เมื่อเธอมองเห็นรอยแยกของมิติเหนือศีรษะ เธอก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย

“ไม่มีใครอยู่แถวนี้!”

เย่เทียนตรวจสอบรอบๆ

ตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกแค่เดือนเดียว คนอื่นๆ ยังคงมองหาสมบัติและโชควาสนาอยู่ดังนั้นพวกเขาจึงยังไม่จากไปก่อนกําหนดเหมือนกับเย่วหลิง

หลังจากพักผ่อนครึ่งชั่วโมง เย่วหลิงก็ฟื้นตัว และกล่าวคําอาลาเย่เทียน

“เย่เทียน ระวังตัวด้วย ฉันจะออกไปก่อน”

“ตกลง!”

เย่เทียนโบกมือ

เย่วหลังกระโดดเบาๆ และเข้าไปในรอยแยกของมิติที่อยู่กลางอากาศร่างของเธอหายไปในพริบตา

ก่อนที่เย่เทียนจะมีพรสวรรค์ด้านมิติ เย่เทียนไม่สามารถสัมผัสถึงการโคจรของพลังแห่งมิติได้แต่ตอนนี้เขากลับมองเห็นมันได้อย่างชัดเจน

เมื่อเย่วหลิงเข้าไปในรอยแยกมิติ พลังมิติก็ห่อหุ้มตัวเย่วหลิงและส่งเธอออกไป

เขายังไม่สามารถทําเช่นนี้ได้!

แต่เขาเชื่อมั่นว่าตราบใดที่พรสวรรค์ด้านมิติของเขาพัฒนาขึ้น ในอนาคตเขาจะสามารถทําเช่นนั้นได้อย่างง่ายดาย

โลกภายนอก

เย่วหลิงออกมาจากรอยแยกมิติ แต่พลังของเขตแดนลับไม่สามารถส่งผลกระทบต่อโลกภายนอกได้ดังนั้นเย่วหลิงจึงไม่ได้ถูกโยนออกไปแบบสุ่มเหมือนตอนเข้าไปแต่ออกมาตรงจุดเดิมแทน

ทันใดนั้น เหล่าปรมาจารย์จากตระกูลใหญ่ต่างก็มองไปยังเย่วหลิง

พรึบ!

“เย่วเฟิง” รีบเข้าไปปกป้องเย่วหลิงทันที

“เย่วหลิง ทําไมเจ้าถึงออกมาก่อนล่ะ?”

เย่วเฟิงขมวดคิ้วและถาม

“ท่านผู้อาวุโส ข้าได้พบกับสัตว์อสูรที่น่ากลัวและบังเอิญข้าวิ่งตรงมายังรอยแยกมิติเพื่อเอาชีวิตรอด!สัตว์อสูรตัวนั้นมีขนาดใหญ่มาก ข้าไม่สามารถอยู่ต่อได้อีก”เย่วหลิงกล่าวอย่างจนปัญญานางโกหกปรมาจารย์จากตระกูลอื่นๆด้วยใบหน้าที่มืดมนไร้หนทาง

ทันใดนั้น ปรมาจารย์แต่ละคนก็แอบดีใจกับความโชคร้ายของตระกูลเย่วพวกเขาเยาะเย้ยกับความไร้ความสามารถของตระกูลเย่ว

“กลับไปที่เรือเหาะเหินวายุก่อนแล้วค่อยว่ากัน!”

เย่วเฟิง” พาเย่ว์หลังไปยังเรือเหาะเห็นวายุ มันคือเรือเหาะของตระกูลเย่ว

หลังจากที่เย่วหลิงและคนอื่นๆได้เข้าสู่เขตแดนลับแล้ว คนจากตระกูลใหญ่ก็ไม่ได้จากไปพวกเขากลัวว่าจะมีคนในตระกูลออกมาก่อนกําหนดและไม่มีใครปกป้องพวกเขา

ถึงอย่างไรที่นี่ก็อยู่ในป่าที่ห่างไกล มีสัตว์อสูรมาโจมตีที่นอยู่บ่อยครั้งพวกเขาต้องปกป้องทางเข้าของรอยแยกมิติไว้

ในเวลานี้เรือเหาะเหินวายุไม่ได้อยู่บนท้องฟ้า แต่อยู่บนพื้นดิน ดังนั้นจริงไม่จําเป็นต้องสูญเสียพลังงาน

เมื่อเข้าไปในเรือเหาะเหินวายุ

เย่วเฟิงก็เปิดขายอาคมกันเสียงภายในเรือเหาะ

“เย่วหลิง ไม่มีใครอยู่ที่นี่แล้ว ทําไมเจ้าถึงโกหกข้า ข้าสามารถสัมผัสได้ว่าเลือดของเจ้าไหลเวียนอย่างรวดเร็วแสดงว่าเจ้ากําลังตื่นเต้นมาก”

เย่วเฟิง กล่าว

“ผู้อาวุโส รบกวนท่านเชิญท่านบรรพบุรุษมาที่นี่!”

เย่วหลิงพูดสิ่งที่ทําให้เย่วเฟิงต้อง ตกใจ

“เชิญท่านบรรพบุรุษ? เจ้าไม่รู้หรอกว่าท่านบรรพบุรุษมีฐานะเป็นอย่างไร?ทําไมต้องเชิญท่านมายังที่นี่?เจ้าพบอะไรกันแน่?”

เย่วเฟิงกล่าวด้วยความตกใจ

“หญ้าวิญญาณเพลิง!

เย่วหลิงพูดขึ้นมาตรงๆ

เธอไม่กลัวว่าเย่วเฟิงจะโลภ เพราะเธอรู้ว่าอุปนิสัยของเย่วเฟิงเป็นอย่างไรเขาเป็นผู้ที่ภักดีต่อตระกูลมากที่สุด นอกจากนี้บรรพบุรุษยังเป็นปู่ของเธอดังนั้นเย่วเฟิงจึงไม่อาจปิดบังท่านปู่ได้

“เป็นหญ้าวิญญาณเพลิงจริงๆหรือ? มันระดับไหน?”

เย่วเฟิงก็ตื่นเต้นเช่นกัน

“ระดับสาม!”

เย่วหลังกล่าวตามความจริง

“ระดับสามหายากมาก มันจะช่วยให้จอมยุทธ์ระดับราชาได้รับพรสวรรค์ที่เกี่ยวข้องกับไฟระดับเริ่มต้นหรือระดับรองท่านบรรพบุรุษไม่มีพรสวรรค์พิเศษถ้าเขาได้กลั่นหญ้าวิญญาณอัคคีนี้ ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากและสถานะของตระกูลเย่วเราก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย”

เย่วเฟิงไม่พูดพร่ำทําเพลงอีก เขาใช้อุปกรณ์สื่อสารเพื่อแจ้งให้บรรพบุรุษตระกูลเย่วทราบ

ไม่ถึง 3 วินาที

ฟูม!!!!

กลิ่นอายระดับราชาก็แผ่กระจายออกมาจากที่ไกลๆ ทําให้ทุกตระกูลต้องตกใจ”มีราชาปรากฏตัวอีกแล้วหรือ?”

ปรมาจารย์หลายคนประหลาดใจ

“พี่เย่ว ทําไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่?”

ราชาหยุนเหอปรากฏตัวขึ้นและยืนอยู่กลางอากาศ และมองไปที่จอมยุทธ์วัยกลางคนที่บินมาจากที่ไกล ๆ เขามาถึงด้านหน้าของทุกคนอย่างรวดเร็วคนผู้นี้คือคือบรรพบุรุษของตระกูลเย่วเขาคือเย่วหมิงผู้ที่อยู่ในระดับราชา

“ราชาหยุนเหอ ข้ามีธุระที่นี้และไม่ได้คิดจะแหกกฏ!”

เมื่อเย่วหมิงพูดจบ เขาก็พุ่งตัวเข้าไปในเรือเห็นวายุของตระกูลเย่ว

ณ จุดนี้เอง

ทุกคนคาดเดาได้ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น

มันต้องเกี่ยวข้องกับเย่วหลิงอย่างแน่นอน!

“หรือว่าเย่วหลิงจะนําสมบัติที่ทําให้แม้แต่ระดับราชายังต้องหวั่นไหวออกมา?”

ปรมาจารย์หลายคนคาดเดาเช่นนี้ทันที

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด