กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess 75 ไม่เสียหายถ้ามีเงินมากขึ้น

Now you are reading กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess Chapter 75 ไม่เสียหายถ้ามีเงินมากขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย กําเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess

ตอนที่ 75 ไม่เสียหายถ้ามีเงินมากขึ้น

“ฉ่เซียวซู ปล่อยข้า” หลินเสี่ยวเฟยกล่าวขึ้นอย่างใจเย็นเธอต้องยอมจํานนและเรียกชื่อเขาเนื่องจากสถานการณ์เริ่มไม่ดีเธอจึงไม่สามารถปฏิเสธเขาได้

ไม่เหมือนกับเค่อซ่งหรือเฉินโม่ชายที่เธอตรึงไว้ฉ่เซียวซูมีความสามารถที่เหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และศิลปะการฆ่าเธอได้ยินเรื่องราวต่างๆรอบตัวเขาและรู้ดีกว่าใครๆว่ามัน ไม่ใช่เพียงข่าวลือ

เมื่ออายุยังน้อยฉ่เซียวซูได้ออกไปที่ชายแดนซินหยานเพื่อต่อสู้กับคนป่าเถื่อนและกลุ่มคนอื่นๆที่ต้องการโจมตีเมืองที่อยู่ติดกับชายแดน

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เขาเป็นผู้นําที่พิถีพิถันและมีความสามารถในการกําจัดศัตรูที่ติดอาวุธคนป่าเถื่อนและกลุ่มคนอื่นๆที่ต้องการต่อสู้กับเขากลับต้องพบกับจุดจบที่ไม่น่าพึงพอใจ
เธอแค่ต้องการสัมผัสถึงรัศมีอันตรายที่เขาเปล่งออกมาและนั่นไม่ต้อง สงสัยเลยว่าถ้าหากเธอแทงเขา เขาก็จะไม่ผ่อนปรนต่อเธอเช่นกัน

แม้ว่าหลินเสี่ยวเฟยจะไม่กลัวความตาย แต่สิ่งที่เธอกลัวคือความคิดที่ว่าจะไม่สามารถแก้แค้นและฆ่าศัตรูของเธอได้

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอตัดสินใจที่จะไม่โกรธเขาอีก

ทันใดนั้น หลินเสี่ยวเฟยหวังว่าครั้งต่อไปเธอจะไม่ปล่อยให้คนรับใช้ส่วนตัวของเธอออกไปไหนอีกหากพวกเขาคอยอยู่ใกล้ๆ ชายผู้นี้จะไม่กล้าเข้ามาในห้องของเธอและกล้าที่จะตรึงเธอไว้

“ท่านกําลังคิดสิ่งใดเกี่ยวกับข้า?” เธอได้ยินฉ่เซียวซูกล่าวถาม ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้และริมฝีปากของพวกเขาห่างกันไม่กี่นิ้ว ซึ่งหากเขาพยายามขยับใบหน้าไปข้างหน้าเล็กน้อยริมฝีปากของทั้งคู่ก็เกือบจะประกบกัน

หลินเสี่ยวเฟยจ้องมองเขา “ท่านหนักมาก” หลังจากพูดเช่นนั้น เธอเห็นดวงตาของเขาเบิกกว้างและดูเหมือนประหลาดใจที่ได้ยินเธอพูดเช่นนั้นเขาคงคาดหวังให้เธอพูดอย่างอื่น

“ข้าเป็นอะไร”

“อะไรคือหนัก…”

ความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วท้องไม่นานหลังจากความเงียบก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันน่ารื่นรมย์ของเขา

ฉ่เซียวซูปล่อยเธอและลุกขึ้นนั่งเมื่อเขาหยุดหัวเราะก็มีรอยยิ้มที่เล่นอยู่บนริมฝีปากของเขา เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนบอกเขาว่าร่างของเขาหนักแน่นอนว่าในฐานะชายที่โตกว่าไม่มีทางที่เขาจะมี ร่างที่เบากว่าหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง

อย่างไรก็ตาม หากเป็นหญิงสาวคนอื่นๆที่เขาอยู่ภายใต้การดูแลของเขาพวกเขาอาจจะทําทุกอย่างเพื่อให้เขาอยู่เหนือสิ่งนั้นแต่หญิงสาวผู้นี้ที่บอกเขาว่าร่างของเขานั้นหนักมันจึงดูแตกต่างออกไป

หลินเสี่ยวเฟยรองรับตัวเองด้วยข้อศอกของเธอขณะที่เธอจ้องมาที่เขาเธอสับสนว่าทําไมเขาถึงหัวเราะเธอก็แค่พูดความจริงแล้วทําไมเขาต้องหัวเราะกับคําพูดของเธอ?

ตั้งแต่เวลาที่ฉ่เซียวซูตรึงเธอไว้หน้าอกที่แข็งแรงของเขาอยู่เหนือเธอและเมื่อเขาเข้าไปใกล้น้ำหนักของเขาแทบจะทําให้เธอหายใจไม่ออก

และผ่านไปหลายนาทีแล้วตั้งแต่ที่เขาอยู่เหนือเธอเขาอยากถามเธอว่าเธอกํา ลังคิดอะไรอยู่ สิ่งเดียวที่เข้ามาในหัวเธอก็คือเขาจะปล่อยเธอเมื่อไหร่เพราะเธอแทบจะรับน้ําหนักร่างของเขาไม่ไหว

“ท่านประเมินข้าต่ําไป”ฉ่เซียวซูกล่าวขึ้นหลังจากหัวเราะสายตาของเขามองกลับมาที่เธอ

“หลินเสี่ยวเฟย ท่านรู้หรือไม่ว่าข้ายอมจ่ายเงินหญิงสาวเพื่อแลกกับการได้อยู่เหนือพวกเขา”

คําพูดของเขาช่างไร้ยางอายและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
พวก

“ข้าหวังว่าข้าจะได้พบพวกเขาและแลกเปลี่ยนกับพวกเขา”เธอพูดด้วยน้ําเสียงที่ดูงุ่มง่ามว่า”มีเงินมากก็ดูไม่เสีย
หาย”

ขณะที่พูดเช่นนั้น เธอก็นั่งลงและจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเธอสวมเพียงเสื้อผ้าชั้นในของเธอ

ดังนั้น ฉ่เซียวซูจึงสําลักเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้เปลี่ยนการแสดงออกหรือเขิลอายในขณะที่เธอทําเช่นนั้น

ไม่เพียงแค่นั้น เขาเกือบอยากจะบีบคอหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเพราะเขาคิดว่าเธอจะใช้ให้เขาหาเงินเพิ่ม

ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็เข้ามาในหัวของเขา เขาจึงกล่าวถามเธอว่า “ท่านเงินหมดแล้วหรือ?”

คําถามของเขาทําให้หลินเสี่ยวเฟยขมวดคิ้วและก่อนที่เธอจะพูดอะไรเธอก็ได้ยินเขาพูดขึ้นอีกครั้ง

“ในอนาคต หากท่านต้องการเงินให้ท่านไปที่หงเป่ยโหลวและขอเงินเพิ่ม จากเสี่ยวเอ้อที่ท่านพบครั้งล่าสุด” เขาหยุดเล็กน้อยและกล่าวต่อ “และหากยังไม่พอท่านยังสามารถส่งคนหรือไปที่พักของข้าเพื่อรับเงินเพิ่มได้”

หลิบเสียาเฟย หยดจากการติลครบลม
เสื้อของเธอ ในขณะที่เธอจ้องมาที่เขาด้วยความตกใจ ชายผู้นี้…เขากําลังพูดถึงอะไร?

เธอไม่เข้าใจว่าทําไมคําพูดของเธอถึงทําให้เขาแนะนําให้เธอไปที่หงเปียโหลวและที่พักของเขาเพื่อรับเงิน

เธออยากจะปฏิเสธแต่เมื่อคิดใหม่การมีเงินมากขึ้นก็ไม่เลวขนาดนั้น ที่ปฏิบัติต่อกันเหมือนกัลยาณมิตรก็หวังว่าจะวาง แผนและอุบายต่อต้านราชวงศ์นี่คงเป็นเรื่องปกติใช่หรือไม่?

“ไม่เป็นไร.” ในที่สุดเธอก็กล่าวขึ้นห ลังจากนั้นครู่หนึ่งและมองลงไปที่กระดุมเสื้อผ้าของเธอ

เนื่องจากเธอหันหลัง หลินเสี่ยวเฟยจึงไม่เห็นว่ารอยยิ้มบนริมฝีปากของฉ่เซียวซูกว้างขึ้นและอารมณ์ของเขาก็เบาลงเขารู้สึกภาคภูมิใจและยินดีเมื่อได้ยินคําตอบของเธอ

หลินเสี่ยวเฟยลุกจากเตียงโดยตั้งใจจะสวมชุดชั้นกลางและชุดนอกโดยไม่ได้มองมาทางเขาทันใดนั้นชายหนุ่มที่นั่งตรงขอบเตียงก็ดึงเธอมาหาเขาและเธอก็นั่งลงบนตักเขา

“ฉ่เซียวซู!” เธอพยายามจะดิ้นให้หลุดออกจากเขาแต่เขาก็รัดเอวเธอไว้แน่น

“ท่านกําลังจะทําอะไร!”

“การได้รับความช่วยเหลือจากใครก็ควรตอบแทนด้วยความกตัญญไม่ใช่หรือ?”ฉ่เซียวซูกล่าว

เธอจ้องมองที่เขาราวกับว่าเขาเป็นคนที่มีหัวสองหัวอยู่บนบ่า

ฉ่เซียวซูหัวเราะคิกคักกับปฏิกิริยาของเธอ”ข้าแค่สัญญาว่าจะให้ท่านใช้เงินของข้าแต่ท่านจะให้อะไรข้าเพื่อเป็นการแทนได้บ้าง”

ตอนนี้เขาจริงจังกับเธอแล้วใช่หรือไม่?หลินเสี่ยวเฟยคิดกับตัวเอง เธอจะใช้สิ่งใดอะมาทดแทนเงินของเขา?เธอควรตอบแทนเขาด้วยการจ่ายคืนเขาหรือไม่?นั่นเป็นไปไม่ได้เมื่อเห็นได้ชัดว่าน้ําเสียงของเขาไม่ได้ขอให้เธอชดใช้ด้วยเงินของเธอ

เป็นไปได้ไหมว่า…

“ข้าไม่จําเป็นต้องตอบแทนท่านและข้าก็ไม่ได้ต้องการเงินของท่าน”

หลินเสี่ยวเฟยกล่าวขึ้นหงจากครุ่นคิดเธอพยายามที่จะออกจากเขาขณะที่เธอฝังเล็บของเธอไว้ที่ปลายแขนของเขา

ฉ่เซียวซู กล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ที่รักของข้าเท่าที่ข้ารู้ ด้วยจิตใจที่เฉียบแหลมของท่านไม่มีทางที่คลังของตระกูลหลินจะสามารถรองรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดสําหรับแผนการของท่านได้”
หลินเสี่ยวเฟยไม่คิดว่าเขาเดาจริงๆว่าเธอวางแผนที่จะใช้คลังสมบัติของตระกูลหลินในแผนการของเธอและยิ่งไปกว่านั้นฉ่เซียวซูก็ดูเหมือนจะรู้ขอบเขตของเงินในคลังของตระกูลหลิน

“อย่ามองข้าเช่นนั้น” ฉ่เซียวซูกล่าวหลังจากที่เขาเห็นเธอหรี่ตาด้วยข้อกล่าวหาอย่างเงียบๆ

“นี่ไม่ใช่ความผิดของข้า การรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์หลินขาดการดูแลจากสถานที่ที่ปลอดภัยจากข้า” ฉ่เซียวซูกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจและภาคภูมิใจ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ฉ่เซียวซูเข้าไปในที่พักโดยที่ทหารยามไม่ได้ลาดตระเวนอยู่ข้างนอกโดยรู้ว่ามีคนบุกรุกสถานที่

“แล้วอย่างไรต่อหรือ”เขากล่าวถามเขาจ้องมองเธอด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ตกลงท่านจะเอาเงินของข้าไปใช้หรือไม่”

เท่าที่หลินเสี่ยวเฟยต้องการคือเงินและทรัพยากรที่เขาสามารถมอบให้เธอได้

เธอไม่สามารถใช้เงินของหลินเซียวเหมิงได้ เพราะเธอรู้สึกไม่สบายใจกับการโกหกและพยายามใช้ชายชราที่ห่วงใยเธออย่างแท้จริง

ความผิดทําให้ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อหลานสาวของเขาหายไปและแทนที่ด้วยความ เศร้าโศกและความเกลียดชังที่ดูเหมือนจะหลอกหลอนเธอเพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้ว

“ท่านต้องการอะไร?” เธอกล่าวถาม
เขา

ดูเหมือนว่าเธอจะต้องการใช้ทรัพยากรของฉ่เซียวซูแทนของชายชราผู้นั้น

“ท่านมีอะไรตอบแทนข้าบ้าง”เขาไม่ตอบแต่กลับถามเธอกลับ

“ข้าไม่รู้ แต่ข้าเต็มใจทาทุกอย่าง” เธอเห็นเขาอ้าปากและกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็วว่า“แน่นอนข้าจะไม่ทําอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลและเกินขีดจํากัดของข้า”

ฉ่เซียวซู เลิกคิ้วก่อนจะยิ้ม “คราวหน้าเราค่อยมาตกลงกันแต่สําหรับตอนนี้…”
เขาปล่อยเธอไป และหลินเสี่ยวเฟยก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินจากเขาไป “ทําไมเราไม่พูดถึงสิ่งที่ท่านวางแผนไว้ล่ะ” ท่านกําลังจะทําสิ่งใดกับวัง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess 75 ไม่เสียหายถ้ามีเงินมากขึ้น

Now you are reading กำเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess Chapter 75 ไม่เสียหายถ้ามีเงินมากขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย กําเนิดนางร้าย The Birth of a Villainess

ตอนที่ 75 ไม่เสียหายถ้ามีเงินมากขึ้น

“ฉ่เซียวซู ปล่อยข้า” หลินเสี่ยวเฟยกล่าวขึ้นอย่างใจเย็นเธอต้องยอมจํานนและเรียกชื่อเขาเนื่องจากสถานการณ์เริ่มไม่ดีเธอจึงไม่สามารถปฏิเสธเขาได้

ไม่เหมือนกับเค่อซ่งหรือเฉินโม่ชายที่เธอตรึงไว้ฉ่เซียวซูมีความสามารถที่เหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้และศิลปะการฆ่าเธอได้ยินเรื่องราวต่างๆรอบตัวเขาและรู้ดีกว่าใครๆว่ามัน ไม่ใช่เพียงข่าวลือ

เมื่ออายุยังน้อยฉ่เซียวซูได้ออกไปที่ชายแดนซินหยานเพื่อต่อสู้กับคนป่าเถื่อนและกลุ่มคนอื่นๆที่ต้องการโจมตีเมืองที่อยู่ติดกับชายแดน

อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่เขาเป็นผู้นําที่พิถีพิถันและมีความสามารถในการกําจัดศัตรูที่ติดอาวุธคนป่าเถื่อนและกลุ่มคนอื่นๆที่ต้องการต่อสู้กับเขากลับต้องพบกับจุดจบที่ไม่น่าพึงพอใจ
เธอแค่ต้องการสัมผัสถึงรัศมีอันตรายที่เขาเปล่งออกมาและนั่นไม่ต้อง สงสัยเลยว่าถ้าหากเธอแทงเขา เขาก็จะไม่ผ่อนปรนต่อเธอเช่นกัน

แม้ว่าหลินเสี่ยวเฟยจะไม่กลัวความตาย แต่สิ่งที่เธอกลัวคือความคิดที่ว่าจะไม่สามารถแก้แค้นและฆ่าศัตรูของเธอได้

นั่นเป็นเหตุผลที่เธอตัดสินใจที่จะไม่โกรธเขาอีก

ทันใดนั้น หลินเสี่ยวเฟยหวังว่าครั้งต่อไปเธอจะไม่ปล่อยให้คนรับใช้ส่วนตัวของเธอออกไปไหนอีกหากพวกเขาคอยอยู่ใกล้ๆ ชายผู้นี้จะไม่กล้าเข้ามาในห้องของเธอและกล้าที่จะตรึงเธอไว้

“ท่านกําลังคิดสิ่งใดเกี่ยวกับข้า?” เธอได้ยินฉ่เซียวซูกล่าวถาม ใบหน้าของเขาอยู่ใกล้และริมฝีปากของพวกเขาห่างกันไม่กี่นิ้ว ซึ่งหากเขาพยายามขยับใบหน้าไปข้างหน้าเล็กน้อยริมฝีปากของทั้งคู่ก็เกือบจะประกบกัน

หลินเสี่ยวเฟยจ้องมองเขา “ท่านหนักมาก” หลังจากพูดเช่นนั้น เธอเห็นดวงตาของเขาเบิกกว้างและดูเหมือนประหลาดใจที่ได้ยินเธอพูดเช่นนั้นเขาคงคาดหวังให้เธอพูดอย่างอื่น

“ข้าเป็นอะไร”

“อะไรคือหนัก…”

ความเงียบที่ปกคลุมไปทั่วท้องไม่นานหลังจากความเงียบก็ได้ยินเสียงหัวเราะอันน่ารื่นรมย์ของเขา

ฉ่เซียวซูปล่อยเธอและลุกขึ้นนั่งเมื่อเขาหยุดหัวเราะก็มีรอยยิ้มที่เล่นอยู่บนริมฝีปากของเขา เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนบอกเขาว่าร่างของเขาหนักแน่นอนว่าในฐานะชายที่โตกว่าไม่มีทางที่เขาจะมี ร่างที่เบากว่าหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียง

อย่างไรก็ตาม หากเป็นหญิงสาวคนอื่นๆที่เขาอยู่ภายใต้การดูแลของเขาพวกเขาอาจจะทําทุกอย่างเพื่อให้เขาอยู่เหนือสิ่งนั้นแต่หญิงสาวผู้นี้ที่บอกเขาว่าร่างของเขานั้นหนักมันจึงดูแตกต่างออกไป

หลินเสี่ยวเฟยรองรับตัวเองด้วยข้อศอกของเธอขณะที่เธอจ้องมาที่เขาเธอสับสนว่าทําไมเขาถึงหัวเราะเธอก็แค่พูดความจริงแล้วทําไมเขาต้องหัวเราะกับคําพูดของเธอ?

ตั้งแต่เวลาที่ฉ่เซียวซูตรึงเธอไว้หน้าอกที่แข็งแรงของเขาอยู่เหนือเธอและเมื่อเขาเข้าไปใกล้น้ำหนักของเขาแทบจะทําให้เธอหายใจไม่ออก

และผ่านไปหลายนาทีแล้วตั้งแต่ที่เขาอยู่เหนือเธอเขาอยากถามเธอว่าเธอกํา ลังคิดอะไรอยู่ สิ่งเดียวที่เข้ามาในหัวเธอก็คือเขาจะปล่อยเธอเมื่อไหร่เพราะเธอแทบจะรับน้ําหนักร่างของเขาไม่ไหว

“ท่านประเมินข้าต่ําไป”ฉ่เซียวซูกล่าวขึ้นหลังจากหัวเราะสายตาของเขามองกลับมาที่เธอ

“หลินเสี่ยวเฟย ท่านรู้หรือไม่ว่าข้ายอมจ่ายเงินหญิงสาวเพื่อแลกกับการได้อยู่เหนือพวกเขา”

คําพูดของเขาช่างไร้ยางอายและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
พวก

“ข้าหวังว่าข้าจะได้พบพวกเขาและแลกเปลี่ยนกับพวกเขา”เธอพูดด้วยน้ําเสียงที่ดูงุ่มง่ามว่า”มีเงินมากก็ดูไม่เสีย
หาย”

ขณะที่พูดเช่นนั้น เธอก็นั่งลงและจัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อยเธอสวมเพียงเสื้อผ้าชั้นในของเธอ

ดังนั้น ฉ่เซียวซูจึงสําลักเมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้เปลี่ยนการแสดงออกหรือเขิลอายในขณะที่เธอทําเช่นนั้น

ไม่เพียงแค่นั้น เขาเกือบอยากจะบีบคอหญิงสาวที่อยู่ข้างๆเพราะเขาคิดว่าเธอจะใช้ให้เขาหาเงินเพิ่ม

ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็เข้ามาในหัวของเขา เขาจึงกล่าวถามเธอว่า “ท่านเงินหมดแล้วหรือ?”

คําถามของเขาทําให้หลินเสี่ยวเฟยขมวดคิ้วและก่อนที่เธอจะพูดอะไรเธอก็ได้ยินเขาพูดขึ้นอีกครั้ง

“ในอนาคต หากท่านต้องการเงินให้ท่านไปที่หงเป่ยโหลวและขอเงินเพิ่ม จากเสี่ยวเอ้อที่ท่านพบครั้งล่าสุด” เขาหยุดเล็กน้อยและกล่าวต่อ “และหากยังไม่พอท่านยังสามารถส่งคนหรือไปที่พักของข้าเพื่อรับเงินเพิ่มได้”

หลิบเสียาเฟย หยดจากการติลครบลม
เสื้อของเธอ ในขณะที่เธอจ้องมาที่เขาด้วยความตกใจ ชายผู้นี้…เขากําลังพูดถึงอะไร?

เธอไม่เข้าใจว่าทําไมคําพูดของเธอถึงทําให้เขาแนะนําให้เธอไปที่หงเปียโหลวและที่พักของเขาเพื่อรับเงิน

เธออยากจะปฏิเสธแต่เมื่อคิดใหม่การมีเงินมากขึ้นก็ไม่เลวขนาดนั้น ที่ปฏิบัติต่อกันเหมือนกัลยาณมิตรก็หวังว่าจะวาง แผนและอุบายต่อต้านราชวงศ์นี่คงเป็นเรื่องปกติใช่หรือไม่?

“ไม่เป็นไร.” ในที่สุดเธอก็กล่าวขึ้นห ลังจากนั้นครู่หนึ่งและมองลงไปที่กระดุมเสื้อผ้าของเธอ

เนื่องจากเธอหันหลัง หลินเสี่ยวเฟยจึงไม่เห็นว่ารอยยิ้มบนริมฝีปากของฉ่เซียวซูกว้างขึ้นและอารมณ์ของเขาก็เบาลงเขารู้สึกภาคภูมิใจและยินดีเมื่อได้ยินคําตอบของเธอ

หลินเสี่ยวเฟยลุกจากเตียงโดยตั้งใจจะสวมชุดชั้นกลางและชุดนอกโดยไม่ได้มองมาทางเขาทันใดนั้นชายหนุ่มที่นั่งตรงขอบเตียงก็ดึงเธอมาหาเขาและเธอก็นั่งลงบนตักเขา

“ฉ่เซียวซู!” เธอพยายามจะดิ้นให้หลุดออกจากเขาแต่เขาก็รัดเอวเธอไว้แน่น

“ท่านกําลังจะทําอะไร!”

“การได้รับความช่วยเหลือจากใครก็ควรตอบแทนด้วยความกตัญญไม่ใช่หรือ?”ฉ่เซียวซูกล่าว

เธอจ้องมองที่เขาราวกับว่าเขาเป็นคนที่มีหัวสองหัวอยู่บนบ่า

ฉ่เซียวซูหัวเราะคิกคักกับปฏิกิริยาของเธอ”ข้าแค่สัญญาว่าจะให้ท่านใช้เงินของข้าแต่ท่านจะให้อะไรข้าเพื่อเป็นการแทนได้บ้าง”

ตอนนี้เขาจริงจังกับเธอแล้วใช่หรือไม่?หลินเสี่ยวเฟยคิดกับตัวเอง เธอจะใช้สิ่งใดอะมาทดแทนเงินของเขา?เธอควรตอบแทนเขาด้วยการจ่ายคืนเขาหรือไม่?นั่นเป็นไปไม่ได้เมื่อเห็นได้ชัดว่าน้ําเสียงของเขาไม่ได้ขอให้เธอชดใช้ด้วยเงินของเธอ

เป็นไปได้ไหมว่า…

“ข้าไม่จําเป็นต้องตอบแทนท่านและข้าก็ไม่ได้ต้องการเงินของท่าน”

หลินเสี่ยวเฟยกล่าวขึ้นหงจากครุ่นคิดเธอพยายามที่จะออกจากเขาขณะที่เธอฝังเล็บของเธอไว้ที่ปลายแขนของเขา

ฉ่เซียวซู กล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้ที่รักของข้าเท่าที่ข้ารู้ ด้วยจิตใจที่เฉียบแหลมของท่านไม่มีทางที่คลังของตระกูลหลินจะสามารถรองรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดสําหรับแผนการของท่านได้”
หลินเสี่ยวเฟยไม่คิดว่าเขาเดาจริงๆว่าเธอวางแผนที่จะใช้คลังสมบัติของตระกูลหลินในแผนการของเธอและยิ่งไปกว่านั้นฉ่เซียวซูก็ดูเหมือนจะรู้ขอบเขตของเงินในคลังของตระกูลหลิน

“อย่ามองข้าเช่นนั้น” ฉ่เซียวซูกล่าวหลังจากที่เขาเห็นเธอหรี่ตาด้วยข้อกล่าวหาอย่างเงียบๆ

“นี่ไม่ใช่ความผิดของข้า การรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์หลินขาดการดูแลจากสถานที่ที่ปลอดภัยจากข้า” ฉ่เซียวซูกล่าวขึ้นอย่างมั่นใจและภาคภูมิใจ

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง ฉ่เซียวซูเข้าไปในที่พักโดยที่ทหารยามไม่ได้ลาดตระเวนอยู่ข้างนอกโดยรู้ว่ามีคนบุกรุกสถานที่

“แล้วอย่างไรต่อหรือ”เขากล่าวถามเขาจ้องมองเธอด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ตกลงท่านจะเอาเงินของข้าไปใช้หรือไม่”

เท่าที่หลินเสี่ยวเฟยต้องการคือเงินและทรัพยากรที่เขาสามารถมอบให้เธอได้

เธอไม่สามารถใช้เงินของหลินเซียวเหมิงได้ เพราะเธอรู้สึกไม่สบายใจกับการโกหกและพยายามใช้ชายชราที่ห่วงใยเธออย่างแท้จริง

ความผิดทําให้ดวงตาเป็นประกายระยิบระยับเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อหลานสาวของเขาหายไปและแทนที่ด้วยความ เศร้าโศกและความเกลียดชังที่ดูเหมือนจะหลอกหลอนเธอเพียงแค่คิดถึงเรื่องนี้ว

“ท่านต้องการอะไร?” เธอกล่าวถาม
เขา

ดูเหมือนว่าเธอจะต้องการใช้ทรัพยากรของฉ่เซียวซูแทนของชายชราผู้นั้น

“ท่านมีอะไรตอบแทนข้าบ้าง”เขาไม่ตอบแต่กลับถามเธอกลับ

“ข้าไม่รู้ แต่ข้าเต็มใจทาทุกอย่าง” เธอเห็นเขาอ้าปากและกล่าวขึ้นอย่างรวดเร็วว่า“แน่นอนข้าจะไม่ทําอะไรที่ไม่สมเหตุสมผลและเกินขีดจํากัดของข้า”

ฉ่เซียวซู เลิกคิ้วก่อนจะยิ้ม “คราวหน้าเราค่อยมาตกลงกันแต่สําหรับตอนนี้…”
เขาปล่อยเธอไป และหลินเสี่ยวเฟยก็ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินจากเขาไป “ทําไมเราไม่พูดถึงสิ่งที่ท่านวางแผนไว้ล่ะ” ท่านกําลังจะทําสิ่งใดกับวัง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+