ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน]ตอนพิเศษ (1) 151 มาด้วยใจที่บริสุทธิ์ (1)

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน] Chapter ตอนพิเศษ (1) 151 มาด้วยใจที่บริสุทธิ์ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหวินซื่อพูดจบ ยังไม่จิบชาเลยสักนิด ก็เดินออกไป เมิ่งเชี่ยนโยวนั่งอยู่ในห้องรับแขกอยู่นานสองนาน ถึงลุกขึ้นกลับมาที่ห้องขอตนเอง เปิดกล่องยาออก แล้วเอายาออกมาสองสามเม็ด เรียกชิงหลวนมา “เอาไปให้ท่าป๋าหั่นหลิน บอกพวกเขาว่า กินวันละหนึ่งเม็ด หลังจากสามวัน ก็จะฟื้นเอง”  

 

 

ชิงหลวนตอบรับ   

 

 

“แล้วบอกพวกเขาด้วยว่า ถ้าฟื้นแล้วก็รีบกลับเมืองหลวงไปเสีย หากมีครั้งหน้าอีก ก็รอเก็บศพเขาได้เลย”  

 

 

ชิงหลวนตอบรับ เอายาไปที่จวนของท่าป๋าหั่นหลิน หลังจากแจ้งแล้ว ก็เอายาให้ไทเฮา แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “เจ้านายของพวกเราบอกว่า หากท่านยังไม่อยากให้ลูกของท่านตาย หลังจากฟื้นแล้ว ก็พากลับรัฐอิงไปเสีย แล้วอย่ามาเมืองหลวงอีก!”  

 

 

พูดจบ ไม่รอช้า ออกไปทันที   

 

 

ไทเฮาไม่รู้ว่านางเป็นใคร พอได้ยามาก็ครุ่นคิดอย่างหนัก   

 

 

แล้วบ่าวรับใช้คนหนึ่งก็บอกว่า “ฮูหยิน เหมือนว่านางจะเป็นบ่าวของจวนอ๋องฉีขอรับ ยานี้คงเป็นซื่อจื่อเฟยให้นางเอามาให้ขอรับ หากเป็นเช่นนั้น นายน้อยก็รอดแล้ว เพราะวิชาแพทย์ของซื่อจื่อเฟยนั้นล้ำเลิศนัก”  

 

 

ไทเฮาฟังจบ ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ทำตามที่ชิงหลวนบอก แล้วหาวิธีให้ท่าป๋าหั่นหลินกินลงไปหนึ่งเม็ด   

 

 

สามวันผ่านไป กินยาหมดแล้ว ท่าป๋าหั่นหลินก็ลืมตาขึ้นมาจริงๆ  

 

 

ไทเฮาดีใจจนน้ำตาไหลพราก “ลูกรัก หากไม่ได้ยาจากจวนอ๋องมาช่วยเจ้า เจ้าคงตายไปแล้ว”  

 

 

แม้ร่างกายของเขาจะอ่อนแอมาก แต่พอท่าป๋าหั่นหลินได้ยินดังนั้น ก็ตาเป็นประกาย พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “เป็นยาที่จวนอ๋องฉีส่งมาจริงๆ หรือขอรับ”  

 

 

ไทเฮาพยักหน้า น้ำตาไหลพราก “หลังจากเจ้าสลบไป แม่เชิญหมอมาทั้งเมืองหลวง ไม่มีคนไหนรักษาลูกได้เลย ตอนที่แม่กำลังสิ้นหวัง พวกเขาก็ส่งยามาให้ แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่งว่า พอเจ้าหายดีแล้ว พวกเราจะต้องออกจากเมืองหลวงไป นับแต่นี้ต่อไป ห้ามกลับมาที่นี่อีก”  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินฟังจบ ตาที่เป็นประกายก็หายไปทันที สีหน้าท่าทางก็เปลี่ยนเป็นหมดหวัง แล้วพูดพึมพำออกมาว่า “งั้นหรือขอรับ”  

 

 

ไทเฮาอดเห็นเขามีท่าทางเช่นนั้นไม่ได้ แต่ก็ระงับอารมณ์ของตนไว้แล้วโน้มน้าวเขาว่า “ลูกรัก เมื่อเห็นเจ้าหลับตาไม่ตื่นเลยเช่นนั้น แม่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง ฟังแม่เถอะ พวกเรากลับรัฐอิงไป หญิงสาวบนโลกนี้มีตั้งมากมาย เดี๋ยวแม่จะหามาให้เจ้าทั้งหมดเลย”  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินส่ายหน้า “แม้จะหามาได้เยอะ แต่ถ้าไม่ใช่คนที่ลูกต้องการ แล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่าขอรับ”  

 

 

“เจ้า… …”  

 

 

ไทเฮาพูดไม่ออก  

 

 

อยู่บนเตียงมาเป็นครึ่งเดือน ท่าป๋าหั่นหลินถึงลงจากเตียงมาเดินได้ปกติ ไทเฮากลัวว่าเขาจะไปจวนอ๋องอีก เลยสั่งให้คนคอยจับตามองเขาไว้   

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินเองก็ไม่กล้าพูดถึงเรื่องไปจวนอ๋องอีก ได้แต่อยู่ในจวน รักษาร่างกายของตนเองให้ดี   

 

 

ผ่านไปเดือนกว่า ท่าป๋าหั่นหลินเริ่มหายดีแล้ว รูปร่างหน้าตาก็เริ่มกลับมาปกติ   

 

 

ในขณะที่ไทเฮาดีใจนั้น ก็รู้สึกหนักใจไปด้วย   

 

 

และแล้ว ในเช้าวันหนึ่ง หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ท่าป๋าหั่นหลินก็บอกว่า “เสด็จแม่ วันนี้ลูกอยากไปจวนอ๋องฉีขอรับ”  

 

 

ไทเฮาอ้าปากค้าง อยากจะห้ามเขา แต่เห็นท่าทางแน่วแน่ของเขา ก็ถอนหายใจออกมา แล้วโบกมืออย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง   

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินเดินออกไป  

 

 

ไทเฮามองเขา แล้วน้ำตาก็ไหลริน   

 

 

เห็นท่าป๋าหั่นหลินมาแต่ไกล นายประตูที่กำลังดื่มน้ำอยู่ก็หยุด อ้าปากค้าง ชะงักมองไปที่เขา   

 

 

เดือนกว่าที่ไม่ได้มา เขาคิดว่าเขาคงล้มเลิกยอมแพ้ไปแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะมาอีก   

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินไม่ได้ทำเหมือนแต่ก่อน ที่ยืนอยู่กับที่ แต่พูดกับนายประตูด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นว่า “รบกวนท่านไปรายงานด้วย ว่าวันนี้ข้าอยากพบท่านหญิงเย่ว์เอ๋อร์”  

 

 

นายประตูรีบโบกมือทันที “เจ้าอย่าทำอย่างนี้เลย หากให้เจ้าเข้าพบท่านหญิงเย่ว์เอ๋อร์ล่ะก็ ข้าก็ตายพอดี”  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินหยิบจดหมายออกมาจากอก “อย่างนั้นเจ้าช่วยข้าเอาจดหมายฉบับนี้ไปให้กับท่านหญิงเย่ว์เอ๋อร์ให้ข้าได้หรือไม่”  

 

 

คราวนี้นายประตูโบกมือหนักเข้าไปอีก แล้วส่ายหัวแรงกว่าเดิม “ไม่ได้ๆ เจ้ารีบไปเถอะ อย่าทำให้ข้าเดือดร้อน”  

 

 

เห็นเขาตกใจขนาดนั้น ท่าป๋าหั่นหลินก็ไม่ได้ให้เขาต้องลำบากใจอีก เก็บจดหมายกลับมาที่อก เดินออกไปสิบจั้ง แล้วคุกเข่าลงกับพื้น   

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวได้รับรายงาน ก็โกรธมาก ยืนขึ้น แล้วเดินออกไปอย่างเกรี้ยวโกรธ   

 

 

มาถึงตรงหน้าท่าป๋าหั่นหลิน แล้วออกคำสั่ง “ยืนขึ้นเดี๋ยวนี้!”   

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินลังเล แล้วยืนขึ้น “ท่านแม่ยาย… …”  

 

 

ปั๊ก! พูดยังไม่ทันจบ ก็โดนเมิ่งเชี่ยนโยวถีบกระเด็นออกไป แล้วตกลงกับพื้น จนเวียนหัวไปหมด   

 

 

แล้วเมิ่งเชี่ยนโยวก็พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ลูกสาวของเมิ่งเชี่ยนโยว ได้รับความรักความเอ็นดูมาตั้งแต่เล็กยันโต ไม่คิดไม่ฝันว่าจะโดนไอ้เดรัจฉานอย่างเจ้ามาทำลาย หากไม่ใช่ข้าตามไปหานางข้ามวันข้ามคืนในตอนนั้น ตอนนี้นางคงเป็นเถ้ากระดูกไปแล้ว เจ้ายังมีหน้ามาจวนอ๋องแห่งนี้ เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้างั้นรึ”  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินเลือดออกปาก นอนหงายอยู่กับพื้น มองไปที่เมิ่งเชี่ยนโยว แล้วพูดด้วยความเสียใจ “ข้าผิดเอง ดังนั้น ข้าเลยอยากเอาชีวิตที่เหลือของข้ามาชดใช้ เป็นทาสรับใช้ ทำตามที่เย่ว์เอ๋อร์สั่งทุกอย่าง”  

 

 

“ไม่จำเป็น แม้ลูกของข้าจะเป็นหม้าย แต่คนที่รอสู่ขอนางนั้นถมเถไป หากเข้าใจล่ะก็ ก็ออกจากเมืองหลวงนี้ไป ส่วนเรื่องที่แล้วๆ มาก็แล้วกันไป มิเช่นนั้นล่ะก็… …หึ!”   

 

 

“ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น หากท่านแม่ยายไม่พอใจอะไร ก็ลงมือกับข้าไปเลยเถอะขอรับ”  

 

 

พอไม่ได้หวงฝู่เย่าเย่ว์กลับมา ใจของท่าป๋าหั่นหลินก็แหลกสลายเป็นผุยผง จึงบอกความในใจของตนออกมา   

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวโมโห กัดฟันพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่เกรงใจล่ะ!”   

 

 

พูดจบ ก็เตะเข้าไปที่อกของท่าป๋าหั่นหลินจังๆ   

 

 

ท่าป๋าหั่นกลินกระอักเลือดออกมา   

 

 

แต่เมิ่งเชี่ยนโยวทำเป็นมองไม่เห็น เตะแรงขึ้นเรื่อยๆ   

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งกับเยียลี่ว์อาเป่ารีบวิ่งออกมาจากเรือน พอเห็นเช่นนั้น ก็รีบเข้าไปห้ามเมิ่งเชี่ยนโยว “ท่านแม่ ท่านปล่อยเขาไปเถอะ!”   

 

 

เยียลี่ว์อาเป่าก็เข้ามาห้ามด้วยเช่นกัน “ท่านแม่ยาย ท่านใจเย็นก่อน อย่าลงมือหนักเช่นนี้เลยขอรับ”  

 

 

พอได้ยินเขาเรียกเช่นนั้น ท่าป๋าหั่นหลินก็มองไปที่เขาด้วยสายตาอิจฉา เขาเคยมีโอกาสได้เรียกเช่นนั้น แต่ตอนนี้กลับถูกตนเองทำลายไปเสียหมดสิ้น คิดได้เช่นนั้น ภาพของหวงฝู่เย่าเย่ว์ตอนท้องอ่อนๆ ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดก็ผุดขึ้นมา แล้วเลือดก็ตีขึ้นมาจนกระอัก จากนั้นก็สลบไป  

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถอนหายใจ ปล่อยเท้าออกแล้วออกคำสั่ง “ชิงหลวน โยนเขาออกไป อย่าให้เลือดโสโครกแปดเปื้อนประตูจวนอ๋องฉีของพวกเรา”  

 

 

ชิงหลวนตอบรับ แล้วเดินเข้าไป  

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งส่งสายตาให้กับเยียลี่ว์อาเป่า เยียลี่ว์อาเป่าเข้าใจโดยทันที หลังจากนั้นก็เข้าไปกันเอาไว้ “แม่ยาย เขาคงเจ็บหนักน่าดู หากพวกเราไม่ช่วยรักษาเขาให้ทันเวลา เกรงว่าจะเป็นปัญหาในภายหลังนะขอรับ”  

 

 

“แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเรา”  

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวดีกับเยียลี่ว์อาเป่ามาตลอด ไม่เคยพูดจาไม่ดีใส่เลย แต่วันนี้โมโหเป็นอย่างมาก เลยถามกลับไปอย่างไม่เกรงใจ   

 

 

เยียลี่ว์อาเป่าจึงชะงักไป แต่ยังคงรอยยิ้มไว้แล้วพูดต่อว่า “แม่ยาย หลงเหลือร่องรอยไว้ไม่เท่าไร แต่ที่สำคัญก็คือ ผู้คนต่างก็จะพูดถึงว่าท่านเป็นคนทำ แล้วท่านจะถูกโยงเข้าไปด้วยนะขอรับ”  

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่พูดอะไร   

 

 

เยียลี่ว์อาเป่าคิดว่าพูดโน้มน้าวเมิ่งเชี่ยนโยวสำเร็จแล้ว พอกำลังจะก้มลงไปดูแผลให้ท่าป๋าหั่นหลิน เมิ่งเชี่ยนโยวก็บอกว่า “ชิงหลวน เจ้ายังชักช้าอยู่อีก ไม่ได้ยินที่ข้าสั่งรึไง”  

 

 

ชิงหลวนตอบรับ แล้วก้มลงลากท่าป๋าหั่นหลินออกไปไกลๆ   

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหันหลังกลับเข้าจวนไป ชิงหลวนและจูหลีก็ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน   

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งกับเยียลี่ว์อาเป่ามองหน้ากัน แล้วส่ายหน้า เดินกลับไปพร้อมกัน   

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกลับมาที่เรือนของตนเอง  

 

 

เยียลี่ว์อาเป่าส่งสายตาให้กับหวงฝู่สือเมิ่ง เสร็จแล้วก็กลับไปที่เรือนของตน   

 

 

ส่วนหวงฝู่สือเมิ่งไปหาหวงฝู่เย่าเย่ว์ที่เรือน   

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์ทำเป็นไม่รู้ว่าด้านนอกเกิดอะไรขึ้น ได้แต่หยอกเล่นอยู่กับเยียลี่ว์หมิง  

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งเข้าไป เห็นภาพตรงหน้า ก็หยุดแล้วยิ้มเดินเข้าไป โบกมือให้กับเยียลี่ว์หมิง พอจูงใจเด็กน้อยได้ ก็ยิ้มแล้วถามว่า “วันนี้ไม่ดื้อสินะ”  

 

 

“หมิงเอ๋อร์ของพวกเราเป็นเด็กดี ไม่ดื้อเลย”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์อุ้มเด็กไปมา ยิ้มไปพูดไป   

 

 

“เจ้าพูดผิดแล้ว เด็กผู้ชายน่ะ ยิ่งโตก็ยิ่งดื้อ เจ้าจำรุ่ยเอ๋อร์ตอนเด็กๆ ได้หรือไม่ ไม่ดื้อเลยสักนิด แต่พอโตขึ้น ปีนต้นไม้ขึ้นกำแพง เขาล้วนทำมาหมดแล้ว”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์หัวเราะ แล้วพูดกับเด็กน้อยว่า “หมิงเอ๋อร์ของพวกเราเป็นเด็กดี จะไม่ดื้อเหมือนน้าของเขาหรอกนะ”  

 

 

เหมือนเยียลี่ว์หมิงจะฟังออก จึงโบกมือ ร้องเรียกออกมา จนทำให้ทั้งสองคนหัวเราะได้   

 

 

เมื่อเสียงหัวเราะหมดไป หวงฝู่สือเมิ่งก็พูดกับหวงฝู่เย่าเย่ว์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วันนี้ท่านแม่ตีท่าป๋าหั่นหลินจนสาหัส… …”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์ชะงักไป อุ้มเด็กแน่นขึ้นกว่าเดิม “เรื่องของเขาไม่เกี่ยวข้องกับข้า พี่ไม่ต้องพูดถึงแล้วล่ะ”  

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งแอบถอนหายใจเบาๆ ในใจ จากนั้นบอกว่า “พี่เขยของเจ้าบอกมาว่า เป็นฮ่องเต้น่ะ มีเรื่องที่น่าอึดอัดมากมาย ที่ตอนนั้นเขาทำแบบนั้น บางทีเขาอาจะมีเหตุผลบางอย่าง เจ้า… …”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์พูดตัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “พี่ใหญ่ หากท่านยังพูดถึงเขาอีก ข้าจะโกรธแล้วนะ”  

 

 

“ได้ๆ ข้าไม่พูดแล้ว เจ้าดูแลหมิงเอ๋อร์จนเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวข้าจะอุ้มกลับไป เจ้าพักเถอะ”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์ไม่เหมือนกับแต่ก่อน ที่จะบอกว่าตนไม่เหนื่อย เอาเด็กน้อยทิ้งไว้ที่นี่แหละ แต่กลับส่งให้กับหวงฝู่สือเมิ่งไป เมื่อเห็นนางอุ้มเด็กเดินออกไป ก็ยืนนิ่งกับที่อยู่นานไม่ขยับ  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินโดนแบกกลับจวนไปอีกครั้ง ไทเฮาทนไม่ไหวแล้ว สั่งให้เชิญหมอมารักษา หลังจากนั้นก็ตัดสินใจ รอให้เขาฟื้นก่อน แล้วจะให้ทางเลือกกับเขาสองทาง หนึ่งก็คือให้ตนไปที่จวนอ๋อง ขอพบหวงฝู่เย่าเย่ว์ แล้วเล่าเรื่องตอนนั้นทั้งหมดให้นางฟัง อย่างที่สองก็คือเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน บังคับให้เขากลับรัฐอิงให้ได้ นางยอมรับว่าพวกนางติดหนี้หวงฝู่เย่าเย่ว์ไว้เยอะ แต่หลายวันมาแล้วที่… เป็นแม่คนเหมือนกัน พวกเขาเจ็บปวดใจแทนลูก นางเองก็เช่นกัน  

 

 

พอคิดได้เช่นนั้น ก็ตั้งสติ ออกคำสั่งให้คนไปต้มยามาให้ท่าป่าหั่นหลินกิน  

 

 

ที่เมิ่งเชี่ยนโยวเตะเข้าไปตอนโมโหนั้น ใช้กำลังเป็นอย่างมาก ท่าป๋าหั่นหลินเจ็บเข้าลึกถึงภายใน การพักฟื้นในครั้งนี้ต้องใช้เวลาไปอีกครึ่งเดือนถึงจะดีขึ้นได้  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน]ตอนพิเศษ (1) 151 มาด้วยใจที่บริสุทธิ์ (1)

Now you are reading ข้ามกาลบันดาลรัก [ส่วนที่ 2 ภาคแต่งงาน] Chapter ตอนพิเศษ (1) 151 มาด้วยใจที่บริสุทธิ์ (1) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เหวินซื่อพูดจบ ยังไม่จิบชาเลยสักนิด ก็เดินออกไป เมิ่งเชี่ยนโยวนั่งอยู่ในห้องรับแขกอยู่นานสองนาน ถึงลุกขึ้นกลับมาที่ห้องขอตนเอง เปิดกล่องยาออก แล้วเอายาออกมาสองสามเม็ด เรียกชิงหลวนมา “เอาไปให้ท่าป๋าหั่นหลิน บอกพวกเขาว่า กินวันละหนึ่งเม็ด หลังจากสามวัน ก็จะฟื้นเอง”  

 

 

ชิงหลวนตอบรับ   

 

 

“แล้วบอกพวกเขาด้วยว่า ถ้าฟื้นแล้วก็รีบกลับเมืองหลวงไปเสีย หากมีครั้งหน้าอีก ก็รอเก็บศพเขาได้เลย”  

 

 

ชิงหลวนตอบรับ เอายาไปที่จวนของท่าป๋าหั่นหลิน หลังจากแจ้งแล้ว ก็เอายาให้ไทเฮา แล้วพูดอย่างไม่เกรงใจว่า “เจ้านายของพวกเราบอกว่า หากท่านยังไม่อยากให้ลูกของท่านตาย หลังจากฟื้นแล้ว ก็พากลับรัฐอิงไปเสีย แล้วอย่ามาเมืองหลวงอีก!”  

 

 

พูดจบ ไม่รอช้า ออกไปทันที   

 

 

ไทเฮาไม่รู้ว่านางเป็นใคร พอได้ยามาก็ครุ่นคิดอย่างหนัก   

 

 

แล้วบ่าวรับใช้คนหนึ่งก็บอกว่า “ฮูหยิน เหมือนว่านางจะเป็นบ่าวของจวนอ๋องฉีขอรับ ยานี้คงเป็นซื่อจื่อเฟยให้นางเอามาให้ขอรับ หากเป็นเช่นนั้น นายน้อยก็รอดแล้ว เพราะวิชาแพทย์ของซื่อจื่อเฟยนั้นล้ำเลิศนัก”  

 

 

ไทเฮาฟังจบ ก็ไม่ลังเลอีกต่อไป ทำตามที่ชิงหลวนบอก แล้วหาวิธีให้ท่าป๋าหั่นหลินกินลงไปหนึ่งเม็ด   

 

 

สามวันผ่านไป กินยาหมดแล้ว ท่าป๋าหั่นหลินก็ลืมตาขึ้นมาจริงๆ  

 

 

ไทเฮาดีใจจนน้ำตาไหลพราก “ลูกรัก หากไม่ได้ยาจากจวนอ๋องมาช่วยเจ้า เจ้าคงตายไปแล้ว”  

 

 

แม้ร่างกายของเขาจะอ่อนแอมาก แต่พอท่าป๋าหั่นหลินได้ยินดังนั้น ก็ตาเป็นประกาย พูดด้วยน้ำเสียงแหบแห้งว่า “เป็นยาที่จวนอ๋องฉีส่งมาจริงๆ หรือขอรับ”  

 

 

ไทเฮาพยักหน้า น้ำตาไหลพราก “หลังจากเจ้าสลบไป แม่เชิญหมอมาทั้งเมืองหลวง ไม่มีคนไหนรักษาลูกได้เลย ตอนที่แม่กำลังสิ้นหวัง พวกเขาก็ส่งยามาให้ แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่งว่า พอเจ้าหายดีแล้ว พวกเราจะต้องออกจากเมืองหลวงไป นับแต่นี้ต่อไป ห้ามกลับมาที่นี่อีก”  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินฟังจบ ตาที่เป็นประกายก็หายไปทันที สีหน้าท่าทางก็เปลี่ยนเป็นหมดหวัง แล้วพูดพึมพำออกมาว่า “งั้นหรือขอรับ”  

 

 

ไทเฮาอดเห็นเขามีท่าทางเช่นนั้นไม่ได้ แต่ก็ระงับอารมณ์ของตนไว้แล้วโน้มน้าวเขาว่า “ลูกรัก เมื่อเห็นเจ้าหลับตาไม่ตื่นเลยเช่นนั้น แม่ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนั้นอีกเป็นครั้งที่สอง ฟังแม่เถอะ พวกเรากลับรัฐอิงไป หญิงสาวบนโลกนี้มีตั้งมากมาย เดี๋ยวแม่จะหามาให้เจ้าทั้งหมดเลย”  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินส่ายหน้า “แม้จะหามาได้เยอะ แต่ถ้าไม่ใช่คนที่ลูกต้องการ แล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่าขอรับ”  

 

 

“เจ้า… …”  

 

 

ไทเฮาพูดไม่ออก  

 

 

อยู่บนเตียงมาเป็นครึ่งเดือน ท่าป๋าหั่นหลินถึงลงจากเตียงมาเดินได้ปกติ ไทเฮากลัวว่าเขาจะไปจวนอ๋องอีก เลยสั่งให้คนคอยจับตามองเขาไว้   

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินเองก็ไม่กล้าพูดถึงเรื่องไปจวนอ๋องอีก ได้แต่อยู่ในจวน รักษาร่างกายของตนเองให้ดี   

 

 

ผ่านไปเดือนกว่า ท่าป๋าหั่นหลินเริ่มหายดีแล้ว รูปร่างหน้าตาก็เริ่มกลับมาปกติ   

 

 

ในขณะที่ไทเฮาดีใจนั้น ก็รู้สึกหนักใจไปด้วย   

 

 

และแล้ว ในเช้าวันหนึ่ง หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ท่าป๋าหั่นหลินก็บอกว่า “เสด็จแม่ วันนี้ลูกอยากไปจวนอ๋องฉีขอรับ”  

 

 

ไทเฮาอ้าปากค้าง อยากจะห้ามเขา แต่เห็นท่าทางแน่วแน่ของเขา ก็ถอนหายใจออกมา แล้วโบกมืออย่างหมดสิ้นเรี่ยวแรง   

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินเดินออกไป  

 

 

ไทเฮามองเขา แล้วน้ำตาก็ไหลริน   

 

 

เห็นท่าป๋าหั่นหลินมาแต่ไกล นายประตูที่กำลังดื่มน้ำอยู่ก็หยุด อ้าปากค้าง ชะงักมองไปที่เขา   

 

 

เดือนกว่าที่ไม่ได้มา เขาคิดว่าเขาคงล้มเลิกยอมแพ้ไปแล้ว ไม่คิดว่าเขาจะมาอีก   

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินไม่ได้ทำเหมือนแต่ก่อน ที่ยืนอยู่กับที่ แต่พูดกับนายประตูด้วยน้ำเสียงที่อบอุ่นว่า “รบกวนท่านไปรายงานด้วย ว่าวันนี้ข้าอยากพบท่านหญิงเย่ว์เอ๋อร์”  

 

 

นายประตูรีบโบกมือทันที “เจ้าอย่าทำอย่างนี้เลย หากให้เจ้าเข้าพบท่านหญิงเย่ว์เอ๋อร์ล่ะก็ ข้าก็ตายพอดี”  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินหยิบจดหมายออกมาจากอก “อย่างนั้นเจ้าช่วยข้าเอาจดหมายฉบับนี้ไปให้กับท่านหญิงเย่ว์เอ๋อร์ให้ข้าได้หรือไม่”  

 

 

คราวนี้นายประตูโบกมือหนักเข้าไปอีก แล้วส่ายหัวแรงกว่าเดิม “ไม่ได้ๆ เจ้ารีบไปเถอะ อย่าทำให้ข้าเดือดร้อน”  

 

 

เห็นเขาตกใจขนาดนั้น ท่าป๋าหั่นหลินก็ไม่ได้ให้เขาต้องลำบากใจอีก เก็บจดหมายกลับมาที่อก เดินออกไปสิบจั้ง แล้วคุกเข่าลงกับพื้น   

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวได้รับรายงาน ก็โกรธมาก ยืนขึ้น แล้วเดินออกไปอย่างเกรี้ยวโกรธ   

 

 

มาถึงตรงหน้าท่าป๋าหั่นหลิน แล้วออกคำสั่ง “ยืนขึ้นเดี๋ยวนี้!”   

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินลังเล แล้วยืนขึ้น “ท่านแม่ยาย… …”  

 

 

ปั๊ก! พูดยังไม่ทันจบ ก็โดนเมิ่งเชี่ยนโยวถีบกระเด็นออกไป แล้วตกลงกับพื้น จนเวียนหัวไปหมด   

 

 

แล้วเมิ่งเชี่ยนโยวก็พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ลูกสาวของเมิ่งเชี่ยนโยว ได้รับความรักความเอ็นดูมาตั้งแต่เล็กยันโต ไม่คิดไม่ฝันว่าจะโดนไอ้เดรัจฉานอย่างเจ้ามาทำลาย หากไม่ใช่ข้าตามไปหานางข้ามวันข้ามคืนในตอนนั้น ตอนนี้นางคงเป็นเถ้ากระดูกไปแล้ว เจ้ายังมีหน้ามาจวนอ๋องแห่งนี้ เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้างั้นรึ”  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินเลือดออกปาก นอนหงายอยู่กับพื้น มองไปที่เมิ่งเชี่ยนโยว แล้วพูดด้วยความเสียใจ “ข้าผิดเอง ดังนั้น ข้าเลยอยากเอาชีวิตที่เหลือของข้ามาชดใช้ เป็นทาสรับใช้ ทำตามที่เย่ว์เอ๋อร์สั่งทุกอย่าง”  

 

 

“ไม่จำเป็น แม้ลูกของข้าจะเป็นหม้าย แต่คนที่รอสู่ขอนางนั้นถมเถไป หากเข้าใจล่ะก็ ก็ออกจากเมืองหลวงนี้ไป ส่วนเรื่องที่แล้วๆ มาก็แล้วกันไป มิเช่นนั้นล่ะก็… …หึ!”   

 

 

“ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น หากท่านแม่ยายไม่พอใจอะไร ก็ลงมือกับข้าไปเลยเถอะขอรับ”  

 

 

พอไม่ได้หวงฝู่เย่าเย่ว์กลับมา ใจของท่าป๋าหั่นหลินก็แหลกสลายเป็นผุยผง จึงบอกความในใจของตนออกมา   

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวโมโห กัดฟันพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่เกรงใจล่ะ!”   

 

 

พูดจบ ก็เตะเข้าไปที่อกของท่าป๋าหั่นหลินจังๆ   

 

 

ท่าป๋าหั่นกลินกระอักเลือดออกมา   

 

 

แต่เมิ่งเชี่ยนโยวทำเป็นมองไม่เห็น เตะแรงขึ้นเรื่อยๆ   

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งกับเยียลี่ว์อาเป่ารีบวิ่งออกมาจากเรือน พอเห็นเช่นนั้น ก็รีบเข้าไปห้ามเมิ่งเชี่ยนโยว “ท่านแม่ ท่านปล่อยเขาไปเถอะ!”   

 

 

เยียลี่ว์อาเป่าก็เข้ามาห้ามด้วยเช่นกัน “ท่านแม่ยาย ท่านใจเย็นก่อน อย่าลงมือหนักเช่นนี้เลยขอรับ”  

 

 

พอได้ยินเขาเรียกเช่นนั้น ท่าป๋าหั่นหลินก็มองไปที่เขาด้วยสายตาอิจฉา เขาเคยมีโอกาสได้เรียกเช่นนั้น แต่ตอนนี้กลับถูกตนเองทำลายไปเสียหมดสิ้น คิดได้เช่นนั้น ภาพของหวงฝู่เย่าเย่ว์ตอนท้องอ่อนๆ ที่ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยเลือดก็ผุดขึ้นมา แล้วเลือดก็ตีขึ้นมาจนกระอัก จากนั้นก็สลบไป  

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวถอนหายใจ ปล่อยเท้าออกแล้วออกคำสั่ง “ชิงหลวน โยนเขาออกไป อย่าให้เลือดโสโครกแปดเปื้อนประตูจวนอ๋องฉีของพวกเรา”  

 

 

ชิงหลวนตอบรับ แล้วเดินเข้าไป  

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งส่งสายตาให้กับเยียลี่ว์อาเป่า เยียลี่ว์อาเป่าเข้าใจโดยทันที หลังจากนั้นก็เข้าไปกันเอาไว้ “แม่ยาย เขาคงเจ็บหนักน่าดู หากพวกเราไม่ช่วยรักษาเขาให้ทันเวลา เกรงว่าจะเป็นปัญหาในภายหลังนะขอรับ”  

 

 

“แล้วเกี่ยวอะไรกับพวกเรา”  

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวดีกับเยียลี่ว์อาเป่ามาตลอด ไม่เคยพูดจาไม่ดีใส่เลย แต่วันนี้โมโหเป็นอย่างมาก เลยถามกลับไปอย่างไม่เกรงใจ   

 

 

เยียลี่ว์อาเป่าจึงชะงักไป แต่ยังคงรอยยิ้มไว้แล้วพูดต่อว่า “แม่ยาย หลงเหลือร่องรอยไว้ไม่เท่าไร แต่ที่สำคัญก็คือ ผู้คนต่างก็จะพูดถึงว่าท่านเป็นคนทำ แล้วท่านจะถูกโยงเข้าไปด้วยนะขอรับ”  

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวไม่พูดอะไร   

 

 

เยียลี่ว์อาเป่าคิดว่าพูดโน้มน้าวเมิ่งเชี่ยนโยวสำเร็จแล้ว พอกำลังจะก้มลงไปดูแผลให้ท่าป๋าหั่นหลิน เมิ่งเชี่ยนโยวก็บอกว่า “ชิงหลวน เจ้ายังชักช้าอยู่อีก ไม่ได้ยินที่ข้าสั่งรึไง”  

 

 

ชิงหลวนตอบรับ แล้วก้มลงลากท่าป๋าหั่นหลินออกไปไกลๆ   

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวหันหลังกลับเข้าจวนไป ชิงหลวนและจูหลีก็ตามไปด้วยเช่นเดียวกัน   

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งกับเยียลี่ว์อาเป่ามองหน้ากัน แล้วส่ายหน้า เดินกลับไปพร้อมกัน   

 

 

เมิ่งเชี่ยนโยวกลับมาที่เรือนของตนเอง  

 

 

เยียลี่ว์อาเป่าส่งสายตาให้กับหวงฝู่สือเมิ่ง เสร็จแล้วก็กลับไปที่เรือนของตน   

 

 

ส่วนหวงฝู่สือเมิ่งไปหาหวงฝู่เย่าเย่ว์ที่เรือน   

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์ทำเป็นไม่รู้ว่าด้านนอกเกิดอะไรขึ้น ได้แต่หยอกเล่นอยู่กับเยียลี่ว์หมิง  

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งเข้าไป เห็นภาพตรงหน้า ก็หยุดแล้วยิ้มเดินเข้าไป โบกมือให้กับเยียลี่ว์หมิง พอจูงใจเด็กน้อยได้ ก็ยิ้มแล้วถามว่า “วันนี้ไม่ดื้อสินะ”  

 

 

“หมิงเอ๋อร์ของพวกเราเป็นเด็กดี ไม่ดื้อเลย”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์อุ้มเด็กไปมา ยิ้มไปพูดไป   

 

 

“เจ้าพูดผิดแล้ว เด็กผู้ชายน่ะ ยิ่งโตก็ยิ่งดื้อ เจ้าจำรุ่ยเอ๋อร์ตอนเด็กๆ ได้หรือไม่ ไม่ดื้อเลยสักนิด แต่พอโตขึ้น ปีนต้นไม้ขึ้นกำแพง เขาล้วนทำมาหมดแล้ว”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์หัวเราะ แล้วพูดกับเด็กน้อยว่า “หมิงเอ๋อร์ของพวกเราเป็นเด็กดี จะไม่ดื้อเหมือนน้าของเขาหรอกนะ”  

 

 

เหมือนเยียลี่ว์หมิงจะฟังออก จึงโบกมือ ร้องเรียกออกมา จนทำให้ทั้งสองคนหัวเราะได้   

 

 

เมื่อเสียงหัวเราะหมดไป หวงฝู่สือเมิ่งก็พูดกับหวงฝู่เย่าเย่ว์ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “วันนี้ท่านแม่ตีท่าป๋าหั่นหลินจนสาหัส… …”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์ชะงักไป อุ้มเด็กแน่นขึ้นกว่าเดิม “เรื่องของเขาไม่เกี่ยวข้องกับข้า พี่ไม่ต้องพูดถึงแล้วล่ะ”  

 

 

หวงฝู่สือเมิ่งแอบถอนหายใจเบาๆ ในใจ จากนั้นบอกว่า “พี่เขยของเจ้าบอกมาว่า เป็นฮ่องเต้น่ะ มีเรื่องที่น่าอึดอัดมากมาย ที่ตอนนั้นเขาทำแบบนั้น บางทีเขาอาจะมีเหตุผลบางอย่าง เจ้า… …”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์พูดตัดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “พี่ใหญ่ หากท่านยังพูดถึงเขาอีก ข้าจะโกรธแล้วนะ”  

 

 

“ได้ๆ ข้าไม่พูดแล้ว เจ้าดูแลหมิงเอ๋อร์จนเหนื่อยแล้ว เดี๋ยวข้าจะอุ้มกลับไป เจ้าพักเถอะ”  

 

 

หวงฝู่เย่าเย่ว์ไม่เหมือนกับแต่ก่อน ที่จะบอกว่าตนไม่เหนื่อย เอาเด็กน้อยทิ้งไว้ที่นี่แหละ แต่กลับส่งให้กับหวงฝู่สือเมิ่งไป เมื่อเห็นนางอุ้มเด็กเดินออกไป ก็ยืนนิ่งกับที่อยู่นานไม่ขยับ  

 

 

ท่าป๋าหั่นหลินโดนแบกกลับจวนไปอีกครั้ง ไทเฮาทนไม่ไหวแล้ว สั่งให้เชิญหมอมารักษา หลังจากนั้นก็ตัดสินใจ รอให้เขาฟื้นก่อน แล้วจะให้ทางเลือกกับเขาสองทาง หนึ่งก็คือให้ตนไปที่จวนอ๋อง ขอพบหวงฝู่เย่าเย่ว์ แล้วเล่าเรื่องตอนนั้นทั้งหมดให้นางฟัง อย่างที่สองก็คือเอาชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน บังคับให้เขากลับรัฐอิงให้ได้ นางยอมรับว่าพวกนางติดหนี้หวงฝู่เย่าเย่ว์ไว้เยอะ แต่หลายวันมาแล้วที่… เป็นแม่คนเหมือนกัน พวกเขาเจ็บปวดใจแทนลูก นางเองก็เช่นกัน  

 

 

พอคิดได้เช่นนั้น ก็ตั้งสติ ออกคำสั่งให้คนไปต้มยามาให้ท่าป่าหั่นหลินกิน  

 

 

ที่เมิ่งเชี่ยนโยวเตะเข้าไปตอนโมโหนั้น ใช้กำลังเป็นอย่างมาก ท่าป๋าหั่นหลินเจ็บเข้าลึกถึงภายใน การพักฟื้นในครั้งนี้ต้องใช้เวลาไปอีกครึ่งเดือนถึงจะดีขึ้นได้  

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+