ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 642 ความสามารถของท่านยังไม่พอ

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 642 ความสามารถของท่านยังไม่พอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทะเลน้ำแข็งมังกรทะยาน สภาวะพลังสะท้านฟ้า

หนงอวี่ซวนเห็นดังนั้น ก็พลันมีสีหน้างงงัน ‘ยังไม่ได้เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ กลับมีพลังขนาดนี้แล้ว?’

เขาสลับสองมือ เท้าเหยียบอากาศ ยืนในท่าออกหมัด

สองมือของเขาเหมือนกับโอบกอดจันทร์เพ็ญ มือเล่นเครื่องผีผา

ดวงอาทิตย์สีทองจมลงด้านล่าง จันทร์เพ็ญสีเงินลอยขึ้นด้านบน!

วิชาลับของสำนักแสงสว่าง อาทิตย์เวียน จันทร์เพ็ญวน!

“ถึงแม้พลังของเจ้าจะทำให้ข้ารู้สึกเหนือความคาดหมายมาก แต่เจ้ากล้ามายังโลกซ้อนโลก เป็นการรนหาที่ตายแท้ๆ” หนงอวี่ซวนกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าเอาตราประทับตะวันมาด้วยหรือไม่? ถ้าไม่ได้เอามา วันนี้ก็เป็นวันตายของเจ้า”

เขาสืบเท้า เหมือนกับดวงอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตก สภาวะไม่อาจต้านทาน สยบทั้งใต้หล้า ถีบใส่หางมังกรที่เกิดขึ้นจากรูปญาณวรยุทธ์ของเยี่ยนจ้าวเกอ

ขณะเดียวกันก็ชูมือขึ้นสูง ฟาดใส่ศีรษะมังกร สันมือประดุจดาบ มีแสงของจันทร์เต็มดวงติดอยู่ หมายฟันศีรษะมังกรทิ้ง

หนงอวี่ซวนมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง “ข้าเคยบอกไปแล้วว่า ในตอนที่เจอกันอีก ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า!”

เยี่ยนจ้าวเกอมองหนงอวี่ซวน หัวเราะเล็กน้อย “ท่านเนี่ยนะ?”

เสียงยังไม่ทันขาด หนงอวี่ซวนสีหน้าพลันเปลี่ยนแปลง มองไปยังวังฝูงมังกรเหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ มันสั่นสะเทือนไม่หยุด เหมือนกับกำลังพังทลายลงมาเอง

แสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อันยิ่งใหญ่รอบๆ ตัวเขา พลันเปลี่ยนเป็นริบหรี่ กลิ่นอายมารแสงทมิฬสีดำปริมาณมากไม่อาจควบคุมแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา

พลังอันดุร้ายกัดกร่อนกดข่ม กลืนกินและทำลายแสงของดวงอาทิตย์อันยิ่งใหญ่บนตัวหนงอวี่ซวนในพริบตา

แม้แต่แสงจันทร์ที่เย็นเยียบและอ่อนโยน ยังได้รับผลกระทบจากพลังกัดกร่อนอันดุร้ายนี้ไปด้วย

หนงอวี่ซวนตื่นตระหนก คิดจะควบคุมพลังกัดกร่อนนี้ กลับรับมือไม่ไหว

เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย “ไม่ได้เจอกันพักหนึ่ง ท่านกลับได้รับพลังกัดกร่อนมามากกว่าเดิม

“จำเป็นต้องชื่นชมว่าท่านมีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ล้ำเลิศ ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ กลับเปลี่ยนพลังกัดกร่อนของพระราหูให้กลายเป็นวรยุทธ์ในสำนักแสงสว่างของตัวเองได้บางส่วน เกิดเป็นการกดข่มแสงและความมืดเพิ่มอีกขั้น พลังไม่ธรรมดาทีเดียว”

“ในหมู่จอมยุทธ์ระดับเดียวกัน พลังของท่านเดิมทีก็โดดเด่นอยู่แล้ว ตอนนี้ยังใช้การกัดกร่อนแสงควบคู่ พลังยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม”

หนงอวี๋ซวนจับจ้องเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเรียบเฉย “แต่น่าเสียดาย ในปัจจุบันพลังของท่านยังมีไม่พอ เป็นเพียงน้ำที่ยังไม่เต็มขวด เป็นน้ำครึ่งขวดที่กระเพื่อมอยู่”

ตอนนี้เอง ในวังฝูงมังกรที่ดูเงียบสงบกลับมีลมและเมฆก่อตัวขึ้น

เฟิงอวิ๋นเซิงยืนอยู่เบื้องหน้าพลังอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนกำลังจะระเบิด ในมือชูเศษโลหะครึ่งขาวครึ่งดำก้อนหนึ่งขึ้นสูง

เศษชิ้นส่วนนั้น ก็คือมรดกแปลกประหลาดจากสำนักประกายกาฬในวันวาน ซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอได้มาจากผู้อาวุโสโม่ตอนที่ยังอยู่ในโลกแปดพิภพ

แสงอาทิตย์สีฟ้ากับแสงจันทร์สีดำสนิทเบื้องหน้าส่องสว่างอย่างต่อเนื่อง ย้อมด้านในวังฝูงมังกรกลายเป็นสีฟ้าน้ำเงิน

พลังอันน่าสะพรึงกระเพื่อมขึ้น หากระเบิดออกมา แม้แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตายโดยไร้ที่กลบฝัง

เมื่อเผชิญหน้ากับภาพอันน่ากลัวที่เพียงคลื่นหลงเหลือแม้แต่นิดเดียวก็ทำให้ตนป่นเป็นผุยผงได้ เฟิงอวิ๋นเซิกลับมีงสีหน้าไม่หวาดหวั่น สายตาแน่วแน่

นางคิดถึงคำกำชับก่อนหน้านี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็โบกมือ เศษโลหะชิ้นนั้นลอยไปกลางอากาศ หล่นลงระหว่างอาทิตย์ยะเยือกและจันทร์ดำ

เศษโลหะที่ดูไม่สะดุดตาในตอนแรก ขณะนี้พลันระเบิดแสงสีดำขาวที่สับสนและพร่าเลือนออกมา ก่อนจะเชื่อมต่อกับดวงอาทิตย์สีฟ้าและจันทร์เพ็ญสีดำขลับ

อาทิตย์ยะเยือกกับจันทร์ดำ พลันหยุดนิ่งกลางอากาศ

วินาทีถัดมา ประกายดาบพุ่งขึ้น ลมเมฆก่อกำเนิด

ดาบสีดำออกจากฝัก กลายเป็นลำแสงเส้นหนึ่ง ฟันใส่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่แปลกประหลาดและบิดเบี้ยวอย่างเหี้ยมหาญ ด้วยสภาวะตัดสินเป็นตาย!

ท่ามกลางเสียงระเบิด วังฝูงมังกรสั่นสะเทือน มิติด้านในปั่นป่วนชนิดฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ

ลำแสงหลายสายกลายเป็นพิรุณแสง กระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดทาง

กลางพื้นที่หนาหนักในมิติเวลาลวงตาด้านในวังฝูงมังกร ถึงขั้นปรากฏภาพเดียวกัน

ฟ้าดินพลิกกลับ จักรวาลแตกสลาย ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างมลาย

อาหู่กับพ่านพ่านมองภาพตรงหน้าอย่างตึงเครียด พิรุณแสงตกลงต้องร่างพวกเขา ถึงแม้จิตพลังจะล้ำลึกยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่ก่อเกิดอาการบาดเจ็บ กลับทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกสดชื่นราวผลัดเอ็นเปลี่ยนกระดูก

‘ผลลัพธ์เหมือนที่คุณชายคาดไว้!’ อาหู่ยินดียิ่ง มองไปที่ใจกลางแหล่งแสง

ณ ที่ตรงนั้น แสงจันทร์สีดำสนิทหมุนวนปกคลุม ตรงใจกลางมีแสงอาทิตย์สีฟ้ากระเพื่อมขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กลางดวงอาทิตย์ที่เปล่งประกายสลัว เงาร่างเงาหนึ่งถือดาบปรากฏตัว เป็นเฟิงอวิ๋นเซิงนั่นเอง

ผิวดาบสีดำในมือเฟิงอวิ๋นเซิงยามนี้ปรากฏตัวอักขระสีฟ้ามากมาย กระจายอยู่ถี่ยิบ

พลังอาทิตย์ย้อนอันรุนแรง ยังคงเติมเติมดาบอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

คมดาบที่ยาวแค่สามคืบในตอนแรก ขณะนี้ยืดหดเปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้ง บางครั้งตระหง่านดุจขุนเขา บางครั้งเล็กจ้อยดุจฝุ่นผง

บนฝ่ามือที่เฟิงอวิ๋นเซิงใช้ถือดาบ ปรากฏลวดลายอาคมสีฟ้าหลายสายเช่นกัน พลังอันบ้าคลั่งส่งมาจากในดาบ เข้าไปในร่างของนาง ทำให้นางรู้สึกไม่อาจทานทนอยู่ชั่วขณะ

ม่านตาทั้งสองข้างของนางในตอนนี้ต่างกลายเป็นสีฟ้า เหมือนกับอาทิตย์ยะเยือกสองดวงลอยอยู่กลางหาว

แสงของจันทร์ดำที่ดำสนิท ในตอนนี้ถูกพลังแห่งอาทิตย์ยะเยือกดึงดูด รวมตัวกันในร่างเฟิงอวิ๋นเซิงเป็นจำนวนมาก

แต่ว่าแสงจันทร์สีดำเข้มกว่าเดิมกับแสงอาทิตย์สีฟ้าน้อยนิดที่เหลืออยู่ ยังคงหมุนวนอยู่ในวังฝูงมังกร

อาหู่กับพ่านพ่านต่างพึ่งพาการชี้แนะก่อนหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ อาศัยการช่วยเหลือของวังฝูงมังกร รับการชำระล้างของพลังแห่งอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนพร้อมกับเฟิงอวิ๋นเซิง

วังฝูงมังกรกลืนกินปราณวิญญาณ ดูดซับพลังแห่งอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนที่เหลืออยู่

สายตาของเฟิงอวิ๋นเซิง คล้ายกับทะลุกาลเวลา ทะลุการขัดขวางของวังฝูงมังกร รู้สึกได้ว่าด้านนอกมีกลิ่นอายที่ทั้งเหมือนคุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า ทั้งเร้นลับและดุร้าย

นางรู้ว่านั่นน่าจะเป็นพลังของพระราหูที่หนงอวี่ซวนได้หลอมเปลี่ยน ซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอเคยพูดถึงก่อนหน้านี้

ดาบยาวในมือรับรู้ได้ถึงพลังงานนั้น มันสั่นสะเทือนไม่หยุด

เฟิงอวิ๋นเซิงรู้สึกได้ จึงชูดาบขึ้น

หลังจากคมดาบถูกยกขึ้นแล้ว ตราอาคมอันเป็นลายอักขระสีฟ้าบนตัวดาบก็กลายเป็นสีดำหมดสิ้น เปลี่ยนเป็นกลิ่นอายที่ทั้งมืดครึ้มและน่าสะพรึง

บนปลายดาบคล้ายกับมีภาพมายากลุ่มหนึ่งสานตัวขึ้นมา

ในภาพนั้น ดวงอาทิตย์ลอยสูงส่องสว่างฟ้าดิน แต่ว่าในวินาทีถัดมา แสงสีดำออกฟ้าก็ม้วนพัด กลืนกินแสงอาทิตย์ในชั่วอึดใจ ทำให้ดวงอาทิตย์หายไปไร้ร่องรอย โลกตกสู่ความมืดอนันตกาล

ในพริบตาที่เฟิงอวิ๋นเซิงชูดาบขึ้น ญาณจริงแท้ในร่างของหนงอวี่เซินก็สูญเสียการควบคุมอย่างฉับพลัน!

กลิ่นอายมารของพระราหูที่หลอมเปลี่ยนในขั้นแรกก่อนหน้า ตอนนี้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับวิชาตะวันจันทราผสมผสานของเขา

นี่กลับไม่ใช่เขาควบคุม หมายจะใช้แสงกัดกร่อนกดข่ม เพื่อก่อให้เกิดพลังงานมหาศาล แล้วเปลี่ยนมาให้ตัวเองใช้ เหมือนตอนที่สู้กับพวกคังจิ่นหยวนก่อนหน้านี้

แต่เป็นความขัดแย้งที่ตัวหนงอวี่ซวนไม่อาจบังคับและไม่อาจหยุดยั้ง!

พลังงานที่สูญเสียการควบคุมอาละวาดในร่างหนงอวี่ซวน ทำให้เขากระอักเลือดออกมา ธาตุไฟเข้าแทรก

รอบๆ ร่างกายของเขา ดวงอาทิตย์สีทองดับแสง แสงจันทร์สีเงินโรยรา

หนงอวี่ซวนตื่นตระหนกเหลือประมาณ รู้สึกได้ว่าอากาศรอบๆ แข็งตัว ฟ้าดินเย็นเยียบเงียบงัน

ภายใต้การกระตุ้นจากกระบวนท่าเกล็ดย้อนเหมันต์ของเยี่ยนจ้าวเกอ มังกรออกจากทะเลน้ำแข็ง พลังงานอันบ้าคลั่งพุ่งใส่ทรวงอกของหนงอวี่ซวน!

หนงอวี่ซวนใบหน้าเขียวคล้ำ ประกายแสงของหมวกเกราะดาราเรืองรองสว่างขึ้น ขัดขวางการโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอแค่นเสียงยกมือ ในมือปรากฏกระบองไม้ไผ่ห้าคืบแท่งหนึ่ง ฟาดใส่หนงอวี่ซวน

แสงสว่างไร้สิ้นสุดที่หมวกเกราะดาราเรืองรองปล่อยออกมา พลันถูกกระบองไม้ไผ่ฟาดจนดับลง!

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพีบทที่ 642 ความสามารถของท่านยังไม่พอ

Now you are reading ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี Chapter บทที่ 642 ความสามารถของท่านยังไม่พอ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ทะเลน้ำแข็งมังกรทะยาน สภาวะพลังสะท้านฟ้า

หนงอวี่ซวนเห็นดังนั้น ก็พลันมีสีหน้างงงัน ‘ยังไม่ได้เลื่อนเป็นจอมยุทธ์ระดับศักดิ์สิทธิ์ กลับมีพลังขนาดนี้แล้ว?’

เขาสลับสองมือ เท้าเหยียบอากาศ ยืนในท่าออกหมัด

สองมือของเขาเหมือนกับโอบกอดจันทร์เพ็ญ มือเล่นเครื่องผีผา

ดวงอาทิตย์สีทองจมลงด้านล่าง จันทร์เพ็ญสีเงินลอยขึ้นด้านบน!

วิชาลับของสำนักแสงสว่าง อาทิตย์เวียน จันทร์เพ็ญวน!

“ถึงแม้พลังของเจ้าจะทำให้ข้ารู้สึกเหนือความคาดหมายมาก แต่เจ้ากล้ามายังโลกซ้อนโลก เป็นการรนหาที่ตายแท้ๆ” หนงอวี่ซวนกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้าเอาตราประทับตะวันมาด้วยหรือไม่? ถ้าไม่ได้เอามา วันนี้ก็เป็นวันตายของเจ้า”

เขาสืบเท้า เหมือนกับดวงอาทิตย์ตกทางทิศตะวันตก สภาวะไม่อาจต้านทาน สยบทั้งใต้หล้า ถีบใส่หางมังกรที่เกิดขึ้นจากรูปญาณวรยุทธ์ของเยี่ยนจ้าวเกอ

ขณะเดียวกันก็ชูมือขึ้นสูง ฟาดใส่ศีรษะมังกร สันมือประดุจดาบ มีแสงของจันทร์เต็มดวงติดอยู่ หมายฟันศีรษะมังกรทิ้ง

หนงอวี่ซวนมองเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง “ข้าเคยบอกไปแล้วว่า ในตอนที่เจอกันอีก ข้าจะเอาชีวิตของเจ้า!”

เยี่ยนจ้าวเกอมองหนงอวี่ซวน หัวเราะเล็กน้อย “ท่านเนี่ยนะ?”

เสียงยังไม่ทันขาด หนงอวี่ซวนสีหน้าพลันเปลี่ยนแปลง มองไปยังวังฝูงมังกรเหนือศีรษะของเยี่ยนจ้าวเกอ มันสั่นสะเทือนไม่หยุด เหมือนกับกำลังพังทลายลงมาเอง

แสงของดวงอาทิตย์และดวงจันทร์อันยิ่งใหญ่รอบๆ ตัวเขา พลันเปลี่ยนเป็นริบหรี่ กลิ่นอายมารแสงทมิฬสีดำปริมาณมากไม่อาจควบคุมแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขา

พลังอันดุร้ายกัดกร่อนกดข่ม กลืนกินและทำลายแสงของดวงอาทิตย์อันยิ่งใหญ่บนตัวหนงอวี่ซวนในพริบตา

แม้แต่แสงจันทร์ที่เย็นเยียบและอ่อนโยน ยังได้รับผลกระทบจากพลังกัดกร่อนอันดุร้ายนี้ไปด้วย

หนงอวี่ซวนตื่นตระหนก คิดจะควบคุมพลังกัดกร่อนนี้ กลับรับมือไม่ไหว

เยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยด้วยรอยยิ้มเรียบเฉย “ไม่ได้เจอกันพักหนึ่ง ท่านกลับได้รับพลังกัดกร่อนมามากกว่าเดิม

“จำเป็นต้องชื่นชมว่าท่านมีพรสวรรค์ด้านวรยุทธ์ล้ำเลิศ ถึงขั้นเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ กลับเปลี่ยนพลังกัดกร่อนของพระราหูให้กลายเป็นวรยุทธ์ในสำนักแสงสว่างของตัวเองได้บางส่วน เกิดเป็นการกดข่มแสงและความมืดเพิ่มอีกขั้น พลังไม่ธรรมดาทีเดียว”

“ในหมู่จอมยุทธ์ระดับเดียวกัน พลังของท่านเดิมทีก็โดดเด่นอยู่แล้ว ตอนนี้ยังใช้การกัดกร่อนแสงควบคู่ พลังยิ่งแข็งแกร่งกว่าเดิม”

หนงอวี๋ซวนจับจ้องเยี่ยนจ้าวเกอเขม็ง ทว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีสีหน้าเรียบเฉย “แต่น่าเสียดาย ในปัจจุบันพลังของท่านยังมีไม่พอ เป็นเพียงน้ำที่ยังไม่เต็มขวด เป็นน้ำครึ่งขวดที่กระเพื่อมอยู่”

ตอนนี้เอง ในวังฝูงมังกรที่ดูเงียบสงบกลับมีลมและเมฆก่อตัวขึ้น

เฟิงอวิ๋นเซิงยืนอยู่เบื้องหน้าพลังอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนกำลังจะระเบิด ในมือชูเศษโลหะครึ่งขาวครึ่งดำก้อนหนึ่งขึ้นสูง

เศษชิ้นส่วนนั้น ก็คือมรดกแปลกประหลาดจากสำนักประกายกาฬในวันวาน ซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอได้มาจากผู้อาวุโสโม่ตอนที่ยังอยู่ในโลกแปดพิภพ

แสงอาทิตย์สีฟ้ากับแสงจันทร์สีดำสนิทเบื้องหน้าส่องสว่างอย่างต่อเนื่อง ย้อมด้านในวังฝูงมังกรกลายเป็นสีฟ้าน้ำเงิน

พลังอันน่าสะพรึงกระเพื่อมขึ้น หากระเบิดออกมา แม้แต่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตายโดยไร้ที่กลบฝัง

เมื่อเผชิญหน้ากับภาพอันน่ากลัวที่เพียงคลื่นหลงเหลือแม้แต่นิดเดียวก็ทำให้ตนป่นเป็นผุยผงได้ เฟิงอวิ๋นเซิกลับมีงสีหน้าไม่หวาดหวั่น สายตาแน่วแน่

นางคิดถึงคำกำชับก่อนหน้านี้ของเยี่ยนจ้าวเกอ จากนั้นก็โบกมือ เศษโลหะชิ้นนั้นลอยไปกลางอากาศ หล่นลงระหว่างอาทิตย์ยะเยือกและจันทร์ดำ

เศษโลหะที่ดูไม่สะดุดตาในตอนแรก ขณะนี้พลันระเบิดแสงสีดำขาวที่สับสนและพร่าเลือนออกมา ก่อนจะเชื่อมต่อกับดวงอาทิตย์สีฟ้าและจันทร์เพ็ญสีดำขลับ

อาทิตย์ยะเยือกกับจันทร์ดำ พลันหยุดนิ่งกลางอากาศ

วินาทีถัดมา ประกายดาบพุ่งขึ้น ลมเมฆก่อกำเนิด

ดาบสีดำออกจากฝัก กลายเป็นลำแสงเส้นหนึ่ง ฟันใส่ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่แปลกประหลาดและบิดเบี้ยวอย่างเหี้ยมหาญ ด้วยสภาวะตัดสินเป็นตาย!

ท่ามกลางเสียงระเบิด วังฝูงมังกรสั่นสะเทือน มิติด้านในปั่นป่วนชนิดฟ้าพลิกแผ่นดินคว่ำ

ลำแสงหลายสายกลายเป็นพิรุณแสง กระจายไปทั่วทั้งสี่ทิศแปดทาง

กลางพื้นที่หนาหนักในมิติเวลาลวงตาด้านในวังฝูงมังกร ถึงขั้นปรากฏภาพเดียวกัน

ฟ้าดินพลิกกลับ จักรวาลแตกสลาย ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างมลาย

อาหู่กับพ่านพ่านมองภาพตรงหน้าอย่างตึงเครียด พิรุณแสงตกลงต้องร่างพวกเขา ถึงแม้จิตพลังจะล้ำลึกยิ่งใหญ่ แต่กลับไม่ก่อเกิดอาการบาดเจ็บ กลับทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกสดชื่นราวผลัดเอ็นเปลี่ยนกระดูก

‘ผลลัพธ์เหมือนที่คุณชายคาดไว้!’ อาหู่ยินดียิ่ง มองไปที่ใจกลางแหล่งแสง

ณ ที่ตรงนั้น แสงจันทร์สีดำสนิทหมุนวนปกคลุม ตรงใจกลางมีแสงอาทิตย์สีฟ้ากระเพื่อมขึ้นอย่างต่อเนื่อง

กลางดวงอาทิตย์ที่เปล่งประกายสลัว เงาร่างเงาหนึ่งถือดาบปรากฏตัว เป็นเฟิงอวิ๋นเซิงนั่นเอง

ผิวดาบสีดำในมือเฟิงอวิ๋นเซิงยามนี้ปรากฏตัวอักขระสีฟ้ามากมาย กระจายอยู่ถี่ยิบ

พลังอาทิตย์ย้อนอันรุนแรง ยังคงเติมเติมดาบอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย

คมดาบที่ยาวแค่สามคืบในตอนแรก ขณะนี้ยืดหดเปลี่ยนแปลงไม่หยุดยั้ง บางครั้งตระหง่านดุจขุนเขา บางครั้งเล็กจ้อยดุจฝุ่นผง

บนฝ่ามือที่เฟิงอวิ๋นเซิงใช้ถือดาบ ปรากฏลวดลายอาคมสีฟ้าหลายสายเช่นกัน พลังอันบ้าคลั่งส่งมาจากในดาบ เข้าไปในร่างของนาง ทำให้นางรู้สึกไม่อาจทานทนอยู่ชั่วขณะ

ม่านตาทั้งสองข้างของนางในตอนนี้ต่างกลายเป็นสีฟ้า เหมือนกับอาทิตย์ยะเยือกสองดวงลอยอยู่กลางหาว

แสงของจันทร์ดำที่ดำสนิท ในตอนนี้ถูกพลังแห่งอาทิตย์ยะเยือกดึงดูด รวมตัวกันในร่างเฟิงอวิ๋นเซิงเป็นจำนวนมาก

แต่ว่าแสงจันทร์สีดำเข้มกว่าเดิมกับแสงอาทิตย์สีฟ้าน้อยนิดที่เหลืออยู่ ยังคงหมุนวนอยู่ในวังฝูงมังกร

อาหู่กับพ่านพ่านต่างพึ่งพาการชี้แนะก่อนหน้าของเยี่ยนจ้าวเกอ อาศัยการช่วยเหลือของวังฝูงมังกร รับการชำระล้างของพลังแห่งอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนพร้อมกับเฟิงอวิ๋นเซิง

วังฝูงมังกรกลืนกินปราณวิญญาณ ดูดซับพลังแห่งอาทิตย์ย้อนจันทร์ย้อนที่เหลืออยู่

สายตาของเฟิงอวิ๋นเซิง คล้ายกับทะลุกาลเวลา ทะลุการขัดขวางของวังฝูงมังกร รู้สึกได้ว่าด้านนอกมีกลิ่นอายที่ทั้งเหมือนคุ้นเคยเหมือนแปลกหน้า ทั้งเร้นลับและดุร้าย

นางรู้ว่านั่นน่าจะเป็นพลังของพระราหูที่หนงอวี่ซวนได้หลอมเปลี่ยน ซึ่งเยี่ยนจ้าวเกอเคยพูดถึงก่อนหน้านี้

ดาบยาวในมือรับรู้ได้ถึงพลังงานนั้น มันสั่นสะเทือนไม่หยุด

เฟิงอวิ๋นเซิงรู้สึกได้ จึงชูดาบขึ้น

หลังจากคมดาบถูกยกขึ้นแล้ว ตราอาคมอันเป็นลายอักขระสีฟ้าบนตัวดาบก็กลายเป็นสีดำหมดสิ้น เปลี่ยนเป็นกลิ่นอายที่ทั้งมืดครึ้มและน่าสะพรึง

บนปลายดาบคล้ายกับมีภาพมายากลุ่มหนึ่งสานตัวขึ้นมา

ในภาพนั้น ดวงอาทิตย์ลอยสูงส่องสว่างฟ้าดิน แต่ว่าในวินาทีถัดมา แสงสีดำออกฟ้าก็ม้วนพัด กลืนกินแสงอาทิตย์ในชั่วอึดใจ ทำให้ดวงอาทิตย์หายไปไร้ร่องรอย โลกตกสู่ความมืดอนันตกาล

ในพริบตาที่เฟิงอวิ๋นเซิงชูดาบขึ้น ญาณจริงแท้ในร่างของหนงอวี่เซินก็สูญเสียการควบคุมอย่างฉับพลัน!

กลิ่นอายมารของพระราหูที่หลอมเปลี่ยนในขั้นแรกก่อนหน้า ตอนนี้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับวิชาตะวันจันทราผสมผสานของเขา

นี่กลับไม่ใช่เขาควบคุม หมายจะใช้แสงกัดกร่อนกดข่ม เพื่อก่อให้เกิดพลังงานมหาศาล แล้วเปลี่ยนมาให้ตัวเองใช้ เหมือนตอนที่สู้กับพวกคังจิ่นหยวนก่อนหน้านี้

แต่เป็นความขัดแย้งที่ตัวหนงอวี่ซวนไม่อาจบังคับและไม่อาจหยุดยั้ง!

พลังงานที่สูญเสียการควบคุมอาละวาดในร่างหนงอวี่ซวน ทำให้เขากระอักเลือดออกมา ธาตุไฟเข้าแทรก

รอบๆ ร่างกายของเขา ดวงอาทิตย์สีทองดับแสง แสงจันทร์สีเงินโรยรา

หนงอวี่ซวนตื่นตระหนกเหลือประมาณ รู้สึกได้ว่าอากาศรอบๆ แข็งตัว ฟ้าดินเย็นเยียบเงียบงัน

ภายใต้การกระตุ้นจากกระบวนท่าเกล็ดย้อนเหมันต์ของเยี่ยนจ้าวเกอ มังกรออกจากทะเลน้ำแข็ง พลังงานอันบ้าคลั่งพุ่งใส่ทรวงอกของหนงอวี่ซวน!

หนงอวี่ซวนใบหน้าเขียวคล้ำ ประกายแสงของหมวกเกราะดาราเรืองรองสว่างขึ้น ขัดขวางการโจมตีของเยี่ยนจ้าวเกอ

เยี่ยนจ้าวเกอแค่นเสียงยกมือ ในมือปรากฏกระบองไม้ไผ่ห้าคืบแท่งหนึ่ง ฟาดใส่หนงอวี่ซวน

แสงสว่างไร้สิ้นสุดที่หมวกเกราะดาราเรืองรองปล่อยออกมา พลันถูกกระบองไม้ไผ่ฟาดจนดับลง!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+